"มือลั่น!!! ไปโดนตั๋วโปรไปหลวงพระบาง ไปกลับ 2 พัน"

หลวงพระบาง : เมืองมรดกโลกของประเทศลาว อยากจะไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง เมืองที่วางตัวเองอยู่ท่ามกลางภูเขา เมื่อก่อนต้องเดินทางด้วยรถบัสหรือเรือ มันต้องมีเวลาหลายวันถึงจะไปได้ ทำให้ไม่มีโอกาสได้ไปสักที กระทั่งมือลั่นไปโดนโปร ตั๋วเครื่องบินไปกลับแสนถูก ทำให้เกิดทริปเมืองในฝัน ในราคาประหยัดอย่างมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา เที่ยวชิวๆ สไตล์เรา

ทั้งทริปรวมทุกอย่าง 3 วัน 2 คืน จบที่ 4 พัน



////เดินทาง 6 - 8 ม.ค. 2018///// - ทริป 3 วัน 2 คืน -

////Day 1 - กรุงเทพฯ To หลวงพระบาง - พระธาตุพูสี - ตลาดมืด

////Day 2 : - ตักบาตร - ตลาดเช้า - ตาดกวางสี - The Traditional Arts and Ethnology Centre (TAEC) - ตลาดมืด

////Day 3 : - เเว๊นรอบเมือง - วัดเซียงทอง - หอพระบาง/พระบรมมหาราชวัง - วัดใหม่สุวรรณภูมาราม - วัดวิชุลราช - หลวงพระบาง To กรุงเทพฯ


สามารถแวะไปเยี่ยมเยือนแลพูดคุยกันกับเราได้ที่

https://www.facebook.com/whenigoout/


จากสนามบินเข้าเมือง ใช้บริการ Taxi ของสบามบิน คนละ 50,000kib รถคันนึงเขาจะรอให้ครบ 6 คน ละออกเลย รถตู้จะส่งถึงที่พักเลย ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที เข้าที่พักรีบโยนเป้ลงบนเตียง ละออกมาเสพบรรยากาศเมืองหลวงพระบาง

เดินทางมาถึงตัวเมืองช่วงบ่ายแก่ๆ เราเลยต้องขึ้นสักการะ 'พูสี' แล้ว ณ จุดนี้เป็นจุดชมวิวเมืองหลวงพระบางแบบ 360องศา ยืนมองขั้นบันไดสามวินาที แล้วก็ต้องรีบจ้ำขึ้นไปให้ทันก่อนพระอาทิตย์ลับขอบเขา ค่าขึ้นคนละ 20,000kib
**พิกัดทางขึ้น : 19.891212, 102.136529

บันไดทางตรงที่เห็นตอนแรก ขึ้นมาสุดทางเราก็จะเจอจุดขายตั๋วเข้าชม จากนั้นก็จะเป็นบันไดที่มีความชันน้อยลงแบบนี้ เดินสบายๆ ชิวๆ ชมจำปาลาวสองข้างทาง

ผ่าน 328 โค้งมาแล้วก็ขึ้นมาถึงยอดพูสีประดิษฐานพระธาตุจอมสี เป็นภูเขากลางเมืองหลวงพระบาง มีความหมายว่าภูเขาของฤาษีที่เคยมาอยู่ทีนี่ ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนของเมืองหลวงพระบางเราก็สามารถเห็นพระธาตุนี้ได้ตลอดเวลา
**พิกัด : 19.890198, 102.136981

เหมือนต้องมนต์แห่งหลวงพระบางเสียแล้ว ถ้าเราเดินทางมาเยือนที่แห่งด้วยรถยนต์มันคงจะมีเรื่องราวมายิ่งขึ้น บังเอิ๊ญญญญญ มือลั่นไปโดนโปรเลยต้องบินมา...

คุมโทนดูงามตาเสียจริง

พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ลำน้ำโขงไหลผ่าน มีฉากหน้าเป็นเมืองหลวงพระบาง...

ลงมาจากพูสี จะพบกับ 'หอพระบาง' และ 'พระราชวัง' ถนนด้านหน้าปรับเปลี่ยนกลายเป็น 'ตลาดมืด' อาร์มเดียวกับถนนคนเดินบ้านเรา
**พิกัด : 19.891407, 102.136437

คืนแรกก็เริ่มชอปเลยจาาาา ในตลาดมืดส่วนใหญ่จะขายของแฮนเมด งานผีมือจากหมู้บานหรือชนเผ่า

เสื้อยืดก็มานะ ตัวละ 80 บาท กำลังดีเลย

ของกินก็มีนะ อยู่ในซอยที่เชื่อมไปตลาดเช้า
อันนี้เหมือนเป็นบุฟเฟ่ คนละ 15,000kib ให้เราตักได้เต็มจานเลย มีอีกแบบคลายกันแต่ก็จะเอาไปผัดรวมกันให้เราด้วย ของจริงมันเยิ้มขอผ่านจาาา **
พิกัด : 19.889522, 102.133797

หันมาโซนนี้ดีกว่า ทุกสิ่งอย่างเอามาย่าง มีส้มตำข้าวเหนียว แนะนำเลย รสเด็ดจริง เรานี่หิวจนมือสั่น รู้ตัวว่าจะต้องถ่ายรูปก็กินกันจนหมดแล้ว ฮือออ

นักท่องเที่ยวจะมารอตักบาตร ตลอดเเนวริมถนนสีสว่างวงศ์ ถ้าอยากได้อารมณ์คนรอตักบาตรเยอะๆ ไปรอถนนสักกะลิน โซนนั้นคนจะเยอะมาก เราเลือกมารอพระตรง วัดใหม่สุวรรณมาราม ใกล้กับทางขึ้นพูสี แถวๆ
นี้จะมีคนมารอตักบาตรน้อยหน่อย แต่จะมีชาวบ้านมารอตักบาตรเป็นส่วนใหญ่ ออกมาก็จะมีคนมาขายข้าวเหนียวสำหรับตักบาตรรออยู่แล้ว ข้าวเหนียวกระติ๊บละ 10,000 kip
**พิกัด : 19.890596, 102.135359

คนลาวจะใส่บาตรเฉพาะข้าวเหนียว แล้วก็จะตามไปถวายอาหารต่อที่วัด

คุณยายใส่บาตรแล้วก็กรวดน้ำเลย ถ้าจะออกมารอตักบาตร อย่ารอให้สว่างนะ ที่นี่สว่างช้าแล้วพระก็ออกมาบิณฑบาตรเช้ามาก หกโมงครึ่งนี่พระกลับวัดกันแล้วนะ

หลังจากใส่บาตรข้าวเหนียวที่เหลือก้นกระติ๊บก็จะเอามาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ไปวางตามกำแพงเสาหรือ กิ่งไม้เป็นการทำทานให้แก่นกอีกทอดหนึง

ตลาดเช้าเมืองหลวงพระบาง เป็นตลาดสดของที่นี่เปิดกันตั้งแต่เช้ามืดยันจนสัก 11 โมงก็เลิกละ ในตลาดก็มีของหลากหลาย ผักหน้าแปลกๆ มีให้ดูกันเพลิน
**พิกัด : 19.890631, 102.133653

นิมะกอก เพิ่งเคยเห็นครั้งเเรก สีสวยดี

และเเล้วท้องก็ร้อง เลยต้องหยุดรองท้องด้วย ข้าวจี่ชุบไข่ย่างร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ห่อด้วยใบตองหออม ปาดหน้าด้วยแจ่วบอง โอ่ยย แซ่บลืม ค่าเสียหายอันละ 2,000 kip เท่านั้น

ชอบคู่สีนี้จัง

แผงปลามีหลายเจ้ามาก ปลาแม่น้ำโขงตัวยักษ์หน้าแปลกๆหลายตัวเลออ

เดินถัดออกมาจากตลาด ใกล้กับร้านกาแฟประชานิยม จะเป็นท่าเรือข้ามฝากไปมา ระหว่างหลวงพระบางกับเชียงเเมน ถ้าชอบนั่งเสพวิถีชีวิต จุดนี้ควรจะไปพลาดนะ เราชอบมาก **พิกัด : 19.890852, 102.132297

นี่เหมือนแพขนานยนต์ รถข้ามกันเป็นคันเลย ท่าเรือจะอยู่หลังพระราชวัง เดี๋ยวรอบหน้าจะเเว๊นข้ามไปฝั่งเชียงแมน

เดินจนสุดตลาดเช้าข้าวจี่ที่กินไปก็คงไม่พอ แวะเติมเฝอตามแบบฉบับคนลาวหน่อย เฝอ ก็หน้าตาคล้ายก๋วยเตี๋ยว ชามละ 15,000 kip กินกับผักแกล้มมากมาย อากาศเย็นๆ ซดน้ำซุปต้มกระดูกร้อนๆ เส้นนุ่มๆ นะ หูยยยยยย หนาวว **พิกัด : 19.890112, 102.132870

สิ่งซึ่งต้องห้ามพลาดในทริปนี้ก็คือ 'ตาดกวางสี' เป็นน้ำตกขั้นสุดของหลวงพระบางเลย ตัวน้ำตกห่างจากตัวเมืองราว30 กม. สามารถซื้อวันเดย์ทริปเหมารถตู้หรือรถสองแถว รับจากตัวเมืองหลวงพระบางไปยังตาดกวางสี แล้วรอรับเรากลับด้วยเลย ราคาที่ได้ยินเขาบอกนักท่องเที่ยว 4 คน คิดราคาไปกลับ 1,200บาท

เรามากันสองคนเลยเลือกเช่ารถมอไซต์แล้วเเว๊นไป ค่าเช่า 24 ชั่วโมง 90,000 kip ค่าน้ำมันอีก 20,000 kib ขับไปร้อยโลน้ำมันเหลือๆ

ด้านหน้าทางเข้าจะเป็นเหมือนตลาดมีร้านค้าเต็มไปหมด แล้วก็มีที่จอดรถ ข้อเเนะนำขั้นสูงสุดของการเช่ารถที่นี่ คือต้องจอดรถที่รับฝากรถเท่านั้น ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะหาย ค่าฝากรถ 5,000kib

ฝนตกตกฝน เราก็มาจนถึง เสียค่าเข้าคนละ 20,000kib ผ่านประตูเข้ามา เจอคนกำลังวิ่งออกมา เราก็เลยวิ่งสวนเข้าไป 55 ภาพแรกที่เห็น ยืนอึ่งกิมกี่ มันสวยมาเหยยยยยยยยยยยยยยย สวยสมคำร่ำลือ ด้านบนก็จะหมอกๆหน่อย เพราะฝนเพิ่งจะหยุดตก

ดีนะ เขาทำทางเดินทอดลงไป ในน้ำเลยได้ใกล้มาก เเต่มันเป็นการแยกเหล่ามนุษย์อย่างเราออกจาก ธรรมชาติที่สวยงาม น้ำใสเขียวมรตกมากมายทีเดียวเชียว

**พิกัด : 19.749505, 101.991957

อันนี้บังเอิญหันมาเจอ ถ้าเรายืนหันหน้าเข้าหาตัวน้ำตก ให้เดินออกมาทางซ้ายข้างน้ำตก จะเจอเส้นทางเล็กๆ มีป้ายเขียนบอกว่าอะไรจำไม่ได้ แต่อารมณ์ว่า เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซะหน่อยไหมละ 5555

เดินขึ้นมาราวสิบนาทีจะเห็นมุมนี้เลย สะพานที่เราไปยืนถ่ายรูปเมื่อกี้ไง เหยเหยเหย

เดินมาถึงตรงนี้พอจะดำปลายทางได้เลย เหมือนเรากำลังเดินขึ้นไปยังต้นน้ำของ ตาดกลางสี นี่เอง จุดนี้เป็นบันไดที่ขนาบข้างไปกับหน้าผาดิน น่าจะดินนะ ขึ้นไปเรื่อยๆ ตรงนี้ฟินนนนน ไปอีกแบบ

นี่เช็ดหน้ากล้องแล้วนะ 55 มันมีความหมอกมากขึ้นเมื่อสูงขึ้นนะ อาจจะหมอกหลังฝน

นี่ถึงด้านบนแล้วเหวย นี่จุดต้นน้ำ จุดเริ่มตก อาจจะชะโงกไปดู แต่ก็นะ แค่นี้พอแล้ว

ลงมาแล้วเส้นทางมันจะบังคับให้เราเดินมายังอีกฝั่งของตาดกวางสี ตอนนี้แดดออกกระทบละอองน้ำ แจ่มแมว ใช้เวลาเดินราว 30-45 นาทีเห้นจะได้ เอาจริงด้านบนเขาบอกว่ามีบึงที่เป็นน้ำพุร้อนด้วยนะ แต่ถามไกด์ที่เดินสวนออกมา เขาบอกว่าไปอีก 3 กม กลับก็เท่ากัน แค่นี้เองเราต้องเเน่นแน่ในความตั้งใจ ก็เลยเดินกลับออกมาพร้อมพี่ไกด์ชาวลาวเดี๋ยวนั้นเลย 555

เราก็เดินไล่ลงมาตามสะพานไม้หน้าหน้าน้ำตก เขียวๆ ใสๆ มรกตๆ อย่างงี้

นั่นไง เจอจุดที่คนเล่นน้ำกันแล้ววว ปรากฏว่า ตอนที่เราเดินเข้ามาแล้วมีคนเดินออกไป เดินเข้าผิดทาง 5555 ก็ว่าเดินมาเข้ามา 5 นาทีแล้วเจอจุดไฮไลท์ของตาดกลาวงสีเลย

นี่ไงก็ว่าทำไมคนอื่นมาเเล้วเจอหมีก่อน แต่ก็น่าเท่ห์ดีที่เราเจอหมีทีหลัง หมีหลับ หลับจริ๊งงงง

The Traditional Arts and Ethnology Centre (TAEC) ศูนย์จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับชาติพันธุ์ของคนลาว เปิดทำการเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ปรับปรุงจากอาคารเก่ายุคอาณานิคม เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันจันทร์ **พิกัด : 19.888611, 102.135240

ข้างในก็เล่าเรื่องราวของชาวเขาเผ่าต่างๆ ซึ่งเป็นประชากรจำนวนมากที่อาศัยอยู่ตามภูเขาสูงในลาว

หมวกของหญิงสาวอาข่า

เสื้อผ้าของเผ่าม้ง ดูครบจบทั้งมิวเซียม มีความรู้ในการแยกแยะแจกแจง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของกลุ่มชนในลาวได้มากขึ้น ทำให้ความกระหายในการชอปตลาดมืดคืนนี้เข้มข้นมาก 555

แว๊นมอไซค์มาถนนริมน้ำคาน เจอหลังนี้สวยดีเป็นที่พักด้วย

สะพานไม้ไผ่ข้ามน้ำคาน มองจากตรงนี้เห็นโค้งน้ำ มีภูเขาเป็นฉากหลัง ชิลเเท้ **พิกัด : 19.892627, 102.139730

หลังนี้ก็สวยนะ ฟ้ามาเลย

จุดบรรจบกันของแม่น้ำคานกับลำน้ำโขง มีสะพานไม้ไผ่ข้ามไปจุดชมวิวอีกฝั่ง **พิกัด : 19.898609, 102.145354

ขนมครกกลายเป็นสิ่งขายดีของที่นี่นะ

ค่ำวันนี้ไม่รู้จะกินอะไรดี มาสะดุดตากับร้านนี้ เหมือนเขียนว่าสุกี้หมาล่า เขาจะมีตะกร้าเล็กๆ ให้เราเลือกหยิบๆ มีทั้งเนื้อและผัก แล้วเขาก็จะเอาทุกอย่างมาต้มรวมกัน แล้วเสริฟให้เราเป็นถ้วยใหญ่ๆ หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ ดูดีมาล๊อบเตอร์หลวงพระบาง(ลูกชิ้นรูปกุ้ง) ทำให้มื้อค่ำวันนี้จบที่ 38,000 kip

อันนี้มื้อเช้าแหละ มือซ้ายจกข้าวเหนี่ยวมือขวาจัดหมูย่าง หูยยย นี่นั่งพิมพ์น้ำลายสอ

ย่านถนนสีสว่างวงศ์ เหมือนเป็นเส้นหลักของตัวเมืองหลวงพระบางเลย ย่านนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร บริษัททัวร์ ที่พัก เราแอบหลงรักตู้กดเงินสดที่นี่มากเลย ส่วนใหญ่มีหลักคาแบบนี้ ตั๊ลลั๊คคคค

จะสังเกตุเห็นว่า หลังที่พระบิณฑบาต(อย่างรวดเร็ว)แล้ว จะฉันเช้าเร็วมาก หลังจากนั้น พระและเณรจะดูยุ่งๆ เดินออกจากวัดกันขวักไขว่ สรุปคือ พระเณรจะต้องออกไปเรียนหนังสือ ไปเรียนพระปริยัติธรรม บางวัดก็มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นของตัวเอง แต่บางวัดไม่มี เราจึงเห็นพระออกไปเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดอื่น พระที่นี่ก็จะดูยุ่งๆ ในช่วงสายเพราะเหตุนี้

ข้าวเหนียวสังขยา หามาตั้งนาน ได้สองกินคำเเรกก หืมม เจ้มจ้ม ข้าวเหนียวมูลมันๆ กับสังขยาหึ๊บๆ อร่อยย

วัดเชียงทอง เพชเม็ดงานที่สุดของลาว ตั้งอยู่ปลายสุดของเมืองตรงปากเเม่น้ำคานกับเเม่น้ำโขง สิมหรือโบสถ์ มีเอกลักษณ์โดดเด่นคือมีช่อฟ้า (ยอดตรงกลางหลังคา) ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตมาทุกพระองค์ ด้านหลังของสิมด้านนี้ประกระจกหรือดอกดวง เป็นรูปต้นทองหรือต้นโพธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ขอบอกต้องมาตอนบ่ายๆนะ แดดสะท้อนระยิบระยับมาก แต่คนก็จะเยอะ เลาเลยเลี่ยงมาตอนเช้า
**พิกัด : 19.897425, 102.143421

หอพระด้านหลังสิม ลายดวงดอกหรือกระจกสี เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านของชาวลาว เรื่อง ‘สีเสลียว เสียวสวาด’ เกี่ยวกับคติคำสอนทางพุทธศาสนา เช่นเรื่องกฎแห่งกรรม อะไรประมาณนี้

โรงเมี้ยนโกศ หรือโรงเก็บราชรถและพระโกศของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ราชรถข้างในยังมีพระโกศประดิษฐานอยู่บนราชรถ

มุมนี้หลายคนมักจะไม่พลาด

ตำหลวงพระบาง สิ่งที่ต้องห้ามพลาด เรามาลองกินกันในร้านที่เขาแนะนำกัน ก็ ในตลาดมืดจะอร่อยกว่านะ หรือไม่ก็ร้านนี่รสชาดอ่อนไปไม่ถูกปาก กระมั้ง ปลาน้ำโขงทอด มื้อนี้แอบผิดหวัง สั่งสามอย่าง ตำหลวงพระบาง ปลาทอด น้ำเหนียว แป๊ปซี่อีกสอง ราคาจบที่ 94,000 kip (ประมาณ 380 บาท) ราคาเท่ากันกับร้านในตลอดมืด ที่สั่งตำหลวงพระบางสอง ข้าวเหนียวสอง ไก่ย่าง หมูย่าง โอ๊ยย วุ่นวายสั่งมาเต็มโต๊ะเหมือนกันกัน 5 คน

ใครๆก็บอกให้มากินที่นี่ ลองได้ แต่อย่าลืมไปลองในตลาดมืดนะ แซ่บลืมร้านนี้เลย

รู้ตัวอีกทีก็ 11 โมงกว่าแล้ว หันหน้ามองกันแล้วพูดว่า "ที่นี่เขาหยุดพักเที่ยงกัน2ชั่วโมงปะ" ตอบเลยว่าใช่ เขาจะพักเที่ยงกันตอน 11.30น.-01.30น. ต้องเช็คอินขากลับก่อน 14.00น. กรีดดด ทุกสถานที่ราชการจะปิดหมดเลยจาาา เราเซ็ตไว้ว่าจะเข้ามิวเซียมที่เป็นพระราชวัง แล้วอยากมาสักการะพระบาง สักครั้ง
วิ่งเลยจาา วิ่งงงงงง

หลังนี้เป้น หอพระบาง เราวิ่งขึ้นไป เจ้าหน้าที่กำลังปิดประตูบานแรกเหลือบานที่สองไว้ เราสองคนมาทันได้เห็น พระบาง พอดีเราก้มลงกราบพระบาง เงยหน้าขึ้นมาพระตูก็ปิดทั้งสองบานแล้ว โอ๊ยยย ดีใจมาทันเวลาพอดี แม้นจะลั่นเรื่องเวลาปิดไปหน่อย
**พิกัด : 19.891668, 102.136408

อนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (พระมหากษัตริย์ของอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง) ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญ ให้แก่ชาวลาว ประทับยืนในพระหัตถ์ขวาถือรัฐธรรมนูญอยู่หน้าโรงละคอนพะลักพะลาม ในพิพิธภัณฑ์
**พิกัด : 19.891305, 102.135861

พระราชวังหลวงพระบาง(พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง) ตัวอาคารแบบฝรั่ง มุงหลังคาแบบลาว สร้างเมื่อ 2447 สมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาจนถึง เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลลาวเปลี่ยนพระราชวังหลวงพระบาง เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของมีค่าสำคัญของประเทศ

เวลาการเข้าชม(ที่เรามาไม่ทัน)
เช้า 8.00 น. - 11.30 น. บ่าย 13.30 น. - 16.00 น.
ค่าเข้า 30,000kip

วัดใหม่สุวรรณภูมาราม ชาวหลวงพระบาง เรียกกันว่า "วัดใหม่" เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว นี่ผนังด้านหน้าทางเข้าพระอุโบสถ เป็นประติมากรรมนูนต่ำปิดทอง เหลืองอร่าม ประติมากรรมนูนต่ำเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก **พิกัด : 19.890658, 102.135110

ในอดีต วัดวิชุน เคยใช้เป็นหอพิพิธภัณฑ์ศิลปะทางศาสนา ต่อมาย้ายไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง ซึ่งตอนนี้ยังมีเก็บไว้บางส่วน เช่น พระพุทธรูปพระพุทธรูปไม้ขนาดสูงเท่าคนจริง

วัดวิชุลราช (หรือวัดวิชุน) เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง เคยอัญเชิญ “พระบาง” มาประดิษฐานที่วัดนี้ **พิกัด : 19.887280, 102.138602

ขากลับเป็นไปได้ให้นั่งริมหน้าต่างด้านขวานะ จะเห็นเมืองหลวงพระบาง แม่น้ำโขง แม่น้ำซอง ครบเลย


/////บรรยายสรุปนะ/////

- ในส่วนของอากาศ ช่วงค่ำถึงเช้า อากาศหนาวเย็นเลยแหละ จองที่พักแบบมีแอร์ไป แทบไม่ได้เปิดเลย ช่วงกลางวันในเมืองก็ไม่ได้ร้อนมากมาย ลมเย้นๆ พัดใส่ตัวตลอดเลย

- ในส่วนของอาหาร อันนี้คล้ายกันกับลาวใต้นะ ถ้าเข้าร้านอาหารก็จะราคาแรง ถ้ากินร้านชาวบ้านก็จะถูกหน่อย หลวงพระบางจะมีร้านเเนะนำแบบว่า ส้มตำต้องร้านนี้ อาหารเช้าต้องร้านนี้ บอกเลย ลองหมดและ เราว่าไม่โดน ร้านชาวบ้านเล็กๆ รสชาดและราคาดีกว่าเยอะ ไม่เขื่อลองดู 555

- ในส่วนของการเดินทาง บินมาง่ายดาย ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงละ สนามบินอยู่ห่างเมืองราว 3 กม. ใกล้กันแทบเดิน(แต่เราไม่เดินนะ) ในการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวก้มีให้เลือกเยอะ เหมารถ เหมาเรือ เช่ามอไซต์ เอาตามสะดวกเลย

- ในส่วนของที่เที่ยว มีสองแบบใหญ่ๆ คือวัฒนธรรม กับ ธรรมชาติ ด้านศิลปวัฒนธรรมก็ดีนะ วัดวาอารามสวยงามดีมาก ด้านธรรมชาตินี่ประทับใจมากเป็นพิเศษ ตาดกวางสี นี่สวยมากจริง เเต่ที่สวยเพราะเขาดูเเลดีมากๆ แบ่งโซนเล่นน้ำ โซนสวยงาม ชัดเจน ขาวบ้านข่วยกันดูแล มันจึงสวยมากกกกกก จนถึงตอนนี้ อ่อ มีอีกอย่าง เดินเมือง ปั่นจักรยานชมเมืองก็ชิวดีนะ

- ในส่วนของที่พัก ที่เลือกพักถือว่า ตามราคานะ เราพอใจในราคา 555 เป็นที่ใช้อาบน้ำเก็บของละก็นอน ถ้าใช้เวลาอยู่กับที่ที่พักน้อย ก็พักห้องรวมสไตล์นี้ได้เลย จริงๆมันเป็นห้องรวมสามคนที่มีห้องน้ำในตัวอ่ะ ถ้ามาสามคนมันคือห้องสามเตียง ชิวๆ ที่พักที่เลือกแอบ ไม่ชอบใจหน่อยนึง ตรงที่เจ้าของกลายเป้นคนเวียดนามที่มาเช่ากิจการเสียนี่ ถ้าเจ้าของเป็นคนลาวเอง น่าจะได้คุยอะไรเกี่ยวกับที่นี่ได้มากกว่า

- ในส่วนของใจ โอเคเลยนะ มันอาจจะไม่ใช้หลวงพระบางแบบเดิมในอดีต มีการปรับเปลี่ยน แปลงไปบ้าง

โดยรวมก็ยังโอเค ผู้คนใจดีมาก มากกก อยากใช้ชีวิตง่ายๆ ช้าๆ ชิวๆ มันเหมาะมาก จะเที่ยวเมืองชิคๆ จะเล่นน้ำตก จะไปถ้ำ หรือจะทริปสายบุญไหว้พระ ได้หมด เลือกใช้จ่ายได้ตามงบเลย เราชอบที่นี่นะ ลองดู...


/////Trip's Budget/////

- ค่าที่พัก 2 คืน (Phanhthasone Guesthouse คืนละ158THB/คน) รวม 645THB

- ค่าอาหาร 3 วัน รวม 2,032THB

- ค่าเดินทาง (ในเมือง 826THB + ค่าเครื่องไปกลับ โปร airasia กทม-หลวงพระบาง-กทม 2,007/คน) รวม 4,840THB

- ค่าตั๋วเข้าชม/ค่าเข้าเมือง รวม 466THB

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวม (7,983THB หาร 2 คน) รวม /////3,991.5THB ต่อ 1 คน

ปอลิง.. ค่าเงิน 1THB = 256.41Kip


สามารถแวะไปเยี่ยมเยือนแลพูดคุยกันกับเราได้ที่

https://www.facebook.com/whenigoout/

แค่อยากออกไป

 วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.11 น.

ความคิดเห็น