Readme.me - เที่ยวเมืองจันทน์ :: Review โรงแรมเจ้าหลาวทอแสง บีช จันทบุรี Chaolao Tosang Beach Hotel Chanthaburi

เที่ยวเมืองจันทน์ :: Review โรงแรมเจ้าหลาวทอแสง บีช จันทบุรี Chaolao Tosang Beach Hotel Chanthaburi

อย่างที่ได้เล่าไปแล้วใน โพสต์ ซีทรู (Sea Thru Restaurant) ห้องอาหารหรู ริมหาด ประกาศเมนูของดีเมืองจันทน์ @ โรงแรม เจ้าหลาวทอแสงบีช ว่าขับรถมาจากตัวเมืองจันทบุรี แล้วก็หลงมาเรื่อยเปื่อย ขึ้นเขาลงห้วย ผ่าดงยางมะตอยมาเรื่อย กว่าจะมาถึง โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช ก็ปาไปเย็นย่ำ ที่ลานจอดรถหน้าโรงแรมวันนี้รถค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ยากสำหรับการหาที่จอด เพราะเราจอดมันหน้าล๊อบบี้ กันไปเลย (หมายถึงที่จอดรถหน้าล๊อบบี้อ่ะนะ)

เดินเข้าในอาคาร พนักงานต้อนรับหน้าตาสดใส นั่งยิ้มรอรับลูกค้าอยู่แล้ว เมื่อแจ้งชื่อโชว์บัตร (ประชาชน) เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็มาอำนวยความสะดวกช่วยขนของขึ้นรถเข็นไปส่งให้ที่ห้องเรียบร้อย ห้องพักเขาเราเป็นห้องพัก ริมชายหาด (Beach Front) หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ มีระเบียง หันหน้าเข้าหาทะเล กลางวันคงสวยมาก แต่ตอนนี้ใกล้ย่ำค่ำแล้ว

(ซ้ายบน) ที่จอดรถของโรงแรม และอาคารที่พัก (ขวาบน) ล๊อบบี้โรงแรมจัดไว้รับแขกได้อย่างน่านั่งมาก
(ซ้ายล่าง) ห้องเล่นเกมส์ไว้บริการผู้เข้าพัก (ขวาล่าง) ห้องสันทนาการต่าง ๆ กิ๊ฟช๊อป

เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้ว เราจึงรีบออกมาที่ชายหาด เพราะพระอาทิตย์กำลังจะตก ชายหาดหน้าโรงแรมมีพื้นที่กว้างมาก กว้างแบบที่ผู้เข้าพักสามารถเล่นฟุตบอลกันได้ถึงสองสนาม วันนี้คนเข้าพักค่อนข้างมาก เรียกว่า ที่พักเต็มกันเลยทีเดียว

พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน

มาเล่นโยคะรับแสงอาทิตย์อัสดง

ชายหาดกว้างจนสามารถเล่นฟุตบอลกันได้ถึงสองสนาม

หลังจากเก็บภาพพระอาทิตย์อัสดงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็กลับเข้าห้องพัก เพื่อที่จะอาบน้ำอาบท่า เพราะเหนื่อยกันมาทั้งวัน ทางเดินกลับห้องเรานั้น ต้องผ่านห้องพักประเภทต่าง ๆ ที่มีทั้ง บ้านเดี่ยวห้องคู่ ห้องแถว อาคารที่พัก เรียกได้ว่าโรงแรมนี้มีที่พักหลากหลายให้เลือกจริง ๆ

ที่พักแบบสองห้องคู่

ห้องพักของเราเป็นแบบห้องเดี่ยว

ภายในห้องเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ ที่นอนหมอนนุ่มมาก นุ่มจนแทบจะไม่อยากออกไปกินข้าว จะหลับเสียให้ได้ แต่ด้วยความที่ครัวของที่นี่ปิดตอนสี่ทุ่มครึ่ง แล้วเราก็ไม่แน่ใจในความทนหิวของเราว่าจะทนได้ถึงเช้าหรือไม่ เลยจำใจต้องลุกจากที่นอน ไปอาบน้ำเตรียมไปกินข้าว

ที่นอนใหญ่ และนุ่มมาก

ภายในห้องมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นวิวทะเลผ่านกระจกนี้ แต่ด้วยความที่มันก็ค่ำแล้ว เราเลยปิดม่าน และเตรียมตัวไปกินข้าวกัน

จะว่าไปภายในห้องก็มีมินิบาร์ที่มีบริการขนม ของขบเคี้ยว และเครื่องดื่มหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบไม่มีแอลกอฮอล์ หรือมีแอลกอฮอล์อยู่แล้วในห้อง คิดค่าบริการตามใบราคาที่วางแจ้งไว้ มีบริการกาแฟ และชาฟรีภายในห้อง แต่เราอยากกินอาหารที่เป็นอาหารมากกว่านี้ เลยตัดใจจากมินิบาร์ไปก่อน

ในตู้เสื้อผ้าขนาดกำลังดี ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีชุดเสื้อคลุมอาบน้ำให้ 2 ตัว เซฟ และร่มกันแดดกันฝนอีก 1 อัน พร้อมทั้งไดร์ทเป่าผมครบ รู้อย่างนี้ไม่หิ้วที่หนีบผมมาด้วยก็ดีหนักกระเป๋าเปล่า ๆ

ห้องน้ำของที่พักมีขนาดกว้างขวางมาก แบ่งส่วนแห้งกับส่วนเปียกออกจากกัน ถึงจะไม่ได้มีอะไรกั่น แต่ก็ห่างกันพอสมควร เรียกว่า ถ้าไม่ลีลานักส่วนแห้งก็ไม่น่าจะเปียกได้จากการอาบน้ำแบบธรรมดา แถมตรงบริเวณอ่างล้างหน้าด้านบน ยังมีซันลูฟอีกด้วย ปล่อยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในตอนกลางวัน ประหยัดพลังงานดีแท้ ข้าวของเครื่องใช้ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู ครีมนวด หมวกคลุมผม คัตตอนบัต มีพร้อม สบายละเรา

ที่ชอบที่สุด คือ กระเบื้องผนังห้องอาบน้ำ ลวดลายสวยหรู ดูแพง

อาบน้ำเสร็จก็มานอนดูทีวีรอเพื่อนร่วมห้องที่อาบเป็นคนถัดไป ระหว่างนี้ก็รื้อค้นไปด้วย กดทีวีจอแบน 32 นิ้วไป มือกับตาก็ค้นรอบห้อง ที่หัวเตียงมีสตูรเล็ก ๆ มีลิ้นชักสำหรับเก็บกระเป๋าเงิน หรือของมีค่าไว้ได้อย่างมิดชิด และที่สำคัญ "ปลั๊ก" เยอะมาก ไม่ต้องแย่งกันแล้วคืนนี้ ชาร์ตไฟกันให้เต็มที่

ที่ระเบียงจัดเตรียมเตียงชายหาดไว้นอนชมวิวนอกห้องไว้ 2 เตียง แต่ถ้าไม่อยากออกจากห้อง ก็แค่เปิดผ้าม่าน ตรงหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ มีแท่นไว้ให้เรานอนชมวิว นอนเล่น นอนกลิ้ง จะอะไรก็แล้วแต่ ได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้เราเอาไว้วางของก่อน ช่วงเช้าเห็นวิวแล้วค่อยว่ากัน

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราก็ออกไปกินข้าวเย็นกันซึ่งวันนี้คงไ่ม่ขับรถแล้ว กินกันที่นี่หละ เสี่ยงดวงเอา เพราะจริง ๆ แล้วส่วนใหญ่ห้องอาหารโรงแรมอาหารมักจะมีราคาแพง และที่สำคัญไม่อร่อย แต่ที่นี่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย เรียกว่า พลิกความคาดหมายเลยก็ว่าได้ ลองไปชมดูค่ะ ซีทรู (Sea Thru Restaurant) ห้องอาหารหรู ริมหาด ประกาศเมนูของดีเมืองจันทน์ @ โรงแรม เจ้าหลาวทอแสงบีช หลังจากอิ่มจากอาหารแบบจัดเต็ม ก็ถึงเวลาพักผ่อนจริง ๆ แล้ว

เช้าวันนี้ของหาดเจ้าหลาว ดูจะเป็นเช้าที่ไม่แจ่มใสนัก เพราะเมฆฝนก่อตัวมารอตั้งแต่เมื่อคืน บรรยากาศเลยขมุกขมัวซักหน่อย แต่กระนั้นก็ยังมีคนออกไปว่ายน้ำ วิ่ง เดินออกกำลังกายกันแต่เช้า ที่น่าชื่นใจ เราเห็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรม ลงมาทำความสะอาดหาด ซึ่งปกติเราไม่ค่อยได้เห็นโรงแรมที่อื่นมาทำความสะอาดหาดสาธารณะกันขนาดนี้ ถึงแม้นจะทำแต่เฉพาะบริเวณหน้าโรงแรมตัวเองก็เถอะ ถือว่าถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีมากระหว่างธรรมชาติและธุรกิจ

เจ้าหน้าที่โรงแรมลงมาทำความสะอาดหาดทราย

บรรยากาศชายหาดช่วงเช้า

โรงแรมนี้ยังมีบริการจัดของตักบาตรไว้ให้บริการผู้เข้าพัก โดยคิดค่าเครื่องถวายพระเพียงชุดละ 50 บาท ซึ่งเมื่อมองของให้ชุดแล้ว ก็ดูสมราคาดี เพราะผู้เข้าพักไม่ต้องไปจัดเตรียมมาจากที่อื่น ซื้อที่นี่ทำบุญที่นี่ได้เลย เพราะบริเวณหน้าหาดแห่งนี้ จะมีพระภิกษุเดินมาบิณฑบาตรทุกเช้า

ตักบาตรพระ และรับพร

หลังจากอิ่มบุญแล้ว ก็ถึงเวลาอิ่มท้อง คนจัดเวลาจัดเวลาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะพอดี พระมาตอน 6.30 น. ห้องอาหารก็เปิดรอพร้อมบริการ

บาร์น้ำ และเคาเตอร์อาหารชามเดียว วันนี้เป็นโจ๊ก เชฟรอปรุงพร้อมเสิร์ฟทุกเวลา

โต๊ะอาหารบริเวณด้านหน้าติดกับหาดทราย

ครัวร้อนให้บริการอาหารประเภทไข่ มีรายการอาหารเขียนไว้ชัดเจน พร้อมให้บริการ

เชฟใหญ่ ผู้ทำอาหารค่ำให้เรากินได้อย่างน่าประทับใจ ออกมายืนรับลูกค้าด้วยตนเอง

ช่วงเช้าที่คนเข้าพักยังไม่ค่อยจะลงมา บรรยากาศเงียบสงบ สบาย หอมกรุ่นอบอวลไปด้วยอาหารเช้า

เบเกอร์รี่ และสลัดต่าง ๆ

ผลไม้ตามฤดูกาล

เชฟและพนักงานต้อนรับยืนรอรับลูกค้าด้านหน้าห้องอาหาร

ส่วนของซุปร้อน วันนี้ให้บริการ ซุปหัวหอม แก้หวัดดีนักแล

อาหารประเภทต่าง ๆ หลากหลาย ทั้งไทยและเทศ

ไลน์อาหารจัดไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ น่ากิน

นั่งกินกันอยู่ไม่นานฝนที่ดูตั้งเค้ามาตั้งแต่เช้าตรูก็เทกระหน่ำลงมา ทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านนอก ต้องเข้ามานั่งด้านใน และด้วยแขกจำนวนมาก เลยทำให้นั่งกันจนเต็มห้องอาหาร แต่ถึงอย่างนั้น บริกรก็ยังดูแลได้อย่างทั่วถึง เดินสอบถามถึงความต้องการของแขกตามโต๊ะเลยทีเดียว

เช้านี้ของเรา

เนื่องจากเมื่อคืนค่อนข้างหนัก เช้านี้เราจึงเลือกที่จะกินสลัด ไข่ม้วน (สุก) ขนมปังกับแฮม และแพนเค็กอีกนิดหน่อย ที่กินแพนเค็กเพราะที่นี่ใช้น้ำผึ้งแท้ไม่ใช่น้ำเชื่อมเมเบิ้ลแบบหลาย ๆ โรงแรม

ชุดนี้ของเพื่อนร่วมห้อง น่ากินทีเดียว

โจ๊กของที่นี่ ดูใส ๆ เหมือนไม่อร่อย แต่พอกินเข้าไปแล้วอร่อยมาก หอมน้ำซุป เนื้อข้าวละเอียดดีคล่องคอ ส่วนแพนเค็กของเรา ถึงจะทำรอไว้ แต่พอได้เนยแท้ (ไม่ใช่มาการีน) กับน้ำผึ้งช่วยเสริมรส ความหอมของเนยและความหวานของน้ำผึ้งช่วยทำให้เจ้าแป้งนุ่มนิ่มนี่อร่อยเด็ดขาดเลยทีเดียว

มีแซนวิชหมูหยองน้ำพริกเผาให้บริการด้วย

สลัดที่ผักสดมาก กินกับซอสซีอิ้วญี่ปุ่น เชฟที่นี่ทำอาหารเด็ดขาดมากขอบอก

หลังจากอิ่มจากอาหารเช้า ฝนก็ซาเม็ดพอดี ได้เวลาเดินย่อยอาหารกันหน่อยแล้ว ห้องอาหารซีทรูที่เรากินอาหารกันนี่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำสีฟ้าสดใส น่าเล่น เพราะด้านล่างเป็นรูปโดราเอม่อนนี่หละ แต่แหมดันไม่ได้เอาชุดว่ายน้ำมา เสียดายจัง !!!

เด็กน้อยลงเล่นน้ำในความดูแลของผู้ปกครอง

บรรยากาศห้องอาหารหลังฝนพรำ

ห้องพักประเภทต่าง ๆ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทำความสะอาดโดยรอบ

ที่พักแบบหลังเดี่ยว สองห้องนอน สำหรับครอบครัว

ห้องพักแบบอาคารที่พัก

ห้องพักคู่แต่เป็นแบบห้องแฝด

เพิ่งสังเกตเห็นว่าหน้าห้องเรามีชิงช้าด้วย

เราเดินกลับมาที่ห้องพัก กะว่าจะนอนกลิ้งเกลือกอีกสักพัก ก็จะขับรถออกไปเที่ยว ที่เที่ยวใกล้ ๆ แถวนี้ ที่เราตั้งใจเดินทางมาก็คือ โครงการในพระราชดำริอ่าวคุ้งกระเบน ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หรือแม้นกระทั้ง สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง จุดชมวิวเน้นพระนางพญา ก็ยังใช้เวลาขับรถอีกไม่นาน

วันนี้เราคงต้องบอกลาโรงแรมเจ้าหลาวแสงทองบีชแห่งนี้ไปก่อน แต่สัญญาเลยว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาพักที่นี่อีก ไม่ใช่แต่เพียงห้องพักที่ติดใจ อาหารของที่นี่ก็ทำให้เราคิดถึงได้ไม่ยาก แต่คืนนี้เราจะย้ายที่นอนแล้ว เพราะเราต้องไปค้างคืนกันต่อที่ "หาดคุ้งวิมาน" ที่อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนักเช่นกัน