"ภูสอยดาว" ยังคงคิดถึง
เสียงสายฝนโปรยปราย
ระบายแต้มด้วยสายหมอก
กับดงไม้ดอกหงอนนาค
และความลำบากที่มีความสุข...
(Cr.นาคิน)

พอเข้าสู่ฤดูฝน สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม ติดลำดับต้นๆ และนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้น “ภูสอยดาว” โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือน สิงหาคม – กันยายน จนถึงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักการผจญภัย ชอบเดินป่าแล้วละก็ ไม่ควรพลาดเลยละที่จะเที่ยวดินแดนสองประเทศ ไทย – ลาว ที่เต็มไปด้วยป่าสนธรรมชาติที่สวยงาม หมอกฝน ดอกหญ้าหงอนนาคบานทั่วลานสนและเล่นน้ำตกให้เย็นชุ่มฉ่ำ


ภูสอยดาว” หรือ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ พิษณุโลกและอุตรดิตถ์ การขึ้นไปพิชิตลานสนภูสอยดาวจะต้องเดินเท้าด้วยระยะประมาณ 6.5 กม. ใช้เวลาเดินเฉลี่ย 5-6 ชม. ฝ่าด่านทั้ง 5 เนินที่ส่งต่อความสูงชันไปเรื่อยๆ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่งและเนินมรณะเป็นเนินสุดท้าย



โปรแกรมเที่ยวของผม 3 วัน 2 คืน


วันแรก : เดินเท้าจากน้ำตกภูสอยดาว ฝ่าด่าน 5 เนิน – ลานสน - ทุ่งหญ้าหงอนนาคบนลานสนและชมตะวันตกดิน
วันที่ 2 : ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น – เดินเที่ยวน้ำตกสายทิพย์ - ทุ่งหญ้าหงอนนาคบนลานสน – หลักเขตแดน - ชมตะวันตกดิน
วันที่ 3: ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น – เดินทางกลับ


เราเริ่มเดินเท้าตั้งแต่น้ำตกภูสอยดาว เดินตามแนวเขา ฟังเสียงลำธารของน้ำตกน้อยใหญ่ตลอดเส้นทาง





จากนั้นเราก็จะเริ่มเปลี่ยนเส้นทางขึ้นเขาแบบจริงจัง เริ่มกันที่เนินส่งญาติกันเลย

แทบอยากเปลี่ยนชื่อว่า เนินส่งเพื่อน มรึงไปก่อนโล้ดดดดดดด




"เนินมรณะ" เป็นเนินสุดท้าย พอพ้นเนินมรณะได้แล้ว ก็เดินสบาย แวะพักชมวิวทิวทัศน์กันก่อน



มองลงไปทางที่พวกเราเดินปีนป่ายขึ้นมา เนินมรณะ สูงชันแค่ไหน ลองไปพิสูจน์กันครับ


หากผ่านจุดนี้ไปแล้วทุกคนจะได้รับรางวัลแห่งชีวิต “ผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว” ที่ระดับความสูง 1633 เมตร จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ทะเลภูเขาสุดลูกหูลูกตา รับลมดอยเย็นสบาย ถ้ามีหมอกมาปะทะบนใบหน้าเราอีก รับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ส่วนยอดสูงสุดของภูสอยดาวอยู่ที่ 2102 เมตร จากระดับน้ำทะเล สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ ซึ่งจะเปิดให้ขึ้นไปพิชิตได้หลังพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้ว




ลิลลี่ดอย หรือลิลลี่ป่า กำลังบานสวยงาม รอต้อนรับพวกเราบริเวณเนินมรณะก่อนถึงป้ายผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว

ไม่ควรพลาด ถ่ายกับป้ายผู้พิชิตฯ เช็คอินให้เพื่อนได้อิจฉา

พอเราพักให้หายเหนื่อยและถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตฯ เราก็เดินไปจุดกางเต้นท์พักแรมที่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เรียกว่า ลานสน เพื่อเตรียมตั้งแคมป์และทำอาหารเย็น ระยะประมาณ 600-700 เมตร เตรียมพร้อมพักผ่อนเก็บแรงไว้เที่ยววันต่อไป สำหรับใครที่ถึกบ้าพลังมากพอและมาถึงลานสนไวหน่อย ก็จะมีเวลาเดินเที่ยวชมดอกหงอนนาค ไปถ่ายรูปกับหลักแบ่งเขตแดนไทย - ลาว และชมตะวันตกดินยังได้





"ดอกหญ้าหงอนนาค" หรือน้ำค้างกลางเที่ยง ไม่เที่ยงก็จะไม่บานจิงๆ ตื่นสายมาก มันคือเสน่ห์ของฤดูฝนที่นี่ "ภูสอยดาว" ที่เต็มไปด้วยดอกหญ้าหงอนนาคบานสะพรั่งไปทั่วลานสน ชูช่อสีชมพูอมม่วง อ้ารับหมอกอย่างชุ่มฉ่ำ ตอนรับพวกเราที่มาเยือน




ที่นี่ มีอะไรให้เที่ยว ให้ได้ถ่ายรูปเล่นได้ทั้งวัน ไม่น่าเบื่อเลย

ความสดชื่น ของสิ่งมีชิวิตในช่วงฤดูฝน


การอาบน้ำหรือเข้าสุขาที่นี่ ต้องเช่าถังน้ำและขันของทางอุทยานฯ เพื่อไปตักน้ำที่ลำธารเองนะครับ (อิจฉา คนมีแฟน ให้แฟนตักให้ หือออออ) มันคือเสน่ห์ของที่นี่เลยละ ทุกคนเสมอภาค จะจนจะรวยหน้าตาดีขี้เหล่แค่ไหนทุกคนเท่าเทียมกัน ณ จุดนี้




ด้านบนภูสอยดาว ยังมีเส้นทางน้ำตกให้เดินเที่ยวชมศึกษาธรรมชาติได้ทั้งวัน เพลินๆ นั่นคือ

"น้ำตกสายทิพย์"

"น้ำตกสายทิพท์" อยู่ใกล้กับที่พักแรม สามารถเดินเที่ยวได้ ใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาที เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร ล้อมรอบด้วยผืนป่าที่เขียวขจี ชุ่มชื้น หิน จะปกคลุมไปด้วยมอสส์สีเขียว





สิ่งที่เราจะเผชิญ

- “ฝน” แน่นอน เที่ยวหน้ามรสุม แต่อยากบอกว่ามันคือเสน่ห์ของที่นี่ ฝนมา หมอกก็จะสวยงามมาก น้ำตกก็สวยด้วย อย่าลืมเสื้อกันฝนด้วยละ ใครชอบพกร่มก็จัดไป ส่วนเสื้อผ้า ถุงนอน ต้องแพ็คใส่ถุงพลาสติกก่อนยัดลงเป้ ฟรายชีต กราวด์ชีต เต้นท์ที่แข็งแรงพอ กันน้ำฝนน้ำค้างได้อย่างดี ใครไม่มีก็สามารถเช่ากับทาง อุทยานฯ ได้ครับ

- “หนาว” อ้าว มาเที่ยวหน้าฝนมันหนาวด้วยหรอ อยากบอกว่ามันสูงนะเขาลูกนี้ หนาวแน่นอน ยิ่งเจอฝนด้วยมันจะยิ่งหนาว แต่ดาวลอยคือคำตอบของพวกเรา ฮ่าๆ อะไรคือดาวลอย ไปค้นหาและพิสูจน์ได้ที่นี่ ภูสอยดาว - “ห้องน้ำ” ถ้าไปช่วงวันหยุดยาว หรือเสาร์อาทิตย์ ก็เตรียมใจได้เลยว่าต้องรอคิว ใครหูรูดไม่ดีก็เชิญวิ่งเข้าป่าโล้ดเด้อ การอาบน้ำหรือเข้าสุขาที่นี่ ต้องเช่าถังน้ำและขันของทางอุทยานฯ เพื่อไปตักน้ำที่ลำธารเองนะครับ (อิจฉาคนมีแฟน ให้แฟนตักให้ หือออออ) มันคือเสน่ห์ของที่นี่เลยละ ทุกคนเสมอภาค จะจนจะรวยหน้าตาดีขี้เหล่แค่ไหนทุกคนเท่าเทียมกัน ณ จุดนี้

- “ตัวคุ่น” เป็นแมลงดูดเลือดยังกับยุง และจะกลับมาคันและเกาจนตัวลายเป็นสัปดาห์เลยละ อย่าลืมพก สเปรย์หรือยาทากันแมลงด้วยนะครับ โดยเฉพาะคนที่ใส่กางเกงขาสั้นไปลุยทุ่งดอกหญ้าหงอนนาค

- “น้ำดื่ม” ทางอุทยานมีสำรองน้ำฝนไว้ในแทงค์น้ำ สามารถเอาขวดไปกรอกไว้ดื่มและทำอาหารได้ ใครไม่สะดวกดื่มน้ำฝนก็สามารถซื้อและจ้างหาบขึ้นมาได้ครับ

- “ไฟฉาย” ที่นี่ไม่มีไฟฟ้านะครับ จะเข้าห้องน้ำก็ต้องพกไปด้วยนะ เวลาอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวก็ไม่ต้องเปิดไฟละ รูเยอะพอสมควร ฮ่าๆ ถ้าห้องข้างๆ ปิดแต่ห้องเราเปิดละก้อ ว๊าวๆ เซะซี่จังเลย

- “รองเท้า” ต้องพร้อมสำหรับเดินป่านะครับ มีดอกยางหน่อยก็ดีนะ จะได้ไม่ลื่น ส่วนผมก็ใช้สตั๊ดดอย เอาอยู่ครับ ตอนลงเขานี่วิ่งได้เลยละ

- “เสื้อผ้า” สำหรับเดินขึ้นและลงเขา ควรเป็นชุดที่เบาและแห้งง่าย (ชุดเดียวกันก็ยังได้ ไม่เหม็นหรอกม๊างงงงง) กลางคืนควรมีเสื้อกันหนาว ถุงนอนที่แห้งด้วยนะ

- “สัญญาณโทรศัพท์” ที่นี่มีจุดที่สัญญาณโทรศัพท์ถึง คือ บริเวณชายแดน ไทย – ลาว ปู๊นนนนนนนนน ใครคิดถึงพ่อแม่พี่น้องหรือแฟนจ๋าก็จัดไป ส่วนลานกางเต้นท์ไม่มีสัญญาณนครับ แต่ก็ดีนะเราจะได้คุยกันและรู้จักเพื่อนใหม่มากขึ้น ชอบตรงนี้


ข้อมูลเพิ่มเติม

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

สามารถโทรสอบถามและแจ้งความประสงค์จะจ้างลูกหาบ http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?P...

หน้าฝนปีนี้ ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด ยิ้มรับแสงตะวันให้สุขใจกันไป เชื่อว่าหลายคนที่ไปแล้วจะอยากกลับไปอีกครั้ง พร้อมได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่และบันทึกความทรงจำไว้เล่าอย่างไม่รู้จบ

กดไลค์ และกดแชร์ให้คนที่เราอยากไปด้วยสิ ไปกันนะแกรรรรรรรรร

"ประสบการณ์ใหม่ ไม่ออกไปหา ไม่มีทางเจอ"
Life is a journey


ผมมีเพจเล็กๆ ฝากติดตามและให้กำลังใจพวกเราด้วยนะครับ เพราะพวกเรา "ดีแต่เที่ยว"https://www.facebook.com/travelwithphotographer/ มีทริปสนุกๆ ชวนผมด้วยนะครับ นะนะ^^"





อ้ายกึ่มมักเล๊าะ

 วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.11 น.

ความคิดเห็น