เมื่อเอ่ยชื่อจังหวัด Fukushima (福島県) ผมเชื่อว่าเป็นชื่อที่คนไทยคงคุ้นหูกันดีเนื่องจากข่าวภัยธรรมชาติสึนามิครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน(11 March 2011) อย่างไรก็ตามหลายปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ Fukushima ได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสวยงามมีชีวิตชีวาเหมือนเดิม และโชคดีที่แหล่งเที่ยวทางธรรมชาติส่วนใหญ่ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

สงกรานต์ปี 2017 ที่ผ่านมาผมแวะเข้าไปเที่ยวจังหวัดฟุคุชิม่ามาครับ และวันนี้ขอพาเพื่อนๆไปชมความงดงามและมีเสน่ห์ของ ซากุระพันธ์ย้อย กันครับ
#jirobkk #WeloveFukushima #jirobkksakura #Kitakata#Fukushima #枝垂れ桜 #日中線記念自転車歩行者道

เรามาทำความรู้จัก Kitakata Nicchu Line กันครับ
Kitakata Nicchu Line (คิตะคะตะ นิจจูไลน์) ในอดีตเป็นทางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างสถานี Kitakata (คิตะคะตะ) กับ สถานี Atsushio (อัทสึซิโอะ) เส้นทางนี้ถูกยกเลิกใช้ไปในปี 1984 และได้รับการปรับปรุงให้เป็นถนนสำหรับคนเดินและปั่นจักรยาน ความพิเศษของ Kitakata Nicchu Line คือซากุระสายพันธ์ย้อยมากกว่า 1,000 พันต้นถูกปลูกเรียงรายไปตามทางยาว 3 กิโลเมตร กลายเป็นแหล่งเที่ยวชม ซากุระพันธ์ย้อย (Shidare Sakura = 枝垂れ桜) ที่สวยงามมีชื่อเสียงมากที่สุดในภูมิภาค Tohoku ของญี่ปุ่น

ในประเทศญี่ปุ่นมีซากุระมากมายหลายร้อยสายพันธ์โดยแต่ละสายพันธ์มีความแตกต่างกันที่ สี ลักษณะกลีบดอกและช่วงเวลาการบาน สายพันธ์ที่มีมากและเป็นที่รู้จักนิยมปลูกทั่วไปในญี่ปุ่นคือสายพันธ์ Somei Yoshino (โซเมะอิ โยะชิโนะ) นอกจากนี้ซากุระพันธ์ย้อย หรือ Shidare Sakura (枝垂れ桜) เป็นอีกหนึ่งสายพันธ์ที่สวยงามไม่แพ้กัน ตัวดอกเป็นสีชมพูหวานบานอยู่บนกิ่งที่โน้มห้อยต่ำลงสู่พื้น ยามดอกบานเต็มต้นจะเหมือนสายม่านน้ำตกดูมีเสน่ห์และโรแมนติกเมื่อต้องสายลม



Kitakata Nicchu Line ในยามปกติไม่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากนักแต่กลับเนืองแน่นไปด้วยผู้คนเมื่อถึงฤดูซากุระบาน ช่วงที่สวยงามที่สุดอยู่ที่ประมาณกลางเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ซากุระพันธ์ย้อยบานอวดโฉมความงามพร้อมกันตลอดเส้นทางความยาว 3 กิโลเมตร



ภาพชุดนี้ผมถ่ายเมื่อวันที่ 28/4/2017 (หากต้องการชมความงามและได้บรรยากาศเหมือนในภาพชุดนี้แนะนำให้วางแผนมาเที่ยวช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน)


อย่างไรก็ตามการบานซากุระขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องอากาศเป็นตัวแปรหลัก ผมได้รวบรวมสถิติการบานซากุระที่ Kitakata Nicchu Line ย้อนหลัง 10 ปี เพื่อนๆสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการวางแผนเที่ยวในปีถัดไปได้เลยครับ (ข้อมูลอ้างอิงการบานซากุระจากเวปไซท์ www.kitakata-kanko.jp)

จากตารางข้างบนจะเห็นว่าภาพรวมซากุระเริ่มบานประมาณวันที่ 20 เมษายน บวกลบ(+ -) ตามสภาพอากาศของแต่ละปีซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ


การเดินทาง
ใช้ JR Pass นั่ง Tohoku Shinkansen จากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Koriyama ใช้เวลา 1.20 ช.ม. จากสถานี JR Koriyama นั่งรถไฟสาย JR banetsu west line ไปลงที่สถานี Aizu-Wakamatsu ก่อนเปลี่ยนสายรถไฟนั่งต่ออีกประมาณ 17 นาที ลงที่สถานี Kitakata

จากหน้าสถานี Kitakata ให้เลี้ยวซ้ายเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงปากทางเข้าเส้นทางถนนคนเดินและปั่นจักรยาน Nicchu Line ที่สองข้างทางเต็มไปด้วย ชิดาเระซากุระ ระยะทางยาว 3 กิโลเมตร

Check Point จุดชมซากุระที่ผมคิดว่าสวยงามไม่ควรพลาดมีอยู่ 4 จุดตามแผนที่ข้างบนครับ
1. แนวซากุระ กับ วิวภูเขา อยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 0.5 KM
2. หัวรถจักรไอน้ำ(SL) กับ ซากุระ อยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 1.5 KM
3. อุโมงค์ซากุระ อยู่ระหว่างกิโลเมตรที่ 2.0 - 2.5 KM
4. ดอกแดฟโฟดิล กับ ซากุระ อยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 2.7 KM

เมื่อเดินมาถึงประมาณกิโลเมตรที่ 0.5 KM จากปากทางเข้า จะเห็นแนว ซากุระสีชมพูกับวิวภูเขา ที่ด้านข้างเป็นทุ่งนาและบ้านเรือนของชาวบ้าน



ประมาณครึ่งทางกิโลเมตรที่ 1.5 KM เป็นจุดแสดงหัวรถจักรไอน้ำ(SL) เนื่องจากในอดีต Kitakata Nicchuu Line เป็นทางรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างสถานี Kitakata กับ สถานี Atsushio ก่อนที่เส้นทางนี้ถูกเลิกใช้ไปในปี 1984 และได้รับการปรับปรุงให้เป็นถนนคนเดินและปั่นจักรยาน บริเวณนี้เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก


อุโมงค์ซากุระระหว่างกิโลเมตร 2.0 - 2.5 KM ถือเป็นจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด บริเวณนี้มีซากุระหนาแน่นมากเหมือนสายม่านน้ำตกจนทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนเดินอยู่ภายใต้อุโมงค์ซากุระสีชมพูหวานที่มีเสน่ห์และโรแมนติก เป็นรูปที่ใช้โปรโมทการท่องเที่ยวของเมือง Kitakata

จุดไฮไลท์สุดท้ายคือแนวดอกแดฟโฟดิลสีเหลือง ตัดกับ ซากุระสีชมพู อยู่ประมาณกิโลเมตร 2.7 KM

ตลอดระยะทางเดิน 3 กิโลเมตรจะมีป้ายบอกเป็นระยะว่าเราเดินถึงไหนแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมซากุระได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

มีที่นั่งพัก ห้องน้ำ รวมทั้งร้านอาหารให้บริการระหว่างทาง

TIPS เคล็ดไม่ลับ
เนื่องจาก อุโมงค์ซากุระ ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดอยู่ที่ช่วงกิโลเมตรที่ 2.0 - 2.5 KM ประมาณปลายเส้นทางเดินและจุดนี้มีผู้คนหนาแน่น เมื่อเพื่อนๆเดินทางมาถึงสถานี Kitakata อยากแนะนำให้เพื่อนๆนั่งรถ Shuttle Bus มาลงที่ปลายเส้นทางเดินที่สถานี Kyumuramatsu Ekikita (สถานีหมายเลข 7 ในแผนที่ข้างบน) แล้วเดินชมซากุระย้อนกลับไปที่สถานี Kitakata

รถ Shuttle Bus จะวิ่งให้บริการวนเป็นวงกลมโดยวิ่งออกจากสถานี Kitakata (สถานีหมายเลข 1 ในแผนที่) มาจอดสถานีหมายเลข 5, 7, 10, 11, และวนกลับมาที่ 1 ตามลำดับที่แสดงไว้ในแผนที่ ในทางกลับกันถ้าเพื่อนๆเริ่มเดินจากสถานี Kitakata ขากลับสามารถนั่งรถ Shuttle Bus จากปลายทาง Nicchu Line โดยขึ้นรถบัสที่สถานี Kyumuramatsu Ekikita (สถานีหมายเลข 7 ในแผนที่) กลับมายังสถานี Kitakata ได้เช่นกัน ค่ารถบัส 200Yenต่อเที่ยว (สามารถสอบถามและรับแผนที่พร้อมตารางรถบัสรับส่งได้ที่ Tourist Information Center ภายในสถานี Kitakata)

ที่จริงแล้วมีเพื่อนๆหลายท่านได้กล่าวถึงความงดงามของชิดะเระซากุระที่ Kitakata Nicchu Line และได้ชักชวนให้เพื่อนๆให้ลองไปเที่ยวเดินชมความโรแมนติกและมีเสน่ห์ของเส้นทางนี้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งเที่ยวชม ซากุระพันธ์ย้อย ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภูมิภาค Tohoku ของญี่ปุ่น และเพื่อเป็นการยืนยันถึงความงามของเส้นทางนี้ผมหวังว่าเพื่อนๆจะใส่ Kitakata Nicchuu Line ไว้ในโปรแกรมการเดินทางมาเที่ยวจังหวัด Fukushima ในครั้งต่อไปหลังจากที่ได้ชมอลบั้มชุดนี้ครับ












jirobkk

 วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.27 น.

ความคิดเห็น