หมู่บ้านเล็กกลางป่า นาม “แม่กำปอง” EP.2

กลับมาต่อกับหมู่บ้านเล็กกลางป่านาม "แม่กำปอง" กันต่อ

สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน EP1 มาติดตามกันได้เลย >>>> https://th.readme.me/p/17432

หลังจากที่ทานข้าวเที่ยงอิ่มหน่ำ ณ โครงการหลวงตีนตกกันแล้ว

ขับย้อนมาไม่ไกลก็มาแวะเดินเล่นที่ผาน้ำลอด

ด้านในมีร้านคาเฟ่เล็กๆตั้งอยู่ มีมุมให้นั่งเล่นด้วย

ใครไม่นั่งเล่นมุมนี้ก็เดินมาบริเวณผาน้ำลอด นั่งเล่นริมน้ำได้ น้ำเย็นมาก สดชื่น ช่วยคลายร้อยจากแสงแดด

ต่อจากผาน้ำลอด ก็แวะร้านกาแฟที่ใครมาก็ต้องแวะซะหน่อย อยู่ถัดมาไม่ไกลมาก

ร้านสว่างคาตา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ใครๆมาก็ต้องเช็คอิน เป็นร้านกาแฟ ตั้งอยู่ริมน้ำตก(น้อยๆ) ให้ได้จิบกาแฟ ขาแกว่งน้ำกันได้ มาถึงทั้งที ลงไปถ่ายรูปแลนด์มารค์ของที่นี่ซะหน่อย

มาที่นี่แวะถ่ายรูปกรุบๆ ใครอยากซื้อกาแฟนั่งชิวแนะนำให้มาช่วงต้นปี ปลายปี นอกนั้นจะค่อนข้างร้อน

ได้สะกิดน้ำไปแล้ว ต่อไปเอาใจเพื่อนที่มาด้วยกัน พาไปร้านคาเฟ่แมวซะหน่อย

ร้าน Ted du Coffee เป็นร้านกาแฟ่น่ารักๆ ใครที่ขับรถมาอาจจะต้องลุ้นนิดนึงเพราะที่จอดของทางเข้าร้านสามารถจอดได้แค่ 2-3 คันเท่านั้น ริมถนนตรงนั้นเป็นถนนเส้นหลักเข้าแม่กำปองสวนกัน 2 เลน จอดริมถนนไม่ได้นะจ้า

ร้านน่ารักมากๆ ตกแต่งด้วยหุ่นปั้นน้องแมวเต็มไปหมด

ในร้านบรรยากาศสบายๆ มีลมเย็นธรรมชาติพัดผ่านอยู่เรื่อยๆ ต้นไม้รอบๆช่วยได้มากจริงๆ ว่าแต่ ไหนบอกคาเฟ่แมว ไม่เห็นน้องแมว มีแต่หุ่นแมว ..... มีนะจร้า แค่มาตอนบ่ายๆ น้องๆก็จะสภาพนี้

นอน นอน นอนนนนนน ใส่เรา เดินไปเล่นด้วยก็นอนแบบไม่สนใจกันเลย 55555

ไม่เล่นด้วย งั้นกินน้ำ ขนม รอก็ได้ ราคากลางๆ น่ารักๆกว่าสว่างคาตาอีก

ใกล้ๆกันก็มีน้ำตกด้วยนะจร้า แต่ลงไปเล่นไม่ได้

นั่งชิวๆจนได้เวลา ไปสถานที่ต่อไปกันดีกว่า เนื่องจากเที่ยวกันแบบสายบู้ไปนิด ประกอบกัน นั่งรถทัวร์กันมาเหนื่อยๆ ทำให้วันนี้เราตื่นเช้าไปกิ่วฝิ่นไม่ไหว ครั้นจะไปตอนสายๆก็ร้อนไปอีก เลยตัดสินใจไปตอนเย็นละกัน ... แต่ใครจะคิดว่าทางมันช่างยากลำบากยิ่งนั้น ด้วยความที่เราเช่ามาแค่รถสวิฟ กำลังเครื่องกับน้ำหนักคนในรถ แทบจะไต่ขึ้นไม่ไหวเลย แต่สุดท้าย เราก็ขึ้นมาจนได้ เราขับเลยกิ่วฝิ่นมานิดนึงจะเจอจุดชมวิว เลยถือโอกาสพักรถตรงนั้น มุมนั้นคือเขตจังหวัดลำปางแล้วนะจร้า

เฮ้ ขึ้นมาได้เว้ยยยยย

นั่งพักรับลม พักรถกันไปแล้ว แดดเริ่มคล้อย กลับไปที่กิ่วฝิ่นกันดีกว่า มีดอกพญาเสือโคร่งอยู่ด้วย หลังจากที่เราแห้วจากขุนช่างเคี่ยนมาแล้ว โดนเคี่ยนหนักมากเพราะทางโครตโหด เราไปไม่ถึง ฮือออออ

ปะ ขึ้นไปบนกิ่วฝิ่นกันเถอะ

เดินไป หอบไป เพราะอากาศค่อนข้างร้อนนิดนึง แต่ขึ้นไปแล้ววิวสวยมาก ถ้ามาตอนเช้าแล้วมีหมอกคงสวยมากแน่ๆ แต่ตื่นไม่ไหวก้อต้องทำใจ อีกอย่างถ้าให้ขับขึ้นมาตอนเช้าที่พื้นถนนมีน้ำค้าง น่าจะขึ้นมาไม่รอดแน่ๆ มาตอนนี้ก็รอดตัวไป

ถึงแดดจะร้อนไปหน่อย แต่ความสวยงามนี้ พี่ยอมใจ

ปะๆ ไปเช็คอินเข้าที่พัก แล้วเดินไปเล่นน้ำตกดีฟ่า

คืนนี้เราเปลี่ยนมานอนกันที่บ้านอิงดอย ราคาคนละ 750 บาท รวมอาหารเย็น+เช้าด้วย

บ้านอิงคอยจะเป็นเหมือนบ้านไม้ยกสูง มีชานระเบียงไว้สำหรับนั่งทานอาหาร บรรยากาศดี วิวแจ่ม

มีร้านกาแฟด้วยนะ

เก็บกระเป๋าเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้า เดินไปเล่นน้ำตกหลังที่พักชีวิตชีวา ตรงนั้นเป็นน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกแม่กำปองนั้นเอง ไม่แค่เราเท่านั้นละที่เดินไปเล่น

ได้เล่นน้ำคลายร้อนสาแก่ใจแล้วก็กลับมาอาบน้ำล้างตัว กินข้าวที่ทางที่พักจัดเตรียมไว้ให้ บรรยากาศชิวเว่อ

กับข้าวก็ง่ายๆ ผัดแตง น้ำพริกอ่อง แกงจืด ลาบหมู เห็นเมนูดูบ้านๆ แต่อร่อยมากนะบอกเลย

กินอิ่มแล้วก็นั่งชิวริมระเบียงห้องกันไป ถ้ามีเลียร์จิบด้วยน่าจะดี : ) .... เช้าเลยละกัน

ตื่นมาปุ๊บ กินสตอเบอร์รี่ที่ซื้อมาจากโครงการหลวงตีนตกก่อนกินข้าวไปอีก

อาหารเช้าก็มีขนมปังปิ้ง ข้าวต้ม ชา กาแฟแบบง่ายๆไวรับรอง

จากระเบียงหน้าห้องพัก ก็จะมองมาเห็นลานที่กินข้าวด้วย

เติมพลังยามเช้ากันเรียบร้อย ได้เวลาเช็คเอาท์ เดินทางต่อ เผลอแป็บเดียว 3 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต้องกลับแล้วหรอ ก่อนออกเดินทางออกจากแม่กำปอง แต่แวะไหว้พระที่วัดแม่กำปองกันสักเล็กน้อย

ไหว้พระประธานในพระอุโบสถเรียบร้อยก็เดินเลยมานิดนึงจะมีทางลงไปโบสถ์กลางน้ำ ช่วงไหนที่น้ำขึ้น ตรงนี้ต้องระวังมากๆนะจร้า เพราะอาจจะลื่นตกน้ำได้ หินค่อนข้างเยอะ