ตลุยเที่ยวไต้หวัน2017 | Ep.1 เที่ยวชมวัดและไหว้พระที่มีชื่อเสียง

Trip Taiwan Dream

17 - 23 APR 2017 | 7 Day 6 Night

ข้อสังเกตของการท่องเที่ยว "ไต้หวัน"

อุณหภูมิประมาณ ต่ำสุด -17 สูงสุด 26 องศา และถ้าไป อาลีซานมีอากาศค่อนข้างหนาว ควรเตรียมเสื้อกันฝน ร่ม และ เสื้อกันหนาวไปด้วย
สภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ มีลมฝนฟ้าคะนอง รวมถึงพายุทุกปี แต่ละวันเราจะเจอทั้งฝน อากาศเย็น อุณหภูมิ ในแต่ละวันจะไม่เท่ากัน
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน เงิน 1 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ = 1.0967 บาทไทย ณ วันที่ 25/9/2560
ที่ ไต้หวันกระแสไฟฟ้าเป็นแบบ 110 V.60 ปลั๊กเป็นแบบขาแบน 2 ขา แต่บางโรงแรมจะเป็นหัวเสียบ 3 ขาแบบแบน ดังนั้นควรเตรียม Universal Adapter ไปด้วยค่ะ
ถ้าต้องการใช้ Internet สามารถหาซื้อซิมที่ไทยได้ พอไปถึงโน้นสามารถเปิด Roaming เพื่อใช้งานได้ค่ะ
ไต้หวัน ใช้ภาษาจีนกลางเป็นภาษาหลัก และภาษาจีนฮกเกี้ยนเป็นภาษาท้องถิ่นก็สามารถใช้ภาษาอังกฤษกันได้ค่ะ
ไต้หวันเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงค่ะ

Day 01 : การเดินทาง

ขึ้นเครื่องบินที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ออกเดินทางเวลา 00.20 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง และเดินทางมาถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน ในมณฑลเถาหยวน ประเทศไต้หวัน ประมาณเวลา 05.00 น.
พอเดินทางมาถึงไต้หวัน หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรแล้ว เราก็เดินทางสู่เมืองหนานโถว จะเป็นมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน

Day 02 : จะเป็นการเดินทางเที่ยวชม นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดขึ้นชื่อของไต้หวันค่ะ

สถานที่แรก คือ วัดจงไถซาน

วัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 บนเกาะไต้หวันและติดอันดับวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ด้วยงบประมาณในการสร้างประมาณหมื่นล้านบาท มีความสูง 150 เมตร ออกแบบโดยวิศวกรคนเดียวกับตึก 101 ค่ะ

ตรงจุดบริเวณนี้จะเป็นหน้าทางเข้าวัด ทางด้านนอกจะมีร้านค้าให้เลือกซื้อของกิน และ มีห้องน้ำให้เข้าค่ะ

วัดนี้มีขนาดใหญ่มาก สามารถนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระโพธิสัตว์หลายๆพระองค์ได้ที่นี่ค่ะ

เดินเข้ามาสิ่งแรกที่จะพบตรงด้านหน้าทางเข้าวัด ก็คือ สะพานต่ออายุทองทำจากทองแดงค่ะ

และด้านในจะเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่มีห้องเรียนถึง 1,000 ห้อง เพื่อให้พระสงฆ์ได้ศึกษาพระธรรมค่ะ

ขณะที่เรากำลังเดินขึ้นบันไดเราห้ามถ่ายรูปไปด้วยขึ้นบันไดไปด้วย ห้ามถ่ายรูปแม่ชี และ ห้ามสงเสียงดังค่ะ ถ้าเราทำผิดกฏจะมีคนมาสะกิดเราทันทีหรือถ้าแม่ชีพบว่าเราแอบถ่ายรูปท่านจะเดินมาบอกให้ลบรูปออกทันทีค่ะ

สถานที่สอง คือ ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา ( Sun Moon Lake )

เป็นทะเลสาบน้ำจืดจากธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน ตั้งอยู่ในภูเขาของมณฑลหนานโถว พื้นที่ตอนกลางของเกาะ มีชื่อเสียงด้านความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน” ทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวถึง 33 กิโลเมตรค่ะ

ส่วนการล่องเรือเที่ยวแรกเริ่มตั้งแต่ 08.45 น. และเที่ยวสุดท้ายเวลา 18.00 น. ค่ะ

ซึ่งวันที่ทางเราไปนั้นจะไปขึ้น ท่าเรือ Syuanguang จะเป็นที่ตั้งของวัดพระถังซัมจั๋ง จะเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของทะเลสาบสุริยันจันทราค่ะ

บริเวณนี้จะเป็นจุดขึ้นเรือเพื่อชมบรรยากาศโดยรอบและชมเกาะที่เล็กที่สุดในโลกค่ะ

บรรยากาศวันที่เราไปนั้นเป็นเดือนเมษายน บรรยากาศเหมือนฝนจะตกตลอดเวลาครึ้มฟ้าครึ้มฝน มีหมอกโดยรอบเกาะ อากาศดี เย็นสบาย และลมพัดแรงมากค่ะ

ส่วนมากคนที่ให้บริการจะเป็นผู้หญิงที่คอยช่วยเหลือเราตอนขึ้นเรือ รวมทั้งขับเรือ และออกตรงเวลาค่ะ

ขึ้นเรือชมบรรยากาศโดยรอบ บนเรือมีที่ชาร์จแบตเตอรี่แต่แป๊บเดียว เดินทางน่าจะประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงฝั่งค่ะ

ตรงบริเวณนี้จะเป็นทางขึ้นไปนมัสการพระอัฐของพระถังซัมจั๋ง โดยจะเดินขึ้นบันไดไปด้านบนค่ะ

บันไดทางขึ้นเพื่อไป ที่ตั้งของวัดพระถังซัมจั๋ง และตรงทางขึ้นจะเป็นที่ตั้งร้านไข่ต้มใบชา ชื่อดังของ Sun Moon Lake แห่งนี้

พอเดินขึ้นมาเรื่อย ๆ วิวทิวทัศน์ก็จะเริ่มสวยขึ้น มุมสูงก็ค่อนข้างที่จะสวยและลมเย็นมากค่ะ

เราเดินขึ้นมาประมาณ 5 นาทีและแล้วก็เดินทางมาถึงที่ตั้งนมัสการพระอัฐของพระถังซัมจั๋งเพื่อขอพรค่ะ เพราะนอกจากจะมาไว้พระแล้วยังได้ชมวิว Sun Moon Lake จากเนินเขาอีกด้วยค่ะ

เราสามารถเดินเที่ยวชมความสวยงามของวัดโดยรอบศึกษาข้อมูลประวัติของพระถังซัมจั๋งที่จัดแสดงไว้หรือจะเดินขึ้นไปอีกหน่อยเพื่อชมเจดีย์ 7 ชั้นที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนยอดเขา แวะถ่ายรูปกับก้อนหินแกะสลักชื่อทะเลสาบ

ไม่ว่าจะตรงไหนมันก็เหมาะจะถ่ายรูป อิอิ

เดินออกมาด้านนอกตามเส้นถนนจะมีร้านขายของฝากตรงข้างทางสามารถเลือกซื้อได้ค่ะ ราคาก็ประมาณกลางๆ ไม่แพงมากค่ะ
แต่ผลไม้ราคาค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับบ้านเราค่ะ

สถานที่สาม คือ สักการะขอพรเจ้าพ่อกวนอู ณ วัดเหวินอู่หรือวัดกวนอู

เป็นสถานที่สักการะศาสดาขงจื๊อเทพเจ้าแห่งปัญญาและเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์
วัดนี้ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาทางด้านเหนือของทะเลสาปสุริยันจันทรากันค่ะ

วัดมีประวัติความเป็นมายาวนานมากและถือเป็นอีกหนึ่งวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไต้หวันนิยมพาบุตรหลานมาไหว้ขอพรด้านการศึกษาค่ะ

ตรงด้านหน้าทางเข้าจะมีสิงโตหินอ่อน 2 ตัว ที่ตั้งอยู่หน้าวัด ซึ่งมีมูลค่าตัวละ 1 ล้านเหรียญไต้หวัน

รูปปั้นเทพเจ้ากวนอู ซึ่งตั้งอยู่ทางเข้าด้านหน้าของวัด

วิหารแรกด้านหน้าเมื่อเราเดินเข้ามาภายใจจะพบกับองค์เทพเจ้ากวนอูนั่งอยู่บนบัลลังค์ดูเด่นเป็นสง่า

ถ้าต้องการที่จะจุดธูปไหว้องค์เทพเจ้าเราก็สามารถจุดธูปที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ได้เลยค่ะ
โดยที่นี่เขาจะจุดธูปกันแค่ 2 ดอก เท่านั้น เมื่อไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แยกปักกระถางด้านในและด้านนอกกระถางละ 1 ดอกเป็นอันเสร็จพิธีค่ะ

ตำหนักสุดท้ายด้านในสุดจะเป็นตำหนักวิหาร "ต้าเฉิง" ซึ่งเป็นตำหนักที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าขงจื้อ เทพเจ้าแห่งการศึกษาค่ะ

ตรงนี้จะเป็น ซุ้มประตู 9 มังกรค่ะ หลังจากสร็จจากการไหว้ขอพรองค์เทพเจ้าขงจื้อแล้ว เราก็สามารถเดินชมและถ่ายภาพกับความงามของซุ้มประตู 9 มังกร ซึ่งสร้างมาจากหินแกะสลักแผ่นใหญ่ที่มีความวิจิตรงดงามอลังกาลค่ะ

เมื่อเดินออกมาด้านนอกก็จะพบวิวสวย ๆ หน้าวัดสามารถมองเห็นทะเลสาปสุริยันจันทราค่ะ

ติดตามอ่าน Ep02 ได้ที่ : https://th.readme.me/p/13150

ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่สนับสนุนทริปดี ๆ แบบนี้ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจากพี่เอฟ (Fpresso) และ รูปภาพจาก พี่ๆ SiS ทุกคนนะคะ
ขอบคุณสำหรับการดูแลอย่างดีมากตลอดการเดินทางค่ะ