วิถีสีเขียวเเบบกรีนๆ ที่

"ชุมชนพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี"

จังหวัดนครศรีธรรมราช

ที่ว่าวิถีสีเขียวก็เพราะ อำเภอพรหมคีรี อยู่ใกล้ๆกับคีรีวง หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย ที่นี้ ไม่ไกลไม่ไกล อากาศก็ดีไม่เเพ้คีรีวงเลยนะคะ อยากเล่าให้ฟังเเล้วไปกันเลยค่ะ ..


เราเดินทางจากดอนเมือง - นครศรีธรรมราช ด้วยเครื่องบินสายการบินเเอร์เอเชีย

(ต่อไปนี้จะขอเรียกสั้นๆว่า นครศรีนะคะ)


เริ่มต้นทริปพรหมโลกนครศรี

เราติดต่อชุมชนโฮมสเตย์ของชาวพรหมโลกเอาไว้เรียบร้อยเเล้ว เขามารับเราที่สนามบินกันเลยค่ะ

เดินทางตลอดทริปด้วยวิถีโลคอล ด้วยยยยยย "รถเเดงเมืองคอนจ้าาา"

จากสนามบินนครศรี ประมาณ 15-20 นาที เราก็ถึงที่ชมรมท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก

เริ่มต้นกันที่ชมรมชาวบ้านออกมาให้การต้อนรับ ด้วยอาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้ เเละผลไม้เต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าบ้านพักโฮมสเตย์ เเละเตรียมตัวไปเล่นน้ำตกพรหมโลก กัน

อาหารใต้มีผัดผัก ปลาทอด เเกงส้ม เเล้วก็ตำยำละมุด อาหารรสชาติดีเลยค่ะ

ทอดออกมาให้พวกเราทานเเบบร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหอมๆเลย


บ้านพักโฮมสเตย์

หลังจากทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยเเล้ว เราก็เเยกย้ายเข้าบ้านโฮมสเตย์ของชาวบ้าน ครัวบ้านอยู่ตรงกลางมีพื้นที่ทำอาหารกว้างๆ บ้านอีกหลังเป็นบ้านไม้ นอนมุ้ง รับลมอากาศดีดี

มันก็จะวินเทจๆ หน่อยเนอะ


เริ่มเดินทางไป น้ำตกพรหมโลก กันเถอะ !

น้ำตกพรหมโลกตั้งอยู่ในอุทยานเเห่งชาติเขาหลวง ระหว่างทางที่เราเดินทางขึ้นไปน้ำตก

เขียวชอุ่มตลอดทาง

เดินทางมาถึงน้ำตกเเล้ว บริเวณจุดเริ่มเดินทางเข้าชมน้ำตก ถ้าใครมีพาสปอร์ตอุทยาน

สามารถมาเก็บสเเตมป์ของอุทยานเเห่งนี้ได้ด้วยนะคะ

บัตรอุทยานที่เราต้องมาเก็บเอาไว้ในความทรงจำหน่อยเเล้ว

พี่สาวผู้นำทางเเละผู้ดูเเลได้อธิบายถึงสิ่งเเวดล้อมให้พวกเราฟังคร่าวๆ ว่าที่น้ำตกพรหมโลก มีต้นเฟิร์นที่เป็นพรรณดึกดำบรรพ์ ที่มีลำต้นสูงใหญ่ เเละใบยาว ที่จะพบได้ที่พรหมโลกเท่านั้นนะคะ ที่ยังคงมีเหลืออยู่

เป็นเฟิร์นที่ยักษ์มากกก ฮ่าา

น้ำตกพรหมโลก มีความพิเศษตรงที่เป็นน้ำตกที่มีลายพระหัตถ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9

ท่านทรงประทานไว้ที่หินเรียบในชั้นน้ำตก เเละเราจะไปเล่นน้ำกันด้วย

ต่อมา เราเริ่มเดินทางไปตามชั้นน้ำตกต่างๆ จริงๆเเล้ว น้ำตกพรหมโลกมีมากกว่า 40 ชั้น

เเต่ที่ทางอุทยานเปิดให้เข้าชมได้มีเพียง 4 ชั้นเท่านั้น

ทั้งสี่หนานที่เราสามารถขึ้นไปได้ หนานวังบ่อน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว หนานหวังอ้ายเล

ระหว่างทางมีป้ายเเละจุดที่ปักสลิงเพื่อป้องกันไม่ให้เล่นน้ำในจุดที่น้ำเเรง

น้ำตกพรหมโลกเป็นหินเรียบน้ำเเรงลึก จึงต้องเคร่งครัดเรื่องจุดเล่นน้ำ ค่ะ

ไปดูน้ำตกกันเลย ยยย


มีป้ายเเละสลิงกันน้ำตกในจุดที่ห้ามเล่น เชื่อฟังตามป้ายกันด้วยนะคะ

กลุ่มชุมชนนำทางเราเข้าไปในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จริงๆ เเล้วบริเวณนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่พาเดินเข้าไปเท่านั้น ถ้าเดินไปเองเข้าไม่ได้นะคะ มีป้ายติดอยู่เเต่ชำรุด

ด้านในป่า ก็จะพบต้นไม้ที่เขียวธรรมชาติดงดิบ เเอบกลัวทากุเเต่ไม่น่าจะมีเพราะเป็นริมน้ำตกฮ่าๆ

ต้นไม้ใหญ่ประมาณสี่ห้าคนโอบ ไม่เจอต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้นานเเล้ว

เดินมาเรื่อยๆ เราจะเจอน้ำตกจุดที่เราจะลงมาเล่นกัน เเต่จุดนี้บอกก่อนน้า ว่ามันลื่นมากๆ เพราะคนเข้ามาไม่ถึงบริเวณนี้ตะไคร่ เยอะมากๆ ค่ะ เราใส่รองเท้าที่กันลื่นยังลื่นเลยฮ่าๆ

น้ำใสไหลเย็นสุ๊ดสุดดดด พร้อมจะลงไปเล่นน้ำกันหรือยัง ไปกันเลยยย ระหว่างทางเราเดินไปที่โขดหินได้นะคะ

เวลาเดินเราก็ต้องระวัง จุดนี้ถ้าเราเดินตามทางของพี่ๆชาวบ้าน เราจะพบกับน้ำเเค่ครึ่งขา

เเต่ถ้าเราเดินเองจะเจอน้ำลึก ใต้น้ำมีลึกหลายระดับ ไปดูรูปกันดีกว่าาา

บริเวณน้ำตก เราสามารถลื่นสไลเดอร์มาได้ สนุกจริงๆ กางเกงไม่ขาดค่ะ น้ำเย็นโส้ะจื้นนนน น้ำไหลเเรง ลึกนะคะจุดนี้เล่นต้องใช้ความระวัง

พวกเราเลยถ่ายรูปที่น้ำตก กันสนุกสนาน เเละเล่นน้ำต่ออีกนาน เพราะบนนี้เป็นบนเขา

เราเลยได้วิวดีดีเพียบเลยค่ะ

มันลื่นจริงๆ เราต้องเกาะๆ กันเดิน

น้้ำตกเราสามารถเดินขึ้นโขดหินเรียบเพื่อขึ้นฝั่งๆได้ด้วยนะคะ


กระโดดตู้มมมม ฮ่าๆ

น้ำใสใส เย็น เย็น

ด้านล่างน้ำตก ที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาเล่นได้ เเล้วมีปลาเต็มเลยค่ะ ปลามันจะชอบกินกล้วย ชาวบ้านมีพกมาให้เราด้วย โยนไปปลาก็จะเเย่งกันกินๆ

ขากลับลงเขาคุณลุงเเวะให้เราเดินถ่ายรูปเล่นด้วยนะคะ เเสงมาพอดี สวยดีเหมือนกัน

กลับมาอาบน้ำที่โฮมสเตย์เเล้วเเม่เจ้าของบ้านทำผัดสตอเอาไว้ให้เราเตรียมอาหารให้เราเรียบร้อยเเล้ว


เราไม่อาบน้ำค่ะ เพราะเราไม่ได้สกปก ฮ่าๆ คือจริงๆ ชุดเราเเห้งเเล้ว เ

ราเลยช่วยเเม่หั่นผัก กับนั่งอยู่เเถวๆครัวค่ะ เเอบกินกับเล่นฮ่าๆ

ซึ่งเเม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย กินเลยลูกกก ตามสบายยย ชอบบบ

ผัดสตอเเบบใต้เเท้ๆ


เเละเเม่ก็เอาขนมลามาให้เรากิน โอ้ะโห้ ไม่เคยเห็นเเบบนี้มาก่อน เคยเห็นเเต่เป็นกรอบๆ เเท่งๆ ที่ขายตามงานวัด เเต่เเม่บอกว่า นั้นคือเขาเอาไปเคลือบน้ำตาลจะได้เก็บได้นานๆ รสชาติก็จะมันๆ เพราะทำมาจากไข่

หลังจากอิ่มจากข้าวเย็น เรามีกิจกรรมที่ต้องทำต่อ คือ เพ้นท์ผ้าบาติก

เรากลับไปรวมตัวที่ชมรมเเล้วเริ่มกันเล้ย

คุณลุงก็ออกมาสอบวิธีการ เเละวิธีทำให้พวกเรา

อุปกรณ์มีผ้า ขึงกับเฟรม ด้วยเทียน เเล้วก็ใช้ดินสอรางเเบบ

เสร็จต้องมีน้ำเทียน เเล้วก็ปากกาที่นำน้ำเทียนไว้ร่างตามเเบบ น้ำเทียนจะเป็นเหมือนเส้น ที่ไว้กั้นสีไม่ให้รวมกัน

เวลาเราทำ ต้องคอยเชคว่า เทียนทะลุไปถึงด้านหลังมั่ย เพื่อไม่ให้สีวิ่งค่ะ

ถ้าเราเลื่อนมือไวไว เราจะได้เส้นเล็ก ถ้าเราเลื่อนมือช้า เราจะได้เทียนเส้นใหญ่ๆ

สีบาติก ที่เอาไว้ลงตามรออยเทียนที่เราวาดไว้ค่ะ

เราทำเป็นรูปนี้ค่ะ เพจเรา ทริปวันว่าง นี่เอง ฝากติดตามไว้ด้วยนะคะ ทำออกมาเป็นผ้าเลย ฮ่าๆ

ผลงานของเพื่อนๆ ที่ร่วมทริป

หลังจากเสร็จกิจกรรม เราก็เข้านอน ตามบ้านพัก

เเล้วมีนัดกันในตอนเช้า ปั่นจักยานไปตลาดกันค่ะ

ตลาดเช้าชาวพรหมโลก

เพราะใกล้ถึงประเพณีบุญของชาวนครกันเเล้ว งานบุญสาทเดือน 10 ในตลาดเริ่มมีของที่ต้องใช้ในพิธีขาย เราเองได้เห็นขนมใต้ใหม่ๆ เยอะเเยะ เลยเก็บภาพมาเยอะเเละเลยค่ะ

ข้าวหมกไก่เเบบใต้เเท้ๆ สีเหลือง รสชาติเจ้มจ้นนนน

ขนมที่ใช้ในประเพณีสาทเดือนสิบ

เเม่ค้าน่ารักหันมายิ้มสู้กล้อง ขายข้าวเหนียวหมูห่อละสิบบาทเองค่ะ ข้าวเหนียวอัญชันด้วยนะ

ในตลาดจะมีเเผงนึงยาวลึกเข้าไป จะเป็นถนนสายไก่ทอด ไก่ทอดทั้งเส้นเลย มีทุกเเบบ ไก่ทอดอิสลาม ไก่หาดใหญ่ ไก่ทอดน้ำปลา ครบทุกสูตร

ที่เห็นเป็นถ้วยๆ คือวุ้นดำหรือเฉาก๊วยทำเอง เข็นรถเข็นขายนะคะ เเล้วเอามีดกรีดๆ จากถ้วยใส่โฟมให้เราเลย ไม่มีน้ำเชื่อมนะ ทานคู๋กับน้ำตาลทรายเเดงเลยค่ะ

ในกล่องเหลืองๆ คือขนุนเชื่อมนะคะ เเปลกมาก ไม่เคยเห็นเลยถ่ายรูปมา เเม่ค้าใจดีให้เราชิมด้วย

เราเดินไปเรื่อยๆ เเม่สาวพาเราเข้าไปซื้อหมี่กะทิ จริงๆ ที่เราเคยกินกันจะต้องเป็นเส้นหมี่สีชมพูเเต่ที่นี่เป็นเหมือนเส้นเล็กเลยคะ ผัดขึ้นมาหอมๆเลยค่ะ เราเลยซื้อทุกเเบบ มีเเบบยากิโซบะ เเบบหมี่กะทิสีเเดงก็มี เเล้วก็เเบบที่เพิ่งผัดเสร็จ ห่อละ 5 บาทเองค่ะ


ของกินที่ตลาด พวกเราเเยกกันไปซื้อ เเต่ทุกคนกินด้วยกัน ของกินเยอะมากค่ะ


เราเองไม่ค่อยได้มีโอกาสไปตลาดเท่าไหร่ เเต่ก็ไปกินอย่างเดี่ยวเลยจริงๆ

ของไม่เเพงเท่ากรุงเทพ ยิ่งทำให้เราซื้อเยอะขึ้นไปอีก ฮ่าๆ

เยอะมั้ยล้าา า ฮ่าๆ

เมื่อเราทานข้าวเช้าเรียบร้อยเเล้ว วันนี้เรามีกิจกรรมอีกเยอะต้องไปทำต่อ

เราเริ่มด้วยการเเวะทำบุญเข้าถ้ำกันสักหน่อย "วัดเขาขุนพนม"

ตามตำนานที่สาวๆ เล่าให้ฟังคือ พระเจ้าตากหนีการสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ หลังถูกกล่าวหาว่าพระองค์ทรงสติฟั่นเฟือนจากการทำศึกเป็นเวลานาน ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย เเล้วมีพระสนมเป็นลูกเจ้าเมืองนครในตอนนั้นมีบุตรหลานเหลนจนถึงปัจจุบัน

ในวัดมีพระบรมรูปพระเจ้าตากเพื่อทำการบรวงสรวง ในวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี

มาที่นี่เราต้องเขาไปสักการะพระ เเละขึ้นไปดูทรงท้องพระโรงที่ท่านเคยทรงงานที่อยู่ด่านบน

เดินขึ้นบันไดไป สองร้อยกว่าขั้นพร้อมเเล้วไปกันน

ด้านบนเป็นพระพุทธรูป เเละภาพของพระเจ้าตากสิน ให้เราเคารพบูชาค่ะ

บริเวณที่มีตั้งภาพของท่าน สัญนิฐานว่า เป็นห้องบรรทมมาก่อนค่ะ เเละท้องพระโรงจะอยู่ในถ้ำ

เเละด้านข้างเราสามารถเดินไปได้เป็นถ้ำ ขนาดใหญ่ ภายในถ้ำ

เเสงสีขาวคือ ทางเชื่อมไปห้องบรรทมที่เราขึ้นไปกราบไหว้พระมาเมื่อสักครู่ค่ะ


เดินทางกันต่อๆ วันนี้ เรามีต้องเเวะไปฟาร์มเห็ด เเวะเก็บลูกประ เเละก็เล่นน้ำตกที่ไหลผ่านบ้านพัก มีคิวทำขนมอีก ไปไป ไปดูกัน

เรามาที่ฟอร์มเห็ดกันก่อน

ก้อนเพาะเห็ด ที่เราเห็นด่านล่างเป็นขี้เลื่อยค่ะ ที่เป็นสีน้ำตาล เเล้วด้านบนก็เป็นเชื้อ

เราต้องรอให้เชื้อที่อยู่ด้านบนลงมาทั่วๆ ทั้วอันก่อนเเล้วค่อยไปโรงเพาะเห็ดค่ะ

เห็ดสามชนิดที่ปลูกที่นี่คือ เห็ดหูหนู เห็ดนางฟ้า

เขาอนุญาติให้เราเก็บเห็ดได้จริงๆ ด้วยนะคะ เราก็เก็บไปฝากเเม่ที่บ้านได้

ได้เห็ดกลับมา เราก็เอาเก็บไปให้เเม่ที่บ้านทำอาหารกันค่ะ

เเต่ที่ฟาร์มเห็ดยังมีสอนกรีดยางด้วย ไหนๆ มาเเล้วดูภาพกันค่ะ

ก่อนกลับบ้าน เขาเเวะวังปลาเเงะให้เรา ปลาเเงะคือปลาที่เราเจอตอนเล่นน้ำตก เเต่ที่วังปลาเเงะ คือปลาจะเบิ้มกว่ากันเยอะมาก เป็นที่เล่นน้ำ เหมือนกัน เราเเวะเเค่ถ่ายรูปเพราะเรากะเล่นน้ำที่หลังบ้านกันค่ะ

ที่นี่จะมีห่วงยางให้เช่า เเม่ลูกน่ารักเลยเเอบเเชะๆ

ตรงนี้จะไม่มีหิน เเละมีฝายน้ำล้นให้รถสามารถขับผ่านไปได้ เป็นเส้นเเบ่งระหว่างหมู่บ้านทางเหนือเเละหมู่บ้านทางใต้ ของชาวบ้านที่นี้

มีนถสวนมาพอดี

กลับมาเล่นน้ำที่หลังบ้านเราดีกว่า ตอนนั้นเราไม่ได้เล่นค่ะ เราเเอบมาช่วยเเม่ทำขนม เเต่เก็บบรรกาศมาฝากนะ


เราเเอบเเวบออกมาช่วยเเม่ๆ ทำขนม วันนี้ขนมที่จะทำคือขนมโค ค่ะ คล้ายบัวลอย เเต่ไส้น้ำตาลตาลตโนด อร่อยค่ะทำง่ายด้วย ไปดูกันว่าทำไง

นี่คือ ส่วนประสมค่ะ เเป้งข้าวเหนียว เเละสีธรรมชาติเอามาปั้นด้วยกัน มีสีม่วงจากอัญชัน

สีเขียวจากใบเตยอาร์สยามเเล้วก็ สีไข่จากเเม่ไก่ฮ่ะ

ปั้นๆ ให้เข้ากัน เเม่บอกปั้นเหมือนกลัวเเป้งเจ็บนะลูก ฮ่าๆ

ต้องให้มืออาชีพมาช่วยนวดฮ่าๆ

เราทำตัวเเป้งกันก่อนเเล้วเเบๆ ใส่ก้อนน้ำตาล ทุกคนเริ่มเลิกเล่นน้ำกันเเล้วก็มาช่วยกันทำต่อค่ะ

เป็นกิจกรรมที่เราได้ทำด้วยกันอีกอย่าง สนุกดีค่ะ

เมื่อเราปั้นๆ เสร็จเเล้ว เราก็เอาไปต้ม ค่ะ

เสร็จเราก็เอามาคลุกกันมะพร้าวทึนทึกค่ะ

เสร็จเเบ้ว ขนมโคของเรา

อ้ามมมม ฮ่าๆ

อร่อยนะคะ เเป้งจะนิ่มๆ ที่อร่อยเพราะไส้น้ำตาลตโนดที่เราใส่ไว้ น้ำตาบจะละลายไม่หมด ละลายเเค่นิดเดี่ยวจะ เวลาเรากัดจะ กัดโดนน้ำตาลก้อนๆ เราว่าอร่อยตรงนี้นะ


ต่อด้วยน้ำพริกลูกประ ค่ะ ของดีของชุมชนพรหมคีรี

ส่วนประกอบก็จะมี กะปิ น้ำตาลตโนด ลูกประ น้ำมะนาว พริกค่ะ

อาหารมือเที่ยงของเรา ค่ะ

สินค้าจากลูกปัดมโนราห์

ขอเล่าถึงลูกประสักนิดนึงนะคะ เราได้เข้าป่าไปเก็บลูกประ จริงๆ เป็นกลัวๆ ถั่วเมล็ดเเอลมอน เเต่ชาวบ้านเอามาเเปรรูปทำน้ำพริก เเละคั่วให้กรอบเพิ่มรสชาติให้รสหวานเค็ม อร่อยค่ะ ทานเพลินๆ อันนี้เราเเนบรูปต้นประ ลูกประที่ตกลงมา เราต้องไปเดินตามเก็บเอาค่ะ เด็ดเอาไม่ได้ รสชาติจะขม ต้องเป็นลูกเเก่ ที่ล่นลงมาเอง

สินค้าเเปรูปจากลูกประ อร่อยจริงๆ ยิ่งน้ำพริกลูกประเราหยุดกินไม่ได้เลยฮ่าๆ สนใจสินค้า เขามีส่งไปรษณีย์นะคะ เราทิ้งช่องทางติดต่อ ไว้ให้ที่ด่านล่างค่ะ


เมื่อทานมื้อนี้เสร็จชาวบ้านก็ได้สอบถามความเพิ่งพอใจในการท่องเที่ยวครั้งนี้พร้อมเปิดรับข้อเสนอเเนะต่างๆ ที่เราอยากจะเพิ่มเติม เราได้เเนะนำตามความเมหาะสม ชุนชนพรหมโลก เป็นชุมชนที่จัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนมา 11 ปีเเล้ว เเน่นอนว่ามีรากฐานระบบที่ค่อนข้างดี มีการรับจำนวนจำกัด ไม่เปิดรับสาธารณะ ทั่วไป ต้องมีการติดต่อเข้าจองก่อนที่จะไปท่องเที่ยว

ชาวบ้านมีจุดยืนที่ชัดเจนมากๆ ค่ะเรื่องการทำการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นอาชีพเสริม โดยอาชีพหลักของชาวบ้านเป็น กรีดยา สวนผลไม้ เป็นหลัก สามารถท่องเที่ยวพรหมโลก ได้ทุกฤดู อย่างมาฤดูฝนเราก็เน้นเล่นน้ำ ถ้ามาช่วงหน้าร้อนก็จะมีผลไม้ขึ้นตามสวนเต็มไปหมด เเล้วชาวบ้านที่นี้เขายังจัดเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เพราะชาวบ้านได้รายได้เสริมจากการทำท่องเที่ยวมาจุนเจื้อ เเทนการบุกรุกถางป่า เพื่อหาขอมาค้าขาย การท่องเที่ยว เเบบนี้ในไทย น่าสนับสนุนมากๆ ค่ะ เราเองเชื่อเลยว่ามาเองคงไม่สนุกเเบบนี้เเน่ๆ

หลายๆ อย่างที่ชาวบ้านเเนะนำ เเละให้ความรู้เรา เราเองประทับใจทริปนี้มากๆ


ช่องทางติดต่อชาวบ้านชาวพรหมโลก

Facebook : https://www.facebook.com/CBTPromlok/


เราเองเพิ่งเคยเขียน ปกติ เราชอบเล่าในเฟสส่วนตัว เเต่ก็มีเพจด้วยนะคะ เเจมๆ กะพี่เขา

ฝากติดตามไว้นะคะ เรามีเรื่องเล่าอีกเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังค่ะ


Facebook เพจทริปวันว่าง


เฟสส่วนตัวเราค่ะ มาเป็นเพื่อนกันได้นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกทุกคน ขอบคุณที่อ่านรีวิว นี้นะคะ อย่าลืมไปเที่ยวพรหมโลกนะคะ

Facebook https://www.facebook.com/onsiri.jrv










Onsiri Jrv

 วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 23.14 น.

ความคิดเห็น