รีวิว SINGAPORE เที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 2วัน2คืน + USS ภาพเยอะ

Q: เสาร์ - อาทิตย์ไปไหนเหรอ ?

A: SINGAPORE ครับ

พอตอบไปแล้วคนถามนี่มีอึ้งกันเป็นแถวเลยครับ ได้เห็นอารมณ์ใหม่ๆของพี่ๆในที่ทำงานเหมือนกันนะ

แล้วไป 2 วันแล้วมันจะคุ้มไหม ?

ก็ขึ้นกับมุมมองแล้วล่ะ สำหรับผมข้อดีมันคือ จองเครื่องง่ายอยากไปสัปดาห์ไหนก็ได้ ตั๋วถูกตลอดเวลา ลดค่าห้องได้ด้วยเพราะการไปหลายคืนได้เที่ยวเยอะก็จริงแต่ก็เกิดค่าใช้จ่ายเยอะด้วยโดยเฉพาะที่พัก

เที่ยวรอบนี้เป้าหมายหลักคือการเที่ยวใน universal studio singapore ก็เลยหาข้อมูลโดยเริ่มจะจองตั๋ว ก็เล็งช่วงหยุดยาวเอาไว้ ว่าจะไปเที่ยวให้หนำใจ แต่ราคาตั๋วก็ต้องถูกด้วย พอจัดแผนไปๆมาถ้าอยากได้ทั้งถูกเวลาโอเคที่สุดเวลาเที่ยวกับเหลือแค่ 2 วันซะงั้น เอ่างั้นแบบนี้ไม่ต้องไปวันหยุดยาวก็ได้นิหน่า คราวนี้สบายเลยครับ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปสัปดาห์ไหน

สิ่งที่ต้องรู้ สิงคโปร์

1. ค่าเงินประมาณ 25 บาท = 1 SGD, เรียกว่าดอลล่า ย่อยกว่านั้นคือเซน 100 Cent = 1 SGD

2. การเดินทางสาธารณะสะดวก MRT-Bus -Taxi แต่ก็เดินเยอะ ไปแล้วจะเข้าใจ แนะนำรองเท้าผ้าใบ

3. ปลั๊กไฟ ไม่เหมือนบ้านเรา ต้องเอาตัวแปลงไปด้วย

4. น้ำดื่ม ที่สนามบินและ USS จะมีที่กดน้ำดื่ม ถ้าซื้อน้ำก็อย่าเพิ่งทิ้งขวดครับ สามารถเอาไปเติมได้ เพราะสิงคโปร์น้ำดื่มแพง แต่บางจุดฟรีซะงั้น

5. เสื้อกันฝน หรือ ร่ม เพราะฝนจะตกตอนไหนก็ได้ เป็นธรรมชาติของประเทศเส้นศูนย์สูตร

6. ประเทศที่มีหลายเชื้อชาติมาก หลายภาษา หลายศาสนา งั้นเราเห็นวัดหลากหลายมาก แต่ภาษาที่ใช้กันที่เห็นบ่อยๆ เป็นภาษาอังกฤษ และจีน ที่เห็นเองนะครับ

7. App แผนที่ Offline : Maps.me เผื่อคนที่ไม่ได้ซื้อซิมแบบผม

การเดินทาง

เที่ยวรอบนี้เป้าหมายหลักคือการเที่ยวใน Universal Studio Singapore เพราะการจะมาที่นี้ได้ต้องใช้เวลาทั้งวันถึงจะคุ้มกับค่าบัตรอะเนอะ

แผนคร่าวๆก็คือ

Day 0 : เลิกงานไปสนามบิน - 2:20นอนสนามบิน Changi -5.:30 MRT ออก

Day 1 : Merlion - Universal Studdio Singapore - Garden by the bay - Hostel Istay.inn

Day 2 : China town - Buddha Tooth Relic Temple - Fort canning park tunnel - Marina sands

วันนี้จะเขียนค่อนข้างเยอะหน่อยนะครับ เพราะอยากให้ลองไปสัมผัสกันดู ต่อให้เป็นมือใหม่ที่ยังไม่เคยไปต่างประเทศก็อยากให้ลองครับ ถ้ากลัวเรื่องภาษาอังกฤษ กลัวจะฟังไม่รู้เรื่อง มันไม่น่าใช่ประเด็น เพราะผมก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกันครับ ฮ่าๆ

Thai - Singapore

ด้วยความที่อยู่แถว สุวรรณภูมิการจะไปดอนเมือง ก็ดูแสนจะวุ่นวายต้องกังวลเรื่องรถติดพอสมควร ก็เดินทางวันศุกร์มันต้องติดอยู่แล้วใช่ไหมครับ จองเครื่องบินของ Scoot ที่เวลา 22.45 ทำให้มีเวลามากพอดูที่จะเดินทางไปหลังจากเลิกงาน แต่ก็กลัวจะไปไม่ทันอยู่เหมือนกัน เพราะควรไปถึงสนามบินเพื่อ Check -in ก่อนเวลาประมาณ 2 ชม ผมใช้ Shuttle bus ของสุวรรณภูมิ มาที่ดอนเมืองเพราะฟรีนั้นเอง โดยเราเอาตั่วขาไปไปยืนให้เค้าตรวจก่อนขึ้นเค้าก็สแตมแขนเราไว้ว่าตรวจแล้วนะ ครั้งนี้ได้รอบ 19:00 ตรง พอเหลือเวลานิดหน่อยก็เลยเดินลงไปแลกตั้งที่ Super rich ซะเลย จริงๆแล้วไม่ค่อยกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ เพราะมันคงแตกต่างหลักร้อยเท่านั้น วันนี้แลกมา 410 SGD สำหรับ 2 คน

รถติดมากมายใช้เวลาเดินทาง 2 ชมเต็ม ถ้ามาวันปกติก็ประมาณ 1 ชม พอมาถึงก็ไป Check - in เลยครับไม่ให้เสียเวลา แล้วก็รอเข้า Gate ในตั๋วเค้าจะมีเวลา Boarding pass คือเวลาเรียกขึ้นเครื่องแปลว่าเวลานั้นเราควรอยู่ใน Gate แล้ว ดังนั้นเราควรที่จะต้องเข้าไปก่อนเวลานะครับเพราะว่าต้องผ่าน ตม. ของเราก่อนซึ่งมันจะแยกระหว่างคนไทยและต่างชาติ เดี๋ยวนี้เป็นเครื่องอัตโนมัติเอา Passport เข้าไปสแกน/ ถ่ายภาพ / สแกนนิ้วก็เสร็จละ ต่อมาก็จะมีการตรวจพวกพาวเวอร์แบงค์และน้ำที่จะเอาขึ้นเครื่อง ข้าวของอิเล็คโทรนิค นาฬิกา เข็มขัด เสื้อคลุม ก็ตรวจหมดนะครับ ขากลับก็เหมือนกันตรวจทุกอย่าง ต่างกันแค่เค้าจะไม่พูดภาษาไทย

บนเครื่องบินพนักงานเค้าจะแจกใบ ตม.สำหรับกรอกก่อนถึงไว้ด้วย เผื่อต้องการความรวดเร็วในการออกจากสนามบิน ใครโหลดของใต้เครื่องก็รีบหน่อย เพราะกระเป๋าจะอยู่ด้านนอกของตม. สำหรับคนไม่รีบตรงตม. ก็มีที่เขียนพร้อมเอกสารไว้ให้ แถมตัวอย่างด้วย

สนามบินชางงี SINGAPORE

สนามบินชางงีมี 4 Terminal จะมี MRT อยู่ศูนย์กลางสามารถเดินตามป้าย Train to City ได้เลยครั้งนี้ผมลง Terminal 2 ซึ่งก็สามารถเดินมาถึงเลย ที่นี้สามารถเดินทางได้หลายวิธี MRT รถบัส รถแท็กซี่ และที่ได้ใช้แน่นอนคือเดิน ถึงมันจะเดินทางง่ายแต่นับจริงๆก็ถือว่าเดินเท้าซะเยอะเลย เลยแนะนำว่าใส่รองเท้าผ้าไปใบหรืออะไรที่เราใส่เดินนานๆได้จะดีกว่า

เครื่องบินลงที่นี้ 2:20 ซึ่งเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม แล้ว MRT เที่ยวแรก 5:30 แต่เปิดจริงๆ 5:20 เพราะขายบัตรก่อนเวลาเดินรถ พอลงเครื่องได้ก็เดินมาเข้าห้องน้ำในทางเดินแล้วก็กินน้ำเติมน้ำในเกตนี้แหละครับ

ก่อนเข้าตม. ก็จะมีโต๊ะให้ยืนเขียนด้วย ถ้าอยากได้แผนที่ก็มีแจกนะครับ เยอะมากหยิบได้เลย ตม. สิงคโปร์ อาจจะถามคำถามนิดหน่อย ปริ้นเอกสารไปให้ครบละกันครับ เช่นตั๋วกลับหรือที่พักที่เห็นเค้าสนใจจะดูนะ บรรยากาศการมานอนที่สนามบินก็ไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ เพราะยังไงก็มีเพื่อนร่วมทางที่มากับเครื่องบินเดียวกันค่อนข้างเยอะ ผมออกมานอนแถวที่รับกระเป๋าซึ่งผ่านตม.มาแล้ว มันมีโซฟาอยู่

อันนี้หน้าตม. หยิบแผนที่ได้ที่ Tourist information

ด้านหลังคือ ตม. (Immogation)

เห็นบางคนมานอนเก้าอี้แบบนี้ เก่งเนอะ

ถ้าเห็นสะพานแบบนี้แปลว่ามาถึง MRT Changi แล้วแต่ต้องลงบรรไดเลื่อน ลงได้ทั้ง 2 ฝั่งสะพาน

บัตร Ez-Link

สามารถซื้อบัตร MRT ได้ 2 วิธีที่ผมรู้ ถ้าซื้อที่ตู้อัตโนมัติจะได้ตั๋วรายวัน ถ้าซื้อตั๋วEz-Link ต้องซื้อที่เค้าเตอร์เท่านั้น ราคาก็ 12$ โดยจะเป็นค่ารถทันที 7$ บัตรเป็นแบบซื้อขาดอยู่ได้ 5 ปี แต่เงินในบัตรสามารถคืนได้ และการเติมเติมทีละ 10$ บัตรนี้ใช้ขึ้นรถบัส MRT ได้ https://www.ezlink.com.sg/ เว็บไซด์ เงินในบัตรต้องมีมากกว่า 3$ ถึงจะขึ้น MRT ได้นะครับ เพราะบัตรจะถูกตัดเงินตอนขาออกแนะนำว่าซื้อดีกว่า เพราะราคาเดินทางต่อรอบจะถูกกว่าบัตรปกติ แถมไม่ต้องรอคิวซื้อบัตรด้วย บางครั้งคนเยอะมาก

อันนี้บัตร Ez-Link ลาย Star wars ลืมถ่ายตอนซื้อ

อันนี้เค้าเตอร์ขายบัตร Ez-Link

Merlion

เป้าหมายแรกวันนี้คือ Merlion ครับแนะนำว่ามาแต่เช้าดีที่สุด เพราะคนน้อยจะถ่ายมุมไหนก็โอเคไปหมด แถมเป็นทางผ่านก่อนไป Chinatown ด้วยเลยแวะที่นี้ก่อนลยนั่ง MRT Changi เปลี่ยนขบวนที่ Tanamerah แล้วนั่งต่อมาสถานี Raffles place ออก ประตู H เดินเรียบแม่น้ำหรือข้ามมาฝั่งโรงแรมก็ได้ แนะนำแอฟ Maps.me เป็นแอฟแผนที่แบบ Offline ลองใช้กันดู เพราะผมไม่ได้เปิดโรมมิ่งมา ( Merlion จะพ่นน้ำตอน 7:20 )

https://www.transitlink.com.sg/eservice/eguide/rai...

ลิ้งเข้าดูภาพ MAP MRT ชัดๆ สามารถกดดูราคาล่วงหน้าและเวลาการเดินทางได้ด้วย ส่วนการเดินทางออกจากสถานีง่ายมาก มีแผนที่สถานีบอกทุกจุด ประตู ABCD ง่ายๆไม่ซับซ้อน

iStay.inn Hostel ( China town )

หลังจากถ่ายภาพ Merlion จนพอใจแล้วก็ไปวางของที่ Hostel ก่อน

Hostel มันคือโรงแรมที่เราจะนอนรวมกับคนแปลกหน้า ห้องน้ำรวมซึ่ง ที่สิงคโปร์จะมีเยอะ ข้อดีก็คือราคาถูกถ้ามาหลายคน 8-10 คนก็สามารถรวมกันในห้องได้เลยเป็นส่วนตัวได้เลย แต่ถ้ามา 3-4 คนแนะนำโรงแรมครับ จะสะดวกเรื่องห้องน้ำมากกว่า

วันนี้เดินจาก merlion มาที่ Chinatown เลย สำหรับผมเดินไม่ได้ไกล ถ่ายภาพไปด้วย แปปเดียวก็ถึง มาถึงเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าต้อง Check-in ตอนบ่ายสาม เราก็โอเครไม่ได้รีบอะไร แต่ก็วางของได้ตามสบาย ทางเข้า Hostel ก็จะเล็กๆหน่อย จุดสังเกตุก็คือจะตรงขามมัสยิส ภายในก็มีห้องรับแขกแล้วก็เค้าเตอร์อยู่รวมกัน ข้างๆเป็นห้องครัวแล้วก็ที่นั่ง บรรยากาศชิวๆ หลังจากเคลียของที่จะเอาติดตัวไปเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางเลยครับ ช่วงนี้ก็เวลาอาหารเช้าพอดี เลยต้องแวะกินอะไรรองท้องซะหน่อย

ร้าน NANYANG OLD COFFEE

เดินจากที่พักมาไม่ไกลก็จะเจอร้านสีแดงสะดุดตาครับ ก็ไม่ได้ก่ะว่าเข้าร้านไหนเป็นพิเศษ ก็เลยแวะเข้าร้านนี้เลย สั่งกาแฟกับขนมปังเป็นเซ็ตมา ขอบอกเลยขนมปังอร่อยมาก ถูกปากสุดๆ ไม่เชื่อไปลองเอง ร้านนี้หาไม่ยากครับ ถ้าจะไปวัดต้องผ่านร้านนี้แน่นอน ตรงนี้เป็นย่าน Chinaะtown ซึ่งเดินไปแต่ที่ละที่ที่เป็นแลนมาร์คไม่ยากเลย วนๆแถวนี้แปปเดียวก็เจอครับ

USS ( Universal Studio Singapore )

กินข้าวขนมเสร็จก็ไปต่อครับ โดยเดินไปขึ้น MRT China town ลงที่ Harbour front ที่ตึก Vivocity เราต้องข้ามไปเกาะ Santosa ซึ่งมีทั้ง USS Casino หาด รูปปั้น Merlion ยักษ์ การเดินทางไปมี 3 แบบ รถเมล์ Sky train และเดิน - ถ้าเดินเข้าไปไม่เสียเงินครับ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่เดินกันครับ ส่วนขากลับสามารถขึ้น Sky train กลับฟรีได้ การเดินมาก็สะดวกมีบรรไดเลื่อนเกือบตลอดทาง พอมาถึงก็เดินเรียบทะเลมาเรื่อยครับ เดี๋ยวก็จะเจอลูกโลกเองโดยจะอยู่ซ้ายมือ

ทางเดินจะมีช่วงที่เป็นทางเลื่อนด้วย เปิดเป็นบางอัน แค่นี้ก็ช่วยได้ละ แถมมีระยะทางบอกด้วย

เกาะซานโตซ่า

เข้ามาต้องแผนที่และรอบการแสดงครับ

การจองบัตร Universal ทำได้หลายทางบางคนก็มาซื้อ Seawheel ( ที่อ่านๆเค้ามานะครับ ) เห็นว่าราคาถูกสุด แต่ผมซื้อทางเว็บ Klook ได้ราคาประมาณ 1600 เพราะขี้เกียจเดินไปหาซื้อบัตร เพราะคิดว่าราคาคงไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น มันจะทำให้เราเดินเยอะขึ้นด้วยครับ พอจองเสร็จสามารถปริ้นเอกสารที่มีบาโค้ด มาเป็นบัตรเข้าได้เลย

ร้าน Minion

SESAME

ฝากท้องร้านเบอร์เกอร์ ให้เยอะมากครับ กินเกือบไม่หมด 23 $SGD

เค้าแสดงเป็นตัวละครได้เก่งมาก อินเว่อ

ความเจ๋งของ Universal ที่บัตร Express ไม่รู้ คือถ้าเราเข้าแถวเครื่องเล่นที่เจ๋งๆ เช่น Transformer คุณจะเจอห้องที่สร้างไว้สำหรับยืนเข้าแถวแบบไม่มีที่สิ้นสุด เพราะถ้าเข้าไปแล้วจะกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไป ก็ไปไม่ถึง ฮ่าๆ มาเป็นเพลง

พูดถึง Locker ในการเก็บของที่ USS หน่อย มันมีทั้งก่อนทางเข้า USS และก็หน้าทางเข้ามัมมี่ครับไอ้ด้านหน้า USS นี่ผมไม่ได้เข้าไปดู แต่ในส่วนของมัมมี่ ตอนนี้ใช้แบบ Scan นิ้วก็ดูปลอดภัยดีนะ แต่คนจะเยอะมากๆ เป็นไปได้ก็เอาของไปน้อยๆครับ

ถ้าจะมา Universal Singapore แนะนำสองอย่างครับ ซื้อตั๋วแบบ Express เข้ามาเลย เพราะว่าการรอเพื่อเข้าเล่นใช้เวลาค่อนข้างนาน บางจุดรอเป็น ชมเลย ซึ่งบางทีเราสามารถจะจ่ายเงินเพื่อซื้อเวลาได้

รีวิว เฉพาะ USS <<<<<< 5 ดาวคือ ง่าย,สะดวก และดี

★★★★★ : การเดินทางง่าย ถึงง่ายมาก

★★★★ : สมราคาแต่ก็ไม่นับว่าถูกที่สุด

★★★★★ : ห้องน้ำสะอาดดี แต่คาใจตรงน้ำกินฟรีจะอยู่หน้าห้องน้ำ ไม่กล้ากินอ่า ฮ่าๆ

★★★ : Sesame เฉยๆจ้า แก่แล้วครับไม่อิน อิอิ

★★★ : Madagasca เฉยๆ แต่แสงสีเต็ม

★★★★★ : Transformer ดีที่สุดเท่าที่ดูมา เข้าที่นี่ที่เดียวรู้สึกว่าคุ้มค่าบัตรแล้ว

★★★★ : Puss in boots giant เสียวเป็นช่วงๆ

ข้าวมันไก่สิงคโปร์ อร่อยดีนะครับ อันนี้จัดมาเป็นเซ็ต การซื้อข้าวที่นี้จะมีการแบ่ง S M L ด้วยนะ ส่วนใหญ่จะค่อยได้ราคาตามที่เค้าเขียนเริ่มต้นเท่าไหร่เลย

อันนี้คือร้านข้าวมันไก่

วันนี้ตั้งใจมาดูการแสดงแสงสีเสียงที่ Garden by the bay ด้วย เลยต้องรีบออกมาจาก USS ซักหน่อย ซึ่งก็มาทันสมใจ รายละเอียดเวลาดูสรุปด้านล่างนะครับ แต่พอมานอนดูการแสดงซักพัก หลับซะงั้นครับ จากความเหนื่อยล้าที่เดินเที่ยวมาทั้งวัน แต่ก็ได้บรรยากาศใหม่ๆที่น่าจดจำดีนะ ครั้งหนึ่งมานอนที่ใต้ต้นไม้นี่มาแล้วนะเว้ย ฮ่าๆ

ทริปเล็กๆ สำหรับคนที่ดูการแสดง Garden by the bay จบแล้วจะดู Spectra Water Show ที่ Marinabay ให้เดินอ้อมไปนะครับ หรือออกก่อนเวลา เพราะคนเยอะมาก ศึกษาเส้นทางเดินดีๆครับ

อันนี้เป็นการแสดงอีกส่วนที่ด้านหน้า Marinabay ซึ่งจากความเหนื่อยแล้ววันนี้ขอบายครับ แต่ก็ได้เห็นพลุที่เค้าจุดมา ลอดทางตึงด้วย สวยไปอีกแบบ ปล.กำลังเดินหลงทาง ฮ่าๆ

กลับมาเดินช๊อปที่ China town นิดหน่อย เป็นทางผ่านไป iStay.inn ห่างจาก MRT 800 เมตร

จบวันแรก แบบขาพังหลังพัง เหรียญตกยังไม่อยากจะเก็บขึ้นมาเลยครับ

Day 2

วันนี้แผนคือไปถ่ายภาพกินติ่มซำเดินวัดที่ China town ไป Fort canning แล้วก็อยากไปไหนก็ไป ชิวๆ ไม่วางแผนเยอะ ไม่อยากรีบร้อนอะไร เดินบ้างนั่งบ้าง

สำรวจที่พักกันหน่อย iStay.inn Hostel ( China town )

ที่นี้ดูเหมือนจะเล็ก ทางเข้าก็แสนแคบแต่เข้าไปข้างในเหมือนเขาวงกตเลยห้องเยอะมาก แต่สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบนะครับ น้ำอุ่น - แอร์ - ราวตากผ้า - เตียงสะอาด - อาหารเช้าง่ายๆ ( ของจริงตรงกะ Agoda ) ราคา 600 ต่อคน อีกอย่างที่ชอบของที่นี้คือการตกแต่ง ภาพเค้าดุดันดี วิวที่นั่งกินข้าวก็แจ่มดีครับ ไว้พักผ่อน แต่การมานอนรวมกับคนอื่นๆ ก็แปลกดีเหมือนกันครับ เขินๆยังไงไม่รู้

อาหารเช้าขนมปังกินรองท้อง Hostel ส่วนใหญ่จะต้องรับผิดชอบตัวเอง คือทำเอง ล้างเอง อะไรแบบนี้

มุมพักกินข้าว แนวดีมาก ถ้าไม่ติดว่ามีราวผ้านะ เท่กว่านี้ ฮ่าๆ

ขนมปังแยมกับกาแฟรองท้องก่อนเดินทาง

ท้องฟ้าแจ่มใสเว่อ น่าเดินเล่น

วันนี้เกิบแตะละกัน เดินชิวๆ

วันแขกที่เค้าชอบมาถ่ายภาพกัน ไม่ได้เข้าครับผ่านเฉยๆ

อีกเป้าที่อยากมากินคือติ่มซำ อร่อยมากครับแต่ราคาดุจริงๆ ร้านอยู่ตรง China town นะครับ ร้านนี้พอเราไปนั่งไม่ต้องสั่งนะครับเค้าจะเข็นรถมาเสิบเองเลยมาเป็นรถเข็นโดยป้าๆ แต่ก็สาสมารถบอกว่าอยากได้อะไรก็ได้ อร่อยมากโดยเฉพาะหมูกรอบ สุดจริง แต่บอกไว้ก่อนถ้ากินร้านนี้เค้าจะคิดค่าน้ำชา ผ้าเช็ดมือ และถั่วนะครับ ว่าง่ายๆยังไม่กินก็โดนไปแล้ว 7.2 SGD ละ ( โดนไป 49.9 $ )

อันนี้ชอบมาก ในเมนูจะเขียนบอกว่าอาหารที่เค้ามีนั้น มีส่วนผสมอะไรบ้าง เผ็ด ผัก หรือถั่ว

กินข้าวเสร็จ ฝนตกซะงั้น ได้ใช้แล้วผ้ากันฝนที่อุตส่าเอามา ฮ่าๆ

เดินตากฝนมาไม่เกิน 5 นาที ฝนหยุดจ้า ฟ้าใสปิ้งงง

Buddha Tooth Relic Temple - Chinatown

เท่าที่ผมดูที่นี้เหมือนเป็นที่ที่เค้ารวบรวมเกจิอาจารย์ดังๆจากที่อื่นๆเข้ามาไว้นะครับ ก็ลองเข้าไปดูครับ ก็ถือเป็นแลนมาร์คหลักๆ ที่มาได้ง่าย และหาง่ายด้วย ข้างในก็สวยงามนะครับในนี้มีรูปปั่นที่ผมชอบมากด้วย

ธูป 1 ดอก

จะว่าไงกะรูปนี้ดีนะ

อันนี้สวยจริง ชอบๆ

ฝั่งตรงข้ามคือศูนย์อาหารที่มีข้าวมันไก่อันเลื่องชื่อ แต่ไม่ได้แวะกินนะครับ เรากินมาละเมื่อวาน เลยเดาว่ามันคงเหมือนๆกัน เพราะเคยกินมาสองร้านก็เหมือนๆกัน

เดินมาว่าจะเข้าไปดูแกเลอรี่ แต่ปิดวันอาทิตย์ ก็เลยมานั่งเล่นเปียร์โนแทน ถามว่าเป็นกันไหม ? แน่นอนไม่เป็นจ้า

เดินวนมาทางด้านหลังศูนย์อาหาร

ถ้าเราเดินตามซอกซอยเราจะมีโอกาสเจอสถานที่สวยๆไว้ถ่ายภาพได้ง่ายๆเลยครับบางทีเดินวนๆไปมาก็ได้มุมใหม่ๆแล้ว

วนกลับมาเดินช๊อปปิ้งของฝากที่ China town เลย เพราะไม่ได้อยากเดินไปไหนไกล แต่จริงๆของส่วนใหญ่ก็เหมือนๆบ้านเรานะ

Fort canning park tunnel

อาจจะงงว่ามันคืออะไร ใช่ครับคนที่นั้นงงมากเวลาเราไปถาม เพราะที่นี้จะดังเฉพาะคนไทย ไปถามใครก็ไม่รู็จัก ผมนั่ง MRT จาก China town มาลงสถานี Fort canning ก็เดินลัดเลาะเพื่อที่จะไปหาสถานที่ที่เค้าถ่ายภาพอุโมงกัน แต่ก็ไม่เจอในแผนที่ แต่ผมจะปักไว้ให้ครับเผื่อใครอยากมา สังเกตุว่า MRT Dhoby Ghaut จะใกล้กว่าสถานีที่ผมลง

วัดแขกแถว Fort canning ดูสดใสกว่าวัดที่ China town นะครับ

ป้ายขลังมาก

ภาพนี้สื่อความเป็นสิงคโปร์ได้ดีมาก ประเทศเค้าออกแบบให้มีทั้งป่าปูนกะป่าจริงไว้ด้วยกันเลยนะครับ เพราะพื้นที่เค้าน้อย เค้าเลยจัดสรรพื้นที่ตัวเองให้มีประโยชน์ละเนอะ แล้วการถือศาสนาก็หลากหลายดี ใครจะทำมั่งก็ไม่เสียหายเนอะ แต่ถ้าสังเกตุดีๆ ตึกเค้าหน้าตาไม่เหมือนกันเลยนะ

ถึงแล้วอุโมงมองด้านบนจะประมาณนี้ครับ ตอนกำลังถ่ายภาพก็มีชาวต่างชาติเดินมาถาม เค้าถ่ายภาพอะไรกันเหรอ ก็ขำๆดี คนที่มาถ่ายก็คนไทยล้วนครับ แต่ก็สวยนะครับ มันมีช่องทางเดินและพื้นหลังเป็นต้นไม้ใหญ่ๆคลุมไว้

ถ้ามีเลน Wide จะสวยมากครับแต่ผมกล้องเดิมๆ แค่นี้พอ ฮ่าๆ

หลังจากถ่ายภาพเสร็จก็ว่างครับ เลยไม่รู้จะไปไหน ก็เลยคิดว่าจะไปดู Garden by the bay ตอนกลางวันบ้าง มีสถานที่แนะนำอีกที่นะครับ Haji Lane เป็นถนนสายที่มีภาพสตรีดเยอะๆหน่อย ใครชอบก็ตามสบายครับ แต่รอบนี้ผมไม่ได้ไป

ตรงนี้ภาพจากที่เดินออกจาก MRT bayfont

เดินข้ามสะพานเพื่อไป Marina Bay

เดินซักพักไม่มีอะไรน่าสนใจแต่ก็หิวข้าวขึ้นมานิดหน่อย เลยตัดสินใจไปสนามบินก่อนดีกว่า

อันนี้ MRT Changi ด้านล่างนะครับ ก็ดูรอบ Flight ของตัวเองว่าอยู่ Terminal ไหนค่อยออกเดินทางนะ

Refund ตรงนี้ Ticket Office ซึ่งมีทั้งสองทาง

พักกินข้าวที่ SORA restaurant ร้านนี้อยู่สนามบินนะครับมีทางเข้าออกอย่างละทาง เราเข้ามาพนักงานจะแจกบัตรวงกลม ใช้ซื้ออาหารก่อนแล้วค่อยเอาบัตรมาจ่ายเงินทางออก ราคาอาหารก็ 200-500 บาทไทย แต่ของที่ได้ตามราคาครับ แน่นๆ

ทำการ Check-in เรียบร้อยฝ่านทางตู้ครับ Scoot จะที Self Check-in แค่ที่สนามบินสิงคโปร์เท่านั้นนะครับ สะดวกรวดเร็ว แต่ต้องไปกดที่ตู้ที่ช่องของ Scoot นะครับ เพราะผมปล่อยไก่ ไปกดที่ตู้ของสายการบินอื่นมาละ ก็ว่าแล้วทำไมมันไม่ขึ้นนะ ฮ่าๆ

อีกส่วนที่ต้องทำคือการละลายเหรียญให้สิ้นศากครับ เพราะเวลาเรากลับไปไทย เค้าไม่รับแลกเหรียญนะครับ FYI = For Your Information ส่วนเรื่องการตรวจสำภาระก่อนขึ้นเครื่องเค้าจะตรวจที่หน้า Gate เลยนะครับ ไม่ตรวจตรงแถวตม. ฉะนั้นไปก่อนเวลานะครับ

สรุปแผนและค่าเดินทางทั้งหมด

DAY	TIME	กิจกรรม	SGD	บาท
FRI	17:50	แท็กซี่ : ไปสุวรรณภูมิ		127
	18:30	แลกตัง Super Rich
	19:00	Shuttle bus : ไปดอนเมือง
	21:00	Check-in Scoot		2,995
	21:30	กินข้าว : สนามบิน		80
	22:55	ขึ้นเครื่อง : Scoot
SAT	2:20	ถึงชางกี สิงคโป, เวลา+1 ชม, นอนสนามบิน
	5:20	บัตร Ez-Link	24	600
	5:30	MRT : Changi - Tanah Merah - Raffles Place
	6:50	Merlion ปล่อยน้ำ 7:20
	7:40	Cavenagh Bridge
	8:00	ฝากกระเป๋า : Hostel istay.inn		1,078
	8:40	กินขนมปัง : Nanyang old coffee	5.7	143
	9:10	MRT : Chinatown - Harbourfront
	9:30	เดินไป : Santosa - Universal Studio
	10:10	เครื่องเล่น Universal Studio		3,300
	12:00	กินข้าว USS	23	575
	18:00	ขึ้นรถราง : Santosa - Vivocity - กินข้าว	15.8	395
	18:50	MRT : Harbourfront - Chinatown - Bayfront
	19:40	Garden by the bay show
	20:20	MRT : Bayfront - Chinatown
	21:00	ช๊อปปิ้ง : Chinatown	4	100
	21:20	นอน : Checl-in Hostel istay.inn
SUN	8:30	ตื่น อาบน้ำ
	9:00	กินขนมปัง โอเลี้ยง Check-out
	10:40	กินติ่มซำ : Yum cha resterant	50	1,250
	12:00	Buddha Tooth Relic Temple	8	200
	13:00	Singapore City Gallery ปิดวันอาทิตย์ ><	1.6	40
	13:50	ช๊อปปิ้ง : Chinatown	19	475
	14:00	MRT : Chinatown - Fort Canning park	20	500
	14:30	เดิน : ภ่ายภาพ Fort Canning park tunnel
	16:00	MRT : Dhoby Ghaut - Promenade - Bayfront
	16:30	Marina Bay Sands
	18:20	MRT : Bayfront - Tanah Merah - Changi
	19:30	Ez-Link refund	-15	(375)
	19:40	Check-in Scoot		3,749
	20:20	กินข้าว : Sora resterant	60	1,500
	22:20	ขึ้นเครื่อง : Scoot
	23:45	แท็กซี่ : กลับบ้าน เวลาประเทศไทย		470
รวมบาท ( เรท 25 บาท = 1 SGD )				17,202
บาทต่อคน				8,601

สถานที่ใกล้เคียงที่น่าสนใจ

ฺBugis - มีที่น่าสนใจลองค้นดูครับ

Little India - น่าจะตามชื่อ เป็นโซนอินเดียครับ

Clarke Quay - ย่านร้านอาหารริมน้ำ ทางเดินริมน้ำสวยๆกลางคืน

Haji lane - ย่าน Street art ค่าเฟ่ประมาณนี้

Gardens by the Bay - Flower Dome

kallang - ย่านมืด ไม่พิมเยอะดีกว่า

รีวิว <<<<<< 5 ดาวคือ ง่าย,สะดวก และดี

★★★★ : [ เดินทาง ] สะดวกมากทางเลือกเยอะ แต่ก็เดินจนปวดหลัง ฮ่าๆ

★★★★ : [ นอนสนามบิน ] ผิดคาดมากคิดว่ามันจะเหงาๆ น่ากลัว แต่จริงๆแล้วไม่เลย มี Wifi เล่นด้วย

★★★★★ : [ ที่พัก ] Hostel ดีกว่าที่คิดไว้ ชิวมาก บรรยากาศเป็นกันเองกว่าที่คิดไว้

★★★★★ : [ Universal ] ดีมากโดยเฉพาะ Transformer 4D

★★★★★ : [ ความเจ๋ง ] ไปชมกันเอง

★★ : [ ราคา ] จบทริป 8,600 บาทไม่ถือว่าถูกนะครับ แต่อันนี้รวมยันค่า Taxi ไปสนามบิน

อาจจะสามารถสลับวันที่ทำกิจกรรมกันก็ได้นะครับ อย่างเช่นไป USS วันที่ 2 ก็ได้ วันที่ 2 ของผมมันชิวมากครับ ไม่มีได้รีบร้อนเดินทางอะไร อยากไปไหนก็ไป Internet ไม่มีแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เลยทำให้การเที่ยวมันไม่รีบร้อนอะไรแต่ก็ไปได้หลายที่ซะงั้น การเดินทางท่องเที่ยวจริงๆแล้วมันเริ่มสนุกตั้งแต่เรานั่งวางแผนแล้วครับ ขอให้สนุกกับการท่องเที่ยวนะครับ