หัวตะเข้ ชุมชนโบราณ ที่มีอายุกว่า 100 ปี อยู่คู่คลองประเวศบุรีรมย์มานานแสนนาน ยังคงมีวิถีชีวิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นตลาดโบราณแท้ๆ ริมคลอง ที่มีอาคารบ้านเรือนไม้ที่คงแบบเดิม แม้ว่าบางส่วนจะผุพังไปบ้างตามกาลเวลา แต่ส่วนที่สร้างขึ้นใหม่ก็พยายามทำให้เข้ากับสิ่งเดิมที่มีอยู่ และไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน ที่นี่ก็ยังคงบรรยากาศเงียบสงบ และเรียบง่าย ไม่ว่าจะไปเดินเล่นชมวิว แลวิถีชาวบ้าน นั่งรับลมเย็น หรือหาของอร่อยๆ ก็ทำให้วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไปแบบช้าๆ ชิวๆ ได้เช่นกัน





แม้ว่าที่นี่จะยังอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ไกลจากใจกลางเมืองไปมากพอสมควร เรียกง่ายๆ ว่าอยู่ย่านชานเมืองนั่นเอง เพียงเดินเข้าซอยลาดกระบัง 17 จนสุดซอย เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานมาก็จะเจอชุมชนหลวงพรต-ท่านเลี่ยม หรือที่หลายคนรู้จักในนามตลาดหัวตะเข้ ย่านบ้านเก่าแก่ที่ยังมีชีวิต ของคนในพื้นที่ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศเงียบสงบ สบายๆ แบบนี้ แต่ในช่วงนี้ที่ตลาดมีงานถนนสายวัฒนธรรมฝั่งพระนคร ตลาดน้ำ 100 ปี ย่านเก่าชาวหัวตะเข้ ยลวิถีถิ่นริมคลอง ท่องแดนศิลปะริมกรุง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ทำให้ช่วงนี้ตลาดดูครึกครื้นขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย ซึ่งในวันแรกก็มีพันธมิตรที่ดีจากลุงประชา ชาวตลาดคลองหลวงแพ่งที่ใช้ชีวิตหลังเกษียนสอนเด็กๆ ในชุมชนมาเล่นดนตรี และได้เชื่อมความสัมพันธ์โดยการล่องเรือมาเล่นดนตรีให้ตลาดหัวตะเข้ดูสนุกขึ้น สลับกับวงดนตรีขอลุงต๊ะชาวหัวตะเข้ที่เล่นอยู่บนฝั่ง ประชันกันไปมา ทำให้บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงดนตรี





นอกจากนั้นก็ยังมีการแสดงจากน้องๆ นักเรียนที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโชว์ในรูปแบบต่างๆ และหลากหลายวัย เมื่อรำเสร็จ ก็ใส่ชุดไทยมาเดินเล่นต่อ เพิ่มชีวิตชีวาให้ตลาดเก่าไปอีกแบบ ผู้คนเดินสวนไปมาก็แวะทักทายถ่ายรูปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แถมบ่ายๆ ยังมีการสอนวาดรูปลงสีน้ำ รวมทั้งการสอนถ่ายภาพ สลับกับเล่นดนตรี และกวี ดึงดูดผู้คนที่มาเดินเล่นให้มีกิจกรรมทำในระหว่างที่อยู่ตลาดได้เป็นอย่างดี






แต่ถ้าใครยังไม่จุใจ นอกจากนั้นที่ตลาดยังมีกิจกรรมศิลปะสนุกๆ ให้ทำอีกมากมายหลายอย่างที่บ้านสามครู ซึ่งจะมีครูจากวิทยาลัยช่างศิลปมาสอน ใครชอบแบบไหนก็ลองทำได้เลย ไม่ว่าจะเป็นทำผ้าบาติกมัดเพ้นท์ ผ้ามัดย้อมคราม แถมที่นี่ยังมีผลงานทั้งนักเรียนและครูแสดงเป็นนิทรรศการขนาดย่อมๆ ให้ได้เดินชมกันเพลินๆ ด้วย อย่างเครื่องเคลือบดินเผา ส่วนใครที่อยากมีของเล่นสนุกๆ ให้นึกถึงสมัยเด็ก ก็มีสอนทำว่าวใบไม้ที่ทำไม่ยาก มีคนสอนจนสามารถนำติดไม้ติดมือกลับไปเล่นที่บ้านได้ด้วย แต่ถ้าใครแรงเยอะอยากออกกำลังก็มีเรือคายัคให้พายเล่นในคลองด้วย





ที่นี่มีอีกหนึ่งงานที่น่าสนใจที่จัดแสดงในบ้านไม้ที่สร้างใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งมองผ่านๆ ก็กลมกลืนกับบ้านหลังอื่นๆ ของชุมชน ด้านในมีนิทรรศการ “ย่านเก่า...เล่าเรื่อง” โดยภาควิชาสถาปัตยกรรมและการวางแผน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นการให้ความรู้และสร้างความตระหนักแก่ผู้อยู่อาศัยในย่านชุมชนเก่า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านภาพวาดต้นฉบับของย่านชุมชนเก่า รวมทั้งภาพถ่ายรอบๆ ชุมชนที่มีติดอยู่รอบๆ เดินชมกันเพลินเลย






ส่วนใครที่อยากได้ของฝากติดไม้ติดมืออย่างงานแฮนด์เมด เช่น สมุดบันทึกที่มีหลายขนาด หลากวัสดุ พวงกุญแจเก๋ๆ กระเป๋าผ้า ของเล็กๆ อย่างกิ๊ฟติดผม ก็มีให้เลือกชม เลือกดู เลือกช้อปตามสบาย ราคาบอกเลยว่าลดแบบที่ไม่เคยลดมาก่อน เพราะแม่ค้าอยากขายให้หมด จะได้มีงบเอามาทำชุดต่อไปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มาอุดหนุน พร้อมกับรอยยิ้มและคำชมที่บอกว่าชอบสิ่งที่เราทำ ยังไงก็มาอุดหนุนอีกนะ ^^






แม้ว่าที่นี่จะเป็นชุมชนเล็กๆ แต่ถ้าเรื่องของกิน ก็มีทั้งของคาว ของหวาน อาหารจานหลัก และของกินเล่นที่เราสามารถเลือกชิมได้ตามใจชอบ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ขนมสายบัว อันนี้หากินยากมากอยากให้มาลอง ตบท้ายด้วยวุ้นมะตูม กับไอติมแค่นี้ก็พุงกางละ แต่ถ้ายังไหวก็หาเครื่องดื่มสักแก้วก็ดี ที่มีทั้งร้อนทั้งเย็น เรียกว่ามีของให้กินกันได้ทั้งวัน มีทั้งขายบนบก ขายทางเรือ มาแบบมอเตอร์ไซค์ จักรยานปั่นผ่านไปมา กวักมือเรียกได้เลย หรือใครอยากนั่งตามร้านเก๋ๆ กดเช็คอิน ถ่ายรูปเล่นให้เพื่อนอิจฉาก็ได้เช่นกัน แต่อย่าคิดว่าของกินจะมีเท่าที่เขียนมาข้างต้น ยังมีอีกเพียบให้เลือกกันตาลาย อย่างเกี๊ยวกุ้งในตำนาน สเต็กหมู ไก่ ปลา เห็ดทอดกับแหนมเห็ด ขนมครก ผัดไทย น้ำมะพร้าว ยำขนมจีน บะจ่าง ข้าวมันไก่ ปังเย็น โอ้ยๆ อื่นๆ อีกมากมาย ไหนว่าตลาดเล็กๆ ใครกินหมดนี่ก็พุงแตกละ อยากรู้ว่ามีอะไรกินอีกต้องมาเดินเองแล้วแหละ






ส่วนใครที่คิดว่าการมาตลาดเก่าแบบนี้คนจะแน่นเหมือนหลายๆ ที่ เดินเบียดกัน ไหลไปตามฝูงชน บอกเลยว่าที่นี่ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะผู้คนจะทยอยมาเดินและชมบรรยากาศสบายๆ ถ่ายรูปชิวๆ ตามมุมต่างๆ สามารถไปนั่งเล่นริมน้ำได้ ยิ่งยามเย็นบรรยากาศยิ่งดี เงียบๆ ได้ยินเสียงธรรมชาติ เสียงนก เสียงกา ก็เพลินไปอีกแบบ






แต่ถ้าใครอยากนั่งตามร้านที่นี่ก็มีให้เลือกนั่งหลายร้านเลยที่ติดริมน้ำ มีทั้งอาหาร เครื่องดื่มไว้บริการ และที่สำคัญที่นี่มีที่พักโฮมสเตย์ที่มีเพียงแห่งเดียวในตลาดหัวตะเข้ด้วย แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ห้องแต่เครื่องอำนวยความสะดวกก็มีไว้ต้อนรับอย่างดี โดยไม่รู้สึกขัดแย้งกับความเป็นโฮมสเตย์เลย เช้าๆ ตื่นมาใส่บาตรบอกเลยหลายคนหลงรักไปเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้มา


เขตลาดกระบัง ที่ใครหลายคนมักจะบอกทันทีว่าไกล เมื่อได้ยินชื่อ แต่การเดินทางสมัยนี้ก็อำนวยความสะดวกในการมาได้หลากหลายทาง ทั้งรถไฟธรรมดารับลมแบบชิวๆ แบบรวดเร็วอย่างแอร์พอตลิ้งแล้วต่อสองแถวก็ถึง รึขับรถมาเองก็มีที่จอด ตลาดอยู่ใกล้วิทยาลับช่างศิลปที่มีองค์พ่อ (พระพิฆเนศ) ที่ขอแล้วได้อย่างใจ เดินเล่นไปอีกนิดก็ถึงพระจอมเกล้าลาดกระบังที่มีนักศึกษาหน้าตาน่ารักเดินเล่นผ่านไปมา

เนี่ยๆ พูดขนาดนี้แล้วยังจะไม่มาเดินเล่นที่นี่อีกรึ ตลาดหัวตะเข้ แม้ว่าจะจัดงานผ่านไปแล้ว 3 ครั้ง ยังมีงานครั้งที่ 4 วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 9-10 กันยายน 2560 และครั้งที่ 5 อีกนะ ส่วนจะมีต่อไปอีกเป็นครั้งที่ 6 หรือเปล่าเดี๋ยวมาแจ้งอีกทีนะ แต่ถึงไม่มีงานที่ตลาดก็ยังมีวิถีแบบเรียบง่ายให้ได้มาเดินเล่น สำหรับคนที่ชอบบรรบากาศแบบดั้งเดิมของตลาด


















May Macro

 วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.24 น.

ความคิดเห็น