เชียงคานเป็นเมืองเล็กๆ สงบๆที่อยู่ริมแม่น้ำโขง เหมาะสมแก่การมาพักผ่อน พักสมอง ของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ถ้าหาเวลามาก็มาที่นี่เลย ที่ “เชียงคาน” แต่การที่จะมาเชียงคานนั้นสำหรับคนที่อยู่ภาคกลางอย่างกรุงเทพฯก็คงต้องใช้เวลาการเดินทางนานหน่อย มีรถส่วนตัวก็สะดวกหน่อย และสามารถแวะเที่ยวระหว่างทางได้ด้วย ถ้าอยากชิคๆก็คงต้องเป็นการนั่งรถทัวร์ หรือรถไฟมาถ้าเลือกเดินทางกลางคืนละมาถึงตอนเช้าก็คงดี ส่วนถ้าใครอยากรวดเร็วหน่อยก็คงต้องพึ่งสายการบินต่างๆที่มีโปรโมชั่นมากมายพร้อมส่งท่านถึงเชียงคานโดยสวัสดิภาพ



แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆจะไปเที่ยวไหนแต่ล่ะทีนั้นก็ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นวันหยุดที่ต้องลา งานที่ต้องเคลีย และที่ขาดไม่ได้เลยน่าจะเป็น เงินนั่นเอง การทำงานก็ต้องมีการพักผ่อนเพื่อให้เป็นกำไรชีวิต เรา เชื่อว่าการได้มาพักผ่อนนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีเลยแหละการได้ทิ้งเรื่องเครียดต่างๆวางไว้ก่อน ปล่อยตัวให้ได้พักผ่อนกับวันหยุดเสร็จกลับมาแล้วค่อยมาลุยต่อเอาทีหลังมันเหมือนเป็นพักได้พักสมอง พักร่างกายที่ดีเลยทีเดียว

ความคิดที่อยากไปเที่ยวโน้นนี่นั่นที่ต่างๆผุดมาในสมองอย่างต่อเนื่อง การอ่านรีวิวจากที่ต่างๆเพจที่เราติดตาม จากกระทู้รีวิวที่เที่ยวหลายๆที่ล้วนเป็นแรงบันดาลใจในการที่จะไปเที่ยวที่นั่นให้ได้



Let’s go Chaingkan เราอาศัยช่วงหยุดยาวของวันหยุดเดินทางไปเชียงคาน ไปครั้งนี้เราขับรถไปเองเลยกะไว้ว่าระหว่างการเดินทางไปที่เชียงคานจะแวะเที่ยวไปเรื่อยๆด้วยเพื่อให้ไม่เป็นการเสียเที่ยว แพลนของเราคือการออกจากกรุงเทพฯ ไปให้ไปถึงเขาค้อซึ่งเป็นทางผ่านในช่วงเช้าเพื่อไปแวะดูทะเลหมอกก่อน แต่ตอนแรกคิดว่าจะขึ้นไปบนภูทับเบิก อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า เลยเอาแค่เขาค้อล่ะกัน และก็เป็นไปตามแผนและเวลาอันดี เราออกจากรุงเทพฯ ประมาณตี 2 ไปถึงเขาค้อก็เกือบเช้าพอดี เราแวะไปที่จุดชมวิว และก็ขึ้นไปอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ อากาศตอนเช้าดีมากเลย แต่เสียดายวันนี้ไม่มีหมอกเลย TT



เราใช้เวลาอยู่ที่นี่แวะไปเรื่อยๆก็ได้เวลาเดินทางที่เราต้องเดินทางไปเชียงคานแล้ววว เดี๋ยวแพลนที่ว่าไปหาอะไรอร่อยๆกินก่อนแถวนั้นจะไม่ทัน เราออกจากเพชรบูรณ์ก็เกือบ 9 โมงแต่ก่อนที่จะขับรถยาวๆขอ แวะกินขนมจีน 7 สีเป็นที่ขึ้นชื่อเมืองเพชรบูรณ์ก่อนล่ะกัน ;)



ขับรถมาเรื่อยๆช่วงนั้นเป็นช่วงที่เค้ากำลังปรับปรุงถนนขยายถนนพอดีเลยใช้เวลานานหน่อยกว่าจะซิกแซ็กหลบซ้ายขวาและแล้วก็เวลาเที่ยงพอดี เย้ ถึงแล้ว “เชียงคาน” เมืองเล็กๆที่ใฝ่ฝันมานานว่าครั้งนึงต้องมาให้ได้



พอถึงเราก็ขับรถไล่ๆดูตั้งแต่ซอยแรกหาที่พัก แต่ที่จริงเค้าก็บอกว่าว่าที่พักนั้นอยู่ซอยไหน แต่ด้วยความที่อยากรู้ว่าที่พักแต่ล่ะที่ที่เสิทๆหามานั้นเป็นยังไง ไหนๆไปถึงที่แล้วก็ถือโอกาสเป็นการ เซอเวอ เลยจะได้ไม่เสียเที่ยว



ขอนอกเรื่องนิดนึงกว่าเราจะได้ที่พักที่นี่ก็ใช้เวลานานพอสมควร โทรไปหาที่พัก เกือบ 20 ที่ได้ก่อนไป เพราะตัดสินใจได้ก่อนจะไปแค่อาทิตเดียว ที่พักก็เต็มหมดแล้ว เราไปมาเมื่อเดือน ธค 57 ช่วงวันพ่อปีที่แล้ว นานมากก นี่ก็เกือบปี แต่ที่ทำรีวิวนี้เพราะอยากเก็บเป็น topic เล็กๆหรือไดรี่เล่าเรื่องราวการไปเที่ยวของแต่ล่ะที่ของตัวเองเก็บไว้ มันจะเป็นการีวิวก็ไม่เชิงถือเป็นการเล่าเรื่องล่ะกันเนอะ และด้วยการที่ไปเที่ยวช่วงเทศกาล ก็เป็นธรรมดาที่ที่พักจะหายากและเต็มเร็ว เพราะใครๆก็อาศัยช่วงนี้นี่แหละในการไปเที่ยวที่ต่างๆ จะได้มีวันเที่ยวเยอะๆ



เราได้ที่พักสุขนที ที่นี่มีห้องชั้นบน ล่างจะมีทั้งฝั่งติดแม่น้ำโขง ติดแม่น้ำคือมีระเบียงวิวสามรถชมแม่น้ำโขงได้ เราโชคดีที่ห้องว่างพอดีได้ชั้นล่าง สามารถเชคอินได้บ่ายโมง แต่เวลาที่เราไปถึงก็เที่ยงแล้ว พี่เค้าก็กำลังเคลียห้องอยู่เลยเอาของไปฝากพี่เค้าไว้ก่อนระหว่างรอเค้าเคลียห้องก็ไปหาเดินเล่นหาของกินก่อนแต่ช่วงนั้นร้านยังไม่ค่อยเปิดมากเท่าไหร่ เดินไปเรื่อยๆก็ไปเจอเจอร้านสังขยาคุณแม่เป็นร้านที่ต้องซื้อกลับมากินเพราะที่ร้านจะไม่มีโต๊ะให้นั่งกินที่ร้าน แต่ขอบอกเลยว่าร้านนี้ขึ้นชื่อในเชียงคานเลยแหละ ที่นี่พี่เค้าจะทำขนมปังสดๆใหม่ๆทุกวัน สังขยาหอมชวนลิ้มลองมาก



ถึงเวลาเข้าที่พักแล้ววว....

ห้องพักน่าพักมาก เหมาะแก่การมาพักผ่อน ด้านหลังมีระเบียงชมวิวแม่น้ำโขง ห้องน้ำในตัว สะอาด พี่เจ้าของก็ใจดีสอบถามแนะนำหมดทุกอย่างที่เราเข้าพักก็จะเป็นราคาพร้อมอาหารเช้า พี่เค้าจะมีคูปองให้เราไว้ไปกิน ส่วนร้านที่เค้าดีลกันไว้ก็จะบอกว่าคูปองนี้สามารถใช้ร้านไหนได้บ้างส่วนตอนเช้าที่พักเค้าก็จะมีขนมปังปิ้ง โอวันติน กาแฟ ปาท๋องโก๋วางไว้ให้เราทำกินได้ที่ตรงครัวของที่พัก



ระเบียงที่ห้องชั้นล่าง



เราก็นอนเล่นรอเวลาตอนเย็นให้ร้านเปิดเยอะๆแล้วออกไปหาอะไรทาน ที่เล็งไว้ร้านนึงคือ ร้านอาหาร เฮือนหลวงพระบาง ร้านนี้เป็นร้านอาหารพื้นเมืองภาคเหนือแท้ๆ ต้นตำหรับสูตรดั้งเดิม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ภายในร้านตกแต่งแบบล้านนา สวยงามเรียบง่าย เมนูอาหารมีให้เลือกรับประทานมากมาย เราไปถึงร้านช่วง 5-6 โมงคนก็เริ่มเยอะแล้วที่ร้านนี้มี 2 ชั้น อยู่ฝั่งติดแม่น้ำโขง กินข้าวไปมองวิวไป บรรยากาศดี๊ดี เมนูอาหารที่ร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่ใช้ของในท้องถิ่นทำ ไหนๆมาถึงถิ่นนี้แล้วก็จัดเมนูท้องถิ่นสิคร๊าบบ



เราไปถึงเชียงคานวันที่ 4 ก่อนวันพ่อ 1 วันคนเลยยังไม่เยอะมาก แต่ที่นี่ตามร้านต่างๆเค้าก็มีให้จุดเทียนถวายพระพรกันด้วย

วันนี้เดินเล่นที่ถนนคนเดินเชียงคานชิวมาก คนไม่เยอะมากตกเย็นร้านค้าต่างๆก็เริ่มทยอยเปิด มีของมาตั้งขายมากมาย อากาศที่ไปถึงก็เย็นกำลังดี เรากินข้าวเสร็จก็ออกมาเดินเล่นหาซื้อของฝาก ซื้อของกินเล่น เดินไปเดินมาก็มาสะดุดตาที่ร้านกาแฟร้านนึง โดยส่วนตัวเราชอบร้านนี้ตกแต่งร้านได้สวยดี ชื่อร้าน สองผัวเมียเกสเฮ้าส์ ร้านนี้เป็นร้านไม่ได้ขายกาแฟอย่างเดียวขายน้ำต่างๆ ไข่กระทะ และที่นี่ก็ยังมีห้องพักสวยๆด้วย บรรยากาศในร้าน ห้องน้ำ ห้องพัก สวยสะอาดถูกใจมาก แต่ก่อนหน้านี้เราก็โทรถามที่นี่แล้ว แต่ที่พักเต็ม แต่ไม่เป็นไรไม่ได้พัก ก็ได้มานั่งเล่นก็ยังดี



เดินเล่น นั่งเล่นสักพักหนังท้องตึงหนังตาหย่อน เริ่มง่วงก็กลับเข้าที่พัก แต่ที่นี่สำหรับเราพอเริ่มสัก 2-3 ทุ่มไม่ใช่เทศกาลร้านค้าต่างๆก็เริ่มทยอยปิดบ้างแล้ว บางกลุ่มบางคนมาเป็นครอบครัวพอทานข้าวเย็นเดินเล่นเสร็จก็กลับเข้าที่พักกัน คือมาแล้วได้มาพักผ่อนจริงๆ

เช้าวันต่อมา...


ตื่นๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดัง เอ้ยไม่ใช่สิ เสียงโทรศัพท์ดัง พี่เจ้าของบ้านนั่นเอง พี่เค้าดี๊ดี เพราะว่าเช้านี้เราบอกพี่เค้าว่าตอนเช้าจะมาตักบาตรข้าวเหนียว ใครมาถึงเชียงคานล่ะไม่ได้ตักบาตรข้าวเหนียว ถือว่ามาไม่ถึงก็เป็นได้ ตอนเช้าๆในซอยถนนคนเดินตามหน้าบ้านพักต่างๆเค้าก็มีของมาเตรียมรอตักบาตรกัน ใครอยากหุงข้าวเหนียวมาจากบ้านกันเองก็ได้นะ ถ้าสะดวกหน่อยก็จะมีพี่ๆเค้าทำอาหารมาขายเป็นชุดๆ ข้าวเหนียวใส่กระติ๊บมาพร้อม หรือเราจะซื้อขนมเพิ่มหรือกับข้าวเพิ่มก็จะมีป้าเดินมาขายกัน หรือบางที่พักก็จะมีไว้ให้เราก็ซื้อได้แบบว่ามีบริการทุกอย่าง



พอใส่บาตรเสร็จก็ตั้งใจไว้ว่าจะขึ้นไปดูทะเลหมอกที่ภูทอกต่อเลย

ที่ภูทอกกับถนนคนเดินห่างกันไม่ไกลมากขับรถออกมานิดเดียวก็ถึงแล้ว แต่บนภูทอกนั้นเค้าจะไม่ให้เราขับรถขึ้นไปเอง ด้านล่างจะมีรถคอยให้บริการการอยู่ คนขับก็เป็นคนท้องถิ่นแถวนั้น พอเราไปถึงก็ไปซื้อบัตรคิวก่อนเลย ได้บัตรคิวแล้วก็ขึ้นรถได้เลย รถจะมีขึ้นลงตลอดเวลา พอเราขึ้นไปถึงแล้วจะลงมาตอนไหนก็สามารถขึ้นรถคันไหนลงมาก้ได้

หมอกกจ๋า อยู่ไหน ฮืออ เอาอีกแล้วมาไม่เจอหมอกอีกแล้วว เห็นแค่ลางๆ ทริปนี้กะจะมาเก็บภาพบรรยากาศหมอก แวะตั้งแต่เขาค้อยันเชียงคานไม่เจอหมอกเลย หรือช่วงที่เราไปอากาศมันแห้งๆ เย็นๆหมอกเลยไม่หนา แต่ก็ไม่เป็นไรดูวิวสวยๆเห็นวิวน้ำโขงไกลลิบตาแทนก็ได้ แต่อากาศตอนเช้าก็เย็นๆ

อาหารเช้า



ใครอยากปั่นจักรยานเล่นริมโขงบางที่พักก็มีจักรยานให้เราไว้ปั่นด้วย


คราวนี้แผนเดิมคือโดยส่วนตัวเราไปเที่ยวไหนถ้าได้ไป 3 วัน 2 คืนแล้วเราชอบหาที่พักอีกคืออีกที่นึง จริงๆมันก็เหนื่อยนะที่ต้องย้ายที่พัก เชคอิน เชคเอ้าท์ แต่ก็อยากรู้นี่หน่าว่าอีกที่เป็นไง ไหนๆก็ไปแล้วจะได้ไม่เสียดายเท่าไหร่ว่าไม่ได้พักที่นี่ แต่เอาจริงถ้าจะพักหลายๆที่ให้ครบก็คงไม่ไหวแต่เลือกเอาที่เด็ดๆและว่างมาเอาล่ะกัน

อีกที่ เราพักที่ฮิมโขงนาวา ที่นี่ไม่ได้อยู่ในถนนคนเดินแต่ไกลออกมานิดนึงทางที่จะมาภูทอกได้ ขับรถออกนิดเดียวก็ถึง ที่ฮิมโขงนี้จะเป็นบ้านพักหลังเล็กๆเป็นหลังๆมีหลายราคา แต่ติดริมแม่น้ำโขงเหมือนกัน เราวันนี้ตอนเย็นเราก็ออกไปเดินถนนคนเดินอีกเหมือนเดิม แต่วันนี้คนเยอะมากกว่าเมื่อวานมาก ดีนะที่มาก่อนเลยได้ถ่ายรูปตามร้านต่างๆได้ง่ายหน่อยแบบไม่มีใครมาแย่งซีน ฮ่าๆ



เช้าวันต่อมาวันนี้รีบๆๆๆตื่น สูดอากาศตอนเช้า

หมอกริมโขง



สงสัยอากาศดีจริงๆ



วันนี้ต้องเห็นทะเลหมอกให้ได้ สุดท้ายยก็เหมือนเดิม หมอกหายยยไปไหน วันนี้ก็เช่นกันคนต่อแถวซื้อตั๋วขึ้นภูทอกยาวมากผิดกับเมื่อวานที่มาถึงซื้อแล้วได้ขึ้นรถเลย ฮือออ ทริปชมทะเลหมอกที่วาดฝันเอาไว้หมดกัน เวลาก็หมด go go กลับไปเก็บของล่ะ let go BKK TT



แวะส่งโปสการ์ดหาตัวเอง



บ๊าบบายย "เชียงคาน"



** กระทู้นี้อาจเป็นรีวิวที่ไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ในเรื่องที่พัก ที่เที่ยว ต้องขออภัยด้วยนะค๊าา

t.aroundtogether

 วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.13 น.

ความคิดเห็น