ความสนุกของการเดินทางคือการที่เราได้ไปสัมผัสสถานที่ใหม่ๆด้วยตัวของเราเอง

ก่อนเดินทาง นอกจากเสื้อผ้าแล้วข้อมูลต่างๆก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทาง

การเดินทางไปรัสเซียนั้นไม่ยาก

เพียงแค่ต้องรู้เรื่องทั้ง 8 เรื่องต่อไปนี้ ก็จะสามารถไปเที่ยวได้เลยยยยย

สนามบิน

ที่มอสโควจะมีสถานบินทั้งหมด 3 สนามบิน

• Domodedovo International Airport ( DME ) สนามบินนี้จะรองรับสายการบิน การบินไทย Emirates Etihad และใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง
• Sheremetyevo International Airport ( SVO ) สนามบินนี้จะรองรับสายการบิน Aeroflot และใหญ่เป็นอันดับสอง
• Vnukovo International Airport ( VKO )สนามบินนี้ใหญ่เป็นอันดับสาม

ฤดูของประเทศรัสเซีย

ที่รัสเซียจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดู

ฤดูใบไม้ผลิ: มีนาคม-พฤษภาคม

ฤดูร้อน: มิถุนายน - สิงหาคม

ฤดูใบไม้ร่วง: กันยายน - พฤศจิกายน

ฤดูหนาว: ธันวาคม - กุมภาพันธ์

ในช่วงฤดูร้อนพระอาทิตย์จะยาว และสามารถเที่ยวได้จนถึงดึกเมื่อเทียบกับฤดูอื่น แต่แต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนชอบฤดูไหน ส่วนเวลาที่รัสเซียจะช้ากว่าไทย 4 ชม.

เงิน

สำหรับเรื่องเงิน เวลาแลกเงินแลกตามสาขาของ Super Rich เลย ซึ่งบางสาขาอาจจะต้องโทรไปจองก่อนเพราะตามสาขาไม่ค่อยมีเงินรัสเซียสำรองไว้ ตอนที่เราไปเราแลกด้วยเรท 1 Bath = 0.59 RUB ค่าเงินประเทศไทยแข็งกว่ารัสเซีย ทำให้เราซื้อของได้ในราคาที่ถูกกว่าครึ่งๆ

สำหรับนักเรียนนักศึกษา

แนะนำให้ทำบัตร ISIC ( International Student Identity Card )

คนที่สมัครบัตรจะต้องมีสถานะเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป บัตรจะมีอายุใช้งาน 1 ปีหลังออกบัตร สามารถใช้เป็นส่วนลดในการเข้าชมสถานที่ต่างๆทั่วโลก ค่าสมัคร 400 บาท เราสามารถไปทำได้ด้วยตัวเองที่เอสทีเอแทรเวิลสาขาจามจุรีสแควร์ หรือ http://www.statravel.co.th/home.htm วิธีทำก็เอา Passport และบัตรนักศึกษา พร้อมเตรียมรูปถ่ายที่เป็นไฟล์ภาพไปยื่น โดยต้องมีหน้าตรงและไม่จำเป็นต้องแต่งชุดนักเรียน นักศึกษา

วิธีขึ้นลงรถไฟที่รัสเซีย

รถไฟของรัสเซียจะเรียกกันว่า Metro โดยจะมีสัญลักษณ์รูปตัว M

เวลาซื้อตั๋วรถไฟจะซื้อที่ Ticket Office จะเขียนว่า KACCA

Moscow สามารถใช้บัตร Metro ร่วมกันได้ ไม่เหมือนกับที่ St.Petersburg

ราคาตั๋วรถไฟของ Moscow แบ่งออกเป็น 2 แบบ

แบบแรก ซื้อเป็นจำนวนรอบที่เดินทาง

1 Journey--------------------------------55 RUB

2 Journeys------------------------------110 RUB

20 Journeys----------------------------720 RUB

40 Journeys----------------------------1440 RUB

60 Journeys----------------------------1700 RUB

แบบสอง ซื้อแบบ Unlimited ตามจำนวนวันที่เดินทาง

1 Day-------------------------------------210 RUB

3 Days-----------------------------------400 RUB

7 Days-----------------------------------800 RUB

30 Days---------------------------------2000 RUB

90 Days---------------------------------5000 RUB

365 Days--------------------------------18200 RUB

สำหรับเรา เราแนะนำแบบ Unlimited รอบตามจำนวนวันที่ไปนะะ เพราะเราใช้ Metro เยอะและถูกกว่าแบบจำนวนรอบ

ราคาตั๋วรถไฟของ St.Petersburg แบ่งออกเป็น 3 แบบ

แบบแรก ซื้อรอบเป็นครั้งๆ ครั้งละ 45 RUB

แบบสอง ซื้อเป็นบัตร Standard Electronic Ticket จะเป็นการ์ดสีเขียวราคา 55 RUB และเอาไปเติมรอบ

1 - 10 Journeys-----------------------------------36 RUB Per Journey

11 - 20 Journeys----------------------------------35 RUB Per Journey

21 - 30 Journeys----------------------------------34 RUB Per Journey

31 - 40 Journeys----------------------------------33 RUB Per Journey

40 Journeys and more over-------------------32 RUB Per Journey

แบบสาม ซื้อรอบเดินทางแบบจำกัดวันใช้

10 Journeys for 7 Days--------------------------355 RUB

20 Journeys for 15 Days------------------------680 RUB

40 Journeys for 30 Days-----------------------1300 RUB

ป้ายต่างๆภายใน Metro จะมีแต่ภาษารัสเซีย ซึ่งยากสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษารัสเซียอย่างเรา ตอนทำแพลนเราเลยเขียนกำกับไว้ด้วยว่าสถานที่ๆเราไปภาษารัสเซียนั้นเขียนยังไง จะได้ง่ายตอนมองหาป้าย อ่ออออีก อย่างรถไฟที่วิ่งเร็วมากและมาถี่ๆด้วยไม่ต้องกลัวจะต้องรอรถไฟนานเลยยยยยย

Moscow

ที่มอสโควจะมีสถานี Metro เยอะมาก เวลานั่งเราใช้วิธีนับสถานีเอาว่าอีกกี่สถานีเราจะต้องลง ส่วนเวลาเปลี่ยนสาย เราก็ดูจากป้ายเลยว่าสายที่เราไปสีอะไร แล้วเดินตามป้ายนั้นไป บางทีถ้าหาป้ายไปเจอเราอาจจะดูที่พื้นก็ได้ว่าที่ๆเราไปเบอร์อะไรสีอะไร แล้วเดินตามไป แต่ว่าเราต้องหาป้ายสีสถานีที่เราจะไปให้เจอก่อนนะะะ ไม่งั้นหลงแน่ พอไปถึงชานชลาของสายที่เราจะต่อ เราก็ต้องดูว่าสถานีที่เราไปเขียนยังไงเทียบกับป้ายที่แขวนไว้เลย มันจะมีแบ่งซ้ายขวาอย่างชัดเจน หลังจากรู้แล้วฝั่งไหนเราก็เตรียมตัวรอรถไฟและกระโดดขึ้นรถเลยยยยยยย

St.Petersburg

ที่เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กเวลาเราขึ้นหรือเปลี่ยนสายจะคล้ายๆกับที่มอสโคว แต่เวลาดูว่าเราจะขึ้นฝั่งไหนให้เราดูจากฝั่งที่เราจะไปสุดทางที่สถานีอะไรแล้วเช็คจากป้ายได้เลย หรือจะหาป้ายตามเสาก็ได้นะ จะมีบอกว่าฝั่งไหนไปสถานนีไหนบ้าง แต่อาจจะต้องหานิดหน่อย

ตั๋วรถไฟ Russia Railway

สามารถจองตั๋วรถไฟได้ก่อนวันเดินทาง 60 วัน จองได้ที่ http://pass.rzd.ru/main-pass/public/en หรือ https://pass.rzd.ru/timetable/public/en?STRUCTURE_...

นี่คือหน้าตา Website โดยหลังจากที่เข้ามาหน้านี้แล้ว สำหรับคนที่จองครั้งแรกให้กด Register เพื่อสมัคร Account ก่อนถึงจะสามารถจองตั๋วได้

STEP I Register Acoount โดยการกรอกข้อมูลให้เรียบร้อยและยืนยันการสมัครที่ Email

STEP II หลังจากที่เรามี Account แล้วก็ Login เข้าระบบแล้วเริ่มจองได้เลย

STEP III เลือกวันเดินทาง เมืองต้นสายและปลายสาย พร้อมทั้งช่วงเวลาที่ต้องการ

STEP IV หลังจากโหลดข้อมูลเสร็จ ก็จะขึ้นตารางการเดินรถให้เราเลือก

STEP V หลังจากเลือกรอบเวลารถแล้ว ก็มาเลือกขบวนรถไฟ

STEP VI เลือกที่นั่งที่ต้องการทั้งขาไปและขากลับ

STEP VII กรอกข้อมูลผู้เดินทางให้เรียบร้อย

STEP VIII ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง

STEP IX ชำระเงินตั๋วรถไฟ และดาวโหลด Electronic Tricketออกมา

นอกจากหน้าตาแบบ Website ข้างบนแล้วยังมีหน้าตาอีกแบบนึงด้วยซึ่งวิธีการจองทำคล้ายกัน

STEP III เลือกวันเดินทาง เมืองต้นสายและปลายสาย พร้อมทั้งช่วงเวลาที่ต้องการ

STEP IV หลังจากโหลดข้อมูลเสร็จ ก็จะขึ้นตารางการเดินรถ ราคา และขบวนรถให้เลือก

STEP V หลังจากเลือกขวบนรถแล้ว ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ตรงตาม Passport

STEP VI เลือกที่นั่งที่ต้องการทั้งขาไปและขากลับ

หลังจากนั้นให้เช็คข้อมูลแล้วใส่ข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อชำระเงิน

อันนี้คือตัวอย่างตั๋วที่ใช้ตอนยื่นขึ้นรถไฟ

Application

ในส่วนของ Application นั้น จะมีด้วยกัน 3 ตัว ที่ช่วยเราเวลาใช้ชีวิตในรัสเซีย

• Yandex.Metro แอปนี้ใช้ในการดูแผนที่ของสถานีรถไฟมีทั้งแผนที่ของ Moscow และ St.Petersburg เลย และสามารถเปลี่ยนภาษาระหว่างอังกฤษกะบรัสเซียได้ด้วยยยย ตอนเราไปเราค้นพบว่าถ้าเปิด Location ในโทรศัพท์มันสามารถระบุตำแหน่งสถานีรถไฟที่เราอยู่ได้
• Google Map แอปนี้ใช้ในการดูเส้นทางว่าเราจะเดินไปสถานที่แต่ละที่ได้ยังไง
• Google Translate นอกจากแอปที่ใช้ในการเดินทางแล้วยังมี google translate ไว้ใช้เผื่อแปลเมนูอาหาร หรือสื่อสารกับผู้คนที่รัสเซีย

น้ำดื่ม

น้ำเปล่าที่นี่จะมีแบบมีแก๊สกับไม่มีแก๊ส เวลาเราไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อแล้วเราบอก No Gas คนที่นี่จะเข้าใจเรา ถ้าซื้อตามตู้กด หรือ เราจะเลือกน้ำเองเราสามารถสังเกตุได้ง่ายๆ ข้างหน้าขวดจะมีเขียนว่า нет ซึ่งแปลว่า No