เมืองปากซอง เป็นเมืองตากอากาศอีกแห่งหนึ่งของลาวที่น่าไปเยือนเป็นอย่างยิ่ง....

ที่นี่อากาศจะเย็นสบายดีทั้งปี ไม่มีหน้าร้อน แม้ว่าที่อื่นจะร้อนกันจนตับแตก แต่ปากซองจะเย็นสบาย ด้วยสายลมที่พัดผ่านยอดเขามานั้น จะเอาไอเย็นและหมอกหนายามเช้ามาด้วย

ในวันที่ผมขึ้นรถในเมืองปากเซแบบว่า เหงื่อไหลไคลย้อยมาจากเมืองไทย ข้ามมาสู่ฝั่งลาว แล้วไม่ได้พักที่ไหน ผมมุ่งตรงไปที่ท่ารถบขส.หลักแปดของลาวซึ่งท่ารถนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของรถโดยสารที่จะผ่านไปยังประเทศลาวตอนใต้ไม่ว่าจะเป็น เซกอง อัตตะปือ หรือจะไปดอนโขง ลงไปสู่งเขมรที่สตรึงเตรง

แต่ทันทีที่รถขนส่งหวานเย็นสาย –ปากเซ –เซกอง แล่นขึ้นสู่ที่ราบสูงบนเชิงเขาอันเป็นที่ตั้งของเมืองปากซองเท่านั้น สายลมเย็นที่พัดผ่านมากระทบใบหน้า ทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ผมถึงกับหันไปถามผู้โดยสารชาวลาวที่นั่งอยู่ข้างหลังว่า

“ที่นี่ที่ไหนครับอากาศสดชื่นจัง”

“ ปากซอง” เพื่อนผู้โดยสารชาวลาวบอกกับผม“ที่นี่อากาศเย็นดีมาก คนไทยชอบมาเที่ยวกัน”

ผมรู้จัก “ปากซอง” จากกู้เกิ้ล แค่ว่า เมืองปากช่อง หรือภาษาลาวเขียนว่า ປາກຊ່ອງ เป็นเมืองเล็กที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของแขวงจำปาศักดิ์ ห่างจากเทศบาลแขวง 50 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมด 355,235 เฮกตาร์ มีชายแดนติดต่อกับแขวงและเมืองต่างๆ ดังต่อไปนี้ ทิศเหนือติดกับเมืองเลางาม แขวงสาละวัน และเมืองท่าแตง แขวงเซกอง ทิศใต้ติดกับเมืองสนามไชย และเมืองสามัคคีไชย แขวงอัตตะปือ ทิศตะวันออกติดกับเมืองละมาม แขวงเซกอง และเมืองไชยเสษฐา แขวงอัตตะปือ ทิศตะวันตกติดกับเมืองบาเจียงเจริญสุขและเมืองปทุมพร แขวงจำปาศักดิ์

พื้นที่ของเมืองปากช่องอยู่ในเขตภูเขา พื้นที่ตำสุดสูงจากระดับน้ำทะเล 600 เมตร สูงสุดประมาณ 1400 เมตร พื้นที่ของเมืองเป็นที่ราบส่วนใหญ่กระจายจากทิศเหนือไปใต้ ริมฝั่งห้วยจำปี หนองหิน ทุ่งเสด ห้วยน้ำใส ไปจนถึงเมืองท่าแตง แขวงเซกอง ทิศตะวันออกของเมือง ยกเว้นบริเวณภูไฟไหม้ ซึ่งที่เป็นป่าสงวน จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนใหญ่ปลูกข้าวและกาแฟ พื้นที่ส่วนเป็นเนินเขา กระจายทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ทางด้านที่ติดกับเมืองละมามและเมืองไชยเสษฐา ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สัมปทานขุดแร่อะลูมิเนียมและปลูกพืชอุตสาหกรรม

พื้นที่ส่วนที่เป็นภูเขาสูง คือบริเวณที่เป็นตัวเมืองปากซอง ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าธรรมชาติ บางส่วนเป็นสวนกาแฟและทำให้เมืองแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ผลิตกาแฟที่อร่อยที่สุดในประเทศลาว เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ เป็นที่ตั้งของปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ดินส่วนใหญ่อุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติ การปลูกกาแฟที่นี่ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ปุ๋ยหรือสารเคมี เพราะต้นกาแฟจะเติบโตและให้ผลผลิตตามธรรมชาติ

อย่างที่บอกแล้วว่าเมืองปากซองเป็นเมืองกาแฟ ดังนั้นจึงมีนักลงทุนชาวไทย ได้แก่กลุ่มบริษัทเบียร์ช้าง ได้เข้ามาทำไร่กาแฟและทำร้านกาแฟชมวิวที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ เช่นเดียวกับที่ กาแฟดาว เจ้าถิ่นของคุณดาวเรืองเศรษฐนีชาวลาวที่พี่เบิร์ด ธงไชย ของเราเคยมาเป็นพรีเซ็นเตอรืให้ก็ปลูกที่เมืองนี้เช่นกัน

เมืองปากซองเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนภูสุงมีอากาศหนาว และป่าดงดิบ รวมไปถึงธรรมชาติที่สวยงามและน้ำตกที่มากมาย จึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อนเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ว่าจะเป็นน้ำตกตาดฟา ตาดเยื้อง หรือน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในลาวใต้นั่นก็คือ น้ำตกเซกะตาม

ในวันนี้ผู้เขียนจะพาท่านผู้อ่านทุกท่านไปสัมผัสกับน้ำตกเซกะตามซึ่งตั้งอยู่เชิงภูเขาหลวง ภูเขาที่ยาวที่สุดในประเทศลาวที่ทอดยาวมาจากเมืองสะหวันนะเขต พาดผ่านลาวใต้ทั้งหมดไปจรดชายแดนกัมพูชา ซึ่งบนเส้นทางที่ไปยังเซกะตามนั้น เราจะผ่านที่ราบสูงโบละเวน อันเป็นที่ตั้งของเนินหัวสาว แล้วเราจะผ่านหมู่บ้านของชาวละเวนซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางที่ผ่านไป

สำหรับชาวละเวนนั้น เป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่บนภูเขาหลวงมานานนับตั้งแต่บรรพบุรุษ และเมื่อมีการสู้รบในป่าระหว่างที่ปรับเปลี่ยนการปกครอง ชนเผ่าละเวนบางส่วนจึงอพยพหนีตายลงมาสู่เมืองล่าง มาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณนี้ ทุกคนจึงได้ชื่อว่า ชาวละเวน

หลายคนเคยสงสัยว่า ชนเผ่าละเวนคือชนเผ่าไหน เพราะแน่นอนว่า คำว่า “ละเวน” นั้น ไม่ใช่ชื่อชนเผ่าดั้งเดิมของพวกเขาแน่ๆ แต่ตั้งมาตามที่อยู่ของชนเผ่านี้ซึ่งมาจากบริเวณที่ราบสูงที่เรียกกันว่า บอละเวน เผ่าละเวนจึงถูกเรียกขานว่า ละเวน อันเป็นส่วนหนึ่งของชื่อถิ่นฐานเดิม

ทั้งๆ ที่ชื่อเผ่าแต่เดิมของละเวน คือ จรุ และในปัจจุบันนี้ ไม่มีใครรู้เลยว่า ชื่อเดิมของพวกเขาคืออะไร นอกจากคนละเวนเก่าแก่เท่านั้น ที่ยังจดจำได้และบอกต่อสู่ลุกหลานของตนว่า “ชื่อเดิมของเรา คือ ชาว จรุ”

ในวันที่เดินทางไปยังน้ำตกเซกะตาม ผมแวะที่หมู่บ้านของชนเผ่าละเวน ซึ่งตั้งยู่กระจัดกระจายตามทางที่ผ่านไป บ้านละเวนสมัยใหม่ กำลังก่อสร้าง แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังเก็บเอาบ้านเก่าซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชนเผ่าเอาไว้ ไม่ให้สูญหายไปกับความทันสมัย ความเจริญที่ผ่านเข้ามา

ครอบครัวหนึ่งซึ่งเราไปเจอ กำลังคลอดลูกใหม่ๆ ชาวละเวนจะมีความเชื่อเรื่องภูติผี สิ่งเลวร้ายที่มองไม่เห็น เขาเชื่อกันว่า เมื่อเด็กคลอดใหม่ คราบเลือด คราบน้ำครำที่ติดตัวเด็กออกมานั้น จะทำให้วิญญาณและสิ่งชั่วร้ายได้กลิ่นแล้วจะมากินเด็ก กินเครื่องใน กินรกของเด็กน้อย และอาจจะทำให้ทั้งแม่และลุกเป็นอันตรายได้

การป้องกันวิญญาณและสิ่งชั่วร้ายในความคิดของพวกเขา ก็คือ เอากองไฟมาก่อไว้ใต้บันได ตรงทางขึ้นทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้อะไรเล็ดลอดขึ้นไป และในเวลานั้นเช่นกัน ครอบครัวทั้งสองของลูกสาวและลูกเขย ก็จะผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล คอยเฝ้า ไม่ให้คนที่เกี่ยวข้องขึ้นไป รวมไปถึงไม่ให้มีอะไรที่ผิดปกติผ่านเข้ามาแถวนี้

เราถ่ายภาพได้ แต่ขึ้นไปบนเรือนไม่ได้ จะผิดผีพวกเขา

ออกจากตรงนี้ ผมมุ่งหน้าไปยังน้ำตกเซกะตาม ผ่านไร้ส้มของสวนธนาทรที่มาลงทุนไว้ที่ลาว เป็นสวนส้มใหญ่กินเนื้อที่ครึ่งหนึ่งของหุบเขา ซึ่งเมื่อเลยผ่านสวนส้มนี้ไป เราก็จะเจน้ำตกเซกะตาม ซ่อนตัวอยู่กลางป่าทางขวามือและส่งเสียงคำรามดังก้องเมื่อมวลน้ำจำนวนมหาศาลที่ร่วงลงจากยอดเขา สู่พื้นเบื้องล่าง แตกกระจายเป็นฟอง

ที่นี่ เราได้แต่ยืนมองเซกะตามอยู่คนละฝั่งกับน้ำตก แลเห็นสายน้ำยาวสูงเป็นสายที่ไหลลงลำธารข้างล่าง ไม่มีเส้นทางให้ไปปีนเล่นน้ำตกเหมือนที่อื่น ไกด์คนนำทางบอกกับผมว่า เคยมีฝรั่งคนหนึ่งพยายามปีป่ายเพื่อจะไปให้ถึงยอดของน้ำตก แต่สุดท้ายเขาก็พลัดตกลงไปเสียชีวิตเบื้องล่าง และหลังจากนั้นมาเซกะตาม ก็ห้ามนักท่องเที่ยวข้างไปอีกฝั่งหนึ่งอย่างเด็ดขาด

“แต่ก็มีคนหาทางเดินลงไปถ่ายภาพข้างล่างเหมือนกันนะ เขาไม่ว่าแต่มันอันตราย ขึ้นลงลำบากมากไม่คุ้มเสี่ยง”

ผมอยู่เก็บภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะถ่ายเป็นวีดิโอ เพราะต้องเอาไปตัดต่อทำรายการสารคดี การเดินทางมาเที่ยวลาวครั้งนี้จึงมีภาพนิ่งสวยๆน้อยมาก อีกทั้งต้องเดินทางถ่ายคนเดียว รีบเร่ง และเก็บงานให้มากที่สุด ออกจากที่นี่ ผมก็กลับมาที่สวนส้มแล้ว เดินทางกลับสู่ปากซอง ระหว่างทางก็แวะซื้อกาแฟที่ไร่กาแฟของ ปากซองไฮแลนด์มาชิม 1 ถุง ก็อร่อยดีเหมือนกัน

----------------------------------------------

บันทึกการเดินทาง

ขึ้นรถทัวร์ที่ ขนส่งหมอชิต –ปากเซ 900 บาท

ไปลงที่ขนส่งหลักแปด ปากเซ ต่อด่วยรถไปปากซอง 40,000 กีบง

จากปากซองไปน้ำตกเซกะตาม ชมหมู่บ้านชนเผ่า ที่ราบสูงบอละเวน เหมารถ 1 วันค่ารถตกลงกันเอง

ที่พักในเมืองปากซอง

พักหรูหรา โรงแรมปากซองแดนงาม ประมาณ 1000 บาท ดีที่สุดใหม่ที่สุด

โรงแรมภูเทวดา ประมาณ 800-1000 บาท

พักธรรมดา เกสต์เฮ้าส์ที่แนะนำ โรงแรมสิมาลี 350 บาท ติดถนนใหญ่

ขอขอบคุณ

- บริษัท อินฟินิตี้ พลัสเทรดดิ้ง จำกัด

- FOTOPRO THAILAND สนับสนุนอุปกรณ์ถ่ายภาพ

อาร์ม อิสระ

 วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21.15 น.

ความคิดเห็น