" ในเมื่อเมืองกรุงมันวุ่นวาย ก็ขอไปใช้ชีวิตง่าย ๆ ที่แสนตอละกัน.... "

ถ้าใครกำลังเบื่อกับความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าฝนตก รถติด ไปทำงานสาย เจ้านายด่า อีกพันหมื่นเหตุผลบลา ๆ ๆ ที่ทำให้เบื่อและเซ็งกับเมืองกรุงของเรา จนอยากจะหนีไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ พักผ่อนหย่อนใจ และเอนกายไปกับความเรียบง่าย ความสงบ และความสวยงามของธรรมชาติแล้วละก็ คุณคิดถูกแล้วค่ะ ที่เปิดเข้ามาอ่านรีวิว "Slow ife Trip เที่ยวแบบชิค ๆ เที่ยวแบบคูล ๆ "พายเรือ งมหอย ลอยคอ" @แสนตอ โฮมสเตย์ลุงสอน กรุงเทพมหานคร" เพราะเราจะขอพาทุกคนไปสัมผัสกับความฟินเหนือคำบรรยายใด ๆ ที่อ่านจนจบแล้วยังต้องสงสัยว่า มีแบบนี้ในกรุงเทพด้วยหรอเนี่ย!!!!

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

การเดินทางง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เริ่มจากเรานั่งรถมาลงที่พระราม 2 จากนั้นก็ต่อรถสองแถวหัวแดงมายังหน้าโรงเรียนพิทยาลงกรณ์พิทยาคม แล้วโทรหาลุงสอนให้มารับเราบริเวณท่าเรือฝั่งตรงข้ามโรงเรียน จากนั้นก็ยืนสวย ๆ รอลุงสอน หรือจะนั่งสวย ๆ ตรงศาลาก็ได้นะคะ 5555 เพียงไม่กี่อึดใจ เรือหางยาวลำใหญ่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงของแก๊สหุงต้ม ก็แล่นมาทิศทางเราด้วยการบังคับจากลุงสอน แหม....หล่อเฟี้ยวมาแต่ไกลเลยนะคะ

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

เมื่อเราขึ้นเรือมาแล้ว ก็สูดรับอากาศเย็น ๆ ที่ปะทะเข้ากับใบหน้าและผิวกายให้รู้สึกฟินเล็ก ๆ สองข้างทางเริ่มจากเป็นบ้านของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถัดไปเรื่อย ๆ จะเป็นต้นโกงกางที่ขึ้นกันแน่นขนัด แจกความสดใสเมื่อเราหันไปมอง แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องลงมาสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับสวยงามตลอดทาง เราใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 10 นาที ก็ถึงบ้านลุงสอนแล้วค่ะ

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

หลังจากที่มาถึงบ้าน ป้าเอื้อน ภรรยาของลุงสอน ผู้ที่เป็นบุคคลที่จะมาดูแลเราตลอดทริปอีกหนึ่งคนก็ออกมาต้อนรับ และให้เราไปเก็บของยังห้องนอนของเราค่ะ ห้องนอนของเราเป็นห้องโล่ง ๆ มีทีวีจอนูนให้นึกถึงสมัยก่อน อ๊ะๆ!! แต่ใช่ว่ามีแล้วจะตั้งโชว์เฉย ๆ นะคะ เพราะทีวีเครื่องนี้ ยังสามารถใช้งานได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ คืนนี้เรายังต้องกางมุ้ง ปูเสื่อ และนอนพัดลมกันอีกด้วย เรียกได้ว่า ได้ใช้ชีวิตแบบชิว ๆ เรียบง่าย ธรรมชาติมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ห้องน้ำที่นี่มีทั้งหมด 3 ห้อง ถ้าใครมากันหลายคน ไม่ต้องกลัวว่าจะแย่งห้องน้ำกันเลย เพราะลุงสอนเตรียมน้ำเย็นชื่นใจไว้ในตุ่มให้เราอาบกันคลายร้อนได้อย่างสมใจอยากเลยค่ะ

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

หลังจากที่เก็บของเสร็จแล้ว เราก็เดินสำรวจบ้านของลุงสอน ที่นี่มีท่าเรืออยู่หน้าบ้าน ข้างหลังบ้านจะเป็นบ่อน้ำ สำหรับเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา แบบธรรมชาติ คือให้พวกเค้าหาอาหารทานเอง ไม่ต้องไปให้อาหารค่ะ อีกทั้งบ่อหลังบ้านนั้นยังสามารถลงไปว่ายน้ำ พายเรือ และงมหอยได้อีกด้วย ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ขอไปพายเรือ งมหอยเลยละกัน!!!

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

เราพายเรือคายัคมายังกลางบ่อ มือเอื้อมลงไปในน้ำราว ๆ ครึ่งศอก รูดไปตามดินเลนที่นิ่มละเอียด ก็สะดุดกับความแข็งของอะไรบางอย่าง ก่อนจะหยิบขึ้นมาได้เป็นหอยแครงตัวอ้วนใหญ่ ไว้สำหรับทำอาหารมื้อเย็นนี้ของเราค่ะ เมื่อเราจับหอยแครงมาใส่ในถังสีดำได้ประมาณหนึ่งแล้ว ก็นำขึ้นไปล้างคราบดินโคลนออก ก่อนจะส่งให้ป้าเอื้อนทำหอยแครงลวกให้เราทานค่ะ

ภาพถ่ายจาก IPhone 6 Plus โดย Monchai Jirayupong

หลังจากที่เราพายเรือไปในตอนบ่ายแล้ว ตอนเย็น ๆ เราก็ไปยกบันไดลิงมาหย่อนลงน้ำพิงไว้ที่ท่า เป็นบันไดสำหรับการออกมาเล่นน้ำป๋อมแป๋มที่บ่อหลังบ้านค่ะ ลุงสอนบอกว่าน้ำที่นี่คือน้ำทะเล ถึงว่า..ทำไมรสชาติมันไม่จืด เพราะอย่างนี้นี่เอง 555 สำหรับใครที่ส่วนสูงน้อย ๆ แบบเรา ขอบอกก่อนเลยว่าเท้าของเราจะแตะไม่ถึงพื้นนะคะ เราเลยต้องใส่เสื้อชูชีพ เพราะเราว่ายน้ำไม่เป็น

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

อีกกิจกรรมที่ขาดไม่ได้หลังจากมาที่นี่ คือ การปลูกต้นโกงกางค่ะ ต้นโกงกางที่เราปลูกคือโกงกางพันธุ์ใบใหญ่ เราจะใช้ฝักที่เป็นด้านสีเขียว ๆ ปักลงไปในดินเลนประมาณหนึ่ง แล้วปล่อยให้ปลายเมล็ดอีกด้านโผล่พ้นดินออกมา ซึ่งสถานที่ที่เราใช้ปลูกกันก็คือหน้าบ้านลุงสอนนั่นเอง!!! เราขอลุงปลูกไป 2 ต้น คือต้นที่มีเมล็ดสีน้ำตาล ๆ กับต้นที่ปลายสีเขียวธรรมดา

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

นอกจากนี้ การศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าชายเลน ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ลุงสอนจึงพาเราออกไปชมเส้นทางธรรมชาตินี้ใช้รุ่งเช้าของวันถัดไป เมื่อมาถึงเราพบว่าระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรมันร่มรื่นมาก ๆ มีเสียงนกร้องดังเป็นระยะ ๆ บนดินเลน มีปลาตีน ปูก้ามดาบ และสัตว์อื่น ๆ อีกหลายชนิด ที่ไม่คาดคิดเลยว่า เราจะสามารถชมธรรมชาติได้แบบนี้ได้ในกรุงเทพด้วย ปลายสุดขอบฟ้าจรสกับผืนทะเลให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อมาสัมผัส

ภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S8 โดย Stop me!!

ตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน เราได้ฝากท้องกับป้าเอื้อน เชฟรุ่นใหญ่ใจดี ที่พิถีพิถันในการทำอาหารมาให้เราได้อิ่มท้องกันทั้ง 3 มื้อ ต้องบอกเลยว่าอาหารแต่ละมื้อ คือยกทัพซีฟู๊ดทั้งกุ้ง หิย ปู ปลา ที่เราหาที่ไหนในราคานี้ไม่ได้อีกแล้ว ทั้งสด ทั้งอร่อย คุ้มค่าจริง ๆ ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว ป้าเอื้อนยังบอกอีกว่า ถ้าหมดแล้วมาเติมได้ไม่อั้น แต่แหม.... ป้าเอื้อนจ๋า แค่รอบแรกก็กินไม่หมดแล้วค่ะ ป้าให้หนูมาเยอะเหลือเกิน 555


สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน

1.ค่ารอสองแถวไป - กลับ ราคา 18 บาท

2.ค่าที่พักรวม + อาหาร 3 มื้อ ราคา 700 บาท

รวมเป็นเงิน 18 + 700 = 718 บาท


ใครที่ชอบความสงบ และธรรมชาติ อีกทั้งไม่อยากไปไหนไกล ต้องมาที่โฮมสเตย์ลุงสอนเลยค่ะ อยู่ใกล้แค่บางขุนเทียนนี้เอง แต่!! ต้องบอกก่อนเลยว่า ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์หายากมาก ดังนั้นถ้าใครเป็นสายโซเชียลละก็ อาจจะต้องทำใจสักนิดหนึ่งนะคะ แต่สำหรับเรา เราว่าการมาพักผ่อน 2 วัน 1 คืนที่นี่ เป็นอะไรที่คุ้มค่าจริง ๆ นะ อ้อ!! ลืมบอกไป ว่าลุงสอนรับนักท่องเที่ยวแค่วันละกรุ๊ปเท่านั้น ดังนั้นต้องรีบตัดสินใจจองเร็วหน่อยน๊าาา เพราะเต็มเร็วมาก กว่าเราจะได้เข้าพักก็จองล่วงหน้าเป็นเดือนเลย 555

Joojee'n Nature

 วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 00.29 น.

ความคิดเห็น