สวัสดีค่า ห่างหายไปนานนนนนมั่ก กลับมาอีกรอบกับทริปใหม่(ที่ไปมาหลายเดือนแล้ว) 55555

รีวิวนี้จะขอพาทุกคนไปตะลุยแดนใต้กัน นั่นก็คือ ภูเก็ต นั่นเอง ถือเป็นจังหวัดทางภาคใต้จังหวัดแรกที่เราไปเยือนเลยค่ะ ตื่นเต้นหน่อยๆ อิอิ

เราไปเที่ยวกันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมค่ะ วันที่ 28-30 พ.ค. ที่ผ่านมา ไปแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ใดๆ ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร แดดจะแรง ลมจะดีไหม แต่พอลงจากเครื่องบินเหยียบสนามบินปุ๊บ! โอเค ร้อนสะใจ 555555 ซึ่งเราตกลงกันว่าจะไปเที่ยว 2 หาด คือ หาดราไวย์ กับ หาดไม้ขาว


DAY 1


เราขึ้นเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียค่ะ ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่โดยนั่งแท็กซี่จากห้องพักไปสนามบินดอนเมือง ขึ้นเครื่องตอน 7.35 น.

LET'S GO TO PHUKET!!!


ลงเครื่องแล้วจ้าา สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หาร้านทานข้าวค่ะ หิวมากจัลล้อง55555

พยายามหาร้านที่ราคาไม่แพง ราคากลางๆ

และแล้ว ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เจอแล้ววววว ร้านข้าวตามสั่งจ้าาาา


วิธีเดินทาง

ออกจากตัวสนามบินมาแล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ถ้าไปทางซ้ายจะเจอ Family Mart ถ้าไปทางขวาเรื่อยๆ (ไม่ไกลมากนะคะ) จะเจอป้ายเข้าซอยแบบในรูปแล้วเดินตรงเข้าซอยไปเลยเด้อ เดินเข้าไปไม่ลึกนะ นิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ :-)


สำหรับใครที่อยากหาร้านข้าวราคาประหยัด(มาก)ใกล้สนามบินเราแนะนำเลย

ราคาทั่วไป รสชาติอร่อยดี แถมเวลาทานข้าวคุณป้าจะยกถาดผักมาให้ทานด้วย เพราะเห็นมีขนมจีนน้ำยาต่างๆ ขายด้วยนะเออ

และนี่คือกะเพรากุ้งราดข้าว ดูกุ้งสิทุกคนนนนน ร้านข้าวตามสั่งน้องกุ้งยังน่าทานขนาดนี้ T^T


ระหว่างเดินกลับมาสนามบินเพื่อไปขึ้นรถบัสเข้าย่านเมืองเก่าภูเก็ต เจอเพื่อนของแฟนเฉย งงในงง นี่งงมากทำไมเพื่อนเธอมีทั่วราชอาณาจักร5555555 โชคดีมากกกกกได้เข้าย่านเมืองเก่าภูเก็ตฟรีเฉย >w<

แต่สำหรับใครที่ต้องการหารถเข้าย่านเมืองเก่าภูเก็ต เราได้ไปสอบถามมาแล้ววว

เมื่อเดินออกมาจากตัว Terminal จะเจอลานจอดรถ และรถบัสที่เราพูดถึงก็จะจอดแถวนั้นค่ะ เป็นรถบัสเหมือนรถเมล์ปรับอากาศค่ะ จะมีคนคอยโบกมือเรียกให้ไปขึ้นอยู่ ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 2 ชม. ค่ารถคนละ 100 บาท เป็นรถแอร์นั่งสบาย แต่ควรรีบไปหน่อยนะคะเพราะที่นั่งเต็มไว และรถออกเป็นเวลา


ถึงแล้วววว เมืองเก่าภูเก็ต นักท่องเที่ยวเยอะมากกกกกกก คนจีนคนไทยหนาแน่นเว่อ


ที่ถ่ายรูปสวยๆ เยอะเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปเราว่าที่นี่น่าสนใจมาก


เดินทางมาค่อนวันจึงขอหาที่พักกายสักครู่ เราเลยไปสะดุดตากับร้านนี้ค่ะ เป็นคาเฟ่น้องแมว

ร้านห้องแอร์เย็นสบาย มีทั้งอาหารคาวหวานให้บริการ ทางร้านเขาจะแบ่งเป็น 2 โซนค่ะ คือ โซนที่ไม่มีน้องแมว กับ โซนที่มีน้องแมว หากเราจะเข้าไปนั่งชิวในโซนที่มีน้องแมว ทางร้านจะแจ้งว่าให้ถอดรองเท้าและล้างมือให้สะอาดแค่นั้นจ้า

จริงๆ ถ่ายรูปน้องแมวมาเพียบเลยแต่ขออนุญาตลงแค่รูปเดียวนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะยืดยาวเกิน55555


หายเหนื่อยแล้ววว พร้อมลุยต่อแล้วจ้า!

จุดหมายต่อไปของพวกเราคือ หาดราไวย์ นั่นเอง ซึ่งเป็นหาดที่อยู่ทางใต้สุดของภูเก็ตค่า

พวกเราเดินหาจุดขึ้นรถสองแถวต่อไปหาดราไวย์กัน ในที่สุดก็เจอ เป็นรถสองแถวสีฟ้า สามารถนั่งยาวไปจนถึงหาดราไวย์ได้เลยนะคะ ใช้เวลานานนิดนึงกว่าจะถึง เพราะเป็นรถประจำทางเนาะ แต่ค่ารถคนละ 40 บาท ถูกมากกกกกกเมื่อเทียบกับระยะทาง ประทับใจ

ถึงแล้วจ้าหาดราไวย์ เป็นหาดที่เงียบสงบดีค่ะ เราชอบมากกกกกกก


พอถึงหาดเราก็ไม่รอช้า รีบหาทางไปที่พักเลยค่ะ

ที่พักที่เราจองไว้คือ Cascades Boutique Resort

สนนราคาอยู่ที่ 990 บาท/คืน (ไม่รวมอาหารเช้า) ราคาน่ารัก และบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองมากค่ะ

การเดินทางไปที่พักก็ไกลอยู่ ไม่แนะนำให้เดินนะคะ ทางที่ดีสำหรับใครที่สนใจอยากมาพักเราแนะนำให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์แถวๆ หน้าหาดเข้ามาเลยค่ะ แต่ใครสนใจอยากมาเช่ามอเตอร์ไซค์ในบริเวณรีสอร์ทเขาก็มีให้เช่านะคะ ราคา 250 บาท/วัน


แขกที่พักที่เราเห็นมีแต่ฝรั่ง แม้แต่เจ้าของก็เป็นฝรั่ง พนักงานต้อนรับก็น่ารักมากค่ะ ชื่อคุณ Terry และมีคู่หูเป็นน้องบีเกิ้ลพุงย้อยชื่อ Jack ซึ่งน้องติดคุณ Terry และเจ้าของมาก เดินตามดุ๊กดิ๊กทั้งวัน555

บรรยากาศภายนอก-ภายในห้องพักจ้า ร่มรื่นมาก เป็นส่วนตัวสุดๆ

ภายในห้องพักมีโซนครัวและ Mini Bar ด้วยเด้อ สะดวกสบายดี ราคาขนมต่างๆ อยู่บนตู้เย็นนะคะ


เก็บของเรียบร้อย อาบน้ำ(อีกรอบ)เรียบร้อย

พวกเรากำลังจะมุ่งหน้าไปยังแหลมพรหมเทพ ด้วยมอเตอร์ไซค์ที่เช่ากับทางรีสอร์ทนี่แหละ สะดวกดี

ขับไปไม่ยากค่ะ มีป้ายบอกทางตลอด ถามว่าไกลจากที่พักมั้ย ถ้าสำหรับคนไม่รู้ทางอย่างเราก็ไกลหน่อยๆ ค่ะ แต่พอขากลับก็ไม่ค่อยไกล55555 มันไกลเพราะไม่รู้ทางอ่ะค่ะ ประมาณนั้น55555

จอดรถมอเตอร์ไซค์ตรงจุดจอดรถแล้วเดินเท้าขึ้นเขาไปนะคะ

ถึงแล้ววว จุดชมวิวแหลมพรหมเทพค่า

คนเยอะมากกกกก แนะนำนะคะอย่าใส่รองเท้าลื่นๆ มันอันตรายมากกก มันคือหน้าผาอ่ะค่ะ ตอนเราไปเห็นมีครอบครัวคนจีนนั่งกันน่าหวาดเสียวมาก ลงไปลึกกว่าชาวบ้านเขาเลย TT

ทุกคนเขารอดูพระอาทิตย์ตกดินกันตอน 6 โมงเย็น แต่เราสองคนไม่ไหวแล้วจ่ะ หิวมากถึงมากที่สุดเลยลุกออกมากันตอน 5 โมงกว่าๆ

พวกเรามาทานร้านนี้กันค่ะ ร้านดัง ณ หาดราไวย์ มุขมณีซีฟู้ด (ชื่อเก่า: มุขดีซีฟู้ด)

ร้านจะอยู่ใกล้ๆ บริเวณสะพานราไวย์ค่ะ แถวนั้นจะมีซอยที่ข้างในมีแต่ร้านอาหารเต็มไปหมด เป็นจุดที่มีคนเยอะชุกชุมที่สุด คนจีนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆ

แนะนำสำหรับใครที่มีรถ ให้จอดรถไว้ที่จุดจอดรถหน้าซอยนะคะ ไม่ว่าจะรถเล็กรถใหญ่เด้อ

วิธีการทานอาหารของที่นี่

  • ซื้ออาหารทะเลที่เราอยากกินจากร้านฝั่งตรงข้าม (มีให้เลือกหลายร้านแต่เพื่อนของแฟนแนะนำร้านลุงปั่นซีฟู้ด)
  • นำอาหารทะเลที่ซื้อมาไปให้ทางร้านอาหารเขาชั่งกิโลว่ามีกี่โล ซึ่งค่าทำอาหารเมนูละ 75 บาท (ฉะนั้นค่าอาหารก็ไม่เสียแล้วยกเว้นค่าน้ำกับข้าวเปล่า)
  • ถ้ากินเมนูละไม่ถึง 1 กิโลจะเสียเมนูละ 75 บาท แต่ถ้าเมนูนั้นเกิน 1 กิโล ’น่าจะ’ คิดกิโลละ 100 บาท/เมนู (ไม่แน่ใจㅠㅡㅠㅠ)

ปล. สมมติเราซื้อกุ้งมา 1 กิโลก็สามารถบอกพนง.ได้ว่าจะเอากุ้งไปทำเมนูอะไรบ้างในสัดส่วนเท่าไหร่

เราซื้อกุ้ง 1 กิโล หอยแมลงภู่ 1 กิโล หมึก 1 ช่อ รวมๆ แล้วประมาณ 600 บาท จากนั้นก็เอาไปให้ที่ร้านชั่ง จากนั้นเขาจะมีเมนูมาให้เลือกว่าจะทำเมนูอะไรบ้าง ที่เราสั่งมีต้มยำหมึกน้ำข้น, กุ้งอบวุ้นเส้น, กุ้งเผา, หอยแมลงภู่อบ, หมึกนึ่งมะนาว ขอบอกว่าฟินม้ากกกกกกกกกกกกกกกอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก ของสดอร่อยสุดๆๆๆๆ ชอบวิธีแบบนี้มากคือได้กินของสดที่เห็นเลยว่าสดจริงๆ มีความสุขมากค่ะฮือออ

เราสั่ง 5 เมนู ก็คูณ 75 บาทเข้าไป 75 x 5 = 375 บาท รวมค่าน้ำค่าข้าวเปล่า 3 จาน(มี service charge ด้วยนะฮะ) เบ็ดเสร็จประมาณ 650 บาท บวกกับค่าอาหารทะเลที่ซื้อมาอีก 600 บาท เท่ากับว่ามื้อนี้เสียไป 1,250 บาท ตกคนละ 625 บาท ถือว่าคุ้มมากกกกกกกเพราะสั่งเยอะกินเยอะแถมของสดมากจริงๆ ราคาเท่านี้แต่คุณภาพล้นเปี่ยม ปลื้มมมมมม

อิ่มแล้ว ไปเดินเล่นสะพานราไวย์กันดีกว่าาา มีคนมานั่งตกปลา มีเด็กๆ มาล้อมวงเม้ามอยกัน น่ารักดี

ไฟเหลืองๆ นั่นคือสะพานราไวย์นะคะ มองจากมุมนี้ก็สวยไปอีกแบบ ^^


คืนนี้นอนหลับฝันดีแน่นอนล่ะ กินจุใจซะขนาดนี้55555

เดี๋ยวไปต่อทริปวันที่ 2 กันนะคะ สำหรับวันแรกจบแล้ววว ขอตัวไปนอนก่อนน้า บ๊ายบาย zzZ


DAY 2


แพลนของวันนี้คือไปหาดไม้ขาวค่ะ ซึ่งเป็นหาดที่อยู่เหนือสุดของภูเก็ต

เราออกเดินทางด้วยรถสองแถวนั่งเข้าไปในย่านเมืองเก่าภูเก็ตละต่อรถสองแถวไปหาดไม้ขาวอีกที ซึ่งรถสองแถวที่นั่งจากย่านเมืองเก่าภูเก็ตไปหาดไม้ขาวเป็นรถโพท้องค่ะ รถท้องถิ่นของที่นี่เขาล่ะ ^^

  • ค่ารถจากหาดราไวย์ - ย่านเมืองเก่าภูเก็ต : 40 บาท/คน
  • ค่ารถจากย่านเมืองเก่าภูเก็ต - หาดไม้ขาว : 30 บาท/คน

ลาก่อนนะราไวย์ เดี๋ยวเรากลับมาเยี่ยมใหม่ แล้วจะคิดถึงเธอออออ

พอถึงในตัวเมืองเราก็พักทานข้าวกันให้ท้องอิ่มจากนั้นจึงเดินทางต่อไปหาดไม้ขาวค่ะ การเดินทางไม่ยากค่ะ นั่งรถสองแถวต่อเดียวลากยาวถึงตัวเมืองของหาดไม้ขาวเลย

ถึงแล้วนะหาดไม้ขาว สวยงามมากกกกก

หาดไม้ขาวเป็นหาดที่มีไฮไลท์อย่างนึงคือ เป็นหาดที่อยู่ใกล้สนามบินมากๆ (ติดเลยล่ะ) ฉะนั้นจะเห็นเครื่องบินขึ้น/ลงแบบใกล้มากๆๆๆๆ HD สุดๆ

ไปที่พักก่อนละกันเนาะ

เราพักกันที่ Mai Khao Beach Guest House ราคา 1,200 บาท/คืน (รวมอาหารเช้า)

สภาพห้องเป็นห้องพักธรรมดา มีห้องน้ำในตัว คุณลุงคุณป้าเจ้าของเกสท์เฮาส์ใจดีมากจนเราเกรงใจ T-T

วิธีเดินทางไปตัวเกสท์เฮาส์คือเราโทรหาทางที่พักค่ะ ให้คุณลุงออกมารับ คุณลุงบอกไปหาดก่อนเลยไหมหรือยังไง คือบริการดีสุดๆ พอถึงห้องพักก็พาเดินไปเอาจักรยานสำหรับปั่นไปชายหาด แนะนำร้านอาหารแถวนั้น ร้านนั้นอร่อย ร้านนี้เพิ่งมาเปิด อัธยาศัยดีจริงๆ

เราถึงหาดกันตอน 5 โมงเย็นได้ค่ะ ซึ่งเย็นมากๆ แล้ว บรรยากาศเลยดูมืดๆ ครึ้มๆ หน่อย

**โน้ต หาดไม้ขาวเป็นหาดสำหรับใครที่อยากพักผ่อนจริงๆ นอนฟังเสียงคลื่นชิวๆ เพราะตัวหาดเป็นแอ่งลึกลงไป น้ำเยอะคลื่นแรง ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำค่ะ

เหล่าผู้พิทักษ์หาดไม้ขาว55555


ฟ้าเริ่มมืด ท้องเริ่มหิว ไปหาร้านทานข้าวกันดีฝ่าา ระหว่างทางที่ปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ก็มาเจอกับร้านนี้เข้า

ซึ่งจริงๆ มันจะมีร้านอาหารเรียงยาวเป็นแถบเลยค่ะ ประมาณ 4-5 ร้าน เราเลือกทานร้านนี้เพราะบรรยากาศเงียบๆ เปิดเพลงเบาๆ ไม่รบกวนดี

เราสั่งต้มยำทะเล, ปลาเผาเกลือ, กุ้งซอสมะขามมาทานค่ะ อร่อยใช้ได้เลย ปลื้มสุดคือต้มยำค่ะ รสชาติจัดจ้านดี ถูกใจทั้งรสชาติ และบรรยากาศเลย

หลังจากทานจนอิ่มแปร้ พวกเราก็ปั่นจักรยานกลับที่พักกันค่ะ อากาศเย็นสบายพร้อมฟังเสียงคลื่นไปด้วย เพลินไปอีกแบบ

พร้อมนอนแล้วค่ะ ชาร์จพลังสำหรับวันพรุ่งนี้ :D


DAY 3


วันสุดท้ายแล้ววว ไม่อยากกลับเลย :(

คุณลุงคุณป้าเดินมาเคาะประตูตอนประมาณ 10 โมงให้ไปทานอาหารเช้าค่ะ มาหาถึงที่เลย55555

ทานเสร็จเรียบร้อยก็รีบบึ่งไปหาดกันเลยค่ะ อยากดูเครื่องบินมากกกกก

คุณลุงแนะนำเมื่อวานว่า ตอนเย็นเครื่องบินจะบินออก ตอนเช้าเครื่องบินจะบินเข้า ฉะนั้นถ้าอยากเห็นเครื่องบินใกล้ๆ ต้องไปดูตอนเช้า

ท้องฟ้าใสสะอาดมากกกก อากาศก็ร้อนมากกกกด้วยเช่นกันจ้า55555


ใกล้มากจริงๆๆๆๆๆๆๆ ตื่นเต้นกันทั้งหาดเลยค่ะ สนุกดี55555


ดูเครื่องบินจนอิ่มใจก็รีบกลับที่พักค่ะ เพราะ Check out เที่ยงงงงงง

กลับไปรีบอาบน้ำเลยเด้อ อาบเสร็จยังไม่ได้แต่งหน้าเลยแต่ต้อง Check out แล้วเลยมาแต่งหน้าตรงที่ทานข้าวเมื่อเช้า55555 คุณลุงคุณป้าก็น่ารัก นั่งคุยกันเพลินๆ ฝนตกเฉย...

คุณลุงบอกภูเก็ตก็แบบนี้แหละ ฝนตกบ่อยแต่ตกแป๊บๆ ก็หยุด ซึ่งจริงค่ะ หยุดปุ๊บแดดมาปั๊บ เฮ


พอฝนหยุดตกพวกเราก็หาวิธีไปสนามบินเลยค่ะ คุณลุงบอกว่าแถวนี้แท็กซี่ไม่ค่อยผ่าน จะมีก็แต่รถสามล้อที่ชาวบ้านแถวนี้เขารับจ้างพานักท่องเที่ยวไปหาดชมเครื่องบินกัน

เราเลยคิดแผนว่าจะเอาไงดี คุณลุงเลยเสนอว่าเดี่ยวจะไปส่งที่สนามบินให้ คิดราคาถูกกว่าแท็กซี่ทั่วไปด้วย น่ารักมากจริงงงงㅠㅠ เราเลยขอให้คุณลุงไปส่งที่ร้านอาหารแถวสนามบินที่พวกเราหาไว้

ร้านอาหารที่ว่าคือร้าน Sea Calm Cafe ค่ะ บรรยากาศร้านน่ารัก แอร์เย็นฉ่ำ แถมราคาไม่แพงด้วยน้า


อาหารคาวที่เราลองสั่งมาทานมีกุ้งทอดกระเทียมราดข้าว, ผัดพริกเผาทะเล, ยำวุ้นเส้นทะเล

ขอบอกว่าอร่อยจริงงงง อาหารทะเลสดๆ กุ้งตัวใหญ่ถูกใจมากค่ะ มีลูกชิ้นภูเก็ตด้วย เดาเอาว่าน่าจะเป็นลูกชิ้นปลารึเปล่า ใครรู้ช่วยบอกทีนะคะ แต่อร่อยๆๆๆ


ส่วนนี่เป็นของหวานที่เราสั่งมาลองทานค่ะ คือ บราวนี่ชีสเค้ก อร่อยยยยยย

จริงๆ สั่งน้ำมะนาวปั่นกับสตรอเบอร์รี่ปั่นมาด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายไว้ ซึ่งน้ำมะนาวปั่นเป็น Recommended menu ของทางร้านด้วย ดีงามมม~

ทานกันอิ่มท้องจนจะหลับ555555555 ไปๆ ไปสนามบินกัน กลับกรุงเทพแย้ววว

เราขึ้นเครื่องไฟล์ท 19.20 น. ค่ะ เวลาเหลือเพียบเลยนั่งเล่นอยู่สนามบินยาวๆ เลย


สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (ไม่รวมค่าอาหาร)

  • ค่าแท็กซี่จากห้องพัก(ห้วยขวาง) - สนามบินดอนเมือง : 60 บาท/คน
  • ค่าเครื่องบินทั้ง 2 เที่ยว : 1,315 บาท/คน
  • ค่ารถบัสจากสนามบิน - ย่านเมืองเก่าภูเก็ต : 100 บาท/คน (ของเรามีคนไปส่งค่ะ)
  • ค่าที่พัก Cascades Boutique Resort : 495 บาท/คน
  • ค่าที่พัก Mai Khao Beach Guest House : 600 บาท/คน
  • ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์สำหรับ 1 วัน : 125 บาท/คน
  • ค่ารถสองแถวจากย่านเมืองเก่าภูเก็ต - หาดราไวย์ : 40 บาท/คน
  • ค่ารถสองแถวจากหาดราไวย์ - ย่านเมืองเก่าภูเก็ต : 40 บาท/คน
  • ค่ารถสองแถวจากย่านเมืองเก่าภูเก็ต - หาดไม้ขาว : 30 บาท/คน
  • ค่าเช่ารถคุณลุงจาก Mai Khao Beach Guest House - สนามบิน : 150 บาท/คน

รวมทั้งหมด : 2,855 บาท


เที่ยวภูเก็ตแบบไม่มีรถส่วนตัวก็ไม่ลำบากนะเออ เดินทางง่าย สะดวก และค่ารถไม่แพงอย่างที่คิดน้า

ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะทุกคน ก่อนจากกันขอฝากทริปเก่าไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ


ขอให้มีความสุขกับความภูเก็ตนะคะ อิอิ ♥

s.folkmade

 วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.58 น.

ความคิดเห็น