ไปเที่ยวกัน...ใกล้ๆนี่แหละ....


ด้วยพื้นเพบ้านพ่อเป็นคนสุพรรณฯ อำเภออู่ทอง แต่อะไรๆ ที่มันอยู่ใกล้มักไม่ค่อยเห็นค่า เอาแต่มุ่งหน้าจะไปพิชิตที่ท่องเที่ยวชิคๆ คูลๆ ทั้งที่ผ่านเมืองอู่ทอง ปีละหลายๆครั้ง.... ครั้งนี้เลยลองตั้งใจ เที่ยวอู่ทองซักครั้ง หาข้อมูลก่อนมาเที่ยว เมืองโบราณอู่ทองดูลึกลับดีแฮะ ลึกลับในเชิงข้อมูลการท่องเที่ยว แต่เอาเถอะ ตัดสินใจเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ก่อนละกัน ผ่านไปผ่านมาเป็นสิบๆปีไม่เคยจะเข้า


จ่ายค่าเข้า คนละ 30 บาท เที่ยวแบบVIPเลย ไม่มีใครเลย พนักงานบริการดี๊ดี แอร์เย็นเฉียบ ต่างจากอากาศภายนอกโดยสิ้นเชิง

ภายในห้องจำหน่ายตั๋ว มีนิทรรศการเล็กๆ จัดแสดงเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่๙ เมื่อทรงเสด็จมาเปิดพิพิธภัณฑ์ อู่ทอง


ดูรูปพลางตากแอร์เพลินๆ มาสะดุดกับแบบจำลอง เจดีย์ 2 ชิ้นนี้


เฮ้ยๆๆๆ น่าสนใจ มีแบบนี้แถวนี้ด้วยเรอะ เดี๋ยวชมพิพิธภัณฑ์เสร็จจะถามทางจากเจ้าหน้าที่อีกที

ที่พิพิธภัณฑ์ อู่ทองมีส่วนจัดแสดงหลายส่วนซึ่งประกอบด้วย

1.ห้องจัดแสดง "อู่ทองศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา"

2.ห้องจัดแสดง"สุวรรณภูมิการค้าโลกยุคโบราณ"

3.ห้องจัดแสดง"พัฒนาการทางประวัติศาสตร์บนผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิ"

4.ห้องจัดแสดง"อู่ทองศรีทวารวดี"

5.ห้องจัดแสดง"บรรพชนอู่ทอง"


"อู่ทองศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา"

ห้องๆนี้ จัดแสดงเรื่องราวของเมืองโบราณอู่ทองซึ่งเป็นเมืองสำคัญยุคแรกที่ได้รับอิทธิพลพุทธศานสนาจากอินเดีย ซึ่งได้กลายเป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมทวารวดี โดยมีหลักฐานว่าพุทธศาสนาได้เข้ามาประดิษฐานที่เมืองอู่ทอง ก่อนเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดีแห่งอื่นๆ

จัดแสดงโดยการจำลองโบราณวัตถุสำคัญ และการขุดแต่งเจดีย์ ที่เมืองโบราณอู่ทอง จัดแสดงด้วยเทคนิคทันสมัยพร้อมภาพยนต์แอนิเมชั่น

ไปๆๆ ไปดูกัน เดินเหงาๆ เพราะไม่มีกลุ่มอื่นเลย

ท้าวความเมืองอู่ทองกันนิดหน่อย ถ้าเป็นสมัยเรียน ตรงนี้ต้องจดยับ มีงานส่งครูก็ตรงนี้แหละ



เทคนิคการนำเสนอน่าสนใจ เป็นการฉายภาพประกอบกับโมเดลซ้อนกัน น่าสนใจมาก โดยเล่าถึงการสร้างประติมากรรมทางพุทธศาสนา เช่น แผ่นดินเผารูปภิกษุ แท่น,เสาหิน,ธรรมจักร

ก็นะเข้ามาสัมผัสกันใกล้ๆ ได้ประมาณนี้แหละ

ฟังจากเจ้าหน้าที่เค้าว่าปกติธรรมจักรยุคทวารวดี จะมีด้วยกัน 3 ส่วน คือ แท่น เสา ธรรมจักร

ซึ่งที่อื่นๆ ที่พบนั้นจะพบเฉพาะเพียงเสาบ้าง แท่นบ้าง ธรรมจักรบ้าง แต่ที่อู่ทองพบพร้อมกันทั้ง 3 ชิ้น ครบถ้วนเลยที่เดียว


"คูเมืองอู่ทอง" บิดๆ เบี้ยวๆ กลมๆ รีๆ ทำไมไม่เห็นเหมือนคูเมืองสุพรรณ อยุธยา โคราช รึกรุงเทพเลย

ด้วยความที่เป็นเมืองเก่า มากๆ เมืองเก่าในยุคเดียวกันก็เป็นแบบนี้แหละ บิดๆ กลมๆ รีๆ


เสี้ยวนึงของคูเมือง เป็นถนนมาลัยแมนแฮะ หรือ เส้น 321 นั่นแหละ เผื่อใครไม่รู้จัก

ถัดมาก็เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับการค้า ในดินแดนสุวรรณภูมิ โดยอู่ทองเป็นส่วนหนึ่งในเมืองการค้ายุคนั้นๆ

ซึ่งในยุคนั้นน้ำทะเลท่วมถึง ก็เลยเป็นเมืองท่าสำคัญ มีหลักฐานหลายอย่าง ที่น่าสนใจก็มี เหรียญโรมัน เหรียญเงิน เหรียญทอง น่าตื่นตาตื่นใจ



ห้องจัดแสดงถัดไป จัดแสดงการพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ของดินแดนสุวรรณภูมิ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนกระทั่งพัฒนาเข้าสู่สังคมเมือง ซึ่งสันนิษฐานว่าแหล่งการค้าสำคัญของโลกยุคโบราณคือดินแดนที่เรียกว่า ประเทศไทย รวมไปถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่เอง

อันนี้จำลองภาพเขียนสีจากเมืองกาญ ที่ถ้ำตาด้วง อือๆๆๆน่าสนใจ


ปั้นหม้อกันใหญ่เลยยยย ....



ไปต่อกันที่ห้องต่อไป เป็นห้องจัดแสดงวัตถุโบราณที่ พบในแหล่งโบราณในพื้นที่ ซึ่งความน่าสนใจคือ แหล่งโบราณเหล่านี้แทรกตัวอยู่ตามชุมชนต่างๆ ซึ่งเท่าที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ น่าไปเก็บRC มากๆ เลย

จะยิปซี ฮิปปี้ ก็มีมาตั้งแต่สมัยทวารวดีแล้วหละ หลักฐานมันมีอยู่....๕๕๕๕

ธรรมจักรและกวางหมอบแสดงถึงการมาถึงของพุทธศาสนา


พระพุทธรูปปางแสดงธรรม เวลาเครียดๆก็ขอให้นึกถึงพระพุทธรูปปางนี้

ราวกับว่าท่านกำลังบอกกับเราว่า Don't worry ,everything's gonna be ok.




อีกจุดนึงด้านขวาของอาคาร เป็นลานจัดแสดงบ้านลาวโซ่ง ซึ่งจัดแสดงได้เหมือนจริงมากๆ


ขนลุก!!!!


จากการที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ เราก็ได้เป้าหมายของวันนี้เพิ่มขึ้นมา นั่นคือ เก็บRC แหล่งโบราณสถาน รอบๆ เมืองอู่ทอง ฟังข้อมูลมางงๆ แต่จับใจความได้ว่าไปไม่ยาก เพียงแค่อยู่กระจายตัวกัน


ไปกันเลยยยยยยย


เลี้ยวขวาออกจากประตูพิพิธภัณฑ์ เลี้ยวเข้าซอยด้านหลังโรงเรียนอู่ทองศึกษาลัย

ตรงไปตามทางเรื่อยๆ เจอสะพาน เจอสนามกีฬาข้างหน้า ยืนกลางสะพานหันหน้ามองคูเมืองเดิม

เจดีย์หมายเลย 3 อยู่ซ้ายมือ ขวามือมีโบราณสถานอีกอย่างเข้าใจว่าเป็นโบราณสถาน บ้านศรีสรรเพ็ชร


แหม อยู่ใกล้ชิดชุมชนดีเหลือเกิน


เจดีย์ หมายเลข 3


อีกมุมนึงกับรถหล่อๆ



อันนี้ใช่โบราณสถาน บ้านศรีสรรเพ็ชรป่าวหว่า


เอ๊!!! เข้าใจว่าอยู่หลังสนามกีฬาอู่ทอง

ดูป้ายนี้จากพิพิธภัณฑ์มาแล้วน่าจะใช่นา รึไม่ใช่หว่า

รึว่าอันนี้ แต่อันนี้เข้าใจว่าเป็น เจดีย์หมายเลข 13 ยังไงหว่า....๕๕๕๕

สนุกดีเหมือนกันแฮะ ชักจะเหมือนเก็บ RC เข้าไปทุกที

ความเรียบง่าย และดิบของโบราณคือดูเผินๆ ราวกับกองหินไร้ค่าแต่ถูกล้อมด้วยเสาปูนจาก กรมศิลป์นะจ๊ะ

ไปต่อตามคูเมือง ออกมา ถนนวินยานุโยค เลี้ยวขวาย้อนขึ้นมา ต้นถนนเลย

อันนี้เป็น เจดีย์หมายเลย ๒ มั้ง!!! ชักจะงงๆ

นี่ก็อยูใกล้ชุมชน มากกกกกกก

ปากทางประมาณนี้......


ก็จะติดกับบ้านเรือนประมาณนี้อะนะ ใกล้เชียว


มุ่งหน้าไปต่อ ใกล้ๆ ที่วัดเขาพระ มีโบราณ สถานอีก 2 ที่ใกล้ๆกัน

ตามทางเลย เห็นไกลๆลิบๆนั่นมั้ย นั่นแหละๆ ที่วัดเขาพระศรีสรรเพ็ชร

ซูมเข้าไปใกล้ๆอีกนิด บันไดยาวบื้ดดดดเลย......มีบันได เราไม่เดิน หาทางรถขึ้นสิ

เจดีย์ หมายเลข๙ อยู่ตรงทางรถขึ้นมณฑปนะ ถ้าเดินขึ้นจะไม่เจอนะจ๊ะ.....

ต่อไปครับ ขี่รถขึ้นไปด้านบนมณฑป

จะเดินขึ้นก็ได้นะ แต่ดูจากความสูงแล้ว.....วันนี้ต้องไปต่ออีกเยอะ ไม่เอาดีกว่าาา.....

ดูเด๊ะ .....

ถ้าเดินขึ้นมานี่ไม่ขี่รถกลับแล้วนะ....ขาสั่นแน่ๆ

นี่คือ โบราณสถานวัดเขาพระศรีสรรเพ็ชร

ไหนๆขึ้นมาถึงนี่แล้วก็ไหว้พระกันดีกว่า


มณฑปง๊ามงาม


ไหว้พระ กันเรียบร้อย ขี่รถออกมา มุ่งหน้าพุหางนาค .....แหม่.....ร้อนก็ร้อน แต่ก็ขอเดินซักหน่อย.....

นั่นแน่....มุมมันได้ เดี๋ยวก่อนนนนน นี่ตอนเที่ยงๆ แดดเปรี้ยงๆ เข้าใจว่ถ่ายรูปงามนะ แต่รีบๆดีมั้ย....


แฮร่.....จอดอีกแล้ว ระหว่างทางขึ้นไป พุหางนาค

เจดีย์หมายเลข ๑๐

ทางขึ้นพุหางนาคคดโค้งดีเหมือนกัน.....ถ้าอากาศเย็นกว่านี้ก็คงน่าขี่เล่นชิวๆอยู่......


เสียดายที่อากาศร้อนเกินไปนิด แต่โดยรวมแล้ว ตื่นตาตื่นใจดี ต้นไม้ต้นไร่ ดูแปลกตา.....



มันก็จะร้อนหน่อยๆ เห็นในมือมั้ยนั่นน้ำสมุนไพร มีขายก่อนเดินขึ้น แนะนำนะ ซื้อ 2 ขวดเลยดีจริงๆ


ออกจากพุหางนาค มุ่งหน้าวัดเขาทำเทียม ตอนนี้มีพระพุทธรูปแกะสลักที่หน้าผาด้วย

เลี้ยวขวามาผ่าน อ่างเก็บน้ำเขาพระที่ช่วงนี้แล้งน้ำเหลือเกิน


อันนี้เห็นมาตั้งแต่เป็นหินผา เห็นแบบร่างแล้วก็ mega project เลยแหละ มาคราวก่อนเดินขึ้นไปชมด้านได้

คราวนี้งด มีก่อสร้างเพิ่มเติม

และจุดที่เรามาตามหา....

เจดีย์หมายเลข ๑๒

น่าน้อยใจเสียนี่กะไร ของดีๆมีใกล้ตัว เอาเงินไปลงกับของอย่างอื่น แล้วก็ล้อมรั้วไว้

นี่ผมผ่านหลายรอบมากนะ แต่ไม่เคยได้สังเกตเลยว่า มีเจดีย์โบราณอยู่ตรงนี้

และเชื่อว่า คนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน


นี่ช่วงหลังๆมานี้ซื้อมาลัยได้แต่รักพลาสติก....

แม่ค้าบอกว่ารักแท้มันหายาก.....

แต่ก็นะ....ก็ยังหาได้.....


แฮร่.....



หน้าร้อนมันก็อย่างนี้แหละ นอกจากแสงสดใสที่ได้ใช้ประโยชน์มาถ่ายรูป....

ก็ดอกไม้นี่แหละ เป็นอีกส่วนที่ทำให้ ฤดูร้อนยังคงน่าท่องเที่ยว.....

ยังไงก็ดื่มน้ำกันมากๆนะ.....


บทสรุป สำหรับเมืองโบราณอู่ทอง น่าสนุกสำหรับคนชอบเก็บ RC ยังมีหลายๆที่ ที่ผมก็ยังขี่วนๆปมา หาไม่เจอ.....ยิ่งได้รู้ประวัติ ยิ่งทำให้รู้สึก ทึ่งปนเสียดาย.....นี่ก็ผ่านมาหลายปีมาก ที่ขึ้นทะเบียนเมืองโบราณ แต่เรา ไม่ได้ใส่ใจกันเลย

สุดท้ายครับ

ขอฝากกระเพราโจร และ ผัดพริกแกง ตลาดอู่ทองไว้ในอ้อมใจ

ใครอยากลองชิมก็วิ่งหาดู ในตลาดนั้นแหละ บอกเลยว่าอร่อยขั้นจอมยุทธ์ รสชาติไม่ธรรมดา



ลองตามหาดูนะ อู่ทอง น่าสนุกจะตาย


DarkcutiE

สวัสดีครับ


DarkcutiE Travel

 วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.06 น.

ความคิดเห็น