:: โดยส่วนตัวแล้ว ไม่เคยอยากมาที่นี่เลย เพราะดูแล้วไม่มีอะไร มีแค่ดอกไม้ ซึ่งเราไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น แต่เพราะพี่สาวสุดที่รัก บินมาจากจีน เพื่อกลับมาเยี่ยมน้องๆ และ Gangster (ทีมของเพจเรา ที่เราใช้เรียกเพื่อนสนิท) ที่น่ารักอย่างเราๆ ก็เลยจัดทริปให้แกไป "ภูสอยดาว" ทุกคนยังไม่เคยไปและพร้อมที่จะไปเจอโลกใบใหม่ที่ชื่อว่า " ภู ส อ ย ด า ว "เมื่อทุกอย่างถูกวางแผนไว้เรียบร้อย ทริปแบ๊งค์พันมีทอนก็เริ่มขึ้น...



:: DO NOT CLICK SPOIL BELOW HERE IF YOU ARE NOT INTERESTED IN US ::
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Youtube : https://goo.gl/rVqoVe
Fan Page : https://goo.gl/kDE9eh
Facebook : https://goo.gl/S42XZq
Instagram : https://goo.gl/60tM0B
Twitter : https://goo.gl/wx2I34
Website : http://www.palapilii-thailand.com/

[ CONTENT ]



:: I AM WALKING


http://pantip.com/topic/34249426/comment2


:: HELLO NEW AREA


http://pantip.com/topic/34249426/comment3


:: HERE WE GO


http://pantip.com/topic/34249426/comment5


:: SURVIVOR


http://pantip.com/topic/34249426/comment6


:: MORNING HUG


http://pantip.com/topic/34249426/comment7


:: DON"T WANT TO BE BACK AGAIN


http://pantip.com/topic/34249426/comment8

[ I AM WALKING ]



:: การเดินทางจาก กทม. เพื่อที่จะไป Trekking ภูสอยดาวนั้น มักจะมีวิธีบอกอยู่ใน Pantip เยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ผมจะมารีวิวซ้ำซ้อนอีกทำไม คำถามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ แต่งรูปทั้งหมดจนเสร็จ ผมรู้สึกเหนื่อย และคิดว่าคงไม่รีวิวแล้ว ขี้เกียจมากๆ ปิดหน้าจอคอม แล้วถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ โทรศัพท์คุยกับแม่เสร็จเรียบร้อย ก็ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำราวๆ 5 นาที ทำใจให้สบาย ผ่อนคลายๆ ให้มากๆ เพื่อเตรียมตัวนอนแบบไม่ละเมอเหมือนหลายคืนที่ผ่านมา...



:: เ_ี้ยยยย เค้ายังไม่นอนหว่ะไม...



:: พี่สาวน่าตาน่ารักคล้ายว่าจะหลับตาอยู่ตลอดเวลา คนที่ผมเพิ่งรู้จักไม่กี่อาทิตย์กำลังมีเรื่องทุกข์ใจ และออกไประบายความเครียดกับทีมเกี่ยวกับรายได้ที่เธออาจถูกเชิด ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษหรืออยากได้หน้า เลยทักพี่แกไปว่า "เด่วผมปั่นรีวิวรอพี่เอง" เชดดดด... หล่อสัส ช่วงนี้คงเป็นช่วงเก็บแต้มสินะ ๕๕๕ แต่เอาเหอะ ก็เป็นห่วงจริงๆ นั่นแหละ....



:: ตัดมาที่การเดินทางของเรา ผมจะไม่เหลามาก แต่จะสับแม่มให้เป็นชิ้นๆ มีแต่เนื้อ ไม่มีน้ำ การเดินทางจาก กทม. เพื่อไป Trekking ภูสอยดาว ส่วนใหญ่ จะเดินทางประมาณนี้คับ



- รถทัวร์ กทม. - พิษณุโลก ป.1 ราคา 270 บาท ขึ้นรอบ 4 ทุ่มครึ่งครับ แล้วจะมาถึงพิษณุโลกตอนประมาณ ตีสามกว่าๆ

- จากนั้นให้รอประมาณ ตี 5 ครับ ช่องตั๋วรถประจำทางไปชาติตระการจะเปิดจำหน่าย ให้รีบจองตั๋ว เพราะจะเต็มเร็วมาก ค่ารถประจำทางจาก บขส.พิษณุโลก ไปชาติตระการคนละ 90 บาท (คือตั๋วไม่มีเลขที่นั่งนะ ใครไปก่อนได้ก่อน อย่างผมไปช้า เลยต้องนั่งตรงทางเดินหน้าประตูท้ายเหมือนในรูปาข้างบนเลย ฮาๆๆๆ ขำหว่ะ แล้วคือ นั่งนานกว่า 2 - 3 ชั่วโมงนะครับ)

- หลังจากนั้นก็เหมารถกระบะครับ ไป-กลับ ภูสอยดาว ชาติตระการครับ ราคาอยู่ที่ 2,000 บาท แต่ต้องรีบลงมาจากภูก่อนเที่ยงนะ

- ขากลับ พอมาถึง บขส.พิษณุโลก ก็ซื้อตั๋วขากลับ ของพิษณุโลกยานยนตร์ ราคา 270 บาท รอบ 1 ทุ่ม ถึง กทม. เที่ยงคืนครับ



:: อธิบายสั้นๆ แบบนี้ พอจะเข้าใจมั้ยนะ ยังไงถ้าไม่เข้าใจให้ย้อนกลับไปอ่านอีกรอบอย่างมีสมาธินะ เราว่าเราเขียนโอเคแล้ว ๕๕๕



:: จาก กทม. มาพิษณุโลก ใช้เวลาราวๆ 5 ชั่วโมง


:: จาก พิษณุโลกไปชาติตระการใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง

:: เมื่อเรามาถึงชาติตระการตามเวลาที่ผมแนะนำไว้ข้างบน ก็ตีบหารถเหมาเลยครับ แล้วบอกพี่เค้าว่าแวะตลาดก่อนขึ้นไปภูสอยดาว บนภูสอยดาว ไม่มีกับข้าวขายเหมือนภูกระดึง (พูดเหมือนเคยไป) เออน่า เอาเป็นว่า พวกเมิงต้องทำมาหาแด๊กกันข้างบนเอง ลิสต์อาหารว่าจะทำไรกินให้ให้สัมพันธ์และเหมาะสมกับจำนวนคนครับ เมื่อถึงตลาดก็แยกกันไปซื้อ เพื่อจะได้ทำเวลา



:: พวกเราไปกัน 14 คนครับ คุยกันว่าอยากปิ้งเนื้อกินข้างบนแกล้มเหล้า และก็หาอะไรง่ายๆ ไปกินกัน นั่นก็คือมาม่า เราซื้อกันลังหนึ่งเลย ไม่งก ไม่กลัวเหลือ เหลือก็ทิ้งไว้ให้กลุ่มถัดไปครับ ซ์้อกระเทียม น้ำปลา ไข่ เอออ ไข่เนี่ย เราคิดเฉลี่ยว่ากินกันคนละ 2 ฟอง เลยซื้อมา 20 ลูก วิธีเอาไข่สดขึ้นไปทำบนเขาไม่ยากเลยครับ ผมได้บทเรียนจากตอนไป "โมโกจู" ( http://pantip.com/topic/33151532 ) คือ ตอกไข่ใส่ขวดน้ำเลยครับ แล้วก็ปิดฝาให้สนิท แค่นี้ ไข่สดก็จะอยู้ได้ตลอดทริปแล้ว ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร หมดไป 1,000 บาทครับ มากัน 14 คน ตกคนละไม่ถึง 100 ครับ ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้ ก็ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งขึ้นไปเลย จะได้ไม่ลำบาก เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่ อช.ภูสอยดาวเลย ฮิ้ววววว!!!!

[ HELLO NEW AREA ]



:: จากตลาดบริเวณชาติตระการ ใช้เวลาถึง อช.ภูสอยดาวราวๆ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางก็จะเป็นหมอกสลับทุ่งนาและทิวเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ โค้งเยอะคล้ายๆ ทางไปอุ้มผาง แต่ดีกว่านิดหน่อย ฮาๆๆ พลัดกันออกไปรับลมข้างนอก เล่านิทาน และแกล้งกันเล่นๆ เพราะไม่เจอกันมานาน เออ ลืมบอก ใน 14 คนนี้ ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนทุกคน แต่รูจักเพราะเคยไปร่วมทริปกับเพจ PALAPILII Thailand



Mark : PALAPILII Thailand คือเพจที่พวกโลกสวยห้ามติดตาม เพราะแม่มดราม่าบ่อยมาก แอดมินแม่มเ_ี้ยยยย!!! 5555



:: พอมาถึง ก็ไปรายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ อุทยานครับ เพราะเราจองมาแล้ว ส่วนเบอร์เจ้าหน้าทีผมไม่มั่นใจเลย ยังไงหาดูใน Google นะครับ หรือไม่ก็รีวิวคนอื่น ๕๕๕ เด่วผมว่างแล้วจะมาแปะให้อีกที พอรายงานตัวเสร็จ ก็รีบเตรียมข้าวของ แล้วก็จ่ายดังรายการต่อไปนี้



- ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท

- ค่ากางเต็น 30 บาท หรือใครไม่ได้เอาเต็นท์มา ทางอุทยานมีให้จองครับ เป็น set คือมีเต้น หมอน และเบาะรองนอน set ละ 900 นอนได้ 4 คน แต่จริงๆ แล้ว 5 คนยังไหวครับ เพราะเต้นใหญ่มาก

- ลูกหาบเค้าคิด กก. ละ 35 บาทคับ แต่ทีมเราแบกกันเอง และให้เพื่อนที่แข็งแรงแบกให้ครับ

- สุดท้ายค่ามัดจำขยะคนละ 30 บาท กลับลงมาเอาขยะมาโชว์เพื่อแลกเงินคืนครับ : )



:: คือมันก็จะมีอิแต๋นมารับจากหน้า อช. ไปยังจุดเริ่มต้นนั่นแหละครับ แต่ช่วงที่เราไปคนเยอะชิดหาย เลยตัดสินใจเดินกันไป (ภาพด้านบน) แต่เห็นตีกๆ แว๊บๆ มั้ยครับ สุดท้ายก็ต้องโบกครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ คือตอนนี้ความเ_ี้ย มาอยู่ที่กลุ่มพวกเราครับ เรากลายเป็นคนแซงคิวไปแบบหน้าด้านๆ เลย อย่าว่ากันนะ จังหวะมันดีจริงๆ ๕๕๕

[ HERE WE GO ]



:: จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ "น้ำตกภูสอยดาว" ครับ ใช่ป่าววะ คือไม่มั่นใจ ไม่ได้สนใจเลย เพราะมันคือน้ำตกที่ไม่ค่อยจะเป็นน้ำตกเท่าไหร่ แต่ก็พอไหว เพราะเราจะได้ใช้งานมันตอนกลับนี่แหละ ๕๕๕ ช่วงแรกจะเป็นการวอร์มครับ เดินไปเอื่อยๆ ไม่ทันไร ลูกทีมผมก็ไม่ไหวซะแล้ว เลยแบกกระเป๋าให้เจ๊แกเลย เออ ขอเกริ่นก่อนว่า ผมเอากระเป๋าตัวเอง ยัดลงในกระเป๋าพี่ แล้วแบกกระเป๋าอีกใบเพิ่มขึ้นมา รวมทั้งหมดเป็น 3 ใบอยู่ในตัวของผม มีน้ำอีก 4 ลิตร มีหมูอีก 2 กิโล ฮาๆๆ ขำหวะ กุกลายเป็นลูกหาบโดยปริยายย...



:: หลังจากนั้น ผมก็แบกแบบนั้นตลอดทางเลยครับ คือภูสอยดาวมันจะมีหลายเนิน แต่เนินที่ทำให้ต้องตกใจ ก็จะเป็น "เนินส่งญาติ" ชื่แม่มบอกโคตรตรง อารมณ์ประมาณว่า กุมาส่งเมิงแล้วนะ เมิงจะไปตายที่ไหนก็ดูแลตัวเองด้วยอะไรประมาณนั้น ก็เอาเถอะ เนินนี้คือเนินแรก แต่ชันเ_ี้ยๆ เอาซะกุขาอ่อนเลย หลังจากนั้นก็ต่อด้วยทางขึ้นต่อเนื่องอย่างเนินป่ากอ ผมเดินไปเรื่อยๆ จนไปสุดที่เนินเสือโคร่ง ไปเจอทีมกำลังพักดื่มน้ำอยู่สองคน ตอนนั้นไม่ไหวแล้ว ปวดขามาก เพราะไม่ได้ออกกำลังกายมา เลยยื่นกระเป๋าอีกใบ (ใบที่สาม) ส่งผ่านไปในมือพี่แก แล้วบอกว่า "พี่... ช่วยที" ๕๕๕๕ แล้วผมก็เดินต่อไปจนไปถึงจุดๆ หนึ่งที่ต้องเงิบ หลังจากที่มองไปทาง 10.30 ตอนบน ก็ต้องตกใจและเปล่งเสียงออกมาในใจว่า อิสึส!!! อิห่านี้คงเป็น "เนินมรณะ" สินะ ผมไม่เอารูปให้ดูหรอก ว่ามันเป็นยังไง คือพวกเมิงต้องไปเงิบเหมือนกุเอง คือกุเดินมาไม่พักตลอดทางเลยนะ พอเจอเนินอิห่านี่ กุนั่งพักทำใจประมาณ 10 นาทีเลย ๕๕๕๕๕



:: เมื่อทำใจเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาขึ้นเนินมรณะกันซักที แต่คือกุโคตรโชคดี ฝนตก อิสึส!!! ๕๕๕๕ คือมันชันแล้วเศือกลื่นด้วยไง เออลืมบอก ผมใส่แตะเดินนะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยกเว้นทริปโหดๆ ถึงจะใส่สตัดดอย (สตัดดอยคือรองเท้าที่ลูกหาบใส่กัน ราคาคู่ละ 60 บาท) แต่ผมชอบนะเวลาฝนตก ตอนแรกหมดแรง พอฝนตกแม่มคึก วิ่งเลยทีนี่ รู้สึกสนุกและหยากไปให้ถึงจุดหมายโดยพลัน และในที่สุด ผมก็ไปถึง Base Camp ในเวลาสองชั่วโมงกว่าๆ หรือสองชั่วโมงครึ่ง เอาเป็นว่าไม่ถึงสามชั่วโมงแล้วกัน สวัสดี นี่สินะ ที่เค้าเรียกว่าภูสอยดาว หึหึ



[ SURVIVOR ]



:: เรารอจนฝนหยุดตก ระหว่างนั้นก็ไปเช่าเตาเช่าถ่านมาเตรียมทำกับข้าวให้เพื่อนคนที่มาทีหลังทานกันครับ คือตอนแรกก็เดินไปรับแหละ แต่ไม่มากันซักที เราทิ้งห่างมานานมากพอตัว (จริงๆ แล้ว การเดินป่าที่ถูกต้อง คนที่แข็งแรงที่สุดควรจะอยู่ปิดท้าย) ก็เลยคุยกับพี่ที่ขึ้นมาพร้อมๆ กันว่า เด่วเราทำอาหารรอพวกเค้าเลยแล้วกันเนอะ ตรงไปที่สวัสดีการ อช ด้านบน ไปเช่าตามรายการดังนี้



- เตาถ่าน ถ่าน เตาแก๊ส แก๊ส พัง ขัน ทั้งหมดนี้ 380 บาท



:: ข้างบน อช.รองน้ำฝนให้ดื่มให้ใช้ฟรีครับ ไม่ต้องซื้อ สบายโคตรๆ ลดคอสดไปได้อีกเยอะ เออ ลืมบอก ตอนที่อยู่ตลาด เราซื้อน้ำกันมาคนละ 2 ลิตรนะครับ ก็ตกคนละ 20 กว่าบาท คือบังคับเลยว่าอย่างต่ำต้อง 2 ลิตร ลิตรหนึ่งเอาไว้เดินป่า ลิตรหนึ่งเอาไว้ทำกับข้าว



:: เรามักจะทำอะไรที่ง่ายที่สุดก่อน นั่นก็คือ มาม่าครับ คนไม่เดินป่าปีนเขาไม่เข้าใจหรอก ว่ามาม่าแม่มอร่อยขนาดไหน แล้วโดยเฉพาะถ้าได้ยินเสียงไข่ทอดหรือกลิ่มของมันตอนอยู่บนเขานะเมิงเอ้ยยยยย น้ำลายไหลหลากกว่าไอ่กลิ่มมะนาวข้างล่างเขาอีกกุจะบอกให้ ๕๕๕ ระหว่างนั้นบางคนก็นอนพัก บางคนก็ทำอาหาร ไม่ก็ไปเข้าห้องน้ำ ข้างบนมีห้องน้ำนะครับ แต่ส่วนตัวผมดันมองขึ้นไปบนฟ้า โหหหหหห สวยงามจริงๆ



:: จากฟ้าที่มืดสนิท กลับมาปลอดโปร่งอย่างน่าตกใจ เอาหละ เรามาดูบรรยากาศข้างบนกัน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง : )



:: จุดเด่นของที่นี่คือลานสน กับต้นหงอนนาคครับ หงอนนาคช่วงที่เราไปเริ่มเหี่ยวและร่วงโรยตามการเวลา แต่ท้องฟ้าที่นั้น วันนั้น สวยจริงๆ นอกจากนี้ ข้างบนยังมีน้ำตกให้เราได้อาบให้ชื่นใจกันด้วยนะ แต่จริงๆ แล้ว การไม่อาบน้ำเวลาเดินป่า ถือเป็นเรื่องปกตินะ ๕๕๕ เอาหละ แต่คราวนี้ มีน้ำตก ไปล้างตัวกันหน่อยดีกว่า...



:: ทางไปน้ำตกค่อนข้างลื่นและชัน แต่มันน่าอัศจรรย์ตรงที่ว่า ทำไมไม่สวยเหมือนในรูปที่กุเห็นว๊าาาาา ๕๕๕ กุหละเบือพวกใช้ Photoshop กับ Lightroom เก่งๆ จริงๆ ทำซะน้ำตกที่นี่ยังกะสวรรค์ พอกุมาเห็นจริงๆ เอาขาหย่อนแบบเดียว แล้วเดินขึ้นเลย ระหว่างที่เดินขึ้นพระอาทิตย์กำลังจะตกดินพอดี เลยรีบวิ่งไปอย่างเร็ว และภาพที่เห็นตรงหน้า เป็นซิลลูเอทที่งดงามสุดๆ



:: เย็นวันนั้นมันช่างละมุนละไมไปด้วยหลอดไฟเบาบางที่ส่องผ่านมาจากดวงอาทิตย์ โหหหห.... มันงดงามจริงๆ ครับเพื่อนๆ แสงมันอ่อนพอดี ไปแรงไปจนทำให้ถ่ายรูปไม่สวย คือไม่ว่าจะถ่ายตรงไหนก็สวยไปหมด ภาพจากนี้ทุกภาพ จาก iphone ของผม จนตะวันตกดิน...




ร า ต รี ส วั ส ดิ์




[ MORNING HUG ]



:: สวัสดีตอนเช้า ตอนสไตล์หมอกกระจายของภูสอยดาว วิวนี้ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ของที่นี่ ใครเคยมาคงรู้ดี ช่วงเช้านักท่องเที่ยวมักจะใช้เวลาเดินวนรอบพื้นที่ด้านบน มันจะเป็นลานสนที่กว้างใหญ่ แล้วมีอะไรให้ศึกษาดูเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ตรงนี้ผมไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ แต่ก็เดินไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ เ ดิ น ไ ป เ รื่ อ ย ๆ ๆ ๆ ๆ



:: คือระหว่างทางมันก็จะมีแต่หมอกกกกกกกกกกกก และดอกไม้แบบนี้หละครับ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะเจอแต่วิวแบบนี้ เลยถือโอกาศ ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆ เลยแล้วกัน เพราะคิดว่าคงไม่มาที่นี่อีก ๕๕๕



:: และจะมาบรรจบตรงสัญลักษณ์ที่ทุกคนต้องมาถ่าย... นั่นก็คือ " เสา กม. ไทย - ลาว " ครับ



[ DON"T WANT TO BE BACK AGAIN ]



:: เราควรออกจากที่นี่ก่อน 9 โมงเช้าครับ ช่วงที่เราไปฝนตกทุกวันครับ แล้วตอน 8 โมงเช้า ฝนก็ตกอยู่ครับ แต่ก็ตัดสินใจเดินลุยมันไปเลย ไม่งั้นเด่วจะตกรถ ระหว่างทางก็ถ่ายเก็บบรรยากาศหมอกจางๆ ไปเรื่อยๆ ก็น่าใจหายอยู่นะ มาอยู่นี่ได้ไม่ถึงวันเลย ถ้านับเป็นชั่วโมงคือไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็ต้องลงแล้ว ยังไม่รู้จักกันดีเท่าไหร่ แต่คิดว่า กุคงไม่กลับมาแล้วหละ ฮาๆๆ เหนื่อยนะ บอกเลย



:: ก่อนกลับ เราเลยถ่ายภาพที่ระลึกกันครับ... เอาหละ 1 2 3 แจ๊ะ!!!



:: เออ ผมจะบอกให้นะ ว่าจุดที่ชมวิวที่สวยที่สุดของภูสอยดาว ไม่ใช่จุดชมวิว แต่เป็นระหว่างทางของ "เนินมรณะ" ต่างหาก ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ ไว้เจอกันทริปหน้านะ ทริปน่าไปล่องเรือภูเก็ต และเด่วจะเอาข้อมูลดีๆ มาฝากนะครับ : )



:: เ_ี้ยยยยย... ติดต่อพี่เค้าไม่ได้หว่ะ....

Mi Palapilii

 วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.34 น.

ความคิดเห็น