สวัสดีครับ

สืบเนื่องจากกระทู้ตามหาเพื่อนร่วมทาง เดินทางไปขึ้นเขา

http://pantip.com/topic/35196139

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือผมมีทริปกับเพื่อน สี่คน ว่าจะไป ซาปากัน เป็นชาย 2 หญิง 2 ครับ เพื่อนกัน สายเที่ยวลุยด้วยกันทั้งหมดคับ

ผมตั้งงบ 13-18 กรกฏาคม 2559

ประมาณ 9000 บาทครับ

+รวมตั๋วเครื่องบิน

+ค่าเดินทางจากสนามบิน

+ค่าต๋วรถไฟตู้นอน

+ค่าโรงแรม 1 คืน

+ค่าไกด์และลูกหาบ



แต่ตอนนี้เพื่อนคนนึง เป็นผู้หญิง ถอนตัวเนื่องจากมีปัญหาเรื่องงาน

เลยจะมาประกาศ หาเพื่อนร่วมทาง เพิ่มครับ

ทริปคราวๆ แบบนี้ครับ



Vietnam trip

13 july – 18 july



13 July

4:30 สนามบินดอนเมือง ยังไม่ได้เช็คว่าต้อง check in กี่โมง

6:02 - 8:30 Bkk- Hanoi

Taxi จาก สนามบินเข้า Hanoi ประมาณ 10 US

9:00- 18:00 เที่ยว Hanoi

19:00-21:00 เดินทางไป สถานีรถไฟ ไป เหลากายซาปา

นอน รถไฟ

*ที่เที่ยว Hanoi

-ย่าน old quarter

-วัดวันเมียว(ค่าเข้า 20000 ดอง)

-สุสานโฮจิมิน-เจดีย์เสาเดียว

-ทะเลสาปคืนดาบ

ค่าเทคซี่จาก โฮจิมิน ไปทะเลสาบประมาณ 80บาท

-สะพานแทฮุก

-ฮารองเบย์



14 july

6:30 ถึงเหลากาย

รถตู้ รร มารับ

7:00-9:00 เดินทางจาก เหลากาย-ซาปา

9:00-10:00 sapa-fansipan (เตรียมปีนเขา) (มีค่าไกค์กับค่าเช่าถุงนอน ยังไม่ได้ถามราคา)

10:00-16:00 เดินจากตีนเข้าถึงจุดตั้งเต้น

นอนกางเต้น



15 July

6:00-8:30 ดูพระอาทิตย์ขึ้น

10:00 -16:00 เดินทางกลับ sapa

16:00 check in hotel (คืนละ ประมาณ 30 us น่าจะหาถูกกว่านี้ได้)

ว่างและเที่ยววววว

นอน Hotel

16 July

เช่ามอเตอร์ไซต์ วันละ 12 us

เที่ยว sapa

-เขาในsapa จำชื่อไม่ได้ ชมวิวได้ทั้งเมือง

-หมู่บ้าน catcat village

-tavan village หมู่บ้านตาฟาน

-น้ำตกซิลเวอร์

-ตรามตอนพาส

-ตลาด sapa

-night travel 

16:00 นอน Hotel



17 july 16;00 ขึ้นรถกลับเหลากาย

19:00 รถไฟฟ้า กลัว Hanoi

นอน บนรถไฟ

18: july 6:00 hanoi

7:00-9:05 hanoi airport

10:55 thailand



นอน บนรถไฟ 2 คืน

นอน HOTEL 2 คืน

นอนเต็น 1 คืน



รายละเอียดคราวๆ จะประมาณนี้ครับ

ใครสนใจเดินทางร่วมกันติดต่อมานะครับยินดีนะครับ มาเป็นคู่หรือมาเดี่ยวก็ได้ครับยินดีที่สุด



สนใจ Addline:Aukritman

มาคุยกันได้นะครับ รับลองทริปนี้สนุกแน่นอน ผมมีเรื่องเล่ามันๆจากการเดินทางให้เพื่อนๆตลอดทางแน่นอนครับ

ข้อมูลก็เป็นประมาณนี่ครับ

สรุปไม่มีไครไปกับผมเลย แต่ยังเหลือเพื่อนร่วมทางอีก 1 คน ok ไม่เป็นไร จุดมุ่งหมายเรายังมีให้พิชิต



วันแรกเราเดินทางกันที่วันที่ 13 /7/59 เราเดินทางกันด้วยสายการบินนกแอร์

เวลา 6.10 น การขึ้นสายการบินไปต่างประเทศช่วงเช้าๆบ้างครั้งควรจะเช็คว่าสามารถเช็คอินออนไลน์ได้ไหม

เพราะผมผลาดไม่ได้เช็คก่อน สายการบินนกแอร์ที่บินระหว่างประเทศไม่สามารถ เช็คอินออนไลน์ได้นะครับ ผ่านโทรศัพท์ก็ไม่ได้นะครับต้องหน้าเคาเตอร์อย่างเดี่ยว ดีที่ผมคิดได้ตอนไกล้ถึงสนามบิลเลยบอกให่พี่เทคซี่บึ่งเลยครับ สรุปทันแบบเฉียดฉิว



เราถึงสนามบิน นอยไบ เป็นสนามบินนานาชาติ แห่งใหม่สวยงามมาก



มาถึงพี่เทคซี่ที่เราติดต่อไว้ ก็มารับเราเลย ราคาเอาเรื่องเลยครับ 15 us (ถ้าเรานั้ง รถเมย์สาย 86 ครับ 30000 ดอง ประมาณ 40บาทไทยก็ได้ครับ) แต่เมื่อติดต่อไว้แล้วก็ต้องเลยตามเลยครับ



ใช้เวลา 15 นาที ก็มาถึงฮานอยแล้วก็ถึง office agent ที่เราติดต่อไว้ ครับ ชำระค่าเสียหายซะก่อน

จากที่คิดว่า มา 4 คนจะต้องจ่ายคนละ ประมาณ 160 us พอยกเลิกไป 2 คน สรุปจ่ายคนละ 225 us เลยจร้า (เอ้าไหนๆก็ไหนๆแล้วลุยมันให้คุ้ม)



หลังจากนั้นก็นัดแนะกันว่าจะมาพบกับตอน 2 ทุ่ม จะไปขึ้นรถไฟกัน กระเป๋าหนักๆฝากไว้ที่office เขาได้แต่ของสำคัญก็เอาติดตัวไปนะ



เริ่มลุย ได้ทางagent มีแผนที่มาให้เรา แค่นี้ก็พอจะลุยกันได้ละ

เมืองฮานอยแทบไม่มีห้างเลยนะครับ แต่ผมไม่สนใจอยู่ละ 555 ขอบอกว่าทริปนี้ เท๊คซี่หรือมอเตอร์ไซต์ไม่ได้กินผมสัก "ดอง"

ผมพาเพื่อนเดินไปเที่ยว สระสาปคืนดาบ

เดินรอบๆ สักพัก ดูบรรยกาศ

ผ่านโรงหุ่นกระบอกน้ำและก็ หาที่นั้งร้านกาแฟ ซึ่มซับ บรรยากาศ

สักพักก็ลุยต่อครับ พาเดินอีก ประมาณ3 กิโลไป โฮจิมินซิตี้ ไปดูเกี่ยวกับอนุสรต่างๆของทางท่านโฮจิมิน



กว่าจะถึง เราก็ผ่าน โรงพยาบาล เมืองเขาเต็มไปด้วต้นไม้ใหญ่ๆ ให้ร่มเงามากเดินไปไม่ร้อน ผ่านโรงพยาบาล หลงนิดหน่อย



กว่าจะถึงก็เกือบบ่ายสองเป็นความตั้งใจของผมหละครับ แต่ไม่ได้บอกเพื่อน เพราะสุสานลุงโฮ เปิด 2โมง ค่าเข้า 70000 ดอง

ข้างในเป็นประวัติต่าง

ที่มาการดำเนินชีวิต ผ่านสงครามอะไรมาบ้าง คนเวียดนามเป็นคนที่อดทนมากครับ

เห็นแล้วรู้เลยว่าบ้านเมืองเขาผ่านอะไรมามากต้องใช้ความอดทนและต่อสู่มามากกว่าจะเจริญเท่านี้

กลับออกมาก็ สี่โมงแล้วครับต้องเดินต่อไปอีก 2กิโลถึงจะถึงoffice ของ agent เลยเดินเล่นๆหาอะไรกิน 555 KFC ครับ มีที่ไหนเข้าเลย

อาหารคุ้นปากสุดๆ

นั้งสักพักใหญ่กลัวเพื่อนร้องกลับพาเดินเยอะ

หกโมงเดิน9jvอครับ เดินเล่นแถวเขตเมืองฮานอย

จนถึง 8:00ครับ ก็ขึ้นรถไฟ

เดี่ยวผมมาแก้ต่อนะครับ พรุ่งนี้นะครับ กะจะร่างไว้ก่อนแล้วเอาข้อมูลมาลงอีกที

ไปกันต่อครับ

มันปัญหากับคอม อยู่สองวัน


วันที่ 14 /7/2559

เรามาถึง เหลาก่าย เวลาประมาณ 7.00 น อยากจะบอกว่าบรรยากาศในตู้นอน มันน่านอนแบบยาวๆ ฟินๆ อยากจะตื่นสัก 10 โมง

แต่ก็เนอะ มาเที่ยวนะเฟ้ย สวัสดีผู้ร่วมทริป(เหยื่อของเรา)

อากาศไม่เย็นนะครับ กำลังดี

ถ้าไครอยากมาเองไม่ยากเลยนะซื้อตัวรถไฟ แล้วก็มาลง เหลาก่าย แล้วก็ต่อรถเมล์

ตามป้ายเลยครับ ไม่กี่ ดองเลย

ราคากับตารางเดินรถครับ

ใครไปเอง รถสีแบบนี้นะครับ

แต่เรามีความ เป็นสวนตัวนิดๆ (คือจองมาแล้วไง ใจก็อยากนั้งรถเมล์ไปเองดีกว่า )

นั่งเลื่อยๆครับ มีเพื่อนร่วมทางเป็นสาวๆเวียดนามสองคน

นั่งไปสักพัก เธอคงจะเวียนหัว เมารถ สุดท้าย ก็สารภาพออกมาเต็มถุงเลย แบบว่านั้งไกล้ๆ

หุหุ

ถึงแล้วครับ ซาปา

แห่มจะมาต้อนรับกับด้วยภาพแบบนี้เลยเหรอ

เป็นสถานที่อันตรายต่อเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อมาก โรแมนติกไปไหน

ใช้เวลาประมาณ 1:30 ครับ มาถึงซาปามาถึง agent ก็จัดแจงให้เรา ทานอาหารเช้า (ไม่พ้น "เฟอ" นั้นหละ แต่ต้องสั่งดีๆนะสำหรับท่านที่ไม่กินเนื้อ เวลาเราถามว่านี้หมูหรือเปล่า เขาก็จะยิ้มแล้วพยักหน้า)555+

ทานเข้าเสร็จ อาบน้ำซะหน่อย คืนที่นอนรถไฟมาไม่ได้อาบนะ 555+ กะหาทิชชูเปียกมาเช็ดพอ(ติดมาจากไป EBC ไม่อาบน้ำก็ทิชชูเปียกนี้หละ)

เวลา 9:00 มีรถมารับ เดินทางไปสู่ทางขึ้น Fanxipan มีเพื่อร่วมทริป อีก2 คนเป็นคนเวียดนาม วัยรุ่นอ่อนๆเลย

ไม่ถึงทาง ไกค์ก็เข้าไปติดต่อกับสำนักงาน ถึงเวลาลุย

คือผมเคยมีประสบการณ์มาที่นี้ครั่งหนึ่งแล้วเมื่อปีที่แล้ว เลยพอจะรู้ว่ารองเท้าเทรค ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเท่าไหร เพราะเป็นหินลื่นเป็นส่วนใหญ่

เลยเลือก รองเท้าวิ่งไปที่รับแรงกระแทกได้มีพื้นยาง พอสมควร กับเป้ก็เตรียมอุปกรณ์จำเป็นไปนะครับ ผมพอจะมีประสบการณ์บ้างเลยจัดกระเป่า ไปประมาณ 10 kg 555+ หนักแต่ชิลครับ

เดินไปถ่ายรูปไป อากาศดีมากๆครับ

เปิดมาทางเดินของเราก็แบบนี้เลย แต่ธรรมชาติดีครับสวยดี

เป็นไงละ บรรยากาศโคตรโรแมนติดเลย

เดินมาสัก 2 ชม ไกค์เราพามาจุดพัก น่าจะครึ่งทางพอดี้เป็นโดม ให้พักกินอาหารเที่ยง

อาหารสำหรับ 4 คน เป็นไงละ ผม สองคน งงครับ กินไงทีนี้

สรุปก็บอกให้เพื่อนร่วมทริป กินให้ดู 555+ อร่อยนะ ข้าวแบบว่าเกือบเหนียว ปั้นเป็นก้อนๆ ทีเด็ดของเราเลยคือถั่วผสมเกลือ กินกับข้าว มันลงตัวแบบเห้ยกลับไป จะทำกินเองอร่อยแบบนี้ปะเนี้ย อีกอย่างผมเป็นคนชอบกินสาลี่มาก กินสาลี่เวียดนาม อร่อยมาก หวานและกรอบแบบแน่นๆ 555+(เข้าใจผมปะ)

พอท่านข้าวเสร็จสักสักพัก (ลืมบอก ) ที่นี้มีพนักงานต้อนรับด้วยนะ

เชื่องสุดๆ คนเวียดนามก็เรียกแมว ว่าแมวเหมือนเราเลยนะ

มีความขี้เล่น

(ความจริงรูปแมวเยอะ ตามไปดูในเฟสผมแล้วกันนะครับ สมาคมทาสแมว)

เดินกันต่อครับ

ระยะทางวันแรกประมาณ 8 Km

ได้เวลาลุยต่อครับ

วิวสวยมากครับ ผมเป็นคนที่เดินช้าสุดในกลุ่มเลย ครับ

เดินไปถ่ายรูปไป มันมีความสุขนะ (มันเป็นทริค พี่ที่รับถือสอนมาว่าถ้าเดินเทรคไม่ทันไครต้องมีกล้องติดตัว เวลาเหนื่อยให้เดินช้าๆถ่ายรูปไป)

เดินสักระยะ อากาศเริ่มมีหมอก เดินๆไป เห้ยเพื่อนหาย

บางครั้ง หมอก ถ้าเรามองจากข้างล่างคงเรียก เมฆ ก็ลอยผ่านตัวเราไป จนมองไม่เห็นทาง แล้วก็ลอยห่างออกไปรู้สึกแบบว่าเห้ย ลอยกันแบบนี้เลยเหรอก่อนเมฆ

ผมเป็นคนหิวง่ายครับเพิ่งกินข้าวไป หิวอีกแล้ว (ทริปนี้ผมผลาดมากเรื่อง ของกิน ลืมหาขนมมากกินระหวางทาง)

น้ำที่นี้ไม่มีขายนะครับ จะมีก็ที่พักอย่างเดียว

ไปครับลุยต่อครับ



ท่านที่จะเดินทางผมแนะนำฝึกกำลังขาเยอะๆ รับลองสนุกครับ

เพื่อนผมที่ไปด้วยความจริงฟิตมากนะครับ วิ่งวันละ10 กิโล แต่เจอทริปนี้ตะคริวกินเลยครับ

เดินไปเดินมา มาถึง ที่พักก่อนที่เราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นพรุ่งนี้กัน เวลาประมาณ 5 โมง อากาศค่อนข้างหนาวครับ

หนาวแบบเปียกๆ ถามว่าอาบน้ำไหม อาบครับแต่ที่นี้มีแต่ห้อง สุขาไม่มีห้องอาบน่ำ ทำไงดี เห็นหน้าบ้านมีก๊อกน้ำ

จัดเลย เลยครับไม่ไหวแล้วเหนียวตัว ไปถอดหมดเหลื่อแต่ กางเกงขาสั้น อาบน้ำน้ำหน้าบ้าน

อยากบอกว่า หนาวมาก

อาบน้ำเสร็จ ก็เอารองเท้ามาตาก คือตากไปอย่างนั้นหละให้น้ำมันหยด

เสร็จแล้วก็เจอกับ พนักงานต่อรับอีกแล้วครับ

มานั้งกลมๆ ไกล้ น่ารักกก

บ้านพักของเราครับ ฝันดี พรุ่งนี้จะพาไปยอดเขาFanxipan นะครับ

เวลานอนเขามีถุงนอนให้ครับ (ถ้าค้นรูปที่พักกับอาหารเจอจะเอามาลงนะครับ )

มาละครับ วันนี้มาขึ้นยอดเขากัน



ตอนเช้าเราทางไกค์นัดเราให้ตื่น4.30 แล้วให้ทำธุรส่วนตัว 5.00 จะเอาอาหารเช้าให้กิน

4.30 ตื่นยากมากบอกเลย อากาศมันเย็นมันไม่ยากลุกมันเย็นสบาย 555+ เมือไทยไม่มีโมเม้นแบบนี้บ้างนะ

5.00 มาแล้วครับ

อาหารเช้า

มาม่านั้นเอง กินๆ ไปเถอะอยู่เพื่อกินนะ เอ้ยกินเพื่ออยู่

แต่ที่นี้ไม่บริการน้ำเปล่านนะต้องซื้อย่างเดี่ยว ราคาแอบแพงนิดๆ น้ำ 450 cc 25000 ดอง ประมาณ 30 บาท น้ำอัดลม 35000 ดอง

พอกินเสร็จก็ออกเดินทาง เส้นทางวันนี้โหดกว่าเมื่อวาน เพราะว่าทางส่วนใหญ่ลื่นมาก และเป็นหน้าผา

แต่บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงนะ โคตรฟินเลย

เห็นลิปๆ นู้นไหม ต้องปีนมันขึ้นไปนะ

เอ้าซี้ แบบนี้ก็ต้องปีนนะเอ๋อ

บรรยากาศระหว่างทาง สุดจะบรรยายครับ มีแฟนพาแฟนไปครับสวยมาก

เห้ยๆ เมฆ เองจะลอยกันสูงแค่นี้เองเหรอ

เดินไปเดินมา แบบโคตรฟิน

ก็เจอ สลิงค์กระเช้าจากsapa มา ยอดเขา ทักทายสักหน่อย ซิ

อาจจะเห็นก้นเพื่อมผมเยอะหน่อยยนะ

เดินมาเลื่อยๆ ครับไม่เร่งรีบอะไร สัก 1 ชม ก็ถึงทางไปยอดเขาแล้วครับ

สถานที่ บริเวณโดยรอบของจุดที่สูงทีสุดมีการพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

สวยงามแะดูแข็งแรงมาก

ไกล้ถึงยอดแล้วครับ สำหรับท่านที่จะมากับกระเช้าแค่เดินขึ้นบันไดผมว่าก็เหนื่อยใช่เล่นนะครับ

ถึงแล้วยอด fanxpan summit

รูปผู้ร่รวมชะตากรรมของเรา

ขาลงเขาไม่มีอะไรมากครับ

เพื่อนผม ตะคริวกินเลยลงไปกับกระเช้าเพื่อนบอกสวยมากกก

ผมเลยฝากเป้ 10 กิโลของผมไป (สวรรค์ละที่นี้ )

ตอนลง ผมนี้ วิ่งเลยครับ ฝันมานานว่าจะมาวิ่งเทรวที่ฟานซิปัน วิ่งไปสักพัก ด้วยความที่ทางเป็น หินและเป็นทางน้ำ ก็ล้มไป รอบแรก

555+ ไม่เป็นไร เรื่องล้มเป็นปกติ

ยังวิ่ง ต่อได้ แผลที่ฝ่ามือมานิดหน่อย (ไม่ร้อง555+)

วิ่งมาซักพัก ล้มอีก เห้ยเยออะเกินไป และทางที่จะเดินต่อเป็นทางที่ต้องปีนป่ายเลยหยุดคววามสนุกไว้ก่อน

ขาลงไม่มีอะไรมากครับ กลางวันทีพักทานเข้าเที่ยง



และลงมาถึงสำนักงานเวลา 2 โมงได้ครับ

ไกค์ก็ไปเอา ใบประกาศกับเหรียญมาให้เรา

แบบนี้ครับ

พอลงมาก็มีรถมารับ ลงไปส่งทีsapa ความจริงผมนะติดต่อรถต่างหากไว้

แต่ไกค์ให้เราไปกับเขาเลย ผมก็เออออไป 555 คือความจริงคุยกับคนเวียดนามถูกคอเลยไปด้วยกัน



ลงมาแล้วยังไม่จบวันนะครับ มาแล้วทั้งทีจะให้เสียเวลาเปล่าได้ไง

แต่ประเด็นคิอ ถ้าเราขึ้นเทคซี่ที่เราจองไว้เขาจะไปส่ง โรงแรมที่จองไว้เลย

แต่เราดันทะลึ่งมากับเขา ไกค์เลยเอาเรามาปล่อยที่ ร้านของagent แต่ไม่เป้นไรครับ

ใช้ google map ช่วยได้

เดินไปสักพัก ครับ กว่าจะถึงห้อง 4.00o ครับ อาบน้ำและจัดการอุปกรณ์เดินทางทั้งหมด

มันเยอะและเปี้ยกมาก แต่เพื่อนผม จัดการเอาออกมาตากให้หมดละ (มันคิดอะไรกับผมเป่าไม่รุเริ่มหวั่นๆ ใจ55+)

ผมก็ทำอะไรเสร็จ ไปเลยครับไปหาของกินก่อน จะมีร้านที่อยู่ไกล้ๆ กับลานกลางเมืองซาปา ขายของราคา โอเคอยู่ไม่แพงมาก ไปหาขนมกับอะไรกินเล่นมา กินในห้องพัก

ห้องพักสวยมากครับ

มาสนใจกับที่พักเยอะดีกว่า

มาดูว่าคืนนี้เราจะไปไหนต่อ

ลุยครับ

ผมนะพากันเดินเล่น ในส่วนของ walking street ของซาปา มีร้านค้าต่างๆมากมาย มีร้านนวดร้านอาหาร

เราก็หาอะไรกินกันสักพักอะครับ ร้านอาหารธรรมดา

หลังจากนั้นก็เดิน ไปเลื่อยๆครับ ดูเมืองดูล้านดูสาว 555

มีเรื่อง ฮ่าๆครับ เวลาเราเดินนอกเขต walking จะมีมอเตอร์ไซต์มาถามเรว่าจะเช่า รถไหม

ผมก็ตอบว่าไม่เอา สักพักมาสะกิดใหม่ ทำรูปมือซ้ายเป็นกลมๆ แล้วเอานิ้วชี้ขวาแหย่ให้ดู แล้วยิ้มๆ รู้เลย 555+ บอกเลยว่า No thank you

เดินสักพักก็ได้ร้านน้ังครับ นิ่งสักพักกินสักขวดก็กลับห้องนอน ครับ สรุปวันนี้นอน เที่ยงคืน 555 พรุ่งนี้พาลุย SAPA ต่อครับ

ผมเนี้ยสายกินแหลกโดยแท้ เจอร้านไม่ได้จัดซิครับ

ได้โดจ็กมาอีกหนึงถ้วย หลับสบายงานนี้555 พรุ่งนี้เจอกัน ครับ

วันสุดท้ายแล้วครับ ไม่มีอะไรมากครับเดินๆ

ถ่ายรูปกับจุดชมวิวต่างๆ แล้วก็เดินไปหมู่บ้าน catcat

วิวสวยครับ

หลังจกนั้นก็ไปจุดชมวิวครับ

หลังจากนั้นก็นังรถไฟกลับ ฮานอย เดินเที่ยวครึ่งวัน

แล้วก้ไปสนามบินด้วยรุ 328 สุดท้าย ด้วยคงามขี้เกียจหาโรงแรม เลยนอนที่สนามบิน 1 คืน

รุ่งเช้ากลับไทยๆสบายๆไม่เสียตังค่าที่นอน 555+

จบละครับขอคุณมากครับ

AuKrit Manpak

 วันพฤหัสที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.04 น.

ความคิดเห็น