วันเสาร์มักจะเป็นวันพักผ่อนของใครต่อใคร หลาย ๆ คนอาจเลือกที่จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน หรือไปเที่ยวพักผ่อนในที่ต่าง ๆ แต่บ้านนี้ชอบไปกินค่ะ และวันนี้เราก็มาลองกิน SATURDAY BRUNCH ของห้องอาหาร Prime+ Prime บนชั้น 7 ของ Compass SkyView Hotel กันดูค่ะ

Compass SkyView Hotel นี่อยู่ในซอยสุขุมวิท 24 เข้าซอยไปนิดหน่อย อยู่ขวามมือ (หันหลังให้ถนนสุขุมวิท) ถือว่าเป็นโรงแรมใหม่นะคะ เพราะเท่า ๆ ที่ถามเจ้าหน้าที่ว่าเปิดดำเนินการได้แค่ 2 ปีเท่านั้นเอง คราวนี้กลับมาที่ SATURDAY BRUNCH ของเรากันบ้างค่ะ SATURDAY BRUNCH ที่เราแวะมาวันนี้อยู่ที่ชั้น 7 จัดที่ห้องอาหาร ไพร์ม ไพร์ม หรือ Prime+Prime ซึ่งจะจัดเฉพาะในวันเสาร์ (นั่นหละถึงเรียก SATURDAY BRUNCH ไงแก) ส่วนวันอื่น ๆ นั้น ห้องอาหาร Prime+Prime จะให้บริการเป็น สเต็กเฮ้าท์

ขึ้นมาถึงชั้น 7 แล้ว

ทันทีที่ไปถึง น้องพนักงานต้อนรับก็ส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจให้ทันที พร้อมให้บริการสอบถามจำนวนคน แจ้งอัตราค่าบริการ และบริการเสริมต่าง ๆ พาไปเลือกโตีะเหมาะ ๆ ให้กับคนทั้งบ้าน

ส่วนบริการเครื่องดื่ม อันมีน้ำผลไม้ สปาร์คกิ้งค์ไวน์ และอื่น ๆ

เครื่องปรุงและเครื่องจิ้ม ซอสต่าง ๆ

พอได้โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ตัวใครตัวมันค่ะ เดินสำรวจเสียหน่อยว่ามีอะไรให้กินบ้าง

สปาร์คกิ้งค์ไวน์ ที่มีไว้ให้บริการ

มุมที่นั่งน่าสบาย กับการตกแต่งสวย ๆ คลาสิก

การให้บริการอาหารที่นี่ จะจัดเป็นซุ้มอาหาร หรือเคาเตอร์อาหาร รวมทั้งครัวร้อน ครัวเย็นไว้บริการเป็นสัดส่วน เมื่อเราเข้ามา และเดินผ่านส่วนของเครื่องดื่มมาแล้วนั้น เราจะเจอกับ ส่วนของสเต็ก ซึ่งให้บริการเป็นส่วนของ Rib หรือ ซี่โครง ที่ให้ความนุ่ม และชุ่มฉ่ำกำลังดี พร้อมด้วยซอสเห็ด และซอสพริกไทดำให้เลือกตามชอบ มีเจ้าหน้าที่คอยยืนให้บริการอย่างเป็นกันเอง

เนื้อชิ้นใหญ่ ส่วนซี่โครง มีความนุ่ม และชุ่มชื่น ไม่เหนียว กินกับซอสเห็ดหรือซอสพริกไท
จิ้มกับ Mustard อร่อยมาก

หั่นเป็นชิ้นกำลังดี

ตามด้วยเครื่องเคียง และซอสสูตรพิเศษ

Mustard ประเภทต่าง ๆ

ถัดจากนั้นจะเป็นเคาเตอร์อาหารอิตาเลี่ยน คราวนี้ได้เชฟใหญ่มาช่วยปรุงให้เรากิน ประเภทเครื่องเส้นสปาเกตตี้นี่ต้องตรงนี้เลย เพราะนอกจากจะบริการสปาเก็ตตี้ซอสต่าง ๆ แล้วยังให้บริการ Risotto di riso หรือ ข้าวรีซอตโต้ อีกด้วย

เชฟกำลังปรุงสปาเกตตี้

"ข้าวรีซอตโต้" ในบ้านเราหาบริการแบบบุฟเฟ่ต์ไม่ค่อยได้ค่ะ เพิ่งจะเห็นที่นี่ที่มีไว้ให้บริการด้วย หลังจากปรุงแล้วเขาจะเอาลงไปคลุกที่เนยแข็งก้อนใหญ่ให้ได้รส และกลิ่นที่มีความหอม นุ่ม หวานมันละมุนลิ้น เนื้อข้าวที่นุ่มและเนียนเข้ากันเป็นอย่างดีกับเครื่องปรุงต่าง ๆ โดยเฉพาะส่วนผสมหลักที่เป็นกุ้ง และปลาแซลมอน

ถัดจากเคาเตอร์บริการอาหารทั้งสองเราจะเจอกับบาร์น้ำ ซึ่งตอนนี้ให้บริการขนมหวานด้วย มีทั้งขนมไทย ไอศครีม มูส และครีมชีสประเภทต่าง ๆ แต่ที่ชอบใจมาก คือ มีบริการแพนเค็กค่ะ เป็นแพนเค็กที่ทำจากเครื่อง ที่ชอบและติดใจมาก เพราะแป้งเนื้อนุ่ม ๆ ราดผลไม้แห้งต่าง ๆ ตามชอบ ใส่เนย และโรยน้ำผึ้ง หรือถ้าใครชอบ น้ำเชื่อมเมเบิ้ลก็เลือกได้ค่ะ

ครีมชีส และมูสต่าง ๆ อร่อยมากบอกเลย

ข้าง ๆ กันนั้นก็มีเคาเตอร์เครปค่ะ

ถึงแม้นจะดูเป็นขนมที่ค่อนข้างธรรมดา แต่เครื่องเคราต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ให้ ไม่ธรรมดาเลยนะคะ แถมเชฟยังยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจให้บริการ และตั้งใจมาก เพราะฉะนั้น ขนมทุกจานก่อนที่จะเสิร์ฟออกมาจากมือเชฟจึงโปรยเสน่ห์เอาไว้ด้วยความอร่อย

เลยไปหน่อยเป็นเคาตเตอร์ออเดิร์ฟค่ะ ประเภทสลัด ยำ ต่าง ๆ รวมถึงอาหารทะเลพวกกุ้ง หอย และน้ำจิ้มสุดแซป พิซซ่า ขนมปังกับซุปเห็ดข้นก็มีให้บริการที่มุมนี้

แฮมประเภทต่าง ๆ เช่น พลาม่าแฮม สุดอร่อย รสชาติกำลังดีไม่เค็มเวอร์ กินเล่น ๆ สบาย ๆ

เครื่องสลัดทั้งหลากหลาย และสดใหม่

ยำประเภทต่าง ๆ กินเรียกน้ำย่อย

Blue Mussel หรือ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตัวโต ๆ

จุ้ง เอร้ย !!! ไม่ใช่ กุ้ง ตัวโต ๆ แกะง่าย สด หวาน

มาถึงตรงนี้แล้วต้องบอกเลยว่า ที่พลาดไม่ได้อีกเมนูนึงก็คือ พิซซ่า ใช่ค่ะ พิซซ่า ของที่นี่อร่อยมาก แป้งบางกรอบไม่แข็ง เห็นหน้าบาง ๆ อย่างนั้น รสชาติเข้มข้นมาก เคี้ยวกันเพลิน ๆ กินไป 4 ชิ้นพระเจ้า

พิซซ่าและขนมปังต่าง ๆ

นอกจากอาหารฝรั่งแล้ว อาหารไทยก็ไม่ใช่ย่อย ข้าวมันไก่ที่ส่งกลิ่นอวล ๆ อยู่ด้านหลัง นั่นก็คือ เคาเตอร์อาหารไทยประเภทอาหารจานเดียว ตรงนี้นอกจากข้าวมันไก่แล้ว ยังให้บริการ ราดหน้า และผัดซีอิ้ว อีกด้วย แล้วขอบอกเลยค่ะ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าต่างประเทศและคนไทยมาก โดยเฉพาะราดหน้าที่อร่อยมาก น้ำราดหน้ากลมกล่อม เหนียวกำลังดี เส้นที่ไม่เละและไม่ติดกันจนเป็นบึกเกินไปนักเข้ากันและซึมซับน้ำซุปของราดหน้าได้เป็นอย่างดี หมูชิ้นไม่เล็ก ไม่ใหญ่ เรียกได้ว่าพอดีคำ ให้รสชาติที่อร่อยน่าจดจำค่ะ

อีกจานที่อยากจะแนะนำว่าไม่ควรพลาด นั่นคือ ซุปเห็ดข้นค่ะ ซุดเห็ดข้นนี้อาจจะไม่คุ้นปากคนไทยสักหน่อย เพราะไม่ใช่ซุปแบบครีม แต่เป็นซุปที่ใช้เห็ดเป็นเครื่องปรุงหลัก ให้รสสัมผัสของเนื้อเห็ดที่ถูกปั่นจนเนียนละเอียด กลิ่นของเห็ดและครีมที่เป็นส่วนผสมที่ผสานกลมกลืนกันได้เป็นอย่างดี ทำให้ซดได้ซุ่มคอ และหอมหวานมาก ๆ

เคาเตอร์อาหารจานเดียว รสเด็ดที่ต้องลอง

นอกจากอาหารปาก อาหารท้อง แล้วทางห้องอาหารไพร์ม ไพร๋ม ยังมีอาหารหูให้เราระหว่างรับประทานอาหารด้วย ดีเจ คนสวยเปิดเพลงเพราะ ๆ ทำให้อาหารคล่องคอได้อีกโขอยู่ เพลงนุ่ม ๆ ไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป ทำให้อาหารอร่อยได้เหมือนกันนะบอกเลย

เดินลึกเข้าไปจะถึงครัวญี่ปุ่น และครัวร้อน ครัวญี่ปุ่นจะให้บริการซาซิมิ ซึ่งมีทั้ง ทูน่า แซลม่อน และปูอัด แน่นอนทั้งหมดสด และใหม่ เนื้อยังแน่ สีส้ม และชมพูใส ๆ ให้รสชาติหวานตามธรรมชาติของเนื้อปลาสด ที่พลาดไม่ได้อีกเหมือนกัน คือ สเต็กปลาแซลม่อน และเทมปุระ

วัตถุดิบต่าง ๆ ของครัวญี่ปุ่น

ส่วนนี้เป็นส่วนวัตถุดิบของครัวร้อน ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป

เนื้อปลาแซลม่อนสด ๆ สีส้มสดใส

อาหารบางเคาเตอร์มักจะเป็นอาหารเวียนกันไปนะคะ ไม่ได้ประจำว่าต้องทำแบบนี้ทุกอาทิตย์ เช่น อาหารอิตาเลี่ยน อาจจะเปลี่ยนซอส จากคาโบนาร่า เป็นเพสโต้บ้าง ในบางสัปดาห์ เพื่อความไม่ซ้ำซากจำเจ

เอาหละค่ะ เดินสำรวจกันมาพอแล้ว คราวนี้ ได้เวลากินกันเสียที เริ่มจากแรกกันที่สลัดเลยค่ะ เนื่องจากผักมีหลายชนิด เลยขอเลือกเฉพาะที่ชอบก็แล้วกันนะคะ

สลัดเบคอนกรอบ กุ้ง และน้ำสลัดงา ของเราจึงออกมาอย่างที่เห็นนี่หละค่ะ ผักต่าง ๆ ที่นำมาให้บริการล้วนแต่สดใหม่นะคะ สังเกตุได้จากความกรอบของตัวผัก ยิ่งได้เนื้อสัตว์และน้ำสลัดประเภทต่าง ๆ ยิ่งเพิ่มรสชาติให้ผักกรอบ ๆ พวกนี้ได้เป็นอย่างดีเชียวค่ะ น้ำสลัดงาญี่ปุ่นที่เราเลือกมาก็ให้รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ ตัดกับรสหวานหอมของเบค่อนและกุ้งได้เป็นอย่างดี ความที่ไม่เค็มมากจนเกินไป ทำให้สลัดจานนี้หมดลงในเวลาอันรวดเร็ว

จานถัดมาเป็นอาหารทะเลค่ะ นั่นก็คือ กุ้ง กับหอยแมลงภู่นิวซีแลน บอกเลยตรงนี้ค่ะว่าน้ำจิ้มซีฟู๊ดอร่อยมาก นอกจากจิ้มกับหอย และกุ้งแล้ว เอาไปจิ้มอย่างอื่น หรือกินกับข้าวมันไก่ก็อร่อยค่ะ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวกำลังดีนะค่ะ เลยได้เนื้อที่หวานหอม ผิดกับตัวใหญ่ ๆ ที่เนื้อค่อนข้างจีดและหยาบ กุ้งที่นึ่งสุกกำลังดี ทำให้แกะง่ายได้เนื้อมาก ที่สำคัญมันที่หัวกุ้งยังชุ่มฉ่ำอยู่เลยค่ะ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซบบบบบบบบบบบบหลายยยยยย

ซาซิมิ จานเด็ดครัวญี่ปุ่น

อาหารจานเส้นแบบอิตาเลี่ยนและเทมปุระแบบญีปุ่น

Risotto di riso หรือ ข้าวรีซอตโต้ นี่ชอบมาก เห็นครีมมั้ยค่ะ นั่นคือ ครีมแบบเข้มข้นที่ผัดมากับข้าวรีซอตโต้ ที่ไม่ได้ทำให้ข้าวหรือส่วนผสมอื่น ๆ อืด แต่กลับซึมซับซอสรสชาติหวานมันนั่นเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ ทันทีที่เอาเข้าปากรสชาติของครีมซอส กุ้ง และปลาแซลมอน รสสัมผัสของเนื้อข้าวที่ไม่เละแต่นุ่มนิ่มกำลังดี จานนี้น่าประทับใจ

จานนี้ก็เก๋ไม่แพ้ใคร ไม่ค่อยมีใครทำเสิร์ฟในเมนูบุฟเฟต์ นั่นคือ ไข่เบเนดิกซ์ ไข่สดที่ทอดด้วยเทคนิคน้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชูนิดหน่อย เพื่อไม่ให้เนื้อไข่กระด้าง จัดวางมาบนเนือ้ปลาแซลมอน หรือ แฮม หรือเบค่อนสุดแต่คุณจะบัญชา วางไว้บนเนื้อขนมปังนุ่ม ๆ อีกที ก่อนกินคุณควรเจาะไข่ให้ไข่แดงไหลเยิ้มลงมาเสียก่อน ค่อยกินกับเครื่องเคียงต่าง ๆ บนจาน อร่อยเด็ด !!!

สเต็กปลาแซลมอน จานนี้ถือเป็น ซิกเนเจอร์ของที่นี่ ด้วยวัตถุดิบที่่สด คุณภาพดี บวกกับเทคนิคการดึงรสชาติอันเป็นเอกของแต่ละวัตถุดิบนั้นของเชฟ จานนี้จึงให้รสชาติที่สมกับเป็นซิกเนเจอร์

สเต็กเนื้อซีโคร่ง ชิ้้นนุ่ม ชุ่มฉ่ำ กับซอสเห็ด และซอสพริกไทดำ กินเคล้าไปกับสปาร์คกิ้งค์ไวนท์รสชาติสดชื่น

สองจานนี้ คือ อดีตที่ผ่านไปอย่างไวปานฟ้าแลบ

แก้วพิเศษสำหรับคนคลาสิกแก้วนี้คือ บัดดี้ แมรี่ เป็นค๊อกเทลที่เปี่ยมไปด้วยความคลาสิก ให้รสของมะเขือเทศสด ๆ เข้มข้น พริกไทดำบดออกรสเผ็ดร้อนนิด ๆ กินกับอาหารประเภทเนื้อจะช่วยเรียกน้ำย่อยได้มาก แต่หากกินยากเกินไปก็สามารถบอกบาร์เทนเดอร์ให้ปรุงรสชาติออกหวาน ออกเปรี้ยวได้ตามใจ โดยไม่เสียเค้าโครงของเครื่องดื่มคลาสิกนี้ลงไปแม้นแต่น้อย


จานสนุก ชอบสนิท

จากของคาวแล้วเรามามองของหวานกันบ้างดีกว่า จานนี้อย่างที่บอก กินสนุก ชอบสนิท เพราะแพนเค็กที่ใช้เครื่องทำนี่ไม่ค่อยมีให้กินในบุฟเฟต์อาหารกลางวันเสียเท่าไหร่ แป้งแพนเค็กที่นุ่ม และหอมมันแบบนี้ กินกับอะไรก็อร่อย โดยเพราะการเพิ่มรสด้วยผลไม้แห้ง และไอศครีม โรยหน้าด้วยช็อกโกแลตซอส ความเปรี้ยวหวานของผลไม้แห้ง เข้าได้ดีกับความหวานเย็นของไอศครีมและความนุ่มเนียนของแป้งแพนเค็ก ไม่เหลือซากค่ะจานนี้

อย่างที่บอกแต่แรก นอกจากแพนเค็กแล้วก็กยังมี เครป ๆ เนื้อนุ่ม ๆ โรยด้วยอัลมอนต์ฝาน ใส่เกร็ดน้ำตาลไอซิงค์ และโรยด้วยซอสช๊อกโกแลต แล้วยิ่งเห็นความตั้งใจในการบริการ ในการปรุงของเชฟแล้วด้วย จานนี้เรียกได้เลยว่า ใส่ใจทำ ให้ใส่ใจกิน

มูสและครีมชีสหลากหลาย ล้วนแต่หอม อร่อย หวานมัน เนื้อเนียน ๆ กับผลไม้สด ๆ หรือคุกกี๊ ครีมต่าง ๆ เกื้อหนุนรสชาติให้น่าประทับใจ

มิใช่อื่นไกล นี่คือ เครปฝีมือโป๊ะของข้าพเจ้าเอง

ไอศครีมหวานเย็น และเครื่องเคราต่าง ๆ มากมาย เลือกอร่อยได้ตามใจฉัน

นอกจากนี้ยังมีผลไม้ตามฤดูกาล และขนมไทยประเภทต่าง ๆ ไว้ให้บริการอีกด้วย บอกได้เลยค่ะว่าอ้วน แล้วอ้วนอีก ไม่เป็นไร เดี๋ยวกินอิ่มแล้วเราจะออกไปเบิร์นกันข้างนอก ข้างในนี้คือเวลาแห่งความสนุกที่หยิบใส่ปากได้ สนุกกันให้เต็มที่

มุมต่าง ๆ ในห้องอาหารไพร์ม ไพร์ม

อัตราค่าบริการ Saturday Brunch
ห้องอาหาร PRIME PRIME ชั้น 7 Compass Skyview Hotel สุขุมวิท 24
:-

ผู้ใหญ่ 990++ บาท/ท่าน อาหารรวมเครื่องดื่มน้ำผลไม้คั้นสด ชา กาแฟ
1,490++ บาท/ท่าน รวมเครื่องดื่ม Sparkling Wine + Bloody Mary

สำหรับ เด็กอายุ 6 - 12 ปี ครึ่งราคา อายุต่ำกว่า 6 ปี ทานฟรี !!

เปิดบริการทุกวันเสาร์ เวลา 12.15 - 15.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ : 02-0111111

web site : www.compassskyviewhotel.com

FB : https://www.facebook.com/CompassSkyView/

Email : [email protected]

Line : @compassskyview


สายลม ที่ผ่านมา

 วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 12.59 น.

ความคิดเห็น