การเดินทางมาเที่ยวประเทศออสเตรียในครั้งนี้เรา ขับรถมากันเองจากประเทศเยอรมัน เพราะฉนั้นใน

ทริปนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางนะคะ แต่จะพาทุกคนไปชมความสวยงามของสถานที่ต่างๆที่เราได้ไปสัมผัสกันมา เห็นภาพแล้วอาจจะกระตุ้นต่อมอยากเที่ยวของใครหลายๆคนกันเลยที่เดียว

เราเดินทางมาถึงกรุงเวียนนากันก็เย็นมากแล้ว หลังจากเช็คอินและหาอะไรทานเป็นที่เรียบร้อยเราก็เริ่มออกชมเมืองยามค่ำคืนกันโดยเป้าหมายของเราในค่ำคืนนี้ก็คือ สวนสาธารณะเวียนเนอร์ พราเตอร์ (Wiener Prater)

เมื่อก่อนเคยเป็นพื้นที่ในการล่าสัตว์ของราชวง ต่อมาสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 2แห่งออสเตรีย ได้บริจาคพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นของสาธารณะ ต่อมาผู้คนเริ่มใช้พื้นที่นี้สังสรรค์และสร้างความบันเทิง จนปัจจุบันได้เปิดให้บริการเป็นสวนสนุก ซึ่งเป็นสวนสนุกที่เปิดให้บริการมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลกกันเลยละ

เริ่มจากทางเข้าด้านซ้ายมือของเราก็จะเป็น Madame Tussauds (พิิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มาดาม ทุสโซ)

ก็จะมีหุ่นขี้ผึ้งเสมือนจริงของเหล่าคนดังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นวงการดารา นักกีฬา นักวิทยาศาสตร์ เจ้าหญิง แห่งออสเตรีย อังกฤษ ประธานนธิบดีสหรัฐ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนสำคัญของกรุงเวียนนาคือ โมซาร์ท บีโธเฟ่น นักดนตรีชื่อก้องโลก

ออกจากมาดาม ทุชโซ เราก็เดินชมเครื่องเล่นต่างๆ ซึ่งก็มีให้เลือกเล่นมากมาย สีสันในยามค่ำคืนยิ่งดึงดูดให้เข้าไปสัมผัสกับความสนุกของมัน

เอารูปมาโชว์แค่บางส่วน แต่จริงๆแล้วมันมีเยอะมากๆ แต่เราไม่ได้เข้าไปเล่นนะ เดินดูไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจ ขึ้นชิงช้าเพื่อชมวิวเมืองยามค่ำคืนกัน

หน้าตาของกระเช้าที่เราขึ้นไปก็ประมาณนี้แหละ ลืมถ่ายภาพจากข้างใน สามารถดินเนอร์ได้ด้วยนะ คู่รักที่อยากจะมีโมเม้นโรแมนติกๆ ก็สามารถจองกระเช้าดินเนอร์สองต่อสองได้เลยจ้า ที่นั่งข้างในก็สบายและสวยมากๆ เสียดายมัวแต่ตื่นเต้นกับวิวข้างนอกจนลืมถ่ายภาพเก็บไว้

สำหรับคืนนี้เราก็จบวันแบบสบายๆด้วยการชมวิวยามค่ำคืนที่สุดแสนจะโรแมนติกกลางกรุงเวียนนา

:

:

เช้าวันใหม่ หลังจากทานอาหารกันเป็นที่เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังพระราชวังเชิร์นบรุนน์

ที่ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของเราในทริปนี้ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากจะเข้าชมความงดงามของพระราชวังแห่งนี้ซึ่งปัจจุบันองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก

ถึงแล้วพระราชวังเชิร์นบรุนน์ (schoenbrunn Palace) หมายถึงน้ำพุที่สวยงาม

พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก และเป็นสถานที่รวบรวมผลงานศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก

ภาพจากด้านหน้าของพระราชวัง

ปีกซ้าย

ปีกขวา

การตกแต่งของแต่ละห้องด้านในบอกเลยอลังการมากๆ นี่เป็นเพียงแค่รูปเดียวที่มีอยู่เพราะเขาไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป แต่ถ้าใครเคยไปพระราชวังแวร์ซายที่ ปารีส ก็จะอนุญาติให้ถ่ายรูปได้ พระราชวังแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นไกล้เคียงกับพระราชวังแวร์ซาย วันหลังจะมารีวิวพระราชวังแวร์ซายให้ได้เห็นความสวยงามด้านในกันอีกทีละกัน


ออกมาจากตัวพระราชวังเราก็เลือกที่จะใช้บริการนั่งรถม้าชมสวนกัน...คือเดินกันจนเมื่อยแล้วก็ขอนั่งสบายๆหน่อยน๊าาาาา ;)


ระหว่างทางเจอเจ้าตัวนี้ มันกำลังซ่อนอาหารไว้กินในฤดูหนาว เห็นแล้วคิดถึงภาพยนต์เรื่อง Ice age เลยอ่ะ คือประมาณว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงฉันก็จะไม่ทิ้งอาหารของฉัน น่ารักดีนะทั้งในภาพยนต์และตัวเป็นๆๆ(จะมีใครสังเกตุเห็นบ้างไหมนะ)


สวนสไตล์บารอกตั้งอยู่หลังพระราชวัง ยิ่งใหญ่ตระการตาและสวยงามมากๆ

ให้ภาพเล่าเรื่องละกัน ไปดูกันต่อเลยคะ





สองภาพข้างบนนี้ถ่ายลงมาจากหน้าต่างข้างในพระราชวังทำให้เห็นภาพรวมอันสวยงามของสวนแห่งนี้








ภาพนี้ก็จะเป็นอาคารสำหรับพืชเมืองร้อน ต่างๆอย่างพวกแคคตัส กระบองเพชร และอื่นๆอีกมากมาย




ครึ่งวันเช้าของเราก็หมดไปกับการเยี่ยมชมพระราชวัง

หลังจากหาร้านอาหารนั่งกินเพลินๆ และจิบชากับเค้ก อร่อยๆในกรุงเวียนนา เสร็จ เราก็ตัดสินใจซื้อ ทัวร์ล่องเรือชมเมืองกัน เพื่อผ่อนคลายชิลๆๆยามเย็น และเก็บภาพบรรยากาศสองฝั่งแม่น้ำดานูบของกรุงเวียนนามาฝากกัน

ตามไปดูวิวสวยๆกันต่อเลยคะ



แอบส่องห้องเครื่องและกัปตัน คนล่องเรือก็ชิล คนขับก็ชิล บรรยากาศก็ดี แดดร่มลมตกกำลังดี เหมาะสำหรับคนไทยที่กลัวร้อนอย่างเรามากๆๆ 5555


ดูเมฆครึ้มๆแต่จริงๆแล้วฝนก็ไม่ตกนะ ลมพัดเย็นสบายมากๆ

โรงแรมฮิลตัน คือเหมือนเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้วล่ะ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เขาก็จะจองพื้นที่ริมแม่น้ำก่อนเลย อย่างในกรุงเทพบ้านเราโรงแรมนี้ก็อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา


ศิลปะฝาผนังก็จะมีให้เห็นกันโดยทั่วไป ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ

จริงๆรูปมีเยอะมากแต่กลัวจะเยอะไปเลยลงให้ดูกันแค่นี้พอ เดี๋ยวจะเบื่อกันเสียก่อน วันนี้เราก็จบทริปกันด้วยการล่องแม่น้ำชมเมือง อันที่จริงสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในกรุงเวียนนามีอีกเยอะมาก แต่ทริปนี้เรามีเวลาน้อยเป้าหมายหลักของเราก็คือเข้าชมพระราชวังเชิร์นบรุนน์ และเยี่ยมชมเมืองซาลบวร์ก

สำหรับทริปนี้ก็ลากันด้วยภาพวิวสวยๆ สองข้างทาง มุ่งหน้าสู่เมืองซาลบวร์ก ก่อนกลับเข้าเยอรมัน

เจอกันทริปต่อไปที่ ซาลบวร์ก (Salz burg)คะ

Ps.>>>>>บัตรเข้าชม มาดามทุชโซ อยู่ที่ 23 ยูโรต่อคน

>>>>>>ค่าเข้าชมพระราชวังเชิร์นบรุนน์ คนละ 13.30 ยูโร

Adelpatour

 วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.58 น.

ความคิดเห็น