สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกเเล้ว
ผมแก็ปจากเพจ KonbaTravel

วันนี้ผมมากับ "คู่มือ3วัน3คืน พาเที่ยวทั่ว-ยะโฮร์บาห์รู"
จะยาวมากๆหน่อย เพราะเป็นคู่มือแบบละเอียดยิบ ครบ จบ ที่เดียว
ตั้งเเต่ดอนเมือง การเดินทาง สายรถเมล์ สถานที่เที่ยว ย้ำครบถ้วนในที่เดียว!!!
อ่านปุ๊บ ตามไปได้เลย

ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่ายะโฮร์บาห์รูอยู่ทางตอนใต้ของเพื่อนบ้านมาเลเซีย
มีสะพานเชื่อมติดกับสิงคโปร์
เรียกได้ว่าเที่ยวที่นี่เสร็จ นั่งรถไปเที่ยวสิงคโปร์ต่อได้เลย
ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว!!!

เเละถ้าพูดถึงเมืองนี้ก็หนีไม่พ้น "Legoland" แห่งเเรกของเอเชีย
ซึ่งรีวิวนี้ก็ไม่พลาด
เเต่นอกจากนั้นจะมีอะไรอีก ผมอาสาพาไปลุยเองงงง
พร้อมจะไปกันหรือยังงง พร้อมเเล้วลุยยยยยย

เริ่มจากจองตั๋วก่อนเลย
ง่ายๆ เพราะตอนนี้มีบินตรงดอนเมือง-ยะโฮร์บาห์รูอยู่เเล้ว
โดยสายการบินของ Airasia นั่นเองง
ราคาก็ไม่แพงไปกลับประมาณ 3,000 บาทเท่านั้นเอง
(แต่ทริปนี้ ผมใช้คะแนนสะสม BIG Points แลกตั๋วฟรี อิอิ ใครอยากรู้ว่าทำยังไง
เดี๋ยวผมทำขั้นตอนมาบอกในเพจอีกที เพราะเดี๋ยวพูดในนี้จะยาว ไปกดไลค์เพจรอเลยย ;D)


เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยเเล้ว
ก็แลกเงิน แพคกระเป๋าบนหลัง ......เเล้วลุย!!
ไปเริ่มที่ดอนเมืองกันเลย วุ้วฮุ้วววว


มาถึงก็ขี้เกียจไปต่อแถว 555
โชคดี Airasia มี Self Check-in สบายเลยยยยยยยยยยยยย


ได้ตั๋วมาเเล้วววว ก็เดินเล่นในดอนเมืองรอเวลา
เครื่องผมออกเวลา 20.45 น.(เวลาไทย) ถึงที่สนามบิน Senai 23.59 น.(เวลามาเลเซีย)
ปล.เวลาบ้านเค้าเร็วกว่าเรา 1 ชม. เเสดงว่าใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 2 ชม.ครับ

ไปขอถ่ายรูปกันหน่อย ระหว่างรอเครื่องออกกก

เครื่องมาเเล้ววววววววววววววววววววว
เอาเเล้ว กับการเที่ยวออกนอกประเทศครั้งเเรกของผม KonbaTravel
ตื่นเต้นเหมือนกันนน ไปขึ้นเครื่องกัน ;D

2ชม. บนเครื่องก็ไม่นานเท่าไหร่นะครับ
ผมโหลดหนังไปดูในมือถือ แปปเดียวก็ถึงเเล้ว 55555

เวลา 00.00น. (หลังจากนี้จะพูดเวลา ณ มาเลเซีย เเล้วนะครับ)
มาถึง Senai Airport เรียบร้อยยย

ไหนๆก็ดึกเเล้ว เลยนอนโรงเรมหน้าที่ตั้งหน้าสนามบินเลย
ไม่แพงนะครับ 1,500 บาทนอนได้ 4 คน รวมอาหารเช้าด้วย

ง่วงเเล้วนอนพักผ่อนกันก่อนนน
พริบตาเดียวก็เช้า จะได้เข้าเมืองเเล้วเที่ยวกันนนน

ฟึ่บบบบ แว่บเดียวเช้าเเล้วว 5555
มองเห็นสนามบินเลย บอกเเล้วใกล้สนามบินมากกก

ลงมาทานอาหารเช้า อันซ้ายสามเหลี่ยมรสชาติคล้ายๆแป้งกะหรี่ปั๊บห่อด้วยไส้ไก่
เเล้วก็เหมือนไข่เจียวผัดคลุกแฮม
รสชาติสำหรับผมจะจืดๆหน่อย เเต่ก็ไม่เป็นไร ฟรี 55555555
ท้องอิ่มเเล้วไปเข้าเมืองกันดีกว่า


หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ Check out เเล้วเดินกลับมาที่สนามบิน
เพื่อนั่งรถบัสเข้าเมืองกันนนนนนน

โดยรถเข้าเมืองจะเป็นของ Causeway Link ซื้อได้ในโถงสนามบิน
รถจะวิ่งไปถึง JB Sentral หรือศูนย์กลางการคมนาคมของเมืองยะโฮร์บาห์รู
ราคาคนละ 8 ริงกิต (ริงกิตละประมาณ 7-8 บาท)

นั่งรถเข้าเมืองก็จะประมาณ 30-40 นาที

ชนบ้านเมืองของเค้าเพลินๆๆๆ
จากที่เห็นก็จะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้มากมาย แดดบ้านเค้าไม่ร้อนเเสบเหมือนบ้านเรานะครับ 555


ถึงเเล้ววว สุดสายที่ JB Sentral ที่นี่เป็นศูนย์กลางคมนาคมเลย มีรถบัส รถไฟ ไปเมืองต่างๆได้เลย ทั้ง KL หรือนั่งไปสิงคโปร์ก็ยังได้


เรานั่งรถบัสมา ก็ลงที่นี่เลย

ทริปนี้มี 3คน ผม มีเพื่อนเเละเเม่ของผม นั่นเอง
เราก็เดินเข้าไปที่ JB Sentral เพื่อจะไปดูแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวกันก่อน


หิวเมื่อไหร่ก็เเวะมา เซเว่น อีเลเว่นนน 555


เช้าๆ ขอเติมพลังกันหน่อยยยย
ราคาเบากว่าที่ไทยครับผม ประมาณ 10-15 ริงกิต


เดินไป information ใน JB Sentral ก็จะเห็นแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมือง ยะโฮร์บาห์รู
มีที่ไหนบ้างอะไรยังไง แนะนำให้ไปถ่ายเก็บไว้ครับผม
เเล้วเที่ยวตามในนี้เลยยย ง่ายๆ เดินเอาได้ 555
ส่วน Legoland ผมจะไปวันพรุ่งนี้นะครับ


เมื่อรู้เเล้วว่าจะไปเดินเที่ยวไหนบ้างวันนี้
มองไปอุ้ย เจอที่พักของเราพอดี
ที่พักผมสองคืนจากนี้ ฝากที่ Amari Johor bahru ครับ
แนะนำเลย ดีมาก!!!!!
อยู่ใกล้ๆ JB Sentral เลย (อันนี้มองจาก information ใน JB Sentral)

ไปที่พักกันก่อนดีกว่า จะได้ไปเก็บกระเป๋าก่อนออกเที่ยว
การไป Amari ง่ายๆก็เดินผ่านทางห้าง Komtar
ทะลุไปได้เลยยยย


เดินเข้ามาในห้าง Komtar ก็เเอร์เย็น 555
ร้านขายของมากมาย จริงๆละแวกนี้มีหลายห้างเลย
มี City square ด้วย
อาหารของกิน ขายมากมาย
รวมถึงร้านเสื้อผ้า Outlet ด้วย เเม่เเละผมซื้อไปพอสมควร ฮ่าๆๆๆๆ

พอเดินทะลุห้าง Komtar มา
ก็จะมองเห็น Amari อยู่ตรงข้ามของถนนเลย

เดินผ่านตึก Zenite นี้ไปเลย ทางเข้าโรงแรมจะอยู่อีกฝั่ง

เดี๋ยวดึกๆแถวนี้มีร้านชิวด้วย ผมก็มานั่งดื่มอยู่
เเต่ตอนนี้ขอเข้าที่พักก่อนนนน

ถึงเเล้วววว
ครั้งเเรกของผมเลยที่ได้พัก Amari 5555555555555555
ต้องขอซึมซับเยอะๆหน่อย
ที่นี่เป็นโรงเเรมใหม่ เปิดมาไม่นาน พึ่ง HBD 1 ปี ไปเดือนเมื่อ พ.ค. 2561 เอง

ขึ้นลิฟท์มา Check-in ที่ชั้น6 กันก่อน เพราะ Lobby อยู่ชั้นนี้

น้ำสมุนไพรเย็นๆ มาให้ดื่มให้ชื่นใจ
ระหว่าง Check-in

ได้ห้องเเล้ว “Grand Deluxe Room” เป็นห้องพักหัวมุม มีระเบียง
เรื่องบรรยากาศในห้อง หรือมีกิจกรรมอะไรที่ทำได้ที่นี่บ้าง
เดี๋ยวผมจะมาพูดถึงอีกครั้งนะครับ
เพราะตอนนี้วางกระเป๋าเเล้ว ขอไปลุยยยยยเที่ยวก่อน!!! อิอิ

วันแรกเราจะเดินไปตามถนนเพื่อไปท่องเที่ยวรอบเมือง
ตามแผนที่ถ่ายรูปมา (ไปถ่ายแผนที่ท่องเที่ยวตรง information ของ JB Sentral นะ)

เดินชมเมืองได้เลย เพราะแดดที่นี่ไม่ร้อนน
เเละเเต่ละที่ไม่ห่างจากกัน

บรรยากาศ
บ้านเมือง เเถวๆ City square


ที่นี่ไฟแดงทางม้าลาย เเม้จะไม่มีคนข้าม
รถจะจอดนะครับ ทั่วโลกมีวินัยดีกว่าที่ไทยเยอะ ฮ่าๆๆๆ


เดินมาไม่ไกลมาเจอกับที่เเรก วัดแขกเเถวสาทร เอ้ยไม่ใช่!!!! 5555
ที่แรกคือ " The Sri Raja Mariamman Temple"


ผมก็ไม่ได้มีความรู้ทางด้านศิลปะเลย 55
แต่เป็นสถาปัตยกรรมเเนวคล้ายๆวัดแขกเลย สวยอยู่เหมือนกันครับ
Contrast กับตึกเมืองที่อยู่รอบๆ


เดินตามทางไปต่อกันที่ต่อไปปป


แม่ผมและเพื่อนเเวะซื้อน้ำส้มข้างทาง แก้กระหาย


เดินมาอีกไม่ไกล จะเจอตึกที่เด่นด้วย
เลข" 1" แบบนี้


เมื่อเห็นตึกนี้ให้คุณหันไปทางซ้ายยย
คุณจะเจอ "The Sultan Ibrahim Building"


เป็นลักษณะอาคารสุลต่าน
เป็น 1 ในสถานที่สำคัญในเมืองยะโฮร์บาห์รูเลย


ป่ะะะะ ที่อื่นกันต่อ
ทิศทางไม่ยาก มองซ้ายมองขวา
หามัสยิดสีน้ำเงินนนน


มองไปไม่ไกลจากอาคารสุลต่าน ทางด้านซ้ายมือ
ก็จะพบมัสยิดสีน้ำเงินแบบนี้ เดินตามไปเลย


และที่นี่ก็คือ มัสยิดอินเดียสีน้ำเงิน
หรือ "Masjid India" เเต่ผมไม่ได้เข้าไปนะครับ ฮ่าๆๆๆ


จากมัสยิดเดินเลยไป 50เมตรก็จะเป็นชุมชนคนจีน
บ้านแบบจีน นึกว่าเยาวราช 5555555555
หรือเรียกว่า "Archways"



มาสวีทอะไรกันตรงนี้ครับ เหม็นความรัก 555555555
พาลจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ


จะเปิดเหม่งถ่ายรูปเท่ๆก็ได้ ฮ่าๆๆๆ


หรือถ่ายกับ กราฟฟิตี้ สวยๆ


เเถวนี้มีร้านนึงคนต่อคิวเยอะมาก ผมเลยไปดู
เป็นเค้กกล้วยหอม เลยลองกินดูบ้าง
รสชาติก็อร่อยดีนะ ร้อนๆ เเต่ก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น
ไม่เเพง ถ้าผ่านไปลองเเวะชิมดูครับบ


บนถนนเส้น "Archways" ยังหลายอย่างในนี้คือ "The Tiong Hua Chinese Heritage Museum"
ซึ่งเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ติดถนนที่อยู่ริมแม่น้ำ
ที่นี่เสียค่าเข้าชมนะครับ
เเต่พอดีผมไม่ได้สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์เท่าไหร่จึงไม่ได้เข้าไปชมภายใน
ใครเข้าไป มาบอกด้วยยยย


ถ่ายรูปชิคๆ กับกำแพงบ้านเมืองเค้า


อุ้ยยยเจอ อัมพว่า ที่มาเลเซีย 5555
จะบอกว่าที่นี่มีร้านอาหารไทยเยอะมากกกกกกก
สงสัยเค้าจะชอบกัน


พักชมโฆษณา ถ่ายรูปที่เกาะกลางถนนกันสักครู่ 5555555555555


อันนี้เราเดินกลับมาที่สุลต่านเเล้วเดินไปทางขวาของอาคารสุลต่านบ้าง
จะพบกับ "Headquarters Of The Johor Military Force"
อุ้ยยยยยยย ทหารเป็นใหญ่ 555


เห็นป้ายนี้คือห้ามเข้า 555
เห็นเเล้วกลัวเลยอะ สัญลักษณ์แบบ ........ โดนยิงเลยนะ 555


เดินตรงมาเรื่อยๆ จนข้ามถนนนี้ไป
โปรดระวังงงงง!!


เมื่อข้ามถนนจะมองเห็น สถานที่ต่อไปที่จะไปกันน
เห็นไม้กางเขนก็น่าจะพอเดาได้ว่าเป็นโบสถ์คริสต์
หรือ "The Church Of Immaculate Conception" นั่นเองงง


เย้มาถึงเเล้วววววว
ไปดูบรรยากาศกันรอบๆ กับภายในโบสถ์กันนนน


ไปมัสยิดมาเเล้ว ไปโบสถ์มาเเล้ว
ถึงเวลาไปวัดจีนเเล้ว 5555555555
ป่ะะะ!!!


การจะไปวัดจีน ใจกลางตึกเมืองป่าคอนกรีตนี้
ก็เพียงเดินตามทางนี้ไปไม่ไกลนัก ประมาณ 5 นาทีเห็นจะได้


และนี่คือเป้าหมาย วัดจีนหรือ "The Johor Bahru Old Chinese Temple"
ตั้งซะอยู่กลางเมืองเลย Contrast แบบสุดดดดดดดดดดด


บรรยากาศในวัดจีนนี้ ก็จีนแบบจีนจ๋าเลย
ไหว้เทพเจ้าได้ ขอพรได้
นอกจากนี้ ที่นี่มีภาพวาดตามผนัง ตามประตูด้วย
ผมชอบที่นี่มาก สวยสำหรับผมมมม ;D


ออกจากวัดจีนมา ตรงข้ามเลยจะเจอ
"The Sikh Gurdwara Sahib" คิดว่าน่าจะเป็นสถานที่ทางศาสนาของศาสนาสิกข์


ตอนนี้ก็เที่ยวไปทั่วๆเมืองเเล้ววว เริ่มเพลีย
เวลาก็ประมาณ บ่าย 3 เข้าที่พักไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ตอนเย็นค่อยออกมาอีกรอบ
ที่พักก็อยู่ใกล้ๆจากวัดสิกข์เลย เอาง่ายๆที่เที่ยวที่พูดมาวันนี้
คือเดินเที่ยวได้เลย ไม่ไกลเลยจากที่พัก


ไหนๆก็เสียเงินมาพักที่ Amari Johor Bahru เเล้วทั้งที
ที่นี่มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้างนะ ? แบบฟรีไม่เสียตังเพิ่ม



งั้นก่อนไปหาอะไรกินตอนเย็นของวันนี้
จะมารีวิวที่พักให้ดูละกัน เผื่ออยากรู้ว่าเป็นยังไงกัน
ก่อนอื่นเลยก็ห้องสมุด (Library) ที่มีคอมพิวเตอร์ให้เล่นได้ด้วยยยย

นอกจากนั้น
ยังมีโต๊ะพูลให้เล่นฟรีๆ ด้วยยยย


มีห้องดูหนังด้วย นอนบนโซฟา beanbagนิ่มๆ แอร์เย็นๆ ดูหนังเพลินๆ อ่าาาาาาาาาาา
ส่วนฟิตเนส กับสระว่ายน้ำของอุ้บ!! ไว้ก่อน วันสุดท้ายก่อนกลับเเล้วกันนน
ตอนนี้เหนื่อยเเล้วของีบแปปป
คร่อกกก ZZZZZZZZZ
.
.
.
.
กริ๊งงง กริ๊งงงงงงงง นาฬิกาปลุกเเล้วเวลา 6 โมงเย็น
หิวเเล้ววววววววว
เลยเดินลงไปร้านบุพเฟ่ต์ข้างๆที่พักเลย ในตึก zenite
ลงมาเจอเลย อยู่ติดเซเว่น


ขอโทษที่ผมไม่แน่ใจชื่อร้านเเต่คิดว่าเป็น Guoma Steamboat
ที่นี่มีหอย เนื้อ หมู ของหวาน กุ้ง ครบบบบ
(ขาดน้ำจิ้มซีฟู้ด เเนะนำพกมาหน่อย จะได้ฟินๆ5555555)
อร่อยมากๆ ราคาก็ไม่เเรงเลย
รวมService รวมอะไรเรียบร้อยเเล้ว
เฉลี่ยคนละประมาณ 46-47 ริงกิต (ประมาณ 300-400 บาทเท่านั้น) - ใบเสร็จคือทาน 3 คน


กินเสร็จไปเดินย่อยกันดีกว่า ยะโฮร์บาห์รูยามค่ำคืนนน
เดินทั้งห้าง City square และห้าง Komtar อยู่ติดกันเลย


เดินห้างสักแปป ออกมาเดินถนนหน่อย
แถวๆที่เดินมาตอนเช้า ใกล้ๆที่คล้ายวัดแขก
(โปรดระวังของมีค่าด้วยยยยย)
ส่วนตัวผมว่าค่อนข้างน่ากลัวนิดหน่อย มีโรงแรมเล็กๆบนตึกแถวเยอะ
พูดตรงๆก็คือมีการขายบริการเเถวนี้ด้วยนั่นเอง


Hotel....


กลับที่พักกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้จะไป Legoland ต้องออมเเรงกันหน่อยยยย


ตึก Zenite ข้างๆ Amari จะมีร้านนี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นผับ


น่าเข้ามากๆ เเต่พรุ่งนี้มีภารกิจ
ใครมีโอกาสไป มาบอกผมทีว่าเป็นยังไงงง
อยากรู้วววววววววววววว

เเวะซื้อเครื่องดื่มมานั่งชิวกินบนห้อง ชมบรรยากาศเมืองจากหน้าต่าง
หลังจากนั้นก็อาบน้ำนอนนนน
หมดวันที่ 1 ไปอย่างหนักหน่วง ฮ่าๆๆๆ
นอนนนน
.
.
.


ตึ่งตึ้งงงงง!!!
เช้าเเล้วววววว มาเริ่มวันที่ 2 กันนนดีกว่าาา
ลงไปกินข้าวเช้ากันน โดยห้องอาหาร Amari อยู่ที่ชั้น 6 นั่นเอง
“Amaya Food Gallery” ติดกับ Lobby



ไปดูกันดีกว่ามีอะไรทานบ้างงง เยอะมาก ฮ่าๆๆๆๆ
ครบถ้วนทั้งคาวหวาน ขอฝากท้องไว้ด้วยนะครับ 2 วัน อิอิ

หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน!
ไม่ใช่ละะะะ ได้เวลาเดินไปขึ้นรถบัสลุย Legoland กันเเล้ววว


ไม่ยากเพราะที่พักเราใกล้ JB Sentral อยู่เเล้ว
เดินไปที่.......


ป้ายหมายเลข 2 นั่นเอง เพื่อรอรถบัส สาย LM1
เพื่อนั่งไปที่ Legoland


แปะตารางเวลารถบัส LM 1 ไว้ให้ จะได้กะเวลาถูก
ผมไปวันอาทิตย์ เเละขึ้นรถรอบ 9.00 น.


รถบัสมาก็ขึ้นเลยสาย LM1
ราคา 4.50 ริงกิต


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.
ไกลอยู่เหมือนกัน งีบได้เลยยยย555555


เเละเเล้วก็มาถึง Legoland สักที ที่นี่เป็นที่แรกในเอเชีย เเละที่ 6 ของโลกกกกเลย
แปะๆๆๆๆๆ ปรบมืออออ



เดินตามทางตามป้ายเข้าไปเพื่อไปทางเข้าเเละที่ขายตั๋ว
ระหว่างทางจะมีศิลปะสวยๆ ให้ถ่ายรูปสวยๆได้ เหมือนรูปที่ให้ดูด้านบนนน


มาถึงทางเข้าเเล้วววว
เเต่ต้องไปซื้อตั๋วกันก่อน


ราคาที่นี่ MyKad คือราคาคนมาเลนะครับ
เราจ่ายเต็ม!!! TT TT
โดยที่นี่มีทั้งส่วนที่แห้งเป็นเหมือนสวนสนุกและสวนน้ำ
โดยผมไม่ได้เข้าสวนน้ำนะครับ จึงตั้งใจจะซื้อ 1 day-Theme park only 199 ริงกิต
****เเต่ถ้าใครบินตรงมายะโฮร์บาห์รูกับ Airaisa แบบผมก็ยื่น Boarding pass ลดได้ 30% เลยนะครับ
ถึง 31 ธันวาคม 2561 นี้ (ผมมารู้ทีหลัง เลยไม่ได้ใช้ลด ฮือออออ)


ที่ผมซื้อคือ
1 Day กับ 1 Year ราคาเท่ากันคือ 199 ริงกิต
ผมเลยทำเป็น 1 Year เลยละกันนน ฮ่าๆๆๆ
นี่คือบัตรผม ตอนถ่ายเค้าบอกให้ยิ้มมมมม smileeeeee ; )

ที่เห็นคือสวนน้ำ ผมไม่ได้เข้านะครับ
เลยเก็บภาพไกลๆมาฝากก


โดยที่ Legoland Theme park นี้
แบ่งเป็นหลายโซนเหลือเกิน ฮ่าๆ
-THE BEGINNING
-LEGO® TECHNIC
-LEGO® KINGDOMS
-IMGINATION
-MINILAND
-LEGO® CITY
-LAND OF ADVENTURE
-LEGO® NINJAGO™ WORLD

ไปทีละโซนละกันนนน
.
.
ผมจะขอเริ่มจากโซน Miniland
ที่เป็นโซนที่จำลองสถานที่เด่นๆจากทั่วโลก มาไว้ตรงนี้ เสมือนเมืองจำลอง
เเต่!!!! ทุกที่ทำจากตัวต่อเลโก้ !!!!!!
มันเจ๋งตรงนี้
ผมไม่พูดอะไรมากดีกว่าเดี๋ยวลงรูปให้ดูเป็นตัวอย่าง
เเล้วลองเดาว่าสถานที่จากเลโก้เหล่านี้คือที่ไหนบ้าง
(บอกใบ้ว่ามี ของไทยด้วยนะะะะ)

เดาถูกกันไหมนี่คือตัวอย่างในส่วนของ Kuala Lumpur และ Johor Bahru
ย้ำแค่ตัวอย่างเพราะมีเยอะกว่านี้ 5555


อันนี้คือ Angkor Wat, Cambodia


Bali ที่เที่ยวสุดฮิตในยุคนี้ จากโซน อินโดนีเซียยยย


ตัวอย่างจากโซน Loas เพื่อนบ้านเราเองงง



KARAWEIK HALL ส่งประกวดจากประเทศเมียนมาร์นั่นเองงง


ลูกพี่ใหญ่จากเอเชีย ลูกพี่จีนของเรานี่เอง
นำโดยกำแพงเมืองจีนเเละพระราชวังต้องห้าม


หรือเเม้กระทั่ง Taj Mahal จากประเทศอินเดียย


ฮอยอันนนนที่โด่งดัง จากเวียดนาม


เห็นปุ๊บก็น่าจะรู้อยู่เเล้ว นี่คือตัวเเทนจาก สิงคโปร์นั่นเองงงง



มีแม้กระทั่งจำลองสนามบิน KL เเละท่าเรือสินค้าอีกด้วยยยยย


ไทยเเลนด์เราใช่ย่อยที่ไหน มากับวัดอรุณนั่นเองงงง



ขอบอกไว้ก่อนนะครับ นี่เเค่ส่วนนึงใน Miniland เท่านั้น
ยังเหลืออีกเยอะ เเต่ไว้มาดูเองนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ตอนนี้ไปโซนต่อไปกันดีกว่าาาา
.
.
โซน Imagination
เป็นโซนสำหรับเด็กๆ มีเครื่องเล่นมากมาย มีการดู4มิติ
มีหอชมวิว เเละมีห้องไว้ต่อเลโก้เป็นรถเเข่งหรือตึกเพื่อออกแบบให้ทนต่อแผ่นดินไหวเป็นต้น
อ่อๆๆ มี Pizza mania ไว้เผื่อหิวด้วยยย ฮ่าๆ
ไปกันเลยยย

เรามาเริ่มกับห้องชมวิวกันน
เป็นห้องกลมๆ พาเราขึ้นไปมองมุมสูงของ Legoland
เเบบ 360 องศา เพราะห้องจะหมุน 360 องศาให้เห็นวิวทุกทิศทางนั่นเองงง


อันนี้คือ Lego Studios เพื่อชมหนังเกี่ยวกับเลโก้ในรูปแบบ 4 มิติ


ส่วนนี้คือ DUPLO express และ playtown ไว้เล่นเครื่องเล่นวัยเด็กอย่างสนุกสนาน
จริงๆ เลโก้เเลนด์เหมาะสมที่จะพาเด็กมาเรียนรู้ครับ เรียกว่าพัฒนาสมองได้ดีเลย


อันนี้เป็นส่วนที่ชื่อ Bulid & Test
ให้เด็กๆ ได้ใช้ความคิดในการสร้างสิ่งต่างๆเเล้วมาเเข่งขันหรือทดสอบกัน
เช่น สร้างตึกโดยแผ่นรองสามารถสั่นได้ เสมือนออกแบบสร้างตึกให้ทนเเรงแผ่นดินไหว
สร้างรถเเข่งเพื่อมาทดสอบความเร็วเเข่งกัน
เด็กๆชอบกันมากกกกกกก จากที่ผมสังเกตดู


สมองผมไม่ค่อยมี 555555555
สร้างสรรค์ได้เเค่นี้ ขอขายของเเทน ฮ่าๆๆๆๆๆ


อันนี้ให้เด็กๆ ทดสอบความกล้ากันได้เลย เเบบนั่งเเล้วจะดึงขึ้นไป คล้าย Tower shot นั่นเองงงง
หมดแแล้วกับโซน Imagination
.
.
.
ไปต่อกันดีกว่ากับโซน LEGO® NINJAGO™ WORLD
ง่ายๆคือนินจานั่นเอง


มีให้เราปีนป่ายยยย

อันนี้สนุก ผมก็เล่น
คือจะให้นั่งคล้ายๆรถไฟเข้าไป เเล้วจะมีเซนเซอร์จับให้เราขว้างเหมือนขว้างดาวกระจาย
ให้โดนเป้า จบรอบมาดูว่าใครได้คะแนนเยอะสุด ฮ่าๆๆๆๆ
ผมปาเเทบไม่โดนนนนนนน
.
.
ไปต่อกันที่ Land Of Adventure
อันนี้จะมีหลายอย่าง มีคล้ายๆซูเปอร์สแปลชที่ dream world
เรียกว่า Dino Island
เเต่วันที่ผมไป ซ่อมพอดี อยากร้องไห้ T T


อันนี้ก็เป็นเครื่องเล่นนั่งเเล้วขึ้นไปหมุนๆ ฮ่าๆ
และตรงข้ามเครื่องเล่นนี้จะมีเหมือนบ้านบอล บ้านตาข่าย
ให้เด็กๆไปปีนป่ายลุย Adventure กันได้ สนุกเเน่นอน
(ผมไม่ได้ถ่ายมา ขอโทษด้วยยยยครับ)


ส่วนอันนี้ก็สนุก 555 ผมเล่นไป 3-4 รอบอะ
เข้าไปละยิงปิ้วๆๆๆๆ เเล้วดูว่าใครคะแนนเยอะสุดดดด
เป็นเหมือนปืนเลเซอร์อะ ชอบบบบอันนี้มากกกก
.
.
ตัดไปที่โซน LEGO® TECHNIC
โซนนี้เป็นโซนที่วัยรุ่นน่าจะสนุก รวมถึงวัยผู้ใหญ่ด้วย
เพราะมีเครื่องเล่นจุดเด่น คือรถไฟเหาะแบบสวมแว่น VR
เสียวกว่าเดิมอีก 555
และยังมี LEGO® Star Wars™ Miniland
นอกจากนี้ยังมีอะไรน่าสนใจอีกเยอะ
ไปดูกันนน


เริ่มจากอันนี้ที่บอกว่าเล่นรถไฟเหาะเเบบใส่เเว่น VR
"The Great LEGO Race"
อย่าว่างั้นงี้เลย ผมอายุ 23-24 เเล้ว ยังสนุก
เสียวมาก 55555555555555555
รู้สึกว่าเสียวกว่าเล่นเเบบไม่ใส่เเว่น VR อีก


อันนี้คือ Aquazone® Wave Racers
ให้เราหมุนพวงมาลัยเเล้วมันจะหมุนรอบตัวเอง
โดยที่เครื่องเล่นจะเหวี่ยงเราไปด้วยอยู่เเล้ว
คือเหวี่ยงเเรงมาก 555555 ดูจากผมที่ปลิว
หรือดูจากหน้าแม่ผมเสื้อเขียวข้างหลังก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ

แต่น เเต๊น เเต้นนน ....
อันนี้สาวก Star wars คงชอบ
เเม้ผมไม่ใช่ ยังรู้สึกทึ่งกับการใช้เลโก้สร้างเลย
รู้สึกมันปราณีตเเละสวยมาก เดี๋ยวเอาตัวอย่างภายในนั้นมาให้ดูเป็นน้ำจิ้ม



นี่เป็นแค่น้ำจิ้มเล็กน้อยๆมาให้ดูกันน
.
.
ไปต่อกัน โซนนี้ยังไม่หมด
ยังมีร้านอาหาร อีกด้วย เผื่อใครหิวมากินเเถวนี้ครับ

หน้าไอสไตน์นี่ก็สื่อถึงการเรียนรู้นั่นเองกับ LEGO® Academy
ที่ให้เรียนรู้ฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ในห้องแอร์ หรือออกแบบสร้างหุ่นยนต์เลโก้ก็ได้
.
.
ใกล้จะหมดกันเเล้วเหลืออีก 2 โซน
โซนรองสุดท้ายนี้คือ LEGO® KINGDOMS

โซนนี้เด่นคือมีปราสาท เหมือนเป็นอาณาจักรนั่นเอง
มีของที่ระลึกขาย มีบัลลังค์ให้ถ่ายรูปสวยๆ เเละมีทีเด็ดคือ....The Dragon
รอดูเลย อิอิ


เป็นอาณาจักรก็ต้องมีพระราชา เป็นไงท่าผม 555
รู้สึกตัวเองแรดมากจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


สำหรับเด็กๆ ก็เล่นขี่ม้าน่ารัก ชิคๆไปก่อนน
นอกจากอันนี้ก็มีอันอื่นอีกหลายอัน เเต่ผมไม่ได้ไป
เพราะวัยรุ่นใจร้อนอย่างผม แน่นอนไป The Dragonnnnn!!! ดีกว่า


และนี่เองคือ The Dragon เข้าใจหรือยังทำไมชื่อนี้
เพราะเป็นรถไฟเหาะที่รางเป็นเหมืองมังกรนั่นเอง ตัวรถไฟเหาะก็เป็นรูปมังกรนะครับ
สนุก 55555555555
อันนี้จัดไป 3 รอบ เบาๆ
.
.
ไปที่โซนสุดท้ายดีกว่า ก็คือ LEGO® CITY ที่นี่เหมือนเมืองจำลอง
ให้เด็กๆฝึกขับรถ ขับเรือ เครื่องบิน ทำอาหาร shipyard ดูละครเวที หรือเป็นพนักงานดับเพลิงก็ยังมี
ไปดูกันนน




ฝึกขับรถ อย่างถูกกฏจราจร มีทั้งเด็กเล็กเเล้วแบบวัยประถม
สอนให้เด็กเคารพกฏ สร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวมได้ดีเลยครับ

มีขับรถก็ต้องมีขับเรือ ผู้ใหญ่ก็สนุกไปด้วย 555


ส่วนของ Shipyard สร้างเรือกันไปปป


ร้านอาหาร มีข้าวขายจริงๆ หลากหลายเมนู
ไปเติมเต็มพลังได้


ชอบอันนี้ สนุกไปทั้งครอบครัว
ไปเป็นนักกู้ภัย ดับเพลิงกันนน
พ่อแม่ช่วยสร้างแรงดันน้ำ ส่วนเด็กๆยิงน้ำดับไฟ
เป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดีเลย


Airport ก็คือเรานั่งเครื่องบินเเล้วมันจะเหวี่ยงหมุนๆนั่นเองง


ที่นี่จะเป็นเหมือนโรงละครเวที มีเป็นรอบๆ
เเต่ผมไม่ได้รอ เพราะว่าเหนื่อยเเล้ว อยากกลับไปพัก 55555
ดีเเล้วไม่ได้ซื้อสวนน้ำเพราะมันใหญ่พอสมควรเลย
เฉพาะเเค่ส่วน Theme park ก็หมดวันเเล้ว
.
.
ที่ผมไม่พูดถึงโซน The Beginning
เพราะมันคือโซนร้านขายของที่ระลึกเฉยๆ


อ่อเห็นตึกด้านหลังไหมครับ ที่มีโรงเเรมด้วยนะครับ
เเต่คนนอกเข้าไม่ได้ ผมเลยไม่ได้เข้าไปถ่ายมาให้ดูนะครับผม


ตอนนี้ก็เริ่มเย็นๆเเล้ว
ก็ออกมานั่งพักให้หายเหนื่อยรอรถบัสสาย LM 1 (ที่เดิมที่เราลง ตอนนั่งมา)
เพื่อนั่งกลับไปที่ JB Sentral


ย้ำ !! สาย LM1 นะครับ


นั่งกลับก็ชิวๆเหมือนเดิม ราคา 4.50 ริงกิต
เดินทางประมาณ 40-50 นาที
ผมรู้สึกว่าเร็วกว่าตอนนั่งมา




ไปถึง JB Sentral ปุ๊บ

ก็เดินไปห้างเลยเพื่อหาของกินปั๊บ เดินทั้ง Komtar และ City square

สุดท้ายเลือกกินร้านนี้ มีทั้งซูชิจานเวียน หรือจะสั่งเมนูอาหารชุดอื่นๆ ก็ได้
(แม่ผมทานอาหารมาเลเซียได้น้อย เลยไม่ค่อยมีรีวิวอาหารมาเลเซียนะครับ )


เพื่อนผมสั่งซุชิมา


ผมกินปูนิ่มทอดดดดดด


แม่ทานข้าวหน้าหมูผัดอะไรสักอย่าง ฮ่าๆ55555
จำไม่ได้เเล้ว เเม่บอก เเต่อร่อยยยย


วันนี้กะชิว
กินข้าวเสร็จเลยไปร้าน Morganfield's ที่ตึก Zenite ข้างที่พักเรานั่นเอง
เพราะเห็นว่าเบียร์ถูก 555


บรรยากาศร้านรอบๆ
เลยสั่งเฟรนฟรายด์เเละเบียร์มานั่งทาน
ไม่แพงนะเบียร์ ตกประมาณ 10-15 ริงกิตต่อแก้ว


ถ่ายรูปชิคๆ กันหน่อย
อย่ารำคาญกันเลย เผื่อไปกันเเล้วคิดมุมไม่ออก 5555
จะได้เลียนแบบเลย ฮ่าๆ พอได้ไหมครับมุมนี้ ^^
วันที่สอง ก็หมดเเค่นี้
ผมก็ไปเข้าที่พักกัน
.
.
ถือโอกาสพูดถึงในห้องหน่อยละกัน
คงมีหลายคนอยากเห็นในห้อง Amari Johor Bahru จะเป็นยังไง
ผมพักที่ห้อง “Grand Deluxe Room” เป็นห้องพักหัวมุม มีระเบียงด้านข้างนะครับ
ไม่พูดไรเยอะเเค่เอามาให้ดู เผื่อบางคนจะได้ตัดสินใจจจ


ที่ชอบสุดคือ มาพักที่นี่ไม่ต้องเอาปลั๊กเปลี่ยนหัวมา
เพราะที่นี่เค้าทำให้ไม่ว่าหัวเสียบจะเเบบไหนก็เสียบได้ ชอบมากกกกกกก!!!!! เลิฟเลยอันนี้
(จริงๆที่มาเลจะใช้สามขา แบบสี่เหลี่ยมอันนึง)
จากภาพผมก็ใช้ตัวเสียบเป็นสองขาปกติเหมือนที่ใช้ในไทยไปเสียบ ใช้ได้สบายยยย ;D
เย้!!
.
.
วันนี้ก็นอนกันดีกว่า
พรุ่งนี้ 6.55 โมงเย็น ก็ต้องนั่งกลับไทยเเล้ว
คร่อกกกก......Z Z Z Z


เช้าเเล้วว
ก็ตื่นลงมาทานอาหารที่เดิมของเรา กินอิ่มอร่อยเหมือนเดิมมม
ของเยอะเหมือนเดิม



วันนี้ตัดสินใจไม่ไปไหนเเล้ว
กะเเค่ไปซื้อของช็อปปิ้งอย่างเดียวใน outlet ในห้าง Komtar
เลยไปออกกำลังกายฟิตเนส ว่ายน้ำดีกว่า

ข้อดีของฟิตเนสที่นี่คือ เปิด 24 ชม. นะจ๊ะะะะะ เล่นฟรี
เรียกได้ว่าคนรักสุขภาพนี่ชอบเลย
ผมก็ยกๆเวทไปงั้น อย่าถือสา 555
ผมไม่ค่อยออกกำลังกายเท่าไหร่ เเต่เอามาให้ดูว่าที่นี่ก็มีนะะะ ฮ่าๆๆๆๆ


อันนี้คือปั่นไปด้วย เล่น Facebook, Youtube, Twitter หรือเอฟวี่ติง จิงเกอเบลไปด้วยได้เลย

.
.
ผมชอบว่ายน้ำมากกว่า อิอิ
ไปสระกันดีกว่า

สระน้ำที่นี่ จำไม่ผิดจะปิด ตี2 เลยนะ 5555
ใครกล้ามาว่ายบ้าง ผมไม่ละ 1 ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้ข้างๆสระกำลังสร้างบาร์เพิ่มด้วย ใครมาทันสร้างเสร็จ ถ่ายมาอวดผมด้วยนะครับ


ขนาดที่สระน้ำเราก็ทำให้เป็นรันเวย์ได้ 55555555555555555

.
.
ตอนนี้ก็เที่ยงวันเเล้ว
ว่ายน้ำมาเหนื่อยๆ เริ่มหิวเเล้วด้วย
ไป Check out กันดีกว่า เเล้วฝากของไว้กับ Lobby (ไม่เสียเงิน)
เเล้วเดินตัวปลิวไปหาอะไรกินดีกว่า

มื้อสุดท้ายก่อนไปสนามบิน
เราเลือกทาน Arashi shabu-shabu ที่ Komtar ที่เดิมของเรานั่นเอง


ก็สั่งเป็นชุดๆมาทาน
ราคาไม่แพง รสชาติดี น้ำซุปมีให้เลือกเยอะ
เเต่ข้อเสียชอบชาร์จอะไรไม่รู้ยิบย่อยเยอะ โดยที่ไม่ได้เเจ้งก่อน
เช่น ผ้าเย็นคิดเงินเลยเเม้ไม่ได้ใช้ เซอร์วิส ค่าน้ำซุป
ที่เเย่สุดคือ ของดองเอามาวางพร้อมตอนเสิร์ฟชุดอาหารเเต่คิดเงินเพิ่ม เลยรู้สึกแย่หน่อยๆ
เเต่รสชาติก็อร่อยดี
.
.
หลังจากนี้ ผม เพื่อน เเละเเม่ผม ก็ไป Shopping กัน
บ่ายสามก็ไปเอากระเป๋าที่ Lobby เพื่อนั่งรถบัสไปสนามบินกัน


การขึ้นรถบัสก็ง่ายๆเหมือนเดิม
ที่พักเราใกล้ JB Sentral อยู่เเล้ว
เดินมาที่ป้ายเลข 1 นี้




รอรถแบบนี้ ของ Causeway Link วิ่งไป Senai Airport


ค่ารถก็ 8 ริงกิตเท่าตอนนั่งมาวันแรก


ระหว่างทางมองข้ามแม่น้ำไป
ตึกฝั่งตรงข้ามนั่นไง สิงคโปร์นั่นเอง (คิดว่าใช่นะ ถ้าผิดขออภัยยยย)


วันสุดท้ายกันเเล้ว
เที่ยวซะทั่วเลย ตอนจะจากกันก็มีฝนตกลงมา ให้ความรู้สึกเหงาๆเลย


มาถึงสนามบินเเล้ว
เช่นกันตอนกลับ ง่ายๆ เรานั่ง Airasia บินตรงจากยะโฮร์บาห์รู มุ่งกลับสู่ดอนเมือง
รอบเวลา 18.55 น.(เวลามาเลเซีย) ถึงบ้านเราดอนเมือง 20.15น. (ตามเวลาบ้านเรา)
**บ้านเราช้ากว่า 1 ชั่วโมง



Self Check-in ง่ายกันเลย ชอบ Airasia ตรงนี้มาก
ไม่ต้องไปต่อเเถวเลย
(อย่าลืมนะทริปนี้ผมแลกตั๋วเครื่องบินฟรีมาจากแต้ม BIG Points ด้วย อิอิ)

ลาก่อนนะ Senai Airport
ลาก่อน ยะโฮร์บาห์รู ;D


เป็นไงกันบ้างกับคู่มือเที่ยวอย่างละเอียดยิบ
3 วัน 3 คืน ณ ยะโฮร์บาห์รู ของผม
ชอบกันไหมเอ่ยยยย



ถ้าชอบรีวิวของผม สามารถเข้ามาพูดคุยติดตามกันได้นะครับ
ฝากกดไลค์ ติดตามกันหน่อยนะครับ ;D
ผมจะได้มีกำลังใจดีดีครับผม
ที่เพจ https://www.facebook.com/KonbaTravel/



ก่อนไปเรามาสรุปคร่าวๆกันดีกว่า
-บินตรงยะโฮร์บาห์รู-ดอนเมือง กับ Airasia
-ใช้ BIG points แลกตั๋วเครื่องบินฟรีได้ (เสียเเค่ภาษีสนามบิน)
-วันแรกเที่ยวรอบเมือง เดินเอาได้
-วันสองยกให้ Legoland
-ที่นี่ติดสิงคโปร์ สามารถไปเที่ยวต่อได้เลย
-ที่พักดีดีไม่แพง Amari Johor Bahru



ความรู้สึก
-Legoland : เหมาะมากที่สุดสำหรับครอบครัวที่อยากพาเด็กๆไปเที่ยว
แบบได้พัฒนาสมอง เเละสนุกสนานไปด้วย
ได้ทั้งกิจกรรมครอบครัวร่วมกันด้วย
-Airasia : บริการดีมาก บินตรงเลย มี Self check-in อีก แถมใช้ BIG Points แลกตั๋วฟรีได้
-Amari Johor Bahru : ทันสมัย สะอาด มีกิจกรรมเยอะ อาหารเยอะ ดีมาก Locationดี แนะนำ
-เที่ยวรอบเมือง : ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ราชการ วัดหลายศาสนา เเละสถาปัตยกรรม
-Shoping : มี Outlet ในห้าง Komtar 2 ร้าน ราคาน่ารัก
-คมนาคม : ดีมาก สบายเลย
-อาหาร : ไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่ เพราะชอบทานอาหารรสเผ็ด
-ผู้คน : มีระเบียบวินัย เท่าที่เจอมีเเค่คนน่ารักๆมาคุยด้วย มีหลายเชื้อชาติ
-ราคา ค่าครองชีพ : ไม่แพง บางอย่างถูกกว่าไทยด้วยซ้ำ


เอาล่ะ คงต้องจากกันจริงๆเเล้ว
ฝากไปเป็นกำลังใจ กดไลค์ ติดตามเพจผมด้วยนะครับ
สัญญาจะทำทริปดีดีต่อมาเรื่อยๆ
(สปอนเซอร์ สนใจติดต่อได้นะครับ ยินดีอย่างยิ่งงง 55555555555555555555)



วันนี้แก็ปขอลาไปก่อน
บ้ายบายยยยยยยย
;D

Paphaphot Amornpattarakit

 วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.24 น.

ความคิดเห็น