เข้าหน้าร้อนแล้วต้องแอ่วทะเล คิดถึงความสวยงามของทะเลสตูล หลีเป๊ะ อาดัง แวะไปทักทายเพื่อนเก่ากันหน่อย^^

ฝากกดติดตามเพจท่องเที่ยวด้วยนะเจ้า อัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ สถานที่สวยงามมากมายที่ ไปแอ่วกัน funtrips และ ช่องยูทูปของเพจ กดเข้าชมที่ตัวอักษรที่ฟ้าได้เลยเจ้า

ทริปนี้ใช้บริการสายการบินแอร์เอเชีย บินตรงเชียงใหม่-หาดใหญ่ แล้วเช่ารถขับไปที่ท่าเรือปากบารา เพื่อไปเกาะต่างๆค่ะ ระยะทางจากสนามบินไปท่าเรือปากบารา ประมาณ 120 km

สองข้างทางต้นยางสวยๆ

แวะทานข้าวข้างทาง ร้านป๊ะ มะ เจออาหารใต้แปลกตา เป็นต้มไข่กะทิ รสชาติจะเหมือนแกงจืดใส่กะทิค่ะ

มีอาหารง่ายๆ แกงส้ม ข้าวหน้าเป็ด ก๋วยเตี๊ยวราคาไม่แพง

ทานเสร็จแล้วไปขึ้นเรือที่ปากบารา ฝากรถไว้กับชาวบ้านจะมีที่ให้ฝากคืนละ 100.- บาทค่ะ เวลามารับรถเขาจะขับสามล้อมพ่วงมารับที่ท่าเรือสะดวกดี

รอขึ้นเรือสปีดโบ๊ท มีให้บริการหลายเจ้า ใช้บริการของพลอยสยามเหมาไปกลับ ราคา 900.- บาทต่อคน ถ้าไปเที่ยวเช้าจะได้แวะเที่ยวถ่ายรูปที่เกาะตะรุเตา กับเกาะไข่ด้วยค่ะ

ถึงเกาะตะรุเตาแล้ว เสียค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท เข้าได้ทุกอุทยานเลยค่ะ เดือนมีนาฟ้าใสเชียว

“ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู แปลว่า มีอ่าวมาก ตะรุเตาเป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย จังหวัดสตูล ด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตรค่ะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 51 เกาะค่ะ มีเกาะที่มีขนาดใหญ่ 7 เกาะด้วยกัน คือ เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ เกาะกลาง เกาะบาตวง และเกาะบิสสี ความสวยงามถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ฟ้าสวย น้ำใส หาดทรายขาว ความสวยงามของหมู่เกาะตะรุเตายังอยู่ในชั้นเลิศของทะเลไทยเลย ^^

ไปเกาะไข่กันต่อ ที่เกาะไข่มี ซุ้มรักนิรันดร (Lover's Gate) ที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันโดยเฉพาะคู่รัก

ชายหาดขาวนวล สวย สะอาด เหมือนสีไข่ เกาะไข่ยังสวยเหมือนเดิมเคยมาประมาณสามปีที่แล้วก็ยังสวยอยู่แต่นักท่องเที่ยวหนาตาขึ้นมากค่ะ

น้ำสวยจับใจ

ถ่ายรูปกันเสร็จไปเกาะหลีเป๊ะกันนนนนน

ที่หลีเป๊ะนักท่องเที่ยวคึกคักจริงๆ ทะเลสวยเหมือนเดิมมองลงไปก็เห็นหาดทรายเลย

รีสอร์ทเยอะเลย


นั่งเรือหัวโทงไปเกาะอาดังกันต่อ ไม่ไกลจากเกาะหลีเป๊ะค่ะ ราคาค่าเรือคนละ 100.- บาท (ไป-กลับ 200.-)

ถึงเกาะอาดังแล้วววว

ขึ้นฝั่งกันเลย

ที่พักจองล่วงหน้าไ้แล้วสองคืน คืนละ 600.- บาท วันธรรมดาคืนละ 400.- บาทค่ะ

ระหว่างทางเดินไปที่พักโชคดีจังเลยเจอนกเงือกด้วย ยังเป็นนกเงือกเล็กๆอยู่น่ารักจัง แสดงว่าธรรมชาติยังดีอยู่มาก

ที่พักอาดังเรียบง่าย สงบ แต่เสียตรงไฟปิดเป็นเวลา ปกติจะปิดตอนเที่ยงคืน ใครขี้ร้อนต้องทำใจหน่อยนะคะ หรือชอบนอนกางเต้นท์ก็คนละ 200.- บาทต่อคืนค่ะ

เจ้าถิ่นมาขอของกิน

วิวหน้าบ้านพัก

ไปเล่นน้ำที่ชายหาดกัน ชอบอาดังที่สุดตรงที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก หาดทรายและน้ำทะเลสวย

อาดังยังสมเป็นสวรรค์อันดามันใต้ สวยจับใจเหมือนเดิม

น้ำทะเลเล่นสีแบบธรรมชาติ น้ำเงิน ฟ้า คราม เขียวมรกต


เริ่มเย็นแล้วข้ามฝั่ง ไปทานข้าวที่เกาะหลีเป๊ะกัน ที่อุทยานก็มีจำหน่ายแต่เปิดปิดเป็นเวลา อาหารมีให้เลือกน้อยค่ะ

เย็นแล้วท้องฟ้าสวย

มาหลีเป๊ะแนะนำร้านนี้อร่อย ข้ามฝั่งมากินทั้งสองวันเลยมื้อเย็น อาหารทะเลสด รสชาติดี ราคาสมเหตุสมผล ชื่อร้านจ่าดำหรอยเพ อยู่บนถนนคนเดินของหลีเป๊ะค่ะ ใครขี้เกียจเดินมีรถพ่วงให้บริการ เที่ยวละ 150.- บาท นั่งได้ 3-4 คน

หม่ำรอฟเตอร์ไหมเจ้า^^

จานนี้ประมาณ 700.- บาทค่ะ ราคาตามน้ำหนักกุ้งที่เราเลือก

อาหารอื่นๆก็ถูกปากทุกอย่าง ไข่เจียวหอยหลอดกรอบอร่อยค่ะ

ลูกสาวชอบปลาแก้มเหลืองทอดน้ำปลามากเนื้อนิ่มหนังกรอบ สดอร่อยค่ะ ใครมาแนะนำเมนูนี้นะคะ ส่วนตัวลองทานทั้งกระพงและปลาแก้มเหลือง ชอบปลาแก้มเหลืองมากกว่าค่ะ

แกงส้มก็อร่อยจัดแบบทางใต้ กุ้งลายเสือเผาก็เนื้อหวานดีค่ะ ทางอันดามันกุ้งลายเสือเยอะนะคะ ถ้าไปทางจันทบุรีจะเจอปูเยอะกว่าทางนี้

เข้ามาที่ถนนคนเดินร้านนี้ก็คนเยอะมาก เห็นว่าถูกอร่อยเหมือนกันตอนแรกว่าจะลองทานร้านนี้แต่คนเยอะมาก

เดินเล่น กินกันอิ่มหนำสำราญดีแล้ว ข้ามเกาะไปอาดัง นอนหลับฝันดี พรุ่งนี้ไปดำน้ำกัน

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พระอาทิตย์ตื่นแล้วววว สาดแสงสีทองงามตา เตรียมไปแอ่วกัน^^

มาครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นไปชมวิวที่ผาชะโด นำภาพจากทริปก่อนที่เคยไป มาให้ชมกันค่ะ จุดชมวิว point 3 ที่ผาชะโดเห็นวิวสวยมาก เห็นเกาะหลีเป๊ะไม่ไกล แต่ทางขึ้นชันค่อนข้างลำบาก ต้องแข็งแรงหน่อยค่ะ

ไปดำน้ำกัน รอเรือมารับ เหมาะเรือหัวโทงวันละ 2,000.- บาท ไปดำน้ำที่เกาะต่างๆ



เกาะหินซ้อน เป็นก้อนหินขนาดใหญ่สองก้อนซึ่งซ้อนกันอยู่ สวยงามแปลกตา

ไปเกาะราวีหรือหาดทรายขาวกัน เป็นเกาะที่มาครั้งก่อนแล้วประทับใจมาก หาดทรายสวยน้ำใสกิ๊กเลย

ภาพในอดีตเมื่อประมาณสามปีที่แล้วค่ะ คนยังน้อยเรือเราเป็นลำแรกเลยสวยมาก

ภาพปัจจุบัน มาเวลาใกล้เคียงกันเดี๊ยวนี้เรือเยอะขึ้นมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนก็เยอะเมื่อก่อนไม่ค่อยมี

เรือจอดรียงเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตาเลย แต่เป็นระเบียบดีค่ะ

บนเกาะราวีมีไก่ทอด ส้มตำขายด้วย น้ำแข็งเปล่าราคาค่อนข้างแพง แก้วละ 20 บาทค่ะ คงเพราะต้องเอามาจากฝั่ง

หาดทรายและน้ำยังใสสวยเหมือนเดิม แต่นักท่องเที่ยวเยอะม๊ากกก

เกาะรอกลอย ทริปนี้ไม่ได้แวะขึ้นเกาะ ไปดำน้ำหลังเกาะกันจุดแรก

หลังเกาะรอกลอย

จุดนี้ปะการังหัวผักกาดเยอะค่ะ

จุดที่ 2 ดำน้ำที่หลังเกาะยาง ปะการังไฟเยอะค่ะ

ไปเกาะหินงามกันต่อ

เกาะหินงาม เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากเกาะอาดังประมาณ 2.5 กิโลเมตร ทั้งเกาะที่เต็มไปด้วยหินสีดำเหลือบสี กลมเกลี้ยง มันวาวสวย ไม่มีหาดทราย บริเวณหาดจะเป็นหินสวยๆล้อมรอบเลย

หินสวยจริงๆ ลายสวยมากธรรมชาติช่างสร้าง แต่ละก้อนก็ไม่เหมือนกัน กลมมน ไม่มีเหลี่ยมคมเลย มีความเชื่อกันว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครนำติดตัวกลับไปจะเกิดหายนะกับตัวได้ค่ะ

ให้ลุงลองเอาหินมาขัดตัว ลุงบอกมันกลมลื่นไปหมด ขัดขี้ไคลไม่ออกเลย 555

ภาพในอดีตสามปีที่แล้วเจ้าขาชอบหินที่เกาะนี้มาก

ตอนนี้โตแล้วยังชอบเกาะหินงามเหมือนเดิม^^

ดำน้ำหลังเกาะหินงามเป็นจุดสุดท้าย แถวนี้ปะการังสวยๆเยอะ ครบสมบูรณ์ค่ะ


ปลาก็ยังเยอะอยู่ มองจากผิวน้ำก็เห็น ครั้งนี้แวะดำน้ำเป็นบางเกาะ ไม่ได้แวะเกาะสอง ร่องน้ำจาบังก็คลื่นลมแรงเลยไม่ได้ลงดำน้ำค่ะ ปลาตามเกาะต่างๆยังเยอะอยู่

ย็นๆกลับมาเล่นน้ำที่เกาะอาดังต่อ

น้ำสวยใสจริ๊งงงง

เย็นย่ำแล้ว พักผ่อนนอนหลับชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ

บรรยากาศยามเช้า สวยมากเลยให้บรรยากาศสงบ สดชื่น

ตื่นเช้ามา ทานอาหารง่ายๆที่ร้านอุทยาน ข้าวต้มทะเลถ้วยละ 120.- บาท แพนเค้กอร่อยดีค่ะ

ที่เกาะอาดังนี่ดงปูเสฉวนเลย

ปูเสฉวนน่ารักๆเยอะแยะไปหมด^^ ปูลมก็เยอะ เป็นดัชนีแสดงให้เห็นว่าธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่มากค่ะ

ถ่ายคลิปมาให้ดูกัน ดูปูซิคะเยอะมากๆค่ะ

มาทะเล ทิ้งขยะให้เป็นที่นะคะ ช่วยกันรักษาความสะอาด มาเที่ยวนี้ขยะในทะเลเริ่มเยอะแล้ว บางคนมักง่ายทิ้งขยะ ถุงขนม ขวดพลาสติกลงทะเล สงสารธรรมชาติ มาแล้วไม่เบียดเบียนธรรมชาติ จะได้มีธรรมชาติสวยๆให้เราชื่นชมไปนานๆ

นั่งเรือมารอที่โป๊ะ รอเรือมารับกลับฝั่ง

แบ๊ตหมดดดดดด

ถึงฝั่งแล้วรับรถเสร็จไปทานข้าวใกล้ๆกับท่าเรือ ชื่อร้านทางเลือกเพื่อสุขภาพค่ะ อยู่ติดชายทะเล

อาหารรสชาติใช้ได้ ข้าวผัดปูอร่อยค่ะ

กรรเชียงปูจานละ 450.- บาท สั่งไปประมาณ 5-6 อย่างราคาพันต้นๆค่ะ

ทานอาหารเสร็จเวลายังเหลือรอขึ้นเครื่องตอนเย็น ไปแอ่วสงขลากันค่ะ ขับรถจากท่าเรือปากบารา ไปขึ้นแพขนานยนต์ที่ทะเลสาบสงขลา ระยะทาง 138 km ค่ะ ข้ามจากฝั่งอันดามันมาอ่าวไทยกันเลยทีเดียว^^

ถึงทะเลสาบข้ามไปเที่ยวเขาตังกวนกัน ค่าข้ามฝากรถยนต์ 20 บาทค่ะ

ไปแหลมสมิหลากัน

แวะชมประติมากรรมพญานาคพ่นน้ำ ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของจังหวัดสงขลา พ่นน้ำลงสู่ทะเลสาบสงขลา

เคยมาตอนกลางคืน สวยไปอีกแบบค่ะ

แหลมสมิหลา ฟ้าใส

ประติมากรรม รูปหนู แมว

ว่าวสวยๆ มีม้าให้ขี่ชมหาดรอบๆด้วยค่ะ 150.- บาทต่อรอบ

ของที่ระลึกเยอะแยะเลย

ไปแอ่วเขาตังกวนกันต่อเลยค่ะ

บริเวณเขาตังกวน น้องลิงเยอะเลย

หม่ำติมเย็นๆ ก่อนขึ้นเขา 30.- บาท ได้น้ำมะพร้าวสดด้วย^^

เขาตัวกวน เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ตั้งอยู่ใน ตัวเมืองสงขลาใกล้กับหาดสมิหลา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 105 เมตร ถ้าไม่มีรถยนต์สามารถนั่งตุ๊กๆ หรือรถให้บริการมาได้ค่ะ บนยอดเขา เป็นที่ประดิษฐานโบราณสถานสำคัญ ประกอบด้วย พระเจดีย์หลวง พลับพลาที่ประทับ รัชกาลที่ 4 และประภาคาร การขึ้นลิฟจะเสียค่าใช้จ่ายผู้ใหญ่ 30.- บาท เด็ก 20.- บาท เปิดบริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น. และ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00-19.00 น. สอบถามข้อมูล โทร. 074-316330

ทิวทัศน์ด้านบนเขาเห็นเมืองสงขลาสวยงามเดือนมีนาฟ้าสดใส




ประภาคาร เสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


หลวงปู่ทวด


พระเจดีย์หลวง เป็นโบราณสถานที่สำคัญของเขาตังกวน พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงระฆัง สันนิษฐานว่าเป็นพระเจดีย์โบราณที่มีมานาน แต่ไม่ปรากฎหลักฐานความเป็นมาที่ชัดเจน

ที่เก็บกระดิ่งที่ถวายองค์พระธาตุเจดีย์หลวง พอรวบรวมจนเต็มก็จะนำไปหลอมเป็นระฆังใบใหญ่ เพื่อถวายองค์พระธาตุต่อไปค่ะ



ไหว้พระแล้วเดินทางไปสนามบินค่ะ ระยะทางเขาตังกวนไปสนามบินประมาณ 40 km

ปิ๊กบ้านแล้วววว ท้องฟ้าสวยจังเห็นจันทร์เสี้ยวและดวงดาวด้วย ไว้เจอกันทริปต่อไปเจ้า^^

ฝากติดตามเพจท่องเที่ยวเล็กๆด้วยนะคะ ไปแอ่วกัน Fun Trip





















ไปแอ่วกัน Fun Trip

 วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.55 น.

ความคิดเห็น