#ทริปหนีร้อนไปนอนน่าน เมษายน ๒๕๖๑



จุดหมายปลายทางอยู่ที่นั่น บ้านสะปัน



#การเดินทาง

ทริปนี้ขาไปใช้บริการแอร์เอเชีย ไฟลท์เช้าสุด 7:40 ถึงน่าน 8:55

ขากลับใช้บริการนกแอร์ ไฟลท์หลังสุด 19:05 ถึงดอนเมือง 20:40



ใช้บริการรถเช่า ของบริษัทในท้องถิ่น รับส่งรถที่สนามบิน

ทีแรกก็หวั่นใจ เพราะเราไม่เคยใช้บริการรถเช่าในท้องถิ่นเลย

แต่ที่น่าน เอวิสและเจ้าอื่นที่ใช้ประจำ ไม่มีโฟร์วิว

เราต้องใช้โฟร์วิว เพราะตั้งใจขึ้นไปสะจุกสะเกี้ยงด้วย



ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ สำหรับรถเช่าเจ้านี้ ปกติดีงามพระรามเก้า



#เมื่อไปถึงน่าน

แน่นอนหาอาหารเช้ากินก่อน ง่าย ๆ เลย ต้มเลือดหมูร้านนายเลิศ

อร่อยดี แต่ก๋วยจั๊บอร่อยกว่าแฮะ

แล้วก็เริ่มเดินทาง เราใช้เส้นทาง ๑๐๘๑ น่าน สันติสุข บ่อเกลือ

ขับวนไปค่ะ เจออะไรก็แวะถ่ายไปเรื่อย

เป็นถนนที่สวยจัง ขนาดหน้าร้อนนะนี่

สองข้างทางก็มีวิวสบายตา สบายใจ

ความที่แวะไปเรื่อย เรามาถึงบ่อเกลือก็บ่ายหละ ตรงเข้าที่พักเลย

จองบ่อเกลือวิวไว้ ทีแรกก็ไม่มั่นใจ หาดูรีวิว ก็น้อยมากและไม่อัพเดทเลย

รีวิวในพันทิปก็มีแต่นานมากแล้ว หน้าเพจของรีสอร์ทก็ไม่ค่อยมีภาพห้องพัก



แต่เห็นว่าเป็นรีสอร์ทยุคแรก ๆ ของแถวนี้ ถึงรีวิวมีน้อย แต่ก็คงไม่แย่มั้ง ลองดูเนาะ



#เมื่อไปถึง

โอ้...รู้สึกดีใจจังที่เลือกที่นี่ ดีงามกว่าที่คิดมาก

เป็นที่พักที่เย็นกาย เย็นใจ ต้นไม้ดอกไม้เยอะมาก

ตั้งอยู่บนไหล่เขาไม่สูงนัก แต่วิวรอบ ๆ นี่ดีงามมากมาย

การตกแต่งบริเวณรีสอร์ทสวยงาม ละเมียดละมุน รู้สึกได้ถึงความใส่ใจ

กระโจมอะไรหนอ?? ไม่น่าใช่ที่พัก เพราะมันดูเล็ก ๆ

น่าจะสำหรับนั่งเล่นถ่ายรูปกระมัง ฉันเองก็ไม่ได้ถามมาเสียด้วยสิ

ดอกไม้มากมาย ๆ

#ห้องพัก

ห้องพักของเราคือบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ระเบียงกว้างขวาง หลังนี้

หน้าบ้านมีแบบนี้

ภายในห้องพักประมาณนี้

หัวเตียงมีดอกไม้ด้วย ชอบจัง มีความละมุน

ของอำนวยความสะดวกมีทุกอย่างครบ

เครื่องอาบน้ำมีให้มากมายเกินพอ



ชอบที่ใส่กระดาษชำระ น่ารักดี

ของกิน เครื่องดื่มที่มินิบาร์และในตู้เย็น กินได้หมดทุกอย่าง ไม่คิดตังส์เพิ่ม

มีทั้งผลไม้ ขนมนมเนย มาม่า กินได้หมดเลย

กาแฟมีทั้งแบบซอง และแบบใช้เครื่อง

มีทั้งกาต้มน้ำธรรมดาและเครื่องชง

ในห้องพักหอมกรุ่น มีดอกไม้วางมุนนั้นมุมนี้

มีเตาน้ำมันหอม ดีงามไปอีก



ระเบียงกว้างขวางเลยหละ



เก็บสัมภาระเรียบร้อยไปหาข้าวกิน

เราฝากปากท้องไว้ที่ร้านอาหารของรีสอร์ทนี่หละค่ะ ง่วงด้วยอะไรด้วย อยากทานข้าวแล้วพักเลย



บ่อเกลือวิว มีร้านอาหารชื่อร้าน ปองซา วิวดีมากมาย

การตกแต่งร้านนี่ เราชอบจัง มีอะไรให้ถ่ายรูปเยอะดี

###พระเทพฯเคยเสด็จด้วยค่ะ



มื้อนั้นก็ดังนี้

ไก่ทอดมะแขว่น อร่อยแบบแปลก ๆ ดี กลิ่นหอมมะแขว่นขึ้นจมูก

เขียวหวานปลาดุกทอด นี่ก็อร่อย

ฟักทองอบเนยหรืออะไรสักอย่างนี่หละค่ะ อันนี้เราชอบสุดเลย

อิ่มแล้วพักผ่อนเถอะ ง่วงมาก กะว่าค่ำ ๆ ค่อยออกมาทานมื้อค่ำอีกที



ปรากฎหลับยาว หลับสนิทมาก ตื่นอีกทีเช้าแล้ว

ยามเช้า ณ บ่อเกลือวิว


สดชื่นมากกกก อาจเพราะมีฝนลงมานิดหน่อยด้วย

ไปทานมื้อเช้ากันเถอะ วันนี้มีโปรแกรมไปอีกหลายที่ ต้องออกแต่เช้า



อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ อาจไม่มากมายเหมือน รร.ใหญ่

แต่ก็ไม่น้อย อิ่มจนเกินอิ่มเลยหละ

เพราะมีครบ ทั้ง ABF สลัด ข้าวสวย ข้าวต้ม เครื่องดื่ม

การจัดจานอาหาร ขนม ทุกอย่างมีความละมุน

ไม่ใช่แค่จัดเรียงให้เสร็จ ๆ ไปแต่เขามีดอกไม้เล็ก ดอกไม้น้อย

แซมอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง มีการจัดวางสวยงาม

มีเพลงไพเราะเนิบ ๆ นุ่ม ๆ ให้ฟัง

ดื่มโอวัลตินอุ่น ๆ นั่งมองสายหมอกไหลผ่านภูเขา

มองลำน้ำมางที่อยู่เบื้องล่าง

เป็นการกินมื้อเช้าที่มีความสุขมาก บรรยากาศนิ่ง เนิบช้า อยากอยู่นาน ๆ

แต่ต้องไปแล้ว ฮือออออ



เช็คเอาท์ด้วยความประทับใจ

อ้อ อีกอย่าง พนักงานที่นี่น่ารักเหลือเกิน

พูดจาน่าเอ็นดูทุกคน น้ำเสียงเบา ๆ ช้า ๆ รื่นหู น่าฟัง

ยิ้มใส ๆ น่ามอง มีความอ่อนหวานนุ่มนวล คนเหนือนี่น่ารักน่าเอ็นดูแท้

สะจุกสะเกี้ยง เปียงซ้อ
นั่นคือจุดหมายของเราวันนี้ิ ออกจากบ่อเกลือก็มุ่งหน้าทาง อ.เฉลิมพระเกียรติ
เส้น ๑๐๘๑ ขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ มีป้ายบอกเป็นระยะ ๆ
“สถานีพัฒนาเกษตรที่สูง ตามแนวพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง” อยู่ที่ดอยขุนน่าน ตำบลขุนน่าน



แน่นอน ระหว่างทางเราก็แวะไปเรื่อย เจออะไรเราก็ว่าสวยหมด

มีสาระมั่งไม่มีสาระมั่ง บางทีระหว่างทางมันก็มีอะไรน่ามองตั้งมากมายนี่เนอะ



บางช่วงทุลักทุเลเล็กน้อย เพราะมีการปรับปรุงถนนอยู่ ตอนนี้เสร็จหรือยังไม่รู้

บนเส้น ๑๐๘๑

เจอวัวควายหมูหมากาไก่ ก็แวะถ่าย ก็ความสุขของฉันคือการได้ถ่ายรูปนี่นะ

ถึงแล้ว สะจุกสะเกี้ยง ถนนค่อนข้างลำบาก

เราเคยมาที่นี่แล้วครั้งนึงเมื่อหลายปีก่อน แต่ครั้งนั้รขึ้นมาไม่ถึงสะจุกสะเกี้ยง ไม่ถึงเปียงซ้อ

เพราะเป็นหน้าฝน ทางโหดและพังมาก ขึ้นได้เพียงครึ่ง จำต้องยอมแพ้



ครั้งนี้เราจึงเลือกหน้าร้อน และพบว่าถนนดีขึ้นมากกกก

(แต่ก็ยังลำบากอยู่)

จึงพอขึ้นไปได้ไม่ยากสำหรับเรา

ถนนเป็นทางปูนสลับลูกรัง เป็นหลุมบ่อ แคบ โค้ง ชัน

ไต่ไปบนไหล่เขา ควรต้องใช้โฟร์วิลนะเราว่า

#จริงๆมอเอร์ไซด์น่าจะง่ายกว่า



#สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก – สะเกี้ยง



สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ

ทรงมีพระราชดำริให้สร้างโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้นในหมู่บ้าน

เพื่อให้ความรู้เรื่องการทำนาแบบขั้นบันได และปลูกพืชผักผลไม้ให้เหมาะกับภูมิประเทศ



ที่นี่มีโครงการปิดทองหลังพระด้วย อยู่ที่บ้านเปียงซ้อ ขึ้นสูงกว่าสะจุกสะเกี้ยงอีกหน่อย

โครงการปิดทองหลังพระ เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ

ซึ่งจังหวัดน่านเป็นจังหวัดนำร่อง สืบสานแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช



เนื่องจากว่า พื้นที่แถบนี้เป็นป่าเสื่อมโทรม มีการใช้พื้นที่ป่าทำไร่ จนกลายเป็นเขาหัวโล้น



โครงการปืดทองหลังพระเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

ลดการใช้พื้นที่ป่า แต่ขณะเดียวกันชาวบ้านก็ต้องอยู่รอด มีที่ทำกิน ไม่อดอยากยากจน

แก้ปัญหาให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้



โครงการปิดทองหลังพระสอนชาวบ้านให้เรียนรู้เรื่องการทำนาขั้นบันไดแทนข้าวไร่



และสร้างบ่อกักเก็บน้ำ ฝาย การปลูกถั่วเหลือง และการเลี้ยงสัตว์ เช่น แพะ แกะ



จอดรถไว้ตรงนี้แล้วเดินขึ้นศาลาทรงงาน

ภูเขาข้าง ๆ มีหมู่บ้านอยู่ลิบ ๆ

ลานจอด ฮ.

ศาลาทรงงาน

รอบ ๆ โครงการฯ

ในส่วนของบ้านพักจะอยู่กลางไร่ชา

ในโครงการฯมีบ้านพัก ๔ หลังอยู่กลางไร่ชา วิวภูเขาสุดสายตา



เป็นกระท่อมไม้ไผ่ ๓ หลังห้องน้ำรวม

เป็นบ้านปูน ๑ หลังมีห้องน้ำในตัว



มีเครื่องนอนหมอนมุ้งง่าย ๆ นะคะ มีไฟฟ้าใช้



มีพื้นที่ให้กางเต๊นท์



#ค่าที่พัก แล้วแต่ศรัทธาจะให้ เท่าไหร่ก็ได้ค่ะ



จากสะจุกสะเกี้ยงก็ขึ้นต่อไปยังจุดชมวิวบ้านเปียงซ้อ



ก็จะดูแล้ง ๆ หน่อยเพราะไปหน้าแล้วนี่เนาะ หน้าฝนเท่าที่เคยเห็นรูป ณ จุดนี้ สวยมาก



ฝนทำท่าจะตก กลับลงก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะลงลำบาก

ลงมาก็ย้อนกลับทางเดิม เพราะคืนนี้เราจอง อุ่นไอมางไว้




ระหว่างทางกลับก็แวะทุกอย่างที่ผ่านอีกเช่นเคย

แค่ ๑๕๐ เมตร ต้องแวะสิ รออะไร จอดรถริมทาง แล้วเดินลงไปได้เลยจ้า

ทางลงก็จะมืด ๆ หน่อย ทุลักทุเลพอสมควร

ข้ามสะพานเล็ก ๆ

เจอศาลพระภูมิ (หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่มีของเซ่นวางอยู่)

โรงทำเกลือก็ประมาณนี้ ตรงนี้ปกติยังทำอยู่หรือเปล่านะ

หรืออนุรักษ์ไว้เฉย ๆ ไม่เจอใครให้ถามเลย

รู้สึกวังเวงไปนะ กลับเถอะ



..........................................................................



ออกมาจากบ่อเกลือโบราณ ถัดมาอีกนิดก็เป็น ต้นแม่น้ำน่าน

น่าอัศจรรย์ ธารน้ำเล็ก ๆ แค่นี้เองเป็นบ่อเกิดแม่น้ำใหญ่

ก็ว่าจะเข้าที่พักเลย แต่เวลายังเหลืออีกเยอะ

มาแถวนี้ครั้งก่อนยังไม่ได้เข้าไปดูบ่อเกลือ งั้นครั้งนี้ก็อย่าพลาด แม้ฝนจะปรอยนิดหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา



ตรงนี้เป็นบ่อน้ำเค็มที่เขาเอามาต้มเป็นเกลือ เขาบอกว่ามันไม่เคยแห้ง แปลกดีจัง

แต่ แต่ วันที่เราไปเขาไม่ต้มเกลือ ทำไมไม่ต้มเกลืออออ โธ่วววว

อดเห็นกรรมวิธีเลย แต่ไม่เป็นไร เห็นแค่อุปกรณ์ก็โอเคหละ

อุดหนุนผลิตภัณฑ์จากเกลือมานิดหน่อย พวกสบู่ สครับขัดผิวไรงี้

กลับมาลองใช้ดู ก็โอเคนะ ใช้ดีเหมือนกันแฮะ ผิวนุ่มดี

ไหน ๆ ก็มาวนอยู่บ่อเกลือ ก็หาอาหารกินแถวนี้ก่อนเข้าที่พักละกัน

ที่เดิมค่าาา ปองซา บ่อเกลือวิว



ใครมีที่อื่นแนะนำไหมคะ แถวนี้ คราวหน้าจะไปลองบ้าง

อิ่มแล้วก็เข้าที่พักคืนนี้กันค่ะ ที่บ้านสะปัน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่เลยบ่อเกลือไปนิดนึง

อุ่นไอมาง ถึงแล้วววว

เชคอินที่เรือนนี้ค่ะ อาหารค่ำ อาหารเช้าก็ขึ้นมาทานที่เรือนนี้

มีเครื่องดื่มขายนะคะ กาแฟหอมเชียว

เข้าห้องพักกันเถอะ

อุ่นไอมาง มีทั้งแบบเต๊นท์ กระโจมและบ้านไม้เป็นหลัง ทั้งหมดอยู่ริมลำน้ำว้า



ส่วนที่เป็นกระโจมน่ารักโรแมนติกเชียวหละ

แต่ห้องน้ำรวม จึงไม่สะดวกสำหรับคนเข้าห้องน้ำบ่อยเรา



เราเลยจองเป็นบ้านไม้หลังน้อยค่ะ มีห้องน้ำส่วนตัว



หน้าบ้านก็ประมาณนี้

ภายในห้อง น่ารักน่านอน

ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ไม่มีแอร์นะคะ มีพัดลมให้ ๑ ตัว แต่ไม่ได้ใช้ เพราะอากาศเย็นมาก

ห้องน้ำ มีแชมพู ครีมอาบน้ำ น้ำอุ่น

#ราคา

คิดเป็นรายคน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบห้องพัก

ราคารวมจะห้องพัก อาหารเย็น อาหารเช้า



ของเราคนละ ๑,๑๐๐ บาท สองคนก็ ๒,๒๐๐ บาท




สวัสดีสายน้ำว้า

มีจักรยานให้ปั่นฟรี ปั่นไปเที่ยวในหมู่บ้านกัน

หมู่บ้านในอ้อมกอดของขุนเขา อบอุ่นละมุนเหลือเกิน

เราปั่นจักรยานดูนั่นนี่ไปเรื่อย ผู้คนที่นี่น่ารักมาก ยิ้มเก่ง ทักทายตลอดทาง

ใจอยากขึ้นไปน้ำตกสะปันด้วย แต่ติดว่าช่วงนั้นขาเจ็บ เดินกะเผลก ๆ ตลอด

เลยต้องผ่านก่อน ไว้คราวหน้าจะกลับไปแก้ตัว

ใกล้ได้เวลามื้อเย็น

#อาหารเย็น

เริ่มต้นหกโมงหรือหกโมงครึ่งนี่หละ มีให้เป็นเซต มากมายหลายจาน

ปริมาณเยอะ เรากินไม่หมด ถ้าอยู่ใกล้บ้านนี่จะห่อกลับนะ 555

อิ่มจนจุก ปริมาณเยอะเกินสองคน เสียดายก็เสียดายแต่กินต่อไม่ไหว



บรรยากาศกลางคืนนิดนึง

นอนเถิด หลับฝันดีในค่ำคืนที่อากาศแสนดี

ยามเช้า ณ สะปัน



เมื่อตื่นขึ้นมาเปิดประตูระเบียงออกไป เดือนเมษายนจริง ๆ หรือนี่

คว้าจักรยานปั่นรอบหมู่บ้าน



โรงเรียนบ้านสะปัน สวยจังเลย

ปั่นไปสะพานแขวน

ไม่อยากกลับเลย

กลับมากินมื้อเช้า

อาหารเช้าดีงาม ขนมเพียบ

อยากกินทุกอย่าง แต่ท้องไม่พอบรรจุ

บรรยากาศยามเช้างดงาม แดดอ่อนอุ่นกับอากาศแสนสบาย

และอาหารเช้าที่อร่อย ฟังเสียงน้ำ เสียงนกกา เสียงลมพัดใบไม้ไหว ความสุขคือแบบนี้เอง

อิ่มท้องก็เตรียมตัวเช็คเอาท์

อิ่มกายอิ่มใจมีความสุขกับที่แห่งนี้มาก แทบไม่อยากจากลา...



รักนะอุ่นไอมาง รักนะสะปัน แต่ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกันใหม่

ออกจากบ้านสะปัน เราวนกลับทางเส้น ๑๒๕๖



คือ บ่อเกลือ ดอยภูคา ปัว สันติสุข น่าน เราขึ้นเครื่องกลับตอนทุ่มนึง

ก็ยังมีเวลาเหลือเฟือจะแวะระหว่างทาง

ดอยภูคา ยามที่ไม่มีคนนี่บรรยากาศดีแท้ สงบเย็น

เจอแมวเหมียวนอนอืดตรงร้านกาแฟที่ลานกางเต๊นท์

บ้านพักอุทยานน่าพักมากเลย

ช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวนี่ มันน่าเที่ยวจริง ๆ คนน้อยมาก

ไม่สิ ที่ดอยภูคาไม่มีคนเลยต่างหาก มีแต่เรา คราวหน้าลองบ้านพักอุทยานบ้างดีกว่า



ออกจากดอยภูคาก็มุ่งเข้าปัว เราจะไปกินพิซซ่าเห็ดค่ะ

รู้สึกว่ากระทู้ยาวจัง

แต่ก็ไม่อยากแบ่งเป็นสองสามกระทู้ ให้มันเสร็จในทู้เดียวนี่หละ



ปัว... ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เคยเห็นรีวิว เขาว่าพิซซ่าเห็นอร่อย ต้องมาลอง




บรรยากาศดี วิวสวยทีเดียว ถ้าช่วงฤดูทำนาคงสวยมากแน่ ๆ

มีทางเดินลงไปวังศิลาแลด้วย จากกอไผ่ตรงนี้แหละ นี่ถ้าขาไม่เจ็บเราคงไม่พลาดแน่

มาดูอาหารกันบ้าง

ไก่บ้านแข็งจัง เคี้ยวยากชะมัด คนข้างตัวบอกว่า แก่แล้วก็เงี๊ยะ!

พิซซ่าเห็ดมาล้าววววว

อร่อยสมคำร่ำลือค่ะ เราชอบมากเลย แป้งบางกรอบ รสชาติดี๊ดี



โดยรวม อาหารรสชาติดี ราคาไม่แพง วิวงาม หน้าฝนคงงามกว่านี้เยอะ

อิ่มแล้วก็เข้าเมืองกันเลย

เข้าเมืองมาแล้ว เวลาก็ยังเหลือเฟือ

แวะวัดภูมินทร์สักหน่อย คราวก่อนมาเจอคนเยอะ ไม่ค่อยได้ดูอะไรเท่าไหร่



ครั้งนี้เงียบดีจัง

กระซิบรัก ณ น่าน นานนิรันดร์

ออกจากวัดภูมินทร์ ก็ไปภ่ายรูปซุ้มลั่นทม คราวก่อนมาเจอแต่ต้นโกร๋น ๆ ไม่มีดอกไม่มีใบ

ครั้งนี้มีทั้งดอกใบครบ ดีงาม

เราไม่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์นะคะ เพราะครั้งก่อนเคยเข้าแล้ว

วัดตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ก็งาม

ถ่ายรูปกันพอสังเขป ก่อนไปสนามบินหาอะไรรองท้องสักหน่อย

เปิดกูเกิลหาร้านง่าย ๆ ละแวกนั้น เจอขึ้นแนะนำร้านนี้ค่ะ

ชื่อร้านสั้น ๆ เลย " กิน " เอ้า กินก็กิน



ร้านอยู่ริมถนนสุมนเทวราช เป็นร้านเล็ก ๆ ค่ะ

ก็สั่งอาหารง่าย ๆ กินสบาย ๆ เนาะ

ขอบอกว่าอร่อยค่ะ อร่อยมากทีเดียว จานละร้อยกว่าบาท



เขามีหลายเมนูนะคะ ทั้งอาหารไทย อาหารเหนือ

อาหารฝรั่ง อาหารจานเดียวหรือเป็นเซต

ราคาถูกมาก เท่าที่ดู ๆ ในเมนูนี่ ราคาเริ่มที่ ๗๐ บาท



อิ่มแล้วก็เข้าสนามบินกันเลย คืนรถเรียบร้อยเสร็จสรรพ

เช็คอินนั่งรอเวลา สนามบินน่านเงียบยังกะสนามบินร้าง ผู้คนไปไหนหมดเนี่ย

นกแอร์ไฟลท์หลังสุด ตรงเวลาดีมาก



บ๊ายบาย น่านที่รัก เดี๋ยวเราก็มาใหม่ไม่นานนักหรอก

คนหลงรักภูเขาอย่างเราก็วนเวียนอยู่แถว ๆ นี้แหละ จากไปไม่เท่าไหร่ก็กลับมา

............................................................................................................



จบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่ะ (ไม่จบก็ไม่รู้จะว่าไงหละ ยาวเกิ๊น)

ขอบคุณที่อดทนอ่านกันน๊า

Paramee Na Prasri

 วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.16 น.

ความคิดเห็น