จังหวัดสุรินทร์ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่หลายๆ คนได้เอ่ยปากบอกไว้ว่า "สุรินทร์ มี อะไร เที่ยว" "ไม่เห็นน่าไปเลย" เพราะแบบนี้ไงละครับ ผมจึงได้มีความคิดดีๆ อยากรู้ว่าที่หลายๆคนพูดมานั้นมันจริงหรอ ผมเลยคิดโปรแกรมทริปเล็กๆ สองคนกับนางแบบส่วนตัว ขับรถมุ่งสู่ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อไปให้เห็นกับตาว่าจริงหรอ "สุรินทร์ มี อะไร เที่ยว" "ไม่เห็นน่าไปเลย"

พร้อมลุยครับ ระยะทางจาก กทม. ถึง สุรินทร์ ไม่มากมาย 400,000 กว่าเมตร ขับรถก็ประมาณครึ่งวันคับ แค่นี้สบายๆ ครับ มีคนนั่งคุยเป็นเพื่อน มีพาหนะคู่ใจที่ไว้ใจได้ ไปกันได้ยาวๆเลยงานนี้ ลุยยยยยยย

หมายเหตุ เรื่องเส้นทางผมไม่แนะนำนะครับ ผมขอบอกเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งบางท่านอาจจะมีที่เที่ยวมากกว่าหรือน้อยกว่าผมนั้นก็แล้วแต่กันครับ แนวผมสไตล์ผม ผมชอบแบบนี้ อิอิอิอิ

สถานที่แรก ที่อยากจะให้รู้จักและเป็นที่แนะนำ นั้นก็คือ มาถึงสุรินทร์ต้องนึกถึงสัตว์คู่บารมีบ้านเมือง (...ใครรู้ว่าตัวอะไร...)

เห็นแค่ทางเข้าก็น่าจะรู้แล้วว่าที่นี่ต้องเกี่ยวกับช้าง (ช้าง ช้าง ช้าง นู๋เคยเห็นช้างรึป่าว)

ที่นี่จะเรียกว่า(ตามป้ายเลยครับ อิอิอิ) หรือ หมู่บ้านช้างตาพลวง เป็นที่ที่มีช้างมากมายเพราะจากที่ได้เดินสำรวจตามบ้านต่างๆในหมู่บ้านนี้ ทุกครัวเรือนจะมีช้างเลี้ยงไว้เป็นของตัวเอง นักท่องเที่ยวที่ไปที่นี่ก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมาย มาเรื่อยๆ ไม่หนาแน่น มีกิจกรรมเกี่ยวกับช้างหลายๆอย่างที่น่าสนใจ ผมเองยังได้มีโอกาสเห็นภาพการผสมพันธ์กันของช้าง (แต่ถ่ายรูปไม่ทัน)

ลืมบอกไปครับสถานที่นี้มีการเก็บค่าผ่านทางด้วย ประมาณคนละ 50 บาท ถ้าจำไม่ผิด

เสียเงินค่าเข้าแล้วคุ้มไหม บอกได้เลยสำหรับผม คุ้มมากครับ

มีพิพิธภัณฑ์ช้าง ให้ได้ศึกษา (ซึ่งบ้างเรื่องเกี่ยวกับช้างที่รู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ ผมก็พึ่งถึงบางอ้อ ก็ที่นี่แหละครับ 5555)

มีลานแสดงช้าง ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ล้วนแต่ชอบที่จะดูพี่ใหญ่ของเราเหล่านี้แสดงสิ่งต่างๆ ให้ดู

ผมแสนรู้นะครับ จิบอกไห่ (ช้างได้กล่าวไว้ 555)

ถ้ากล้าๆ หน่อยให้อาหารช้างได้ทุกตัวที่อยู่ในหมู่บ้านนี้เลยครับ (ผมไม่กล้า) (แต่คนในรูปดันกล้านะครับบบบ)

เดินเข้าลึกไปหน่อย ไปเจอตัวนี้ สวยงามสง่ามากกกกกกกก และรู้สึกคุ้นมากกกกก เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เลยถือโอกาสคุยกับเจ้าของเสียเลยยยย จะได้รู้ว่ามาจากไหนนนน

เจ้าของบอกว่า ช้างตัวนี้เคยถ่ายโฆษณาเบี้ยช้าง เท่านั้นแหละครับร้องอ่ออออออยาววววววววเลย

ผมถามต่อว่าทำไมงาถึงกุดแบบนั้น เจ้าของบอกว่าพึ่งโดนตัดไป เรานึกสงสาร เลยถามสาเหตุต่อ เจ้าของบอกการที่ช้างโดนตัดงานั้นถือเป็นการช่วยเหลือช้างไม่ให้เจ็บปวดเพราะเวลางาช้างยาวส่วนปลายนั้นจะงอเข้าหากันเบียดกันทำให้เกิดการผลักตัวของส่วนโคนที่ติดกับเนื้อ เป็นสาเหตุให้เนื้อส่วนโคนนั้นฉีกและบาดเจ็บได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดงาควรอยู่ในระดับที่พอดีไม่ใช้ตัดยันสุดโคนแบบนั้นถือเป็นการทรมานช้าง นะครับบบบ (แอบมีสาระนิดนึง5555)

ในส่วนของที่หมู่บ้านช้างตาพลวงนี้ก็มีกิจกรรมต่างๆประมาณนี้

เด่วเราไปต่อกันที่สถานีต่อไป

ปราสาทเริ่มมาแล้ว 555 ใครรู้บ้างปราสาทอะไรครับ????

ถ้าไม่รู้จะบอกให้นะจ้ะะะะะ

นี่ไงเจอป้ายชื่อละ "ปราสาทหิน ศรีขรภูมิ"

เป็นปราสาทที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก ตั้งเด่นๆ อยู่ตรงกลางพื้นที่ สวยงามมาก บริเวณโดยรอบมีการขุดบ่อน้ำล้อมรอบไว้ มีต้นไม่ใหญ่โตหลายต้น

ใครชอบมุมไหนแบบไหนก็เลือกมุมหามุมกันเอานะครับ

งานระเอียดสวยงามแบบมาแล้วไม่ผิดหวังจริงงงงงครับ

ปิดท้ายที่นี่กันด้วยภาพนี้นะครับ บอกได้เลยสวยงามมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ออกเดินทางไปสู่จุดหมายต่อไป

สถานีต่อไปคือ "วนอุทยานพนมสวาย" ตอนที่ผมไปเป็นเวลาเย็นครับ แสงเลยอาจจะไม่สวยถูกใจใครบางคนนะครับ แต่ของจริงถือว่าถูกใจผมสองคนครับ อิอิอิ

ที่นี่มีอะไรหรอครับ ขออธิบายด้วยรูปภาพแล้วกันครับ

ก็มีจุดต่างๆ ตามที่เห็นนะครับ 555

ไปต่อดีกว่า

ที่ต่อไปคือที่ไหนกันนะ

อยากรู้ไหมครับ

ถ้าอยากรู้

ตามมาสิครับ

ที่นี่ไงครับ เป็นอ่างเก็บน้ำ (ขอไม่บอกชื่อนะครับ รบกวนหาข้อมูลกันเอง หาไม่ยาก แต่ขอแนะนำให้มาลองแวะพักกันดูนะครับ) ขอมาแวะเก็บบรรยากาศชิวๆ บ้างแล้วกันนะครับ ตามภาพแหละครับคนคู่กาย กับรถคู่ใจ ที่ได้บอกไปเมื่อตอนต้น อิอิ

บรรยากาศก็จะสบายๆ หน่อยครับ แดดไม่ร้อนจัด ลมแรง ทำให้รู้สึกฟินนนนน สบายยยยยย

"แม่สาวน้อยมานั่งทำไรคนเด่วจ้ะ อิอิอิ" ขอปิดท้ายรีวิวเล็กๆ ง่ายๆ ด้วยภาพนี้เลยนะครับ

....ขอบคุณเพื่อนๆ ที่พยายามนั่งอ่านจนจบนะครับ ขอบคุณครับ....

หวังว่าเพื่อนๆ คงรู้แล้วนะครับ กับคำที่ว่า "สุรินทร์ มี อะไร เที่ยว" "ไม่เห็นน่าไปเลย" มันไม่ใช่เรื่องจริงสำหรับผม ผมอยากรู้ผมก็มาพิสูจน์ แล้วก็บอกได้เลยว่า "สุรินทร์ มี ที่ เที่ยว" "น่าไปจังเลย"

เพื่อนๆสามารถติดตามเราได้ที่
https://www.facebook.com/PareAekTrip/ นะครับ ขอบคุณครับ

บ้าย...บาย...สวัสดี...ครับ
















SKINK PHOTO

 วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.51 น.

ความคิดเห็น