สวัสดีครับทริปนี้เป็นทริปเที่ยว Backpack คนเดียวที่พม่าครั้งแรกซึ่งไม่มีการจองที่พักหรือตั๋วรถบัสล่วงหน้าทุกอย่าง walk in หาเอาข้างหน้า ยกเว้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับเท่านั้นที่จองล่วงหน้า เรียกว่าไปเที่ยวเอาดาบหน้าเลย จริงๆเคยจองมาแล้วครั้งนึงแต่ไม่ได้ไปเพราะพม่าน้ำท่วมหนัก ครั้งนี้ช่วงเวลาที่ไปก็เพิ่มประกาศผลเลือกตั้งว่าพรรคของนางอองซานซูจีชนะ นี่ก็ลุ้นๆเลยกลัวเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติแต่ยังไงเที่ยวนี้ก็ต้องไปให้ได้หลังจากอยากเที่ยวที่นี่มานาน อยากเห็นเจดีย์เย่อะๆมีฉากหลังเป็นบอลลูนที่พุกาม อยากไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ของพม่า อยากเห็นสะพานอูเบ็งตอนเย็นฉาบด้วยแสงสุดท้ายของวันสวยๆ อยากสัมผัสนิสัยน่ารักๆของคนพม่า หลายอย่างที่อยากซึ่งเห็นจากรูปที่หลายคนมารีวิวจนมาถึงวันนี้ที่ขอไปเห็นไปสัมผัสด้วยตัวเองสักทีกับทริปนี้ในพม่าครับ

ตอนที่1 https://th.readme.me/p/1848

ตอนที่2 @ Bagan https://th.readme.me/p/1864

ตอนที่3 @ Inle https://th.readme.me/p/1871

ตอนที่4 @ Pyin Oo Lwin https://th.readme.me/p/1872

ตอนที่5 @ Mandalay-Mingun https://th.readme.me/p/1873

ตอนที่6 @ Bago-Kyaikh tiyo https://th.readme.me/p/1874

ตอนที่7 @ Yangon https://th.readme.me/p/1875


คุยกันในนี้ได้นะครับ https://www.facebook.com/NotesfromBackpacker/


** สำหรับรูปที่เที่ยวที่ Bagan ของผมจะหายไปบางส่วนนะครับ Memory มัน error โหลดไม่ได้เพิ่งรู้ว่ามันกู้ได้หลังจาก Format ไปแล้ว T_T รูปไหนที่ลงไว้ก็จะลง credit เพื่อขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ให้กับเวบที่มาของภาพแทนรูปของผมที่หายไปครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1..เส้นทาง

Bkk-Yangon-Bagan-Inle-Pyin oo lwin-Mandalay-Mingun-Bago-Kyaikh tiyo-Yangon-Bkk


2..Program

Day1 : Bkk - Yangon - Bagan

Day2 : Bagan

Day3 : Bagan

Day4 : Bagan

Day5 : Bagan - Inle

Day6 : Inle - Mandalay

Day7 : Mandalay - Pyin oo Lwin

Day8 : Pyin oo Lwin

Day9 : Pyin oo Lwin - Mandalay

Day10 : Mandalay - Mingun - Bago

Day11 : Bago - Kyaikh tiyo

Day12 : Kyaikh tiyo - Yangon

Day13 : Yangon

Day14 : Yangon - Bkk3..การแลกเงิน

เที่ยวไป

-บาท-ดอลลาร์ แลกที่สนามบินดอนเมือง แลกแบงค์ 50,100 ดอล์ล่าร์ไว้สำหรับแลกเงินจั๊ตไว้ใช้ ส่วนแบงค์

1,5,10,20 ดอลลาร์ไว้สำหรับจ่ายที่พัก,ค่ารถ

-ดอลล่าร์-จั๊ต แลกที่สนามบินย่างกุ้ง พอหลังจากรับกระเป๋าเสร็จแล้วเดินออกมาก็เจอเลยมีหลายเคาท์เตอร


เที่ยวกลับ

-จั๊ต-ดอลลาร์ แลกได้ที่สนามบินย่างกุ้ง(แต่เงินเหลือไม่เย่อะมากเลยเก็บไว้)

-ดอลล่าร์-บาท แลกที่สนามบินดอนเมือง


*** แลกเงินบาทเป็นดอลล่าร์ที่สนามบินดอนเมืองมีหลายเคาท์เตอร์ เรทเดียวกัน ให้บอกเค้าว่าแลกไปใช้ที่พม่าขอใบใหม่เดี๋ยวเค้าจัดให้ แต่ตรวจด้วยก็ดี

*** ค่าเงินพม่า 1,000 จั๊ต = 28บาท ถ้าสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินจั๊ตหรือดอลล่าห์ใช้แอพ XE Currency เทียบดูก็ได้ว่าใช้สกุลไหนจ่ายคุ้มกว่ากัน

*** หาข้อมูลการใช้เงินแต่ละที่ว่าใช้สกุลอะไรระหว่างจั๊ตกับดอลล่าห์ จะได้แลกเงินไปถูก และเวลาแลกเงินดอล์จากไทยเพื่อไปแลกเงินจั๊ตที่พม่าให้แลกแบงค์ดอล์มูลค่าเยอ่ะๆไว้เช่น 50,100 ดอล์ เพราะได้เรทแลกจั๊ตได้มากอีกนิดหน่อยส่วนแบงค์จั๊ตให้แลก 1,000 เยอ่ะสุด รองมา 5,000 ส่วนแบงค์ย่อยพอซื้อพวกน้ำดื่ม หรือข้าวเด่วก็ได้เงินทอนเป็นแบงค์ย่อยๆเช่น50,100,200,500 เอง ถ้าได้เงินทอนเป็นแบงค์ย่อยๆถ้าได้แบงค์เก่าๆเละมากๆขอเอาแต่แบงค์ใหม่กว่าเดิมได้เลย เพราะบางคนเห็นเป้นต่างชาติเค้าจะเอาแบงค์เก่าๆให้ แต่ถ้าขอแบงค์ใหม่ไม่ได้ก็ไม่เป้นไร

*** ข้อควรระวังการใช้ธนบัตร

ธนบัตรดอลล่าห์ ถ้าจ่ายเงินดอล์แล้วได้รับเงินทอนเป็นดอล์หลายๆใบย่อยๆ ให้ตรวจให้ดีห้ามมีรอยยับ รอยขีดข่วน ตราปั๊ม เพราะเคยจ่ายค่าที่พักที่ Pyin oo Lwin ลืมตรวจ เค้าสอดแบงค์ 10 usd มีรอยพับกลางมาให้ ปรากฏว่าเอาไปใช้ต่อไม่ได้เลย ต้องรอเอามาแลกคืนที่ไทย

ธนบัตรจั๊ต ใบที่มีรอยเขียนด้วยปากกาบางที่ไม่รับ ได้ที่มัณฑะเลย์ใช้ที่นั่นไม่มีคนเอา แต่พอเอาไปใช้ที่ Kyaikh tiyo ก็รับปกติ ถ้าเลือกได้ก็อย่าเอารับมาใช้ดีกว่า แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ต้องลุ้นเวลาใช้ที่อื่นๆอีกที


4..การใช้เงินสกุลต่างๆในสถานที่ต่างๆ

= Yangon ค่าเข้าชเวดากอง 8,000 จั๊ต , ค่าเข้าเจดีย์สุเล 4,000 จั๊ต , ค่าเข้าวัดเจ๊าทั๊ตจี 2 usd , ค่าเข้าเจดีย์โป ต๊ะทาวน์3usdหรือ4,000 จั๊ต

= Bagan ค่าเข้าชมเมือง 20 usd

= inle ค่าเข้าชมเมือง 10 usd หรือ 13,000 จั๊ต

= Pyin oo lwin ค่าเข้าสวนพฤกษศาสตร์กันดอว์จี 5 usd , ค่าเข้าน้ำตกปเวก๊อก 500 จั๊ต

= Mandalay ค่าเข้าชมเมือง 10,000 จั๊ต

= Mingun ค่าเข้าชมเมือง 5,000 จั๊ต , ค่าเรือข้ามฝั่งมัณฑะเลย์-มิงกุน 5,000 จั๊ต

= Bago ค่าเข้าชมเมือง 10 usd

= Kyaikh tiyo ค่าเข้าพระธาตุอินทร์แขวน 6 usd

** สำหรับที่พักและค่ารถบัส ลองสอบถามดูก่อนเพราะส่วนใหญ่เค้าจะมีให้เลือกได้ว่าจะจ่ายเป็นจั๊ตหรือดอลล่าร์


5..การเดินทางระหว่างเมือง

- Yangon-Bagan บัสของ JJ Express เป็น vip bus รอบ 20.00 น. ค่ารถ 18 usd หรือจ่ายเป็นจั๊ต 22,200 จั๊ต แถวละ 3 ที่นั่ง ขวาสุดคือที่นั่งเดี่ยวตี3.30น.รถจะจอดที่ขนส่งแล้วเราต้องต่อรถเข้าเมือง เอง ยกเว้นว่าบางคนอาจจะมีรถที่พักที่จองไว้มารับ , ค่าTaxiเข้าnyaung U 5 usd
-Bagan-inle บัสของ JJ Express เป็น vip bus รอบ 8.30 น. ค่ารถ 15 usd หรือจ่ายเป็นจั๊ต 18,500 จั๊ต แถวละ 3 ที่นั่ง ขวาสุดคือที่นั่งเดี่ยว16.40 น.รถจะไปจอดในตลาดของเมืองNyaung Shwe จอดหน้าบริษัทของ JJ ซึ่งแถวนั้นเดินหาที่พักได้เลยเย่อะมาก แต่ถ้าจะขึ้นรถสองแถวตุ๊กๆ ไป ที่พักก็คนละ 1,000 จั๊ต
-Inle-Mandalay vip Bus ของ Shwe Thit Sar รอบ 19.30 น. ราคา 16,000 จั๊ต ถ้าชอบรถใหม่ก็ของ JJ Express หรือ Shwe nan taw รถจะไปจอดที่ขนส่งมัณฑะเลย์ถึงเวลาตี 3.30 น.
-Mandalay-Pyin oo Lwin Bus ของ Shwe Thit Sar เป็นรถแอร์ธรรมดาค่ารถ 4,000 จั๊ต รอบแรกตี 4 ตรง 6โมงเช้า รถจะไปจอดที่ขนส่งพินอูลวิน ถ้าจะไปลงที่หอนาฬิกานั่งมอไซค์รับจ้างไป 2,000 จั๊ต , จาก ข้อมูลจะมี Taxi แชร์คนละ 5-6usd หาจากที่พักได้
-Pyin oo Lwin-Mandalay รถสองแถวเล็กคนละ 1,500 จั๊ต รอบแรก 7 โมงเช้ารถออกทุกชั่วโมงจะไปส่งที่ถนนรอบนอ กมัณฑะเลย์ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมงเสร็จแล้วต่อรถมอไซค์รับจ้างไปลงหอ นาฬิกา1,500
-Mandalay-Mingun มอไซค์จากหอนาฬิกามัณฑะเลย์ 1,500 จั๊ต รถจอดที่ท่าเรือมายานจาน ค่าเรือไป-กลับ 5,000 จั๊ตรอบขาไปมีรอบเดียวคือ 9.00น.รอบขากลับมีรอบเดียวคือ 12.30 น. ใช้เวลาเดิน ทางเที่ยวละ 1 ชั่วโมง
-Mandalay-Bago บัสแอร์ธรรมดารอบ 20.30 น. ราคา 16,000 จั๊ตแต่ถ้ารอบ 19.30 น.ราคา 14,000 จั๊ตแต่ ไม่มี รถมารับที่ที่พักต้องหารถไปขนส่งเองรถจะไปจอดที่หน้าตลาดเมืองบาโกตอนตี 4
-Bago-Kyaikh tiyo รถแอร์ธรรมดารอบ 10.15 น.ราคา 6,000 จั๊ต ซื้อผ่านเอเยนต์ตามโต๊ะต่างๆไม่ระบุบริษัท บ่าย1รถจะไปจอดที่ตลาดไจ๊ท์โถ่ถ้าจะไปคินปุนเบสแคมป์เพื่อขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนก็ต่อ รถสองแถวหน้าตลาดราคา 500 จั๊ตเดินทางอีกประมาณครึ่งชั่วโมง
-Kyaikh tiyo-Yangon รถบัสแอร์ธรรมดารอบ 8.00 น. ราคา 7,000 จั๊ต ถึงย่างกุ้ง 12.40 น.จอดที่ขนส่งอองมินกา ลา แล้วต่อรถtaxiไปสุเล 6,000-10,000 จั๊ตแต่ถ้าเน้นประหยัดก็เดินข้ามถนนใหญ่มาขึ้น รถเมล์ สาย43 ราคาแค่ 200 จั๊ต


6..ที่พัก

-Yangon พักที่ 30th Corner Boutique Hostel อยู่ถ.Anawratha Rd. ห้องDorm 10usd ,single bed 25usd,Double bed 35 usd ทุกห้องเป็นห้องแอร์ + ห้องน้ำรวม + รวมอาหารเช้า , ทำเลดีเดินไป ตลาดสก็อต500ม. ไปสุเล 500ม. ไป china town 1 กิโล
-Bagan พักที่ Eden Motel3 อยู่ถนน Lanmadaw2 ห่างจากตลาดแค่ 200 ม. ,ห้องDorm 10 usd ห้องน้ำ รวม+อาหารเช้า ส่วนห้องsingle bed 15 usd เป็นห้องแอร์ห้องน้ำในตัว+อาหารเช้า
-inle พักที่ Joy Hotel ห่างจากตลาด 450 ม. ห้อง Twin bed ราคา 12 usd ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม +อาหารเช้า
-Pyin oo Lwin พักที่ 1..Grace ll Hotel อยู่ห่างจากหอนาฬิกา100 ม. ห้อง Twin bed ราคา 20 usd(เทศกาล) ปกติ10usd ห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว รวมอาหารเช้า
2..Queen Hotel ห้อง Double bed ราคา 10 usd ห้องพัดลม+ทีวี+ห้องน้ำในตัว ไม่มีอาหารเช้า
-Mandalay พักที่ Nylon 2 Hotel อยู่ถนน 83rd St. ห้องsingle bed 20 usd ห้องแอร์,ห้องน้ำในตัว+ทีวี+อาหารเช้า ห่างจากตลาด Zegyo 500 ม.
-Kyaikh tiyo พักที่ Seasar Hotel อยู่ติดกับท่ารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน ห้องdouble bed 15 usd ห้องพัดลม ห้องน้ำ ในตัว รวมอาหารเช้า


7..อาหารการกิน

= ข้าวแกง ถามไปเลยครับ How much? ถ้าเค้าตอบมาเท่าไหร่นั่นคือราคาต่อกับข้าว1อย่าง+เครื่องเคียง+ข้าว เฉลี่ย 1,000-2,000 จั๊ต/ 1อย่าง
= ข้าวผัด ที่พม่าข้าวผัดอร่อยครับ ข้าวร่วนๆมีน้ำมันๆ อร่อยดี ราคาเฉลี่ย 1,500 จั๊ต
= Shan noodle ก๋วยเตี๋ยวเสริฟพร้อมเครื่องปรุงอย่างเช่น พริก มะนาว บางร้านจะให้ยำผักกาดดองมาด้วย
= โมฮิงก่า ขนมจีนพม่า โรยด้วยแป้งกรอบๆกรุบๆกรับๆ ติดฟัน อร่อยดี เมนูนี้ทุกที่เสิร์ฟร้อนๆ รู้สึกปลอดภัย ราคา 500-1,000 จั๊ด
= จิ้มจุ่ม เรียกว่า หวะ ต๊า โดะ โทว์ เป็นเมนู เนื้อ,หนัง,เครื่องในหมูต้มในน้ำซุปเหมือนพะโล้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม หวานๆ เปรี้ยว+น้ำซุปและกินแนมกับพริกขี้หนูสดกับกระเทียม ไม้ละ 50-100 จั๊ต
= โรตี+ถั่ว โรตีเค้าเรียกว่า Plalta ( ปลั๊ท ต้า ) กินกับกาแฟร้อนๆอร่อยดี แผ่นโรตีเหนียวนุ่มยันกรอบ แล้วแต่ร้าน ราคา 500-1,000 จั๊ต
= กาแฟพม่า กาแฟที่นี่กลิ่นไม่ค่อยแรงรสจืดๆ และจะเป็นผงๆตกตะกอนที่แก้วกินแล้วได้รสสัมผัสมากกกกก ราคา เฉลี่ย 500 จั๊ต
= ซาโมซ่า เวลาเข้าร้านกาแฟแล้วสั่งซาโมซ่าเค้าจะเสิร์ฟใส่จานให้ 5 ชิ้นไม่ต้องตกใจ กินเท่าที่อยากกินเค้าคิด ราคาต่อ ชิ้นๆละ 100 จั๊ต
= น้ำเปล่า ขวดเล็ก 200-250 จั๊ต , ขวดใหญ่ 400-500 จั๊ต(ขวดใหญ่1ลิตร)
= น้ำอัดลม ถ้าเป็นขนาดกระป๋องละ 15 บาทบ้านเรา ที่นั่นราคาประมาณ 700-800 จั๊ต
= เบียร์ เท่าที่เห็นเบียร์จะมียี่ห้อพม่าคือ Mandalay beer กับ Myanmar Beer ขวดใหญ่ขวดละ 1,500-2,000
= KFC เจอที่ตึกตรงข้ามกับตลาดสก็อตในย่างกุ้ง ราคาพอๆกับบ้านเรา


8..ภาษา (ที่ผมใช้มีแค่นี้)

สวัสดีครับ/ค่ะ = มิงกาลาบ่า
ขอบคุณครับ/ค่ะ = เจซูติ่นบาเด
ขอถ่ายรูปหน่อยครับ = ด๊ะโป่ ย่ายลู่ ย่ามาล่า
ถ่ายรูป = ด๊ะโป่ (ขอถ่ายรูปเหมือนกันแต่พูดสั้นๆ เข้าใจตรงกันคือขอถ่ายรูป)
** ถ้าคุยเรื่องตัวเลข สำหรับเลข5 คนที่นี่ออกเสียงว่า “ ไพ๊ป์ หรือ ไป๊ป “ ฟังบ่อยๆเดี๋ยวก็คุ้น


9..ปลั๊กไฟ

เจอทั้ง 2 ขาแบน , 2ขากลม และ3ขา เอาชัวร์ๆก็เอา Universal Adapter ไป จบเลยทีเดียว



10..อินเตอร์เนต

มี 3 ค่ายหลักๆคือ ooredoo , Telenor , MPT

ผมใช้ MPT ค่าซิม 1,500 จั๊ต เติมเงินครั้งละ 1,000 จั๊ต สัญญานเนตแรงบ้างเป็นบางจุด พอให้หายอยาก


11..สิ่งที่ควรพกไปเพิ่มเติม

1.. แผนที่ จะเป็นหนังสือ , แผนที่ , maps หรือปรินท์ภาพไปก็ได้ แต่ผมใช้แคปหน้าจอจาก google map แล้ว save เก็บไว้เป็นอัลบั้มแยกแต่ละเมือง

2.. แอพพลิเคชั่น หลักๆที่ใช้คือ Maps กับแอพฯดูอัตราแลกเงิน XE Currency เพื่อไว้คำนวนตอนจ่ายเงินค่าที่พัก,การ เดินทาง,ค่าตั๋วเข้าชม(ในกรณีเลือกได้)

3.. หน้ากากกันฝุ่น หรือผ้าเช็ดหน้า,ผ้าพันคอ อะไรก็ได้ที่ใช้ปิดกันฝุ่น ผมไม่ได้ใช้เพราะคิดว่าพอทนไหว แต่เอาเข้าจริงฝุ่น เยอ่ะมากจนเจ็บคอ

4.. ครีมกันแดด ไอเทมนี้ก็ไม่ได้เตรียมไปเพราะมั่นใจว่าผิวหนาพอ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ปรากฏว่าหน้าไหม้ผิวที่แขนก็ ไหม้จนลอก2ข้าง

5.. ยา แก้แพ้,แก้ปวด,แก้ท้องเสีย,เกลือแร่,พลาสเตอร์ ผมได้ใช้ตั้งแต่วันที่2เลยคือแก้แพ้ เพราะเจอร้อนๆ หนาวๆอากาศเปลี่ยนตลอดทริป

6.. Universal Adapter+ปลั๊กพ่วง มีไว้ไม่เสียหาย โดยเฉพาะคนที่มีทั้งกล้อง,มือถือ ต้องชาร์จแบทรอไว้ถ่ายเย่อะๆ เพราะ ที่พักบางที่ปลั๊กมีน้อยไปไม่สะใจ

7.. ไฟฉาย ไว้ใช้ตอนไป Bagan ตอนไปดูพระอาทิตย์ขึ้น+ภายในเจดีย์ต่างๆ เพราะถือง่ายกว่ามือถือและให้แสง สว่างมากกว่า

8.. ร้องเท้าแตะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายๆที่ต้องถอดรองเท้าเข้า ถ้าใช้รองเท้าแตะจะสะดวกในการถอดบ่อยๆมากกว่าผ้าใบ

9.. ถุงใส่รองเท้า พกเผื่อไว้ก็ดีจะเป็นถุงใส่ของทั่วๆไปก็ได้เผื่อได้ใช้ในบางที่ที่เก็บค่าฝากรองเท้า

10.. เสื้อกันหนาว ได้ใช้แน่ๆที่ inle , pyin oo lwin , bagan เช้าๆจะหนาวแต่พอระหว่างวันแดดจัดก็ใช้กันแดดได้

11.. ลองยี หรือโสร่งหาซื้อตามร้านค้าได้เลยถ้าใครไปลงที่ย่างกุ้งก่อนก็แวะซื้อที่ตลาดสก็อตจะถูกหน่อย ผมไปโดน ที่Baganอย่างแพง 6,000 จั๊ต

12.. อื่นๆ เช่น eyes cover mask , ear plug ไว้ใช้ตอนนอนบนรถบัสกลางคืน



12..อื่นๆ ( ที่เจอมา )

1..พม่าขับรถเลนขวา แต่พวงมาลัยรถส่วนใหญ่จะอยู่ด้านขวา

2..ภาษีสนามบินขาออก ในข้อมูลที่ผมหาไปเราต้องเสีย10 usd แต่วันที่ผมกลับไม่เห็นมีการเก็บเลย งงอยู่เหมือนกันครับ แต่ถ้ากันพลาดก็พกไว้ครับแบงค์ใหม่ๆ

3..ถ้าไปตามร้านอาหารหรือกาแฟ ถ้าได้ยินเสียงคล้ายๆเสียงหนูดังๆไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นคือเสียงของลูกค้าไว้เรียก พนักงาน ผมลองทำดูแล้ว เสียงไม่ดังเลยต้องใช้วิธีโบกมือตามที่เคยใช้ในไทยดีกว่า ตอนทำเสียง ก็ทำไปเขิลไป ม๊วฟๆๆ

4..หมาก คนพม่าชอบเคี้ยวหมาก มีเคี้ยวก็ต้องมีบ้วน แนะนำว่าเวลาเดินผ่านรถเมล์ให้ระวังด้วยเพราะอาจจะ มีคนบ้วนน้ำหมากลงมาตลอดเวลา ผมเจอไปรอบนึงเฉียดหน้าห่างไม่ถึงคืบที่ย่างกุ้ง บางทีเจอบ้วน ลงพื้นรถเมล์เลยฮาร์ดคอว์สุดๆ

5..จากข้อที่แล้ว เวลากินซาโมซ่าตอนที่ราดน้ำจิ้มลง มันชวนให้นึกถึงน้ำหมากตอนบ้วนสดๆมาก อร่อยยยยยยยยย

6..รถเมล์ ในย่างกุ้งเป็นรถเมล์พัดลมเปิดบ้างไม่เปิดบ้างแล้วแต่พี่เลย กระเป๋ารถเมล์เวลาเรียกลูกค้าจะแร็พ ยาวๆใส่ฟังแล้วเพลินนึกว่าก้านคอคลับมาถ้าต่างชาติขึ้นรถมานี่อย่าง pop เด่นเลย

7..รถบัส ส่วนใหย่ถ้าเป็นมือสองจะมาจากญี่ปุ่นเพราะยังมีภาษาญี่ปุ่นติดตัวรถบ้างข้างในอุปกรณ์ต่างๆบ้าง

8..ข้าวแกงพม่า ใครเคยกินครั้งแรกรับรองสับสนวุ่นวายแน่ ปัญหาคือเครื่องเคียงที่แถมมามันมาหลายอย่างจนไม่รู้จะ เลือกกินอะไรก่อนหลังดี

9..โมฮิงก่า ไม่รู้เป็นอาหารประจำชาติหรือเปล่าเพราะเดินไปไหนเอะอะๆก็เจอ หน้าตาและรสชาติเหมือนขนมจีน บ้านเรา ใครไปพม่าถ้ากินโมฮิงก่าให้คุ้นลิ้นตั้งแต่วันแรกรับรองไม่อดตาย

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Day1 : Bkk-Yangon-Bagan

ตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุกก่อนอาบน้ำใบแอพฯเรียกTaxiของ All thai taxi มารับ สักพักอาบน้ำเสร็จยังไม่ทันแต่งตัวทางคนขับรถTaxi โทรมาพอดีว่าอยู่ในซอยแล้ว เลยรีบแต่งตัวให้เสร็จแล้วลงไปขึ้นรถ นั่งคุยกับคนขับไปเรื่อยๆ เค้าบอกว่าอีกไม่นานทางนครชัยฯจะออกรถอีกรุ่นมาเป็น Taxi Camry มาอีกชุด สำหรับคนที่อยากจองล่วงหน้าสามารถทำได้ล่วงหน้า 1 วันนะครับ แต่จะเสียค่า Service Charge 100 บาท แต่ก็ดีตรงที่ไม่ต้องรอลุ้นว่าจะมีTaxiว่างหรือเปล่า เหมาะสำหรับคนที่รู้ว่าจะต้องเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน


ถึงสนามบินดอนเมือง เสียค่า Service Charge ช่วงนี้แค่ 20 บาท เพราะอยู่ในช่วงทดลองให้บริการ จริงๆอยากจะเข้าไปนั่งเล่นใน Gateก่อนแต่พนง.ของนกแอร์บอกว่าไฟลท์ 10.40 น. ให้เริ่ม Check in ที่เคาท์เตอร์ได้ตั้งแต่เวลา 8.00 น.เลยออกไปนั่งพักแถวๆนั้น นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แลกเงินบาทเป็นดอลล่าร์ เลยเดินไปที่เคาท์เตอร์แบงค์กสิกรไทย เท่าที่ทราบมาแลกธนาคารไหนอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากันแตกต่างคือ บริการและของแถม ซึ่งผมแลกทั้งหมด 600 usd แจ้งเค้าว่าขอแลกเงินไปใช้ที่พม่าขอแบงค์ใบใหม่ๆ ทางพนง.ที่เคาท์เตอร์ก็จัดแบงค์ใหม่บ้างไม่ใหม่บ้างแต่สภาพดีไม่มีรอยขีดข่วน,รอยพับ หรือตราประทับบนแบงค์ เป็นอันว่าทั้งหมดใช้ได้ที่พม่าแน่นอนแล้วได้ของแถมคือร่ม 1 คัน แต่ไม่ได้เอามาเพราะไม่อยากพกเย่อะกว่าที่มีอยู่อีกแล้ว สำหรับของที่ผมใช้ใส่แบงค์ดอลล่าร์เอาไปใช้ในทริปนี้ คืออันนี้



กลัวว่าแบงค์ดอลลาร์จะมีรอยพับระหว่างทริปเดี๋ยวเงินจะใช้ไม่ได้ที่พม่าเลยหาซื้อกล่องดินสอสีมากล่องละ 20 บาท ถูกและดีและสบายใจไม่ต้องกลัวมีรอยพับ



8.00 น. เอากระเป๋าที่จะโหลดไปสแกนติดแท็กแล้วเดินไปต่อแถวรอ Check in อยู่ฝั่งที่ติดกับ Lion Air รอสักพักเพราะคงมีปัญหาของระบบมั้ง ใช้เวลา 30 นาทีถึงซึ่งที่เคาท์เตอร์นอกจากจะขอบัตรประชาชนแล้วเค้าจะขอทราบเลขที่จองทั้งขาไปและกลับด้วย ดีน่ะที่แคปหน้าจอไปทั้ง2เที่ยวบิน



เดินไปเข้าโซนผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ กรอกใบขาออก แล้วต่อแถวเพื่อ scan พาสปอร์ท แล้วยื่นถ่ายรูป ขั้นตอนนี้รวดเร็วแค่ 5 นาทีเสร็จเดินเข้าไปต่อแถวเอาของที่จะขึ้นเครื่องไปสแกนเสร็จแล้วก็เดินไป Gate ที่ระบุในตั๋วได้เลย



ด้านในก็มีเคาท์เตอร์แลกเงินนะครับเผื่อใครลืมแลกมา



ระหว่างนี้ขอหาอะไรกินในมื้อเช้าก่อน ในนี้จะมี starbucksแล้วก็มีอีก 3-4 ร้าน(ถ้าจำไม่ผิด) แวะไปที่ร้าน Subway สั่งแซนด์วิสมากิน จริงๆอยากกินอะไรใน 7-11 แต่หาไม่เจอ พอกินเสร็จแล้วเดินไปที่ Gate 21 เจอร้านกาแฟ Amazonที่gateพอดีเลยแวะสักหน่อยจะได้ที่นั่งเหมาะเขียนเอกสารต่างๆด้วย ปรากฏว่าลูกค้าที่เข้ามาสั่งกาแฟกินเกือบทั้งหมดมานั่งกรอกเอกสารที่นี่ เอกสารที่ได้มาจากเคาท์เตอร์ check in มีตามนี้เลยครับ

ใบศุลกากร สำหรับตำแหน่งงานนึกอะไรไม่ออกกรอก Officer ไปเลยครับง่ายสุด


ใบตม.ครับ กรอกรอไว้เลยทั้งขาเข้าและขาออก


ระหว่างรอเครื่องออก



10.00 น. เข้าแถวรอขึ้นเครื่อง ซึ่งจะเรียกให้ผู้โดยสารที่มีเด็กหรือคนชราขึ้นก่อน ได้ที่นั่ง 58A ที่จองไว้ เลือกฝั่งนี้เพราะจะได้ไม่เจอแดด ที่นั่งข้างๆเป็นสาวพม่าที่เข้ามาทำงานที่ไทยพูดไทยได้เลยให้สอนภาษาบางคำที่จะใช้ที่พม่า แต่หลักๆที่อยากได้คือคำว่าขอถ่ายรูป ซึ่งจะไว้ใช้ตอนขอถ่ายรูปชาวพม่า เพราะคิดว่าพอใช้คำนี้แล้วเค้าน่าจะยอมแต่โดยดี 5555 คำว่า “ขอถ่ายรูปหน่อยครับ" พูดว่า “ ด๊ะ โป่ว ย่าย ลู่ ย่าม มา ล่า" สบายใจละได้คำนี้มาไว้ใช้ ^^

นกแอร์มีสแนคให้ครับ


11.40 น. ถึงสนามบินย่างกุ้งเดินตามคนอื่นมาอย่างงงๆมาเรื่อยๆ โดยพอออกจากงวงช้างมาเดินเลี้ยวขวามาลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่างแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอคนต่อแถวหลายๆแถว ให้เดินไปทางกลุ่มแถวฝั่งด้านขวาจะเป็นแถวสำหรับคนต่างชาติ ขั้นตอนตรวจเอกสารขาเข้าประเทศ 5 นาทีเสร็จง่ายๆมากแค่เดินไปยืนถ่ายรูปตามจุดที่มาร์คไว้ ยื่นเอกสารให้ตรวจ จนท.ไม่พูดไม่ถามสักแอะ ง่ายจริงๆ เสร็จแล้วเดินไป 20 เมตรจะเจอจุดรับกระเป๋าที่โหลดไว้พอได้รับกระเป๋าแล้วเดินย้อนกลับมานิดเดียวด้านซ้ายมือจะมีจุดสแกนกระเป๋า ให้เอากระเป๋าทุกใบวางลงไปสแกน เสร็จขั้นตอนทุกอย่าง

ภาพจากเวบ www.frickr.com


เดินไปจุดนั่งรอด้านนอกขอนั่งพักให้ใจร่มๆเย็นๆก่อน ลืมละว่าจะทำอะไรต่อบ้าง เหลือบตามองไปเห็นเคาทเ์เตอร์แลกเงินของ KBZ เลยเดินไปแลกเงินบางส่วนจากดอลล่าร์เป็นเงินจั๊ต โดยยื่น List ให้เค้าดูว่าผมจะขอแลกแบงค์อะไรบ้าง หลักๆคือแบงค์ 1,000 กับ 5,000 จั๊ต

ภาพจากเวบ www.lashworldtour.com

แพลนต่อไปคือจะต้องไปขนส่งอ่องมินกาลา เพื่อซื้อตั๋วรถบัสรอบดึกไป Bagan(พุกาม) เพราะอยากได้รถ vip ที่มีที่นั่งแถวละ 3 ตัว อยากได้ที่นั่งเดี่ยวๆกลัวจะเต็มเลยขอแวะไปจองก่อนแล้วค่อยไปเดินเล่นที่ตัวเมืองย่างกุ้งเดินออกมาที่ประตูของอาคารก็เจอรถ Taxi จอดเรียงรอลูกค้าเลย แต่ไม่ได้ขึ้นตรงนี้ไม่ได้ถามราคาด้วยเพราะกลัวราคาแพง เลยเดินออกไปอีกแค่ 20 เมตรก็ถึงประตูทางเข้า-ออกสนามบินซึ่งก็จะมี Taxi จอดเป็นแถวเหมือนกันเข้าไปถามราคาที่จะไปขนส่งฯทุกคันเปิดที่6,000 จั๊ตเลยหั่นราคาต่อเหลือ 3,000จั๊ต ให้ต่อไปก่อนพอเดี๋ยวเค้าจะลดมาเรื่อยๆเองถ้าไม่ยอมก็ให้เดินหนีได้เลยเดี๋ยวเค้าจะเสนอราคาลงมาเอง แต่ต่อไป2คันแรกราคาที่ได้คือ 3,500 เลยไม่หนำใจเลยเดินมาคันที่จอดรอต่อได้ราคาเหมือน2คันแรกคือ 3,500 จั๊ต ระหว่างต่ออยู่มี Taxi อีกคันขับมาประกบข้างๆคันที่ผมกำลังต่อราคาอยู่สถานะการณ์ตอนนี้ผมเป็นต่อขึ้นเลย เลยแกล้งทำเป็นมองคันที่มาจอดข้างๆเหมือนทำให้รู้ว่าผมจะไปต่อราคาคันนี้หล่ะน๊าาาาา สักพักคันที่ผมกำลังต่อราคาอยู่ก็ยอมให้ราคาที่ต่อไว้คือที่ 3,000 จั๊ต พร้อมกับทำหน้าจำยอมแบบเซร็งๆ 555 (ทำไงได้หล่ะ ผมมาคนเดียวตัวหารไม่มี ขอโทษน๊ะครับลุง ^^ )

ขึ้นไปนั่งอย่างเร็วกลัวลุงเปลี่ยนราคา Taxi มีแอร์แต่ไม่เปิดแอร์ หากอยากเย็นใช้ระบบมือหมุนเปิดกระจกเอาได้เลย ซึ่งข้อนี้รู้มาตั้งแต่หาข้อมูลมาแล้วเลยทำใจรับได้สบายๆ วิ่งไปสักพักน่าจะครึ่งชั่วโมงได้ ลุงแกก็ซิ่งมาอย่างเร็ว ระหว่างทางมาขนส่ง บนท้องถนนที่นี่ขับกันซิ่งดี เสียงแตรสนั่นเลย ไม่ถี่เท่าที่เจอที่เวียตนามแต่คุณภาพการกดแตรนี่เยอ่ะมากกดแตรทีลากยาวเหมือนบ้านเราเวลากดแตรเพื่อด่ากันเลย



12.20 น. ถึงทางเข้าขนส่งฯตรงนี้จะมีจุดเก็บค่าเข้าของรถTaxiอันนี้เราจ่ายเอง200 จั๊ด(6บาท) จากนั้นลุงก็เข้าไปส่งด้านในผมเดินต่ออีกนิดเพื่อหาตึกของรถบัสบริษัท JJ Express เดินสักพักเริ่มงง และอากาศก็ร้อนมากๆแดดแรงมาก ยิ่งเดินยิ่งงง ถามทางก็งง แต่สุดท้ายได้ลุงคนนึงที่ไปถามทางแกพาเดินไปส่ง พอถึงตึกของ JJ Express รีบเข้าไปสอบถามตั๋วไป Baganได้รถบัสvipรอบ 20.00 น.เหลือที่นั่งเดี่ยว2ที่ เลือกแถวที่ 4 เพราะด้านหลังเป็นที่เก็บของไม่มีคนนั่งด้านหลัง ราคาตั๋ว 18 usd หรือถ้าจะจ่ายเป็นเงินจั๊ตก็ 22,200 จั๊ต เลือกจ่ายเป็นusdพอจ่ายเสร็จเพิ่งนึกได้เลยลองคำนวนอัตราแลกเปลี่ยนจากแอพฯ ถ้าจ่ายเป็นจั๊ตจะถูกกว่า 30 บาท ไม่เป็นไรไว้คำนวนครั้งหน้าละกัน ที่นี่เราสามารถฝากกระเป๋าเดินทางไว้ได้ฟรีทางพนง.จะติดแท็กไว้ที่กระเป๋าแล้วให้เราติดไว้อีกอันตอนมารับ เสร็จทุกอย่างแล้วถามเรื่องรถเมล์จะไปลงที่เจดีย์สุเล


ตึกของบริษัท JJ Express Bus


ตั๋วรถกับแท็กติดกระเป๋าที่ฝากไว้

เดินออกมาประมาณร้อยกว่าเมตรถึงถนนใหญ่เดินข้ามถนนมาท่ามกลางแดดร้อนโครตตตต คิดในใจว่าถ้าตอกไข่ขึ้ฟ้า ร่วงมาคงสุกพอดีกิน T_T รอรถอยู่ริมถนนเจอชาวพม่าบอกว่าจะไปสุเล(เอารูปให้ดูด้วย) เค้าบอกว่าเดี๋ยวเค้าเรียกให้ พร้อมเอามือแตะหน้าอกตัวเองประมาณว่า เชื่อผมๆๆ ^^ รอแค่5นาทีรถมาพอดีเป็นสาย 43 สังเกตุง่ายๆคือเลขพม่าแบบนี้นะครับ

สังเกตุไว้ครับเลขแบบนี้เลย


เป็นรถพัดลมนะครับ แต่ไม่เปิดพัดลม เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบรรยากาศธรรมชาติร้อนๆอย่างใกล้ชิด 555 ขึ้นรถไปอย่างเด๋อๆเอ๋อๆเลยเตรียมเงินไว้จ่ายคือไม่รู้ว่า200หรือ300จั๊ดเลยเอาแบงค์ 200 มา2ใบพอจ่ายเค้าก็คืนมา200 จั๋ตได้ยินผู้โดยสารคนอื่นหัวเราะกันด้วย รถวิ่งจอดรับรับตลอดทางคือวิ่งไม่เกิน1กิโลก็จอดรับแถมเวลาจอดกระเป๋ารถเมล์จะเรียกลูกค้าพูดยาว+เร็วมากเหมือนแรพเรียกแขกเลยฟังบ่อยๆเพลินดีหลังๆมาเวลาเค้าแรพผมลองเคาะจังหว่ะตาม เออ…มันพอดีเลยแฮ๊ะ ใครขึ้นรถเมล์พม่าลองสังเกตุนะครับ เดินทางเกือบชั่วโมงเล่นเอาเพลียพอดีรถติดหนักแถวเจดีย์สุเลพอดีเลยลงก่อนจริงๆลงเพราะคนพม่ากวักมือเรียกให้ตามลงไปนั่นแหล่ะครับ แล้วก็เดินเอ๋อๆไปเพื่อหาตลาดสก๊อตเพราะเท่าที่คำนวนเวลาการเดินทางจากขามาแล้วขากลับคิดว่าควรจะออกจากตัวเมืองไปขนส่งประมาณ17.30-18.00 เพราะพนง.รถบัสบอกให้มาถึงสัก 19.00 น.


เดินวนไปวนมาก็ถึงตลาดสก็อตหรือตลาดโบโจ๊ก อองซาน เป็นตึกแบบนี้

ข้างในก็ขายของทั่วไปคล้ายตลาดจตุจักร(มั้ง) เดินไปหิวไปเจอของกินข้างทางพวกเส้นๆน่าจะเป็นโมฮิงก่า(ขนมจีนพม่า) แต่ก็ไม่กล้ากินเพราะคืนนี้จะต้องเดินทางกลัวกินไปแล้วท้องเสีย สักพักไปจบที่ตึกตรงข้ามตลาดมีKFCอยู่ราคาพอๆเมืองไทยแถมได้นั่งพักในห้องแอร์เย็นๆด้วย เดินมารวมๆ 2 ชั่วโมงตั้งแต่หาร้านขายตั๋วบัสรู้สึกตอนนี้ฝ่าเท้าทั้งสองข้างจะพองหละ งานเข้าเลย เพราะวันถัดไปต้องไปดูเจดีย์พุกามต้องถอดรองเท้าเข้าชมเจดีย์หลายที่ด้วย เอาว่ะสู้ๆๆ แล้วก็กินข้าวกินไก่ ฟู่………อิ่มมมมม


หลังจากนั่งพักตากแอร์ได้พักใหญ่ก็เดินออกไปแถวเจดีย์สุเลเพื่อหารถสาย 43 เพื่อกลับไปขนส่งอองมินกาลา ไปถึงสังเกตุได้เลยเพราะมีรถเมล์ทั้งเล็กและใหญ่จอดเรียงๆกัน เห็นสาย 43 ด้วยเข้าไปถามเพื่อจะได้รู้ว่าคันไหนกำลังจะออก พี่พม่าชี้ไปคันที่กำลังจะออกพอดีคนเต็มเลยเพราะเป็นเวลาเลิกงานพอดีมั้ง


16.50 น. ขึ้นรถเมล์สาย 43 ยังพอมีที่นั่งว่างบ้างแต่เลือกนั่งหลังสุดเลยเพราะไปลองนั่งที่นึงซึ่งอยู่บนซุ้มล้อด้านหลังที่นั่งร้อนมากสงสัยติดกับเครื่องอะไรสักอย่างแน่ นั่งไปสักพักก็จะมีกระเป๋ารถมาเก็บค่าตั๋ว สังเกตุทั้งขาไปและกลับ เค้าไม่มีตั๋วให้ผมเลยจ่ายเงินเป็นจบอุตส่าห์รอเก็บตั๋วเป็นที่ระลึกสักหน่อย

ขากลับนี่นรกดีๆเลยครับคนเลิกงานรถติดมากกกกกก แล้วในรถคนเบียดกันเหมือนรถเมล์ไทยเป๊ะแต่ร้อนกว่าเป็นเท่าๆตัวนั่งเบียดกันจนหน้าตาแต่ละคนเพลียๆทั้งนั้น ขามาเดินทาง 1 ชม.ขากลับนี่สบายเลยครับจัดไป 2 ชม.โหดมากกกและขากลับเหมือนกับขาไปตรงที่มีคนพม่าพาเดินลงจากรถไปขนส่งเจอแต่คนใจดี มันยอดตรงนี้


19.10 น. เดินอย่างว่องเลย กลัวไปช้า เพราะเค้านัดให้มาถึง 19.00น.กลัวทำคนไทยเสียชื่อ 555 ไปถึงตามที่แพลนไว้คือก่อนขึ้นรถจะขอเค้าอาบน้ำในห้องน้ำเพราะตอนนี้ตัวเหม็นเหงื่อมากทั้งเดินตากแดดทั้งวันไหนจะเข้าไปอัดในรถเมล์ขากลับอีก 2 ชม. พอถามแล้วเค้าให้อาบได้แต่พอเดินเข้าไปในห้องน้ำมันมีแต่ห้องส้วมกับโซนที่เป็นโถฉี่ไม่เจอห้องอาบน้ำ แต่เอ๊ะ...นี่มัน... คือมีถังใส่น้ำเล็กๆอยู่พร้อมขันไม่รู้เค้าเอาไว้ใส่น้ำราดพื้นหรือไว้อาบน้ำเห็นแล้วไม่กล้าอาบ เลยงัดเอาแป้งมาระดมทาทั่วตัวให้ไม่เหนอะหนะแล้วเอาทิชชู่เปียกมาเช็ดตามตัวเอาให้คราบเหงื่อออกพอที่จะทำให้สดชื่นได้บ้างพร้อมกับเปลี่ยนถุงเท้าเสร็จแล้วออกมานั่งรอขึ้นรถ


19.50 น.ขึ้นรถพร้อมออกเดินทาง


ภายในรถครับ ที่นั่งกว้างขวาง มีทีวีส่วนตัว แอร์เย็นเจี๊ยบ แจกผ้าห่มหอมๆคนละ 1ผืน เบาะปรับเอนได้พอๆกับนครชัยแอร์บ้านเราเลย


22.30 น. รถจอดที่จุดพักมีรถมาจอดเยอะมาก ให้เวลาพัก 30 นาที ซึ่งทุกคนต้องลงจากรถเค้าไม่ให้อยู่บนรถระหว่างจอดอาจจะเป็นเพราะกันปัญหาเรื่องของหายด้วยแต่ก็แฟร์ดีครับ สำหรับที่นี่ใครจะเลือกเข้าร้านอาหารร้านไหนเลือกเอาเลย แต่ผมไม่อยากกินหนักๆตอนเดินทางกลางคืนเลยเดินไปที่แผงขายผลไม้ซื้อลูกพลับมากินลูกละ 1,000 จั๊ด (30บาท) กินเสร็จเข้าไปที่ห้องน้ำที่นี่ห้องน้ำสะอาดครับสบายใจได้เลย เสร็จกิจทุกอย่างแล้วเลยไปนั่งรอแถวที่รถจอดอยู่ ซึ่งอากาศกำลังหนาวเย็นๆพอดีสักพักเค้าเรียกขึ้นรถพร้อมออกเดินทาง


23.00 น. ออกเดินทางต่อสักพักไม่หนำใจ พนักงานเอาขนมมาให้อีกคนละกล่อง

จบแล้วครับวันแรกของการเดินทางในทริปนี้ตามต่อตอนหน้าที่พุกาม(Bagan)เมืองแห่งเจดีย์นะครับ ^^



ตอนที่2 @ Bagan : https://th.readme.me/p/1864



Notes from Backpacker

 วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 13.53 น.

ความคิดเห็น