โดยปกติแล้วผมมักจะไม่ค่อยได้เขียนรีวิวร้านอาหารที่อยู่นอกกรุงเทพซักเท่าไหร่ เพราะชีวิตส่วนมากของผมจะอยู่ในกรุงเทพเป็นหลักซะมากกว่า แต่วันนี้ผมมีร้านอาหารดีๆ ร้านนึงที่จะมาแนะนำให้กับคนที่อยู่ย่านรังสิต คลอง 4, ปทุมธานี, ธัญบุรี, นครนายก หรือผู้ที่ได้มีโอกาสผ่านไปแถวนั้นได้รู้จักกันครับ


ร้านอาหารแห่งนี้ชื่อว่า “ร้านทะเลทิพ คลอง 4” เป็นร้านอาหารทะเลที่มีเสน่ห์กับเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลายอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นร้านอาหารที่ทางเจ้าของร้านมีความใส่ใจสุขภาพของลูกค้าเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รังสิต คลอง 4 ปทุมธานี ใกล้ๆ กับร้านบ่อเงิน ร้านชื่อดังในย่านนั้นครับ ใครที่เคยเดินทางไปแถวนั้นอยู่แล้วก็น่าจะดูแผนที่ด้านล่างนี้เข้าใจ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยไปมาก่อน ผมแนะนำให้เข้า Google map ตามลิงก์นี้ไปเลยครับ http://bit.ly/2r6EiPq รับรองว่าหาร้านไม่ยาก เพราะแม้ร้านจะไม่ติดถนนหลักต้องเลี้ยวเข้าซอยประมาณ 30 เมตร แต่ป้ายชื่อร้านบริเวณหน้าซอยก็เด่นชัดสะดุดตามากพอควรครับ

นี่เป็นหน้าตาของร้านทะเลทิพ คลอง 4 ครับ เป็นบ้าน 2 ชั้นที่มีดีไซน์แบบไทยล้านนา ดูแล้วสวยงามดี และด้วยความที่ร้านมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้นี่แหละก็เลยทำให้เราสามารถมองเห็นร้านได้ชัดเจนตั้งแต่หน้าปากซอยเลยครับ

ร้านทะเลทิพ คลอง 4 นี้จะเปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธนะครับ โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึง 22.00 น. ใครที่อยากทานมื้อเที่ยง มื้อบ่าย มื้อเย็นก็สามารถแวะเวียนมาได้เลย โดยที่ข้างร้านจะมีลานจอดรถที่กว้างขวาง สามารถจอดรถได้ประมาณ 20 คันอยู่ ใครไปใครมาร้านนี้นี่ก็จอดรถได้สบายมากๆ ไม่ต้องปวดหัวเรื่องหาที่จอดรถเลยครับ

ภายในร้านแห่งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้นนะครับ ชั้นล่างจะไว้รับรองลูกค้าทั่วๆ ไป โดยจากที่ผมลองกะด้วยสายตาแล้วน่าจะสามารถรองรับคนได้ประมาณ 50 คน ส่วนชั้นบนของร้านจะเป็นพื้นที่ที่สำรองไว้สำหรับการจัดเลี้ยงพิเศษที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือกรณีที่ลูกค้านั่งชั้นล่างไม่พอ โดยพื้นที่ชั้นบนของร้านก็จะสามารถจุได้อีกประมาณ 50 คนครับ

สำหรับโซนที่นั่งภายในร้านที่เราเห็นภาพไปเมื่อกี้นี้จะติดแอร์หมดเลยนะครับ เย็นสบาย สามารถนั่งได้นานๆ ไม่ต้องกลัวร้อนเลย ส่วนบริเวณรอบๆ ร้านก็จะมีที่นั่งชิวๆ ในสวน สำหรับคนที่อยากจะสูบบุหรี่หรือต้องการสัมผัสบรรยากาศภายนอก รวมไปถึงภาพการ์ตูนของคุณชัย ราชวัตร ที่เขียนบอกไว้ว่า อย่าบอกใครว่ารู้จักร้านอร่อย ถ้ายังไม่เคยมาร้านทะเลทิพ”

.

.

เขียนมาซะขนาดนี้ เดี๋ยวเราก็ต้องไปพิสูจน์กันซักหน่อยเนอะว่าจริงหรือเปล่า

สำรวจร้านกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราไปดูเมนูกันดีกว่า โดยหน้าแรกของเมนูอาหารของร้านทะเลทิพ คลอง 4 นั้นจะเป็นเมนูเด่นเมนูแนะนำของร้าน ส่วนหน้าถัดๆ ไปก็จะเป็นเมนูอาหารแยกตามประเภทของวัตถุดิบ เช่น กุ้งแม่น้ำ, ปลาอินทรีย์, ปลากะพง, หอยนางรม, หอยเชลล์ ก็ถือว่าเป็นเมนูร้านอาหารที่แยกหมวดหมู่ออกมาได้แปลกกว่าหลายๆ ที่เหมือนกัน ใครสนใจอยากทานวัตถุดิบประเภทไหนก็ลองเปิดเลือกดูนะครับ แต่ถ้าใครคิดไม่ออกก็เลือกจากหน้าแรกที่เป็นเมนูแนะนำเลยก็ได้ครับ แต่ละอย่างเด็ดมาก ><

อ้อ สำหรับร้านนี้จะเน้นขายแค่เนื้อจากสัตว์น้ำเท่านั้นนะครับ พวกหมู, เนื้อ, ไก่ จะไม่มีอยู่ในเมนูเลย ดังนั้นใครที่แพ้อาหารทะเลหรือทานอาหารประเภทนี้ไม่ค่อยได้ก็คงจะไม่ถูกกับเมนูอาหารร้านนี้ซักเท่าไหร่ครับ และนี่ก็คือรายการอาหารทั้งหมดที่ผมกับต๋งทานในวันนั้นครับ

  • ยำสามกรอบ ราคา 250 บาท
  • ปลาแรดจี๊ด ราคา 390 บาท
  • แกงส้มไข่ปลาริวกิว ราคา 350 บาท
  • กล้วยหอมซีฟู้ด ราคา 150 บาท
  • เมรีขี้เมา ราคา 250 บาท
  • ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น ราคา 180 บาท
  • สละลอยแก้ว 40 บาท
  • เฉาก๊วย ราคา 35 บาท
  • รากบัวแปะก๊วยน้ำลำไย ราคา 40 บาท

ซึ่งในระหว่างที่ผมกำลังนั่งรออาหารอยู่นั้น ผมก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณทิพ (เจ้าของร้าน) และมันเป็นการพูดคุยที่สนุกมาก ทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องประวัติคร่าวๆ ของคุณทิพที่เค้าคลุกคลีอยู่ในวงการอาหารทะเลมานานจนทำให้เค้ารู้จักกับคนที่มีวัตถุดิบดีๆ เยอะ จนไปถึงเรื่องความตั้งใจจริงในการทำร้านอาหารแห่งนี้ของเค้าที่ต้องการให้อาหารที่ร้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เค้าจึงใช้เวลาในการคิดค้นสูตรอาหารต่างๆ ภายในร้านกับเชฟรวมถึงเตรียมตัวต่างๆ นานกว่า 1 ปีก่อนที่จะเปิดร้านอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้คุณทิพยังใส่ใจในสุขภาพของลูกค้าทุกคนด้วยการคิดว่าอาหารทุกจานที่ทำให้ลูกค้าทานนั้นต้องเป็นอาหารที่ตัวเค้าสามารถทานเองได้ และนั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เค้าลงทุนซื้อเครื่องทำน้ำแข็งมาไว้ที่ร้าน, เลือกใช้ภาชนะที่เป็นทองเหลืองทั้งหมดในเมนูที่ต้องโดนความร้อนสูง ทั้งๆ ที่ราคาภาชนะทองเหลืองนั้นสูงกว่าภาชนะอื่นๆ มาก รวมไปถึงการมีแผนที่จะปลูกผัก, เลี้ยงไก่ไข่เองในสวนของเค้าเพื่อที่จะได้ควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด และสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าของเหล่านั้นปราศจากสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

.

.

.

ผมนี่ยอมใจพี่เค้าจริงๆ ความตั้งใจ ความจริงใจกับลูกค้านี่สุดมากๆ T_T

และจากการที่ผมได้พูดคุยกับคุณทิพทำให้ผมได้ทราบมาเพิ่มด้วยว่า ที่ร้านทะเลทิพ คลอง 4 นั้น จะมีอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อนอกจากที่ผมได้ทานในวันนี้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะปูไข่, กุ้งแชบ๊วย และหอยนางรมสุราษฎร์ ที่มีขนาดใหญ่โตสุดๆ แถมราคายังไม่แพงด้วยครับ อย่างหอยนางรมสุราษฎร์ขนาดเท่าฝ่ามือนั้นก็จะขายอยู่ที่ตัวละประมาณ 80 บาทเท่านั้นเอง เพียงแต่เมนูอย่างปูไข่, กุ้งแชบ๊วย และหอยนางรมนั้นจะไม่ได้มีทุกวัน จะเข้ามาเป็นช่วงๆ เข้ามาแป๊บเดียวก็หมดเพราะลูกค้าสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเสียดายสุดๆ ที่วันนี้ผมกับต๋งพลาดโอกาสในการชิมวัตถุดิบทั้ง 3 อย่างนี้ไป และนั่นก็ทำให้เราทั้งสองคนหมายมั่นไว้ในใจว่าถ้าเราได้มีโอกาสผ่านมาแถวนี้อีกเมื่อไหร่เราจะกลับมาแก้แค้นทั้ง 3 อย่างนี้ให้ได้!!


หมายเหตุ : สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะทานอาหารที่ร้านนี้ และอยากจะเช็ควัตถุดิบต่างๆ ในวันนั้น ก็สามารถสอบถามได้ที่แฟนเพจร้านทะเลทิพ คลอง 4 หรือที่เบอร์ 02-5777123 และเบอร์ 061-5519598 ได้เลยครับ

หลังจากที่ผมพูดคุยกับคุณทิพได้ประมาณ 15 นาที อาหารต่างๆ ของผมในมื้อนี้ก็ทยอยมาเสิร์ฟครับ และแน่นอนว่าผมกับต๋งก็คงต้องขอยุติการสนทนาที่แสนสนุกครั้งนี้ไว้ก่อน เพื่อที่เราจะได้ไปถ่ายรูปและชิมอาหารในมื้อนี้กันครับ ><

เริ่มจากรายการแรก “ยำสามกรอบ” รายการนี้เป็นรายการที่ผมต้องแอบสารภาพตามตรงว่าตอนที่ผมดูราคาอาหารในเมนูนั้น นี่เป็นรายการที่ผมคิดว่าราคาค่อนข้างสูงกว่าเพื่อนและสูงกว่าชื่อของมันพอควรเมื่อเทียบกับราคาของร้านอื่นๆ แต่พอทางร้านได้บอกว่ายำสามกรอบของเค้าไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะโดยปกติแล้วยำสามกรอบจะใช้ของแห้งอย่างกุ้งแห้ง, ปลาหมึกแห้งมาเป็นส่วนประกอบหลักกัน แต่ยำสามกรอบของทางร้านทะเลทิพ คลอง 4 จะใช้ของสดมาทำทั้งหมดทำให้ราคาอาจจะดูสูงกว่าหลายๆ ที่ แต่ก็แลกมาด้วยรสชาติและคุณภาพที่ดีกว่า


เอาวะ.....ไหนๆ ร้านก็บอกมาแบบนี้แล้วก็คงต้องลองดูซะหน่อยว่ารสชาติกับคุณภาพจะสมกับราคาที่ตั้งไว้หรือเปล่า ซึ่งหลังจากที่ผมได้เห็นหน้าตาของยำสามกรอบที่นี่ ผมก็ต้องยอมรับครับว่าสมแล้วที่ทางร้านตั้งราคาไว้แบบนั้น ยำสามกรอบที่ประกอบไปด้วยกุ้งสด, ปลาหมึกสดแบบนี้ก็พึ่งจะเคยเห็นที่นี่เป็นครั้งแรกนี่แหละครับ โดยนอกจากภายในจานจะประกอบไปด้วยกุ้งแชบ๊วย, ปลาหมึกหอม, ปลาอินทรีย์แล้ว ก็ยังมีกระเพาะปลาแห้งอีกด้วย ส่วนรสชาตินั้นก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลย อร่อย เปรี้ยวนิดๆ กำลังดีครับ

รายการถัดมา “ปลาแรดจี๊ด” เมนูเด็ดของทางร้านที่ใครมาก็ต้องสั่ง โดยอาหารจานนี้เป็นเมนูที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาใหม่ตอนที่เข้าร่วมรายการ The Dish เมนูทอง และก็สามารถพิชิตใจกรรมการคว้ารางวัลมาได้ครับ


ลักษณะของอาหารจานนี้จะเป็นปลาแรดตัวโตที่ผ่านการแกะเนื้อและทอดกรอบมาแล้ว จากนั้นก็ราดด้วยน้ำพริกสูตรพิเศษของทางร้านที่ให้อารมณ์ความรู้สึกคล้ายๆ กับน้ำพริกกะปิ เสิร์ฟพร้อมกับชะอมทอดและผักอีกกว่า 10 ประเภท ทั้งกระชาย, มะระขี้นก, แตงกวา, กระเจี๊ยบ, มะเขือ, ถั่วฝักยาว เป็นต้น คุณภาพของผักและความสวยงามนั้นดีเลยครับ ใครที่ชอบทานผักกับน้ำพริกน่าจะถูกใจสุดๆ ส่วนรสชาติของปลากับน้ำพริกที่ราดมานั้นก็ดีมากๆ กินเผินๆ เหมือนจะไม่เผ็ดแต่พอกินไปเรื่อยๆ 3-4 ชิ้นนี่ต้องเริ่มซู๊ดปากเบาๆ จนไม่สามารถกินเพียวๆ ได้แล้วต้องกินกับผักหรือไม่ก็ข้าวสวยแทนครับ


สำหรับเมนูนี้ผมแนะนำเลยนะครับว่าใครที่มาร้านนี้ครั้งแรกควรต้องสั่งเลย ราคา 390 บาทเมื่อเทียบกับขนาดปลาแรดที่มีน้ำหนักตัวประมาณ 0.9-1 กิโลกรัมและผักที่ได้ คุ้มมาก ปลาตัวใหญ่ เนื้อเยอะมากครับ มากจนผมกับต๋งกินไม่หมดต้องห่อกลับมาทานที่บ้านอีกครึ่งตัวเลย @_@


อ้อ สำหรับปลาแรดที่ทางร้านนำมาใช้ทำเมนูนี้จะเป็นปลาแรดเลี้ยงจากจังหวัดกาญนบุรีนะครับ โดยปลาแรดของกาญจนบุรีนี้ถือเป็นปลาแรดที่มีรสชาติดีติดอันดับต้นๆ เลย และพอเป็นปลาเลี้ยงในกระชังจะก็ได้ในเรื่องของคุณภาพปลาที่ดี รวมถึงไม่ค่อยมีกลิ่นคาวด้วยครับ ส่วนเนื้อปลาที่ทอดมานั้นจะมีบางชิ้นที่มีก้างอยู่ด้วย ยังไงเวลาทานก็ระวังด้วยนะครับ โดยจากที่ผมทานไปหมดตัวก็เจอชิ้นที่มีก้างอยู่ 2-3 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งหากทางร้านสามารถเอาก้างออกได้หมดทุกชิ้นนี่จะเป็นอะไรที่ดีและแจ่มมากๆ เลยครับ และสำหรับใครที่อยากจะชมคลิปรายการ The Dish เมนูทอง ที่คุณทิพได้นำเมนูปลาแรดจี๊ดไปเข้าแข่งขันก็สามารถกดดูได้ที่ลิงก์นี้เลยครับ http://bit.ly/2FqVmnB

มาต่อกันที่รายการที่สาม “แกงส้มไข่ปลาริวกิว” จานนี้ต๋งชอบมากครับ ลักษณะจะเป็นแกงส้มของทางใต้ที่มีรสชาติจัดจ้านและมีการใส่หน่อไม้และส้มจี๊ดลงไป โดยขนาดของไข่ปลาริวกิวที่อยู่ในชามนั้นใหญ่สุดๆ ใหญ่แบบใครที่ชอบทานนี่ต้องน้ำลายไหลและฟินแน่ๆ


สำหรับจานนี้ผมเองไม่ได้ทานมากเท่าไหร่นะครับ คือลองชิมแค่นิดเดียวเท่านั้นให้พอรู้รสเพราะโดยปกติผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทานแกงส้มอยู่แล้ว แต่ต๋งผู้ซึ่งชอบทานแกงส้มและอาหารสไตล์นี้บอกเลยว่านี่คือสุดยอดของเมนูในวันนี้เลย เธอประทับใจมากกกก ><


หมายเหตุ : ทางร้านทะเลทิพ คลอง 4 จะเลือกใช้ส้มจี๊ดเป็นการให้ความเปรี้ยวในการปรุงอาหารต่างๆ นะครับ ยกเว้นเมนูต้มยำที่จะใช้มะนาว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่หาร้านที่ทำแบบนี้ได้น้อยมากๆ เนื่องจากส้มจี๊ดเป็นอะไรที่หายากมาก และหลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าในน้ำหนักที่เท่ากันปริมาณวิตาซีนในส้มจี๊ดจะสูงกว่ามะนาวประมาณ 10% เลยครับ

ต่อกันที่รายการที่สี่ “กล้วยหอมซีฟู้ด” กินอาหารเผ็ดๆ ที่มีรสจัดกันมาหลายจานแล้ว รายการนี้ผมก็เลยเอาใจคนที่ไม่ชอบทานเผ็ด ด้วยเมนูสุดพิเศษที่นำเอากล้วยหอมมาผสมกับปูและกุ้งบดจากนั้นก็นำไปชุบเกล็ดขนมปังทอดครับ เป็นอาหารที่ผมว่ารสชาติดีและเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย โดยเฉพาะเมื่อเรากินกับน้ำจิ้มบ๊วยสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงเองครับ


สำหรับรายการนี้ผมแนะนำเลยนะครับสำหรับคนที่อยากหาอะไรทานเล่น ต้องการทานอะไรที่ช่วยลดความเผ็ด หรือครอบครัวที่มีเด็กไปด้วยควรสั่งมาลองทาน และก็แน่นอนว่ารายการนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกินกล้วยครับ เพราะทั้งกลิ่นและรสชาติของกล้วยนั้นเด่นมาก เด่นจนทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกถึงความเป็นปูและกุ้งเท่าไหร่เลย

ต่อกันที่ “เมรีขี้เมา” อีกหนึ่งรายการอาหารที่ผมว่าแปลกมากและไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ลักษณะของเมนูนี้จะเป็นหม้อไฟที่มีความผสมกันระหว่างต้มข่ากับต้มยำ ภายในหม้อจะมีเนื้อปลาทับทิมสไลด์ที่ผ่านการทอดแล้วผสมกับเห็ดนางรมหลวง (เห็ดออรินจิ) แล้วก็เครื่องต่างๆ อีกมากมาย รสชาติรวมๆ ของรายการนี้จะออกแนวหวานๆ มันๆ และเผ็ดนิดๆ ถือว่าเป็นแกงอีกชนิดนึงที่อร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ใครที่เบื่อกับการทานแกงหรือต้มยำที่มีขายตามร้านอื่นทั่วๆ ไป ก็สามารถมาลองเมนูนี้ที่ร้านทะเลทิพ คลอง 4 ได้ครับ แต่ในการทานอาจจะต้องระวังก้างที่อยู่ในเนื้อปลานิดนึงนะครับ เพราะมีก้างค่อนข้างเยอะเลย


หมายเหตุ : เมนูนี้ทางร้านจะเสิร์ฟเป็นกระทะร้อน ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าภาชนะที่ร้านเลือกใช้จะเป็นทองเหลืองอย่างที่ผมได้บอกไว้ในข้างต้น ซึ่งภาชนะพวกนี้จะมีความหนักและราคาสูงมาก แต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยในการใช้งานครับ


ปิดฉากอาหารคาวด้วย “ส้มตำสาหร่ายพวงองุ่น” อีกหนึ่งเมนูที่แทบจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเหมือนกัน โดยในการเสิร์ฟเมนูนี้จะแยกมาเป็น 2 จาน จานแรกจะเป็นสาหร่ายพวงองุ่นที่สวยงามดูน่ากิน และมีปริมาณเยอะจนล้นจานเลยครับ ส่วนจานที่สองจะเป็นผอบน้อยๆ ที่ด้านในมีส้มตำอยู่ ซึ่งส้มตำนี้จะอัดแน่นไปด้วยเครื่องที่จัดจ้านและรสชาติที่เผ็ดใช้ได้ ดังนั้นเวลากินเราจึงควรกินกับสาหร่ายพวงองุ่นที่เสิร์ฟมาคู่กัน เพื่อให้รสชาติที่ได้ไม่เผ็ดจนเกินไปครับ


เมนูนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผมแนะนำเลยครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบทานสาหร่ายพวงองุ่น ผมว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากนะ จานละ 180 บาท แต่ได้กินสาหร่ายพวงองุ่นกรอบๆ อร่อยๆ จากโครงการหลวงของพระราชินี ส่วนส้มตำนั้นก็อร่อยและอัดแน่นไปด้วยเครื่องที่ทางร้านจัดมาเต็ม โดยเฉพาะกุ้งแห้งบางปะกงที่ตัวใหญ่กว่ากุ้งแห้งทั่วๆ ไป

ตอนนี้เราก็ชิมของคาวไปครบทุกเมนูแล้วนะครับ เดี๋ยวเราไปชิมของหวานกันต่อเลยจะได้ไม่ขาดตอนกัน โดยในส่วนของของหวานนั้นทางร้านทะเลทิพ คลอง 4 ก็มีให้บริการหลายอย่างเลย ตั้งแต่ราคาถ้วยละ 35 บาท ไปจนถึง 65 บาท และวันนี้พวกผมเลือกสั่งมาทาน 3 อย่างได้แก่ สละลอยแก้ว, เฉาก๊วย และรากบัวแปะก๊วยน้ำลำไย

ในเรื่องของรสชาตินั้น ของหวานทั้ง 3 รายการรสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ โดยเฉพาะเฉาก๊วยนี่เป็นอะไรที่ผมอยากจะบอกทุกคนเลยว่าห้ามประมาทหรือมองข้ามรายการนี้ไปนะครับ เฉาก๊วยเหนียวหนึบ หวานกำลังดี กินแล้วชื่นใจมาก ส่วนถ้าใครชอบทานมะยงชิดก็อย่าลืมสั่งมะยงชิดลอยแก้วมาทานนะครับ เพราะทางร้านบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งในเมนูเด็ดเหมือนกัน แต่ในวันที่ผมไปนั้นมันหมดพอดีครับ T____T สะเทือนไตอดกินหลายอย่างเลย สงสัยต้องได้กลับมาซ่อมอีกแน่ๆ

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่ผมได้ไปพบเจอมาจากการไปทานอาหารที่ร้านทะเลทิพ คลอง 4 ปทุมธานีครับ และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ผมก็ขอสรุปการรีวิวออกมาเป็นหัวข้อต่างๆ ตามนี้นะครับ


วันที่รับประทาน : วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2561
ช่วงเวลา : 18.00 – 20.30 น.
จำนวน : 3 คน


รสชาติอาหาร : เป็นร้านอาหารไทยและอาหารซีฟู้ดที่ทำให้ผมกับต๋งประทับใจรสชาติร้านนึงเลยครับ โดยจุดที่เราทั้งสองคนประทับใจมากก็คือเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบที่ทั้งสดและใหญ่ นอกจากนี้รสชาติของอาหารส่วนใหญ่ก็อร่อยถูกปาก จัดจ้านในรายการที่ควรจัดจ้าน กลมกล่อมในรายการที่ควรจะกลมกล่อม และยิ่งไปกว่านั้นการที่ทางร้านมีเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในหลายๆ รายการก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้พวกเราในวันนี้ครับ


ความหลากหลายของอาหาร : ถือว่ามีความหลากหลายของอาหารเยอะเลยครับ เพราะถึงแม้ทางร้านจะไม่มีหมู, ไก่, เนื้อ บริการเหมือนกับหลายๆ ร้าน แต่แค่ในส่วนของวัตถุดิบจากทะเลและแม่น้ำอย่างแมงดาทะเล, กุ้ง, หอย, ปู, ปลา แล้วก็ปลาหมึกนั้นก็น่าจะทำให้หลายๆ คนที่ชอบทานอาหารทะเลสดๆ คุณภาพดีถูกใจมากพอควรแล้ว เพราะวัตถุดิบเหล่านี้สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายอย่างมาก แต่ทั้งนี้ด้วยความที่บางวันทางร้านเองก็มีวัตถุดิบไม่ครบทุกรายการก็เลยอาจจะทำให้เราไปแล้วอดทานในบางรายการแบบผมได้ครับ


ความสะอาดของร้านและบรรยากาศ : สถานที่ดูดีเลยครับ แม้จะไม่ใช่บ้านเรือนไทยแท้ๆ แต่ด้วยรูปทรงก็ทำให้ดูสะดุดตา น่านั่ง ภายในร้านก็มีการติดแอร์ โต๊ะเก้าอี้ต่างๆ ก็อยู่ในสภาพที่ดีไม่ชำรุด ส่วนความสะอาดทั้งภายในร้านและห้องน้ำก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ เรียกว่าหากเราขับรถผ่านไปแถวนั้นแล้วอยากหาร้านที่ติดแอร์เย็นๆ ไว้ใจได้ในเรื่องของความสะอาด และมีห้องน้ำดีๆ ให้เข้า ก็สามารถเลี้ยวไปที่นี่ได้เลย


การบริการของพนักงาน : ข้อนี้ผมให้อยู่ในระดับกลางๆ แล้วกันนะครับ คือพนักงานที่ร้านเองก็ไม่ได้มีการทำอะไรที่ผิดพลาดในวันที่ผมไปนะครับ และถ้าเทียบกับร้านอาหารข้างนอกทั่วๆ ไปก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานเลย แต่ถ้าเทียบกับร้านอาหารในโรงแรมหรือคนที่มีมาตรฐานสูงซักหน่อยก็อาจจะติดอะไรนิดๆ หน่อยๆ ได้ ดังนั้นผมก็เลยให้อยู่ในระดับกลางๆ แล้วกันครับ


ความสะดวกของการเดินทาง : เป็นเรื่องที่ต้องบอกเลยว่าใครที่ไม่มีรถนี่คงหมดสิทธิ์ไปที่ร้านนี้แน่ๆ เพราะร้านอยู่ที่คลอง 4 ปทุมธานี ดังนั้นเรื่องรถขนส่งสาธารณะต่างๆ คงไม่มี แต่สำหรับใครที่ขับรถไปเองแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาทั้งในเรื่องที่จอดรถหรือการหาร้าน เพราะป้ายร้านชัดเจน, ถนนที่ผ่านหน้าร้านเป็นถนนใหญ่ รวมไปถึงที่จอดรถของร้านก็เยอะ สามารถจอดรถได้อย่างสบายๆ ครับ


ความคุ้มค่า : ผมไม่แน่ใจนะครับว่าถ้าเทียบราคากับร้านอาหารที่อยู่ในละแวกเดียวกันแล้ว ราคาของร้านทะเลทิพ คลอง 4 นี่จะสูงกว่าร้านแถวๆ นั้นหรือเปล่า เพราะผมเองก็แทบไม่เคยมีประสบการณ์การกินอาหารในร้านแถวนั้นเลย ผมก็เลยจะเทียบกับความรู้สึกของผมเองว่าเมื่อได้กินอาหารที่มีคุณภาพแบบนี้ ปริมาณแบบนี้ และคุณภาพแบบนี้ ผมรู้สึกอย่างไร ซึ่งผลที่ได้นั้นผมกับต๋งคิดเห็นเหมือนกันนั่นก็คือ ร้านนี้เป็นร้านที่มีความคุ้มค่าของราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ หลายๆ เมนูถ้าใครได้มีโอกาสลองชิมหรือเห็นด้วยตาจะรู้เลยว่าราคาแบบนี้เหมาะสมแล้ว ทั้งแกงส้มไข่ปลาริวกิวที่ขนาดของไข่ปลาใหญ่มาก ปริมาณที่ให้มาก็เยอะ หรือส้มตำสาหร่ายพวงองุ่นที่ได้สาหร่ายพวงองุ่นเยอะมาก รวมไปถึงปลาแรดจี๊ดที่มีเนื้อปลากับผักเคียงเยอะจนผมทานไม่หมดและต้องขอห่อกลับบ้านครับ @_@


สรุป : สำหรับใครที่ได้มีโอกาสเดินทางไปแถวรังสิต คลอง 4, ปทุมธานี, ธัญบุรี, นครนายก หรือเป็นคนที่บ้านอยู่แถวนั้นอยู่แล้ว ร้านทะเลทิพ คลอง 4 เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารซีฟู้ดและอาหารไทยที่ผมคิดว่ามีรสชาติอาหารที่ดี มีเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และมีราคาที่เหมาะสมร้านนึงเลยครับ นอกจากนี้ในเรื่องของสถานที่จอดรถหรือที่นั่งภายในร้านก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ใครที่ผ่านไปแถวนั้นและต้องการหาร้านอาหารที่สะอาด, ไว้ใจได้ในเรื่องของคุณภาพอาหาร, จอดรถสะดวกสบาย และไม่ได้มีปัญหากับการกินอาหารที่ไม่มีส่วนประกอบของหมู, ไก่ และเนื้อ ก็สามารถพิจารณาร้านนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณได้เลยครับ


ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ สำหรับใครที่อยากจะชมคลิปการทานอาหารครั้งนี้ของผมก็สามารถกดดูที่ด้านล่างได้เลยครับ ส่วนใครที่ต้องการติดตามเรื่องราวของการกินและเที่ยวของผมกับต๋งแบบใกล้ชิดก็สามารถกดติดตามได้ที่เพจ “ภรรยาหา สามีใช้” ได้เลย และสุดท้ายนี้สำหรับใครที่ต้องการจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารแห่งนี้เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปที่ช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Fanpage : ร้านทะเลทิพ คลอง 4 ปทุมธานี

Tel : 02-5777123, 061-5519598


ภรรยาหา สามีใช้

 วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.22 น.

ความคิดเห็น