สวัสดีครับเช้านี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์เป็นวันสุขของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา แต่สำหรับผมนั้นมันสุขกว่าเพราะไม่ต้องทำงานคร๊าบบบ ผมได้ลางานวันศุกร์เเละวันจันทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เราจะไปเมืองสตรีทอาร์ตชื่อดังอย่างปีนังกัน เอาหละเริ่มเดินทางกันดีกว่า

ทริปนี้เราบินภายในประเทศมาที่ลงหาดใหญ่ก่อนที่จะนั่งรถตู้ไปปีนังกัน อาจใช้เวลาพอสมควรแต่ถูกกว่าบินตรงแน่นอน นั่งรถหลับๆตื่นๆเผลอแปปเดียวเรามาอยู่บนสะพานที่จะข้ามไปเกาะปีนังกันแล้ว

มาถึงบ่ายแก่ๆ เก็บของเสร็จเราก็ออกสำรวจกันบริเวณใกล้ๆที่พัก ตึกราบ้านช่องเค้าสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียนร้อยดีมาก เดินเล่นกันจนค่ำได้เวลาออกหากิน เอ้ยย ออกหาของกินกันแล้วว

เราสะดุดตากับอะไรบางอย่าง ที่มีผู้คนมุงกันเต็มร้าน รึนี่คือมาเลเซียนมุง ก็ไม่น่าใช่ อะไรหว่า มันคือ LOK LOK นั่นเอง เป็นอาหารยอดนิยมของที่นี่จริงๆ ก็เป็นอาหารเสียบไม้ทั่วไป แต่ที่มันน่าสนใจคือการกินนี่เเหละ เรารับจานมาหนึ่งใบเลือกได้ตามใจชอบ ลวกและร้านน้ำจิ้ม แล้วยืนกินอยู่ตรงนั้นและจนกว่าจะอิ่ม มันสนุกกับการกินอย่างบอกไม่ถูก 55+ เมื่ออิ่มแล้วก็เอาไม้ไปให้เจ้าของร้านคิดเงิน แต่ละไม้จะมีสีแต้มอยู่ มันคือราคานั่นเอง อย่าเผลอไปทิ้งเสียหละเดี่ยวงานเข้า

ปีนังยามค่ำคืนก็คงเหมือนเมืองต่างๆทั่วไปที่คราค่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาหลายเชื้อชาติ เดินเล่นสักพักจึงตัดสินใจกลับมานั่งฟังเพลงชิลๆ ที่โรงแรมกันดีกว่า ชั้นสองของโรงแรมมีร้านดนตรีอยู่ด้วย บรรยากาศดีมากก แอบติดใจเบียร์ดำเสียนี่ รสชาติผมปลื้มมม อิอิ อ่อ ลือบอกไปที่นี่คือ Kim Haus เป็นที่พักที่ดี แถมฟรีคอกเทลด้วยน๊าา สำหรับแขกที่เข้าพัก คอกเทลพี่เค้าไม่ธรรมดาเอาเรื่องอยู่ 55+

เช้านี้เริ่มด้วยอาหารเข้าของโรงแรม วันนี้ถือเป็นวันเดินแห่งชาติก็ว่าได้ จะเริ่มละน๊าาไปกันเลย เริ่มด้วยตลาดเช้าบรรยากาศคึกคักดี

บริเวณนี้คือ Penang Town Hall ตึกสวยโดดเด่นเห็นแต่ไกล ศิลปะตะวันตกแบบสวยอะ อย่าให้บอกรายละเอียดว่ายุคไหน ใครสร้าง ไม่ทราบครับ 55+ แต่สวยจริงมาเดินเล่นกันเถอะครับ

เดินมาสักพักก็อยากไปทะเลซะงั้น เลยนั่งรถเมล์ไป Batu Ferringhi กัน

มาถึงปุ๊ป ก็เดินเล่นนิดหน่อยหาดสวยดี แต่ก็ไม่มากมาย 55+ ละมรึงมาเพื่ออ ก็เลยคิดว่าแค่มาจิบกาแฟริมทะเลก็พอละกลับดีกว่า เรานั่งรถเมล์สายเดิมกลับ ลืมบอกสายรถเมล์เลย ช่ายครับผมก็ลืมยังไงถามคนเเถวนั้นก็ได้นะครับ แจ็คผู้ซึ่งไปเที่ยวละไม่เคยจำ...่า อะไรได้เลย เราลงรถกันที่ตึกคอมต้าและต่อรถเมล์อีกสายไป Penang Hill กันครับ

มาถึงต้องซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถรางขึ้นมานะครับ คิวค่อนข้างยาวคนเยอะมากแต่ก็เร็วกว่าขาลง ขาลงนี่พีคมากก ยืนรอกันจนเบื่อโลก ด้านบนสามารถมองเห็นเมืองปีนังได้ค่านข้างกว้าง ยิ่งตอนกลางคืนแสงไฟในเมืองนี่เหมือนดาวบนดินเล๊ยย สวยงามม

กว่าจะลงมาถึงข้างล่างนานมาก คิวยาวมากกก วันนี้เลยเข้าที่พักเลยละกัน

เช้าวันที่สามแล้ว วันนี้ตั้งใจเก็บสตรีทอาร์ตกัน ตั้งแต่มานี่รู้สึกยังไม่เจอเลยเเฮะ

Street Art กันรัวๆ จริงๆภาพวาดเหล่านี้มีอยู่ทั่วเมือง แต่ผมเลือกเฉพาะที่คนส่วนใหญ่คุ้นตากันดี เหมือนไปสิงค์โปรต้องถ่ายกะสิงโตพ่นน้ำนั่นแหละ แต่ละรูปนี่รอคิวนานเหมือนกัน คนถ่ายกันเยอะมากต้องใจเย็นนิดนึง หาข้อมูลมีสถานที่อีกที่นึงเป็นหมู่บ้านชาวเลแล้วมีสะพานยื่นไปในทะเล เราไม่รอช้าไปที่นั่นกันดีกว่า

ที่นี่คือ Tan Jetty ด้วยอากาศตอนเที่ยงนั้น ถามว่าร้อนมั๊ยย ตอบเลยว่าไหม้ แต่วิวถือว่าโอเคเลยตรงกับสิ่งที่ตามหาผู้คนก็น้อยเดินเล่นสบายใจ หลังจากเสียพลังงานให้กับดวงอาทิตย์ของปีนัง กันจนหมด โหมดเติมพลังจงมา

ร้านนี้ต้องมาจริงๆ อยู่ไกล้กับท่าเรือเมื่อกี้เลย ที่สะดุดตาสุดคงจะเป็นเก้าอี้เหล็กนี่เเหละเท่มากกก ใครนั่งก็เท่ ผมไม่ได้โกหกนะหลักฐานทนโท่ 55+ ร้านนี้มีชื่อว่า Awesome Canteen จะว่าไปปีนังมีร้านคาเฟ่เท่ๆเยอะอยู่เหมือนกันแล้วแต่ชอบเลยครับ

หมดวันกลับที่พักคืนนี้เราก็เมาหัวราน้ำ เอ้ยย นั่งเล่นฟังเพลงกันที่โรงแรมเป็นคืนส่งท้ายละกัน

เช้าวันสุดท้ายนัดรถตู้มารับประมาณ 10.00 น. ยังพอมีเวลาอีกเล็กน้อย วันแรกที่มายังรู้สึกเฉยๆอยู่เพราะสตรีทอาร์ตเดี่ยวนี้ก็มีทั่วไปหลางเมือง แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกหลงเมืองนี้ซะงั้น เริ่มงอแงไม่อยากกลับอีกแล้ว

รถตู้เริ่มออกห่างจากปีนังเข้าทุกที จะว่าการเดินทางมันก็ไม่ได้ให้เราเพียงร่างการได้สัมผัส มันยังให้ใจเราได้สัมผัสเผลอๆมากกว่าด้วยซ้ำ

รถตู้มาส่งที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เรากลับไฟลท์ค่ำกับเจ้าเดิมเหมือนขามา พรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงานอย่างเก่าซะเเล้ว การเดินทางของผมก็จบลงเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ

JACKNATWUTH

 วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 17.15 น.

ความคิดเห็น