แม่ฮ่องสอน เมืองที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความสุข



พื้นที่แปดตารางกิโลเมตรโดยประมาณ ถนนแคบๆ บ้านเรือนยังมีทั้งแบบพื้นเมืองดั้งเดิมผสมผสานอาคารแบบปัจจุบัน ไม่มีตึกสูง อากาศดี ผู้คนเป็นกันเอง แทบจะรู้จักกันทั้งเมือง สถานที่เที่ยวมีหลากหลายแนว และมีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม นี่คือ สี่วันสามคืนของเราที่แม่ฮ่องสอน อันนี้ย่อให้สั้นสุดแล้ว คราวนี้มาว่ากันยาวๆดีกว่า…



ครั้งนี้ได้รับเชิญจากเพื่อนเก่า สมัยเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยร่วมกันมา เหตุอันใดจึงชวนมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน คือแค่ได้ยินชื่อก็รู้สึก ไกลอ่ะมึนๆเวียนๆ รู้สึกโยกเยกโยนไปมาตามเส้นทางโค้งของถนน มันไม่ใช่โค้งธรรมดาด้วยดิ มันโครง โข่ง โคร่ง โค้ง โขง เลยจ๊ะ



ครั้งนี้ตอนไปอ่ะไม่เท่าไรเพราะนั่งเรือบินไป จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ต่อจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนอีกที ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีบินตรงจากเมืองหลวงสู่แม่ฮ่องสอนแล้วนะ ใครจะไปก็ลองไปค้นคว้าดูนะ แต่ขากลับนี่อ่ะดิเครื่องเต็ม เลยได้จัดไปเต็มๆโค้ง จากแม่ฮ่องสอนถึงเชียงใหม่นั่งรถตู้กันหกชั่วโมงกว่า ข้อพับเหนียวกันเลยทีเดียว



เข้าเรื่องๆ…ประเด็นหลักปักธงชัยของการมาเยือน แม่สามหมอก คือ ประเพณี ปอยส่างลอง งานบุญใหญ่ประจำปีของจังหวัด แต่มาซะไกลขนาดนี้ ก็เที่ยวไปให้ทั่วเลยล่ะกัน

เรื่อง ประเพณีปอยส่างลอง เราเขียนไว้ที่…

https://th.readme.me/p/16109

https://pantip.com/topic/37545231



ขอย้อนอีกนิดนะ…อดีตเมื่อยังเป็นวัยหนุ่มฉกรรจ์ น่าจะเกินสิบปีแล้วล่ะ ครั้งกระโน่นได้รวมตัวกับพรรคพวกสามสี่คน ขับรถจากกรุงเทพ ขึ้นเหนือแบบไร้จุดหมายปลายเหตุ เอามันส์เข้าว่า เป็นทริปสุดเฟี้ยวครั้งนึงในชีวิตก็พอจะว่าได้นะ ยังจำได้ว่า ออกมาจากกรุงเทพก็สายแล้ว มาถึงแม่สอดตอนค่ำ อืมมมม…ตอนนั้นคิดกันเอาไงดี สมัยนั้นเบี้ยน้อยหอยน้อยซะด้วย เป็นการตัดสินใจที่โคตรจะผิดพลาดที่ไม่ค้างที่แม่สอด เราตะบี้ตะบันขับต่อมา ก็กะว่าจะหาที่พักเอาข้างหน้า ค่ำไหนนอนนั้น แต่มันไม่เป็นงั้นอ่ะดิ

ที่จำได้แม่นยำเพราะเรานี่แหละเป็นคนขับเอง กว่า 400 กิโล เรื่องความมืดไม่ต้องพูดถึงสนิทตึ๊ดตื๋อ เส้นทางคดเคี้ยวโคตร ความเปลี่ยวก็เส้นทางเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว นับรถสวนทั้งคืนไม่น่าเกิน 10 คัน เอาแค่นี้พอก่อนเนอะ เรื่องมันยาวมาก แค่อยากจะบอกว่า เคยมาแล้วนะ แม่ฮ่องสอน…



สนามบินแม่ฮ่องสอน…


เรือบินจากเชียงใหม่เริ่มลดระดับ อืมมมม…บินต่ำดีจัง เหมือนจะไล่ไปตามทิวเขาไปเรื่อยๆ ก็สวยและเสียวดี มาถึงแล้ว สนามบินแม่ฮ่องสอน เป็นสนามบินที่เท่ห์มากอ่ะในความคิดเรานะ คือถ้าพี่มาที่นี่ด้วยเรือบิน พี่สามารถเดินลากกระเป๋า แบกเป้ เข้าเมืองได้เลย ไม่ต้องใช้บริการ รถไฟ เรือเมล์ แท๊กซี่ อูเบอร์ ทั้งหลายทั้งปวงให้เสียสตางค์ ด้วยความที่เป็นเมืองเล็กๆ ดังที่บอกไว้ตอนต้น ดีจัง…


มาถึงก็ประมาณเกือบห้าโมงเย็น ไปสักการะพระธาตุดอยกองมู สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเลย เพื่อความราบรื่น ปลอดภัย เที่ยวสนุกกลับบ้านพร้อมความสุขสมหวังทุกประการ…



พระธาตุดอยกองมู เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ แม่ฮ่องสอน เป็นพระธาตุประจำเมือง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในพื้นที่ให้ความสำคัญมากราบไหว้บูชากันอยู่เป็นประจำ ผู้มาเยือนต้องขึ้นมาสักการะกันทุกคน ด้านบนจะมีจุดชมวิวสองฟากฝั่ง ด้านหนึ่งจะเป็นวิวเมืองแม่ฮ่องสอน สามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง ส่วนอีกด้านจะเป็นเหลี่ยมพระอาทิตย์ลาขอบฟ้า มองเห็นภูเขาสลับซ้อนกันไปสวยงามมาก วันนี้เรานั่งมองอาทิตย์ลับขอบฟ้าพร้อมกับร่ำลาวันคืนแรกของที่นี่ไว้เท่านี้ พรุ่งนี้เริ่มต้นกันใหม่…



วิวเมืองแม่ฮ่องสอน…




อีกฟากฝั่งจะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก…


เช้าวันนี้เรามีนัดกันเช้ามาก จะไปตักบาตรกันที่ สะพานอธิษฐานสำเร็จ หรือเรียกกันตามภาษาชาวพื้นเมืองไทใหญ่คือ สะพานซูตองเป้ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เป็นสะพานที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุและชาวบ้าน ร่วมกันสร้าง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะกับหมู่บ้านกงไม้สัก มีความเชื่อว่า ถ้าใครได้ไปยืนกลางสะพานแล้วอธิษฐานจะได้ดังใจหวัง




เดินทางจากตัวเมืองประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้ว หกโมงนิดๆ เราก็มาอยู่ที่สะพานซูตองเป้ ยามเช้าที่นี่ดีมากมาย มีหมอกยามเช้าบรรยากาศท้องทุ่งนา อากาศสดชื่น รอไม่นาน พระสงฆ์กับเณรก็เดินลงมาบิณฑบาตจากสวนธรรมภูสมะ สวยงามมากเลย ใครจะมาแนะนำให้มาตอนเช้านะ อากาศก็ไม่ร้อนมาก ถ้าเป็นช่วงกลางวันน่าจะเจอแดดเปรี้ยงเลยทีเดียว



พระสงฆ์ สามเณรเดินลงมาจากสวนธรรมภูสมะ เพื่อมาบิณฑบาต…








กำลังเดินกลับเข้าวัด…


ตักบาตรเสร็จก็ขึ้นไปไหว้พระขอพรที่สวนธรรมภูสมะ ไปเดินชมบรรยากาศด้านบน มองมาจะเห็นตัวสะพานที่ทอดยาวจากด้านสวนธรรมภูสมะไปสู่บ้านกงไม้สัก ตัวสะพานจะอยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนา สวยอีกแล้ว เอาว่าใครมาถึงนี่ต้องไปเยือนนะ…







ภาพบรรยากาศรวมรวมก่อนขึ้นไปด้านบนสวนธรรมภูสมะ…





ถ่ายจากด้านบนสวนธรรมภูสมะ จะเห็นความสวยงามอีกแบบ วิถีชีวิตชาวบ้าน การทำไรถั่ว…







มีป้ายไม้เล็กไว้เขียนคำอธิษฐาน แล้วนำไปแขวน…



บรรยากาศสวนธรรมภูสมะ สวยงามเนอะ…


ออกจากสะพานซูตองเป้ แวะหาไรกินจุ๊บจิ๊บก็ไปกันต่อ วันนี้ตั้งใจจะไปนอนนอกเมืองนิดนึง เป้าหมายคือโฮมสเตย์บ้านผาบ่อง ก็ไม่ได้ไกลอะไรจากตัวเมืองมาก ขับรถประมาณ 15-20 นาทีก็ถึง คืองี้ มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนครานี้ ตั้งใจจะวนๆอยู่รอบตัวเมืองนี่แหละ ไม่ไปไหนไกล เพราะอยากรู้จักจริงๆจังๆแม่ฮ่องสอน ให้มันชัดๆไปเลย อีกอย่างไปไหนไกลมากก็ไม่ไหวนะ เป็นพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา ถ้าไปไกลมากก็เดินทางกันเพลีย เพราะเรามีภาระกิจหลักที่ งานปอยส่างลอง ก็วนๆไปเรื่อยที่ไหนไม่เคยไปก็ไปมันให้หมดเนอะ…

บ้านผาบ่องชุมชนเก่าแก่ ระยะหลังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประเพณีพื้นบ้าน แต่…เดี๋ยวมาว่ากัน เพราะเราแบบเที่ยวไปเรื่อยก็แวะไปเรื่อย

ก่อนจะเข้าไปที่บ้านผาบ่องก็แวะไปชมของดีระหว่างทางนิดนึงที่ บ้านป่าปุ๊ ที่นี่มีอะไรเหรอ…


เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากผ้าทอมือตากีญะ…


บ้านป่าปุ๊ คือแหล่งทอผ้าพื้นเมืองตากีญะ ชาวบ้านที่นี่ดั้งเดิมเป็นไทใหญ่ ต่อมามีกระเหรียงปกากะญอ ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่รวมกันบ้าง ก็เป็นการอยู่ร่วมกันของชาติพันธ์ ทางเหนือของประเทศ อาชีพหลักก็เกษตรกรรมนี่แหละ แต่รายได้เสริมคือ การขายผ้าทอมือตากีญะ สามารถทำรายได้ช่วยเหลือครอบครัวได้มากเลยทีเดียว





ผ้าตากีญะ…


จากคำบอกเล่า…การแต่งกายของที่นี่ ถ้าเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานจะใส่เสื้อผ้าสีขาว แต่ถ้ามีสามีและจะใส่ชุดดำจ๊ะ…


วันที่เราไปก็มีการจัดการแสดงสดกันเลย ตั้งแต่วิธีการทำสีผ้าจากเปลือกไม้ นำเส้นใยฝ้ายมาย้อมสี ไปจนถึงการทอผ้า รวมทั้งขายผ้าด้วย ครบวงจรเบ็ดเสร็จ รายได้ไม่รั่วไหล ถ้ามาถึงนี่ก็ต้องมีติดไม้ติดมือกลับบ้านกันบ้างล่ะ ถ้ามาไม่ถึงก็ไว้หาซื้อตามงานแสดงสินค้าโอทอปได้นะ ไม่ธรรมดานะครับ ผ้าเค้าสวยจริงๆ



ขั้นตอนวิธีการย้อมผ้า นำเปลือกไม้มาต้มในน้ำเดือดเพื่อจะใช้สีจากเปลือก…




จากนั้นนำฝ้ายดิบลงไปย้อมสีในหม้อต้ม…




ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วนำไปตากแดด เป็นอันเสร็จวิธีย้อมสี…


จากนั้นนำมาทอ ขึ้นรูปเป็นเสื้อผ้าพร้อมขาย…

ลีลาการขาย…ไม่ธรรมดา


สาระวนเวียนกับพักใหญ่เลย ไปต่อกันที่สถานีถัดไปโฮมสเตย์บ้านผาบ่อง วันนี้เรานอนนี่แหละ มาถึงก็เลยเที่ยงไปแล้ว หิวมากจัดผัดไทก่อนเลย เจ้าถิ่นบอกว่าอร่อยสุดแล้ว ช่วงบ่ายที่นี่ร้อนใช่ได้เลยแฮะ นั่งพักกินลมห่มแดด ดูบรรยากาศท้องทุ่งนาตาก็จะใกล้ปิด รอแดดร่มๆกว่านี้ บ่ายนิดๆ มีการแสดงสดอีกแล้ว ครังนี้เป็นการอัดน้ำมันถั่วลิสง มางานนี้คุ้มจริงๆ




ผัดไทที่บ้านผาบ่องอร่อยจ๊ะ…





บรรยากาศท้องนาและไร่ถั่วบ้านผาบ่อง…


ระหว่างรอ เพื่อนมันบอกว่า ไปข้างนอกม่ะ เดี๋ยวพาไปซื้อของกินเล่นชื่อดังอีกอย่างของที่นี่ มันคือ ถั่วคั่วสายฟ้า เออ คือจะไม่ให้พักกันบ้างเลยเหรอ…เอา ไปก็ไป


ก็วนๆอยู่บ้านผาบ่องอะแหละ ออกจากโฮมสเตย์มาแป๊ปเดียวจริงๆ มันเป็นหน้าร้านเล็กๆตั้งอยู่ริมถนน มีถั่วขายหลายแบบมาก หน้าร้านนั้นอาจจะดูเล็กแต่เบื้องหลังนั้นมโหฬารงานถั่วจริงๆ ที่มาของสินค้าถั่วมากมายหลายแบบ ที่นี่เค้าทำกันสดๆใหม่ๆ คั่วกันเห็นๆ




คั่วกันใหม่ๆสดๆเลยจ๊ะ…



ป๊อปคอร์นก็มีนะ


ผลิตภัณฑ์มีหลากหลายมาก…


แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อลือชาด้านการปลูกถั่วเป็นอย่างมาก ก็ไม่ต้องแปลกใจไปไหนก็จะเจอผลิตภัณฑ์จากถั่วเยอะมาก ถั่วคั่วนี่เพียบเลย น้ำมันถั่วก็มี

ย้อนนนนน…กลับมาที่บ้านผาบ่อง อย่าเพิ่งงงนะ ตามมาเรื่อยๆ สนุกมากมารอบนี้


ถั่วลิสงเตรียมมากสกัดเป็นน้ำมัน…

บ่ายมากแล้วกลับมาก็มาชมการแสดงสดการอัดน้ำมันถั่วลิสง วิธีการก็คือการนำเอาถั่วลิสงไปบดให้ละเอียด จากนั้นก็นำไปอัด บีบ คั้น โดยเครื่องมือโบราณ อันนี้น่าสนใจตรงเครื่องอัดน้ำมัน ใช้หลักการตอกลิ่ม เป็นวิธีที่คนในสมัยก่อนใช้ทำกันจริงๆ มีเกือบทุกบ้าน แต่ปัจจุบันไม่มีเหลือแล้ว มีแต่เฉพาะเครื่องสาธิต เอาไว้โชว์เท่านั้น ซึ่งก็เป็นเครื่องที่ทำขึ้นมาใหม่ น่าเสียดายเนอะ ภูมิปัญญาพื้นบ้านในสมัยก่อนนี่ บางอย่างมันน่าทึ่งในความอัจฉริยะของคนจริงๆ




วิธีการบดถั่วให้ละเอียดในสมัยก่อน…




จากนั้นนำมาอัดด้วยเครื่องบีบแบบโบราณ ได้เป็นน้ำมันถั่วลิสง…


ก่อนเข้าที่พักได้แวะไปชมการเตรียมทำสิ่งของถวายพระ ของประดับตกแต่ง งานปอยส่างลอง จากฝีมือผู้เฒ่าผู้แก่บ้านผาบ่อง ดูแล้วประทับใจจัง เก็บภาพมาฝากจ๊ะ







จบแล้ววันนี้ เหนื่อย ร้อน แต่สนุกนะได้รับรู้เรื่องราวใหม่ๆเยอะดี บางทีการเดินทางไปพบเจอเรื่องราวบางอย่างที่เราคิดว่ามันไม่มีไร ไม่น่าสนใจ หรือมัวแต่ฝักใฝ่กับความสวยงาม ความฉาบฉวย ถ้าเราหันกลับไปเดินเรื่องมองหาความเป็นไปตามวิถีชีวิตชุมชน ในกาลก่อนก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินดีนะ

เข้าที่พักดีกว่า ที่พักมีหลายแบบนะ ไปนอนกับชาวบ้านเลย โฮมสเตย์แท้ๆหรือจะเป็นที่พักแยกกออกมา เป็นหลังๆ แบบบ้านพักส่วนตัวก็มี พอดีทางพรรคพวกจองไว้แบบบ้านพักส่วนตัวไว้ ก็ไม่เป็นไร บ้านพักก็ธรรมดา มีเตียงน้ำห้องน้ำในตัว มีแอร์เย็นฉ่ำ ทีวีก็ดูได้บ้างไม่ได้บ้าง นอนเหอะ เหนื่อยแล้ว พักผ่อนนอนหลับสนิท พรุ่งนี้เจอกัน ปอยส่างลอง…


เช้าวันใหม่สดใสเบิกบาน เพราะเมื่อคืนหลับลึกมาก คือหลับทีเดียวตื่นอีกทีเช้าเลย ไม่ต้องมาตื่นตอนดึก นอนไม่ค่อยหลับให้วุ่นวาย เพราะความไม่คุ้นชินกับสถานที่นอน ไม่ต้องเดาก็รู้เมื่อวานตะลอนทัวร์ซะเพลีย จะไปให้หมดพลังได้ไง เช้ามาเลยจัดข้าวต้มหมูแสนอร่อยที่บ้านผาบ่องนำเสนอเป็นเมนูแรกของวัน



วันนี้งานหลักคือการร่วมงานประเพณี ปอยส่างลอง งานประเพณีบุญใหญ่ประจำของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันนี้ผมให้ไปติดตามได้ที่นี่เลย

https://th.readme.me/p/16109

https://pantip.com/topic/37545231 ลงไว้ละเอียดพร้อมภาพประกอบสวยสดงดงมา…

ออกจากงานปอยส่างลอง เที่ยงกว่าๆ วันนี้ตั้งใจจะไปนอนที่ เฟิร์นริมธารรีสอร์ต แต่เวลายังพอมี เลยชวนกันไปพอกหน้าที่ภูโคลน แฉลบไปเที่ยวถ้ำปลา ต่อไปหมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า ไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวกระเหรี่ยงคอยาว กระเหรียงหูใหญ่ ที่วันนี้ชีวิตพวกเค้าเปลี่ยนไปมากอยู่เหมือนกันนะ วันนี้ที่นี่ไม่คึกคักคนมากมายเหมือนแต่ก่อนแล้ว ทัวร์น้อยลงไปเยอะ เพราะอะไรงั้นเหรอ…



แวะพอกหน้าที่ภูโคลน…








โฉบมาให้อาหารปลาที่ถ้ำปลานิดนึง…


ก็หน่วยงาน เอ็นจีวี เอ็นจีโอ เค้าบอกว่ามันไม่ดีไม่งาม การที่คนมาดูคนด้วยกัน มันแปลกเค้าบอกมันไม่ใช่ แต่…รายได้หลักของคนที่นี่ คือการขายของที่ระลึก ถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่ได้ทำไร่ทำนา ไม่ได้เป็นเกษตรกร ถ้าไม่มีคนมาเที่ยวก็ไม่มีรายได้ เฮ้ออออออ…ก็ไม่รู้ใครผิดใครถูก เราก็ไม่ได้รู้ลึกรู้จริงไปซะทุกเรื่อง แต่ที่แน่ๆ ปัจจัย 4 ทุกอย่างในทุกวันนี้ ต้องใชเงินซื้อเนอะ…จบ






ไม่ว่าเราหรือเขา ชีวิตยังต้องเดินต่อไปเนอะ…


เข้าที่พักดีกว่า ค่ำคืนสุดท้ายที่แม่ฮ่องสอน เราไปนอนกันที่ เฟิร์นริมธารรีสอร์ต รีสอร์ตที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ สายน้ำ ทุ่งนา และป่าเขา บรรยากาศดีงามที่สุด ถึงธรรมชาติเต็มๆ ห่างจากเมืองแม่ฮ่องสอน สิบห้านาที ก็อยู่บ้านผาบ่องนั่นล่ะจ๊ะ ที่นี่มองไปทางไหนก็เจอต้นไม้ ต้นไม้เยอะดีจริงๆ ถ้าจะไปชมตะวันตกดิน ก็มีวิวทุ่งนาให้ดูอีก สดชื่น…


เฟิร์นริมธารรีสอร์ต ที่พักแบบใกล้ชิดธรรมชาติ…




ห้องพักเหมือนนอนอยู่ท่ามกลางป่าเขา สดชื่นดีจัง…






จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก บรรยากาศท้องทุ่งนา ชอบมาก…


เช้าวันกลับบ้าน ต้องกลับแล้วนะ อย่างที่บอกไว้ตอนแรก มาเรือบินแต่ต้องกลับรถตู้ จะได้รับรู้รสชาติการเดินทางมาแม่ฮ่องสอน แบบต้องผ่านพันกว่าโค้งนะไม่อย่างงั้นเรียกว่ามาไม่ถึง เราออกมาตั้งแต่ เก้าโมงเช้า กะว่าเดี๋ยวแวะไปทานกลางทางที่ปาย บ่ายๆน่าจะถึงเชียงใหม่ แล้วค่อยนั่งเรือบินกลับเมืองหลวงอีกที


บ่อน้ำพุร้อนไทรงาม…

ยังๆไม่จบ ระหว่างทางแวะเที่ยว น้ำพุร้อนไทรงาม ถ้ามาจากแม่ฮ่องสอน อยู่ก่อนถึงปายประมาณ 18 กิโล ส่วนใหญ่ฝรั่งจะเช่ารถมอไซค์จากปาย มาเล่นน้ำกัน ก็วันที่เราไปเจอแต่ฝรั่งกับเด็กถิ่นเล่นน้ำกันอยู่…





น้ำอุ่นๆกำลังดี ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวนี่เยี่ยมเลย…


เข้าปายไปหาอะไรอร่อยๆกินที่ ร้านปังษณีย์ อาหารอร่อย ราคามาตรฐาน เจ้าของร้านเป็นกันเอง อิ่มแล้วก็นั่งรถหลับยาวเข้าเชียงใหม่…




แม่ฮ่องสอน ครั้งนี้สนุกมาก ได้เที่ยวในเมืองกับโดยรอบขอบเขตอาณาจักร ได้ไปชมประเพณีที่ดีงาม ได้รับรู้เรื่องราวความเป็นไปหลายๆอย่างที่น่าแปลกใจและน่าสนใจ ง่ายๆเลย มาชวนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนกันนะ

ลาทีไม่ลาจากไว้เจอกันใหม่จ้าว แม่ฮ่องสอน…



คน ฟ้า ป่า น้ำ

 วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.11 น.

ความคิดเห็น