"ฉะเชิงเทราหรืออรัญประเทศดีนะ"

นั่งครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ๆ คิดแล้วคิดอีกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ จะอออกไปซนที่ไหนดี อยากนั่งรถไฟไปเที่ยวออกจากกรุงเทพไปยังที่ใหม่ๆที่ไม่เคยไป

ฉะเชิงเทราก็ไม่เคยไป อรัญประเทศก็ไม่เคย...และแล้ว คำตอบมาหยุดที่อรัญประเทศ เพราะมันไกลดี และก็จะไปสัมผัสบรรยากาศที่ตลาดโรงเกลือ ดูของถูกๆ ข้ามแดนไปเขมร เข้าไปในคาสิโน บราๆ หูววว วันหยุดนี้จะได้ไปเมืองนอก ตื่นเต้นจังเลย 555 โอเคงั้นเข้าเรื่องกันเลย

การเดินทางขอตัดภาพมาที่ถานีรถไฟพญาไท (คนละอันกับรถไฟฟ้าบีทีเอสนะอิอิ) ต้นทางของรถไฟสายนี้อยู่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพหรือที่เราเรียกกันว่าหัวลำโพงนั่นแหละ รถไฟมาถึงพญาไทตรงเวลา เวลา05:55

รถไฟผ่านสถานีตามจังหวัดต่างๆมากมาย ทุ่งหญ้า ทุ่งนาน้อยใหญ่ ผ่านฝูงโคกระบือมากมายระหว่างทาง แลดูเพลิดเพลินจำเริญใจยิ่งนัก ที่นานๆทีจะมาเห็นธรรมชาติอะไรแบบนี้ รถไฟจอดรับและส่งผู้โดยสารทุกสถานี ช่างหวานเย็นจริงๆ ก็มันรถธรรมดานี่หว่า วุ้ย บางช่วงก็มีพ่อค้าแม่ค้าขึ้นมาขายของบนรถไฟ บรรยากาศดูคึกครื้นดี น้ำไหมครับ/คะ มะม่วงมัน ผลไม้ ขนมนมเนย โอ้ยอิ่มตลอดทางฮ่าๆ

ในที่สุดเกือบหกชั่วโมงบนรางเหล็กก็ได้สิ้นสุดลง ฉันมาถึงอรัญประเทศแล้ว เมืองชายแดนแห่งสยาม กว่าจะถึงเล่นเอาเหงื่อแตกเป็นลิตรๆ ไม่ได้เวอร์นะ ขี้เกลือขึ้นเสื้อเลย อากาศมันร้อนอะเน้อ

ตอนแรกที่คิดไว้คือจะมาแค่เช้าแล้วกลับตอนเย็น แต่ก็คิดว่าไหนๆก็มาแล้วอยู่สักคืนจะเป็นไรไป เพิ่มงบนิดหน่อยได้เที่ยวอีกตั้งวันนึงแนะ ก็เลยจองที่พักสำหรับ1คืนในอรัญประเทศไว้จาก Booking.com โดยหาห้องที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหามาได้ ได้มาราคา300บาทต่อคืน ห้องนึงนอนได้สองคนนะ แต่เรามาคนเดียวแง่ๆ... จากสถานีรถไฟอรัญประเทศไปทีพัก (ฉายสุข บังกะโล) ระยะทางหนึ่งกิโลเมตรกว่าๆ สำหรับเราแค่นี้สบายๆ สายลุยจะกลัวอะไร แต่ถ้าใครอยากสบายหน่อยนึงหน้าสถานีรถไฟจะมีรถสองแถว รถวินมอเตอร์ไซค์ ตุ๊กตุ๊ก ให้บริการอยู่แล้ว

ถึงที่พักแล้ว ก็เช้คอินเข้าห้องพัก อาบน้ำอาบท่า เปิดแอร์นอน ดูโทรทัศน์ เล่นเขี่ยโทรศัพท์ไปมาอยู่ในห้อง รู้ตัวอีกทีก็บ่ายสองครึ่งแล้ว เลยรีบแต่งตัวเตรียมตัวไปตลาดโรงเกลือ 

หน้าที่พักของเราสามารถโบกรถตุ๊กๆไปตลาดโรงเกลือได้เลย ต่อราคาได้มา60บาท ปกติจะประมาณ80บาท นั่งไปประมาณเกือบสิบนาทีก็ถึงตลาดโรงเกลืออันใหญ่โต นี่มันเป็นอาณาจักรในฝันชัดๆ ผมจะเดินให้หมดเลยคอยดู!

แต่ก่อนที่เราจะเข้าไป คุณท้องเกิดหิวขึ้นมา เลยต้องพาน้องไปกินข้าวกินปลาให้เรียบร้อย อาหารที่เรากินก็ธรรมดาๆ เป็นขนมจีนน้ำพริก มันจะเป็นน้ำหวานๆ รสชาติเข้มข้นอร่อยดี กินคู่กับข้าวเหนียว ไส้อั่ว ที่ซื้อมาจากร้านข้างๆกัน พิกัดร้านทั้งสองร้านนี้ก็อยู่หน้าเซเว่นตรงทางเข้าตลาดโรงเกลือเลย พ่อค้าแม่ค้าใจดีมาก

ร้านขายรองเท้าคู่ละ 100 200 มีถมเถไป

ตลาดโรงเกลือจะแบ่งเป็นหลายโซน โซนเสื้อผ้า ของมือสอง รองเท้า เครื่องครัว เครื่องนอน ของเล่น ของสด และอื่นๆอีกเยอะแยะ ถ้าอยากดูของทั่วๆให้แนะนำเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือรถกอล์ฟก็ได้ ราคาไม่แพงเลย มอเตอร์ไซค์ที่เห็นมา 3ชั่วโมง100บาทเท่านั้น ถ้าเป็นรถกอล์ฟจะนั่งได้ถึง5-6คนราคามีแบบคิดเป็นชั่วโมงและแบบเป็นวัน ราคา300-500บาท

เดินซอยนี้ไปออกซอยนู้น ทำงี้วนไปจนในใจตัวเองมันบอกว่าพอเถอะ ไม่ไหวแล้ว ขอยอมแพ้ ก็อากาศร้อนสะขนาดนี้จะเดินยังไงให้มันหมด และอีกอย่างนึงดูกี่ร้านๆก็ไม่ได้ซื้อเะไรเลย เขาเรียกว่าดูชิมลางฮ่าๆ จากนั้นฉันก็ข้ามแดนไปยังปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งต้องใช้พาสสปอร์ตเป็นเอกสารในการข้ามแดนด้วยนะ

ออกมาจากตลาดโรงเกลือ เดินข้ามทางรถไฟมาเรื่อยๆ จะเจอป้ายทางเข้าไปด่านตรวจคนเข้าเมือง เราก็เดินไปตามป้ายเลยนะ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร มีช่องทางเดินให้เฉพาะคนไทยโดยเฉพาะเลย คนต่างชาติที่ไม่ใช่คนไทยก็ไปอีกทางนึง

เราทำพิธีการตรวจคนเข้าเมืองโดยผ่ายเครื่องอัตโนมัติ เอาพาสสปอร์ตไปทาบไว้ที่เครื่องสแกน แล้วสแกนลายนิ้วมือ แปบเดียวก็เสร็จแล้ว เดินออกจากอาคารมาก็จะเจอกับอีกโลกโลกนึงเลย ที่นี่มันช่างต่างจากฝั่งไทยนัก รถลาบีบแตรกันอย่างสนุกมือ ถ้าเป็นเมืองไทยคงมองหน้ากันมีเรื่องกันไปแล้ว แต่ที่นี่ดูปกติมากก...ก(กอไก่ล้านตัว) มีรถบรรทุกสินค้าเข้าออกอย่างคับคั่ง

หลังจากที่เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยมาแล้ว อย่าลืมไปประทับตราเข้าเมืองที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาด้วยนะ พร้อมกับกรอกใบขาเข้า-ออกประเทศ เราก็เก็บใบขาออกไว้ที่ตัวเราเอาไว้ใช้ตอนออกจากกัมพูชา ด่านตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาต้องเดินผ่านคาสิโน แกรนด์ ไดมอน (Grand Diamond Casino) ก่อน จะเห็นป้ายคำว่า Arrival ตรงนั้นแหละที่ใช้ทำเรื่องเข้าประเทศกัมพูชา(อย่างเป็นทางการ)

***ทราบมาจากเจ้าหน้าตม.ของกัมพูชาว่าถ้าเราอยู่เที่ยวบริเวณเขตคาสิโนอย่างเดียว เราไม่ต้องไปประทับตราของกัมพูชาก็ได้นะ เพราะก่อนถึงคาสิโนต่างๆก็ไม่ได้มีด่านตรวจคนเข้าเมืองตรงบริเวณนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเราต้องการออกไปนอกเขตคาิโนหรือออกไปเมืองอื่นๆเช่น เสียมเรียบ พนมเปญ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปประทับตราเข้าเมืองให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นแล้วจะเป็นการเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายนะจ๊ะ

เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆจะพบกับแลนด์มาร์คของที่นี่ นั่นคือประตูสู่กัมพูชา ที่มีรูปปั้นปราสาทนครวัดอยู่ข้างบน

เดินตรงไปนิดหน่อยก็จะพบคาสิโนมากมายเรียงรายอย่างกับดอกเห็ด พอใจที่ไหนก็เข้าหรือออกได้ตามสบายเลย แค่เราไม่สามารถนำพวกอุปกรณ์บันทึกภาพหรือวีดีโอเข้าไปข้างในได้ คาสิโนแต่ละที่จะมีจุดรับฝากของจำเภทพวกนี้ไว้อยู่แล้ว สำหรับโทรศัพท์มือถือก็เอาเข้าไปได้ตามปกติ

เราตัดสินใจเข้าไปในคาสิโนแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกหนุ่มชาวกัมพูชาชวนเข้าไปด้วยกัน ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นก็เลยเข้าไป หนุ่มคนนี้ท่าทางเขาคนนี้จะเข้ามาที่นี่บ่อย เขาก็แนะนำอะไรอยู่ตรงไหน ห้องน้ำอยู่ตรงนู้น พร้อมชวนเชิญเล่นเครื่องเล่นต่างๆ แต่ตั้งใจแค่จะมาดูเฉยๆ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ยุ่งไม่เล่น จบนะ555

ภายในคาสิโนตกแต่งอย่างหรูหรา งดงาม อลังการณ์มาก ประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีสันให้เพลินชวนมอง ความรู้สีกคือตื่นเต้นมากที่ได้เข้ามาข้างใน มีพนักงานคอยบริการแขกผู้เล่นอย่างล้นหลาม คือรู้สึกว่าพนักงานจะเยอะกว่าแขกสะอีก ภายในคาสิโนที่เราไปมีอาหารและน้ำบริการฟรีด้วยนะ เราสามารถไปตักมากินได้เลย และจะมีโซนอาหารเฉพาะที่เป็นแขกVIPด้วย ผู้คนก็เล่นเครื่องเล่นต่างๆอย่างสนุกสนาน บางคนเล่นไปส่งเสียงดังไป บางคนก็สูบบุหรี่ในคาสิโนเลย แต่บอกเลยฉันไม่ได้คิดอยากจะเล่นอะไรทั้งนั้น เพียงแต่อยากเข้ามาดูว่าภายในคาสิโนนั้นเป็นอย่างไร บรรยากาศแบบไหน ฉันก็พบว่าที่นี่มันไม่ใช่ที่ของฉันเลยฮ่าๆ ก็เลยต้องขอตัวบายๆไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่า

ทางรถไฟที่นี่ผ่านหน้าคาสิโนเลย

มาแวะเข้าดูดูสถานีรถไฟปอยเปต ที่กำลังมีการปรับปรุ่งใหม่ ที่นี่มีรถไฟวิ่งอยู่ด้วยนะ ถ้ามีเวลาเยอะๆ อยากจะลองนั่งรถไฟเขมรดูเหมือนกันว่ามันเป็นอย่างไง นั่งไปพนมเปญเลยมั้ยละอิอิ

รถไฟดูโบราณกว่าบ้านเรา เสียดายจังถ่ายแต่ตูดรถไฟมา มีให้ดูภาพเดียวฮ่าๆ แต่บอกเลยของรถไฟไทยเราดีกว่าเยอะ555

ปัจจุบันทางรถไฟในปอยเปตกับทางรถไฟฝั่งไทยเชื่อมกันเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตคิดว่าอ่จจะมีเส้นทางระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาก็ได้

วัดในปอยเปต

รถมินิบัสสีสวยดี

น้ำมันใส่ขวด

ตรงนี้คือบริเวณที่รอรถซัทเทิลบัส ที่จะนำท่านไปสู่สถานีรถประจำทางปอยเปต เพื่อต่อรถไปยังเมืองต่างๆของกัมพูชา โดยเฉพาะเสียมเรียบ ซึ่งด้านหน้าบริเวณที่รอรถก็กำลังมีการก่อสร้าง คล้ายๆอนุสรณ์สถานอะไรสักอย่าง

เบียร์อังกอร์ กระป๋องละ20บาทเอง

ขนมปังฝรั่งเศสมีใส้ มีความเหมือนที่ลาวและเวียดนามแป๊ะ

กลับถึงที่พักค่ำๆ ก็รีบนอนแต่หัวค่ำเลย เพราะว่าเพลียมากจริงๆ พรุ่งนี้ก็จะเป็นในส่วนของการเดินทางกลับกรุงเทพแล้ว ก็จะได้ใช้บริการรถไฟไทยเช่นเดียวครับ รีวิวนี้แม้ว่าจะเป็นรรีวิวที่สั้น แต่ผมก็มั่นใจว่าการเดินทางของผมมันเปิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ตัวผมเองไม่มากก็น้อย สุดท้ายผมก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณนักอ่าน นักรีวิวทุกท่านด้วยนะครับ





Suzsuthichaa

 วันพฤหัสที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 20.20 น.

ความคิดเห็น