บ้านระเบียงดาว แค่ได้ยินชื่อก็จินตนาการไกลใจอยากสัมผัสแล้วล่ะ ยิ่งบอกว่าอยู่ดอยหลวงเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากชมดาวยังได้ชมดอยหลวงเชียงดาว ดอยสูงสุดอันดับสามของประเทศด้วยแล้ว แบบนี้บอกเลยสักครั้งต้องไปเยือนให้ได้

ตัวผมเองเคยพิชิตยอดดอยหลวงเชียวดาวมาแล้ว แต่คุณเธอคนข้างกายไม่แข็งแรงขนาดนั้นเลยวาดหวังว่าสักวันจะพาเธอไปดูดอยหลวงจากข้างล่างก็ยังดี แต่พลาดปีแล้วปีเล่าจนบ้านระเบียงดาว โฮมสเตย์ ที่บ้านนาเลาใหม่ ดังระเบิดระเบ้อก็ไม่เคยสบโอกาสสักที กระทั่งต้นฤดูฝนที่ผ่านมาเมื่อพอหาเวลาได้และทุกสิ่งทุกอย่างพอเหมาะพอเจาะจึงไม่รอช้าอีกแล้ว

เพียงพูดถึงบ้านระเบียงดาว และดอยหลวงเชียงดาว แค่ตอนเก็บกระเป๋าก็ตื่นเต้นกันแล้ว

เดี๋ยวนี้ดอยหลวงเชียงดาวเที่ยวง่ายมากครับ เพราะขึ้นชื่อว่าเชียงใหม่จะไปตอนไหนก็สะดวก เครื่องบิน รถโดยสาร รถไฟ มีให้บริการไม่ขาด ถึงที่แล้วสามารถเช่ารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ได้ทันที ไม่เช่นนั้นจะเหมาสองแถวทั้งแดงทั้งเหลืองพาลุยก็ได้ มีเวลาเพียงสองวันหนึ่งคืนก็เที่ยวสบาย

หากใครชอบเดินทางด้วยเครื่องบิน ผมมีเคล็ดลับแนะนำเพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้ด้วยนะ เพียงแค่เวลาจองตั๋วให้ติ๊กช่องซื้อประกันเดินทางจากสายการบินออก แล้วไปซื้อประกันออนไลน์กับบริษัทประกันโดยตรง นอกจากราคาถูกกว่า ความคุ้มครองต่างๆ ก็ใกล้เคียงกัน และเดี๋ยวนี้ซื้อง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์หรือแอพมือถือ ใช้เวลารวดเร็ว

ลองดูนี่เลย ประกันเดินทางในประเทศ TIP FLY SURE ของทิพยประกันภัย เบี้ยประกันเที่ยวเดียวแค่ 55 บาท ไป-กลับ 129 บาท ประหยัดกว่าการซื้อจากสายการบินถึงเท่าตัว (ปกติซื้อประกันการเดินทางจากสายการบินแบบไป-กลับ ราคาประมาณ 250++ บาท) แต่คุ้มครองสูดสุดถึง 4,000,000 บาท แถมแค่ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ก็ได้รับกรมธรรม์ทางอีเมล์เลย

เช่นถ้าใครนั่งเครื่องไปเชียงใหม่ เวลาจองตั๋วถึงหน้าซื้อบริการเสริมต่างๆ ก็ติ๊กช่องซื้อประกันเดินทางกับสายการบินออก แล้วมาซื้อประกัน TIP FLY SURE ผ่านหน้าเว็บไซต์ tipinsure.com จุดหมายเดียวกัน จำนวนวันเดินทางเท่ากัน ความคุ้มครองแทบไม่ต่างกัน ไปกันหลายคนยิ่งประหยัดกว่ามาก เหมือนได้ค่าน้ำมันรถเพิ่ม หรือได้เงินซื้อของฝากเพิ่ม

ใครมีตั๋วพร้อมเดินทางแล้ว เข้าไปซื้อเลยที่ >>> www.tipinsure.com/tipflysure หรือทางแอปพลิเคชัน TIPINSURE M

พร้อมออกเดินทางก็ลุยโลด เราสองคนถึงเชียงใหม่ตอนสายๆ จัดการเรื่องยานพาหนะให้เรียบร้อย ผมเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์จากร้านประจำเพราะชอบขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวมากกว่า อยากจอดตรงไหนก็จอด จะได้ไม่พลาดวิวสวยๆ ระหว่างทาง มีร้านประจำคือ BIKKY มีสาขาเพียบ ที่ใช้บริการบ่อยก็ที่ สนามบินเชียงใหม่ (0946060111) กับ ขนส่งอาเขต (0846878809) ค่าเช่าวันละ 250-350 บาท แล้วแต่รุ่น ไม่ต้องมัดจำ วางบัตรประชาชนไว้พอ

จากเมืองเชียงใหม่ ขี่กระเตงกันขึ้นเหนือมาตามถนน ทล.107 ผ่านอำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง แวะหาข้าวกินริมทางสักหน่อย พอเข้าเขตอำเภอเชียงดาวสองฝากฝั่งถนนก็จะเริ่มเขียวและคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ แต่ขี่รถไม่ยากครับ ไปสบายมาก

วิ่งมาเรื่อยๆ ใช้ถนนเส้น ทล.107 เลี่ยงเมืองเชียงดาว อย่าไปเข้าตัวเมืองล่ะ พอถึงแยกตัดกับทางหลวงชนบท ชม.3024 ป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปวัดถ้ำเชียงดาวก็เลี้ยวไปได้เลย นั่นคือทางที่จะพาเราขึ้นดอยหลวงเชียงดาวครับ

ไหนๆ ต้องผ่านวัดถ้ำเชียวดาว จะไม่แวะสักหน่อยได้อย่างไร

เที่ยววัดวาไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรครับ ไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามแบบฉบับคนไทย แต่ถ้าจะเข้าถ้ำต้องควักเงิน คนไทย 20 บาท ด้านในถ้ำสวยเชียว มีหินงอกหินย้อยให้ชมพอสมควร เช่นเดียวกับพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานด้านใน

แต่ในถ้ำยังมีอีกส่วนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือค่าไกด์ท้องถิ่นนำทางเพิ่มเติม เป็นการเที่ยวชมถ้ำส่วนที่ไม่มีการติดไฟฟ้า ไม่อนุญาตให้เข้าเองนะครับ จ้างไกด์ 200 บาท ต่อกลุ่ม 5-6 คน มาถึงที่นี่ยังไงก็ต้องชม เป็นการสร้างรายได้ให้ชาวบ้านด้วย เพราะไกด์เป็นคนพื้นที่ทุกคน

หากบริเวณทางเดินที่มีไฟฟ้าว่าสวย ข้างในยิ่งสวยแบบคูณสองคูณสามคูณสี่ ห้องโถงใหญ่หลายห้อง หินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตาหลายจุด ไกด์จะอธิบายให้เรามองตามแถมยังรู้มุมถ่ายรูปสวยๆ ด้วยครับ

เอาล่ะ ออกจากถ้ำก็ตรงต่อตามทางจนถึงด่านหน่วยพิทักษ์ป่าสบห้วยผาตั้ง-นาเลา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ควักสตางค์ซะ คนไทย 20 บาท รถมอเตอร์ไซค์ 20 บาท รถยนต์สี่ล้อ 30 บาท เป็นค่าธรรมเนียมตามมาตรฐานกรมอุทยานฯ

จากนี้ถึงเวลาสนุกเพราะเป็นทางขึ้นเขาโค้งไปโค้งมา ชันให้เสียวๆ บางช่วง แต่เป็นถนนคอนกรีตค่อนข้างดี รถทุกชนิดขึ้นถึงได้ครับ มอเตอร์ไซค์อย่างผมก็เกาะกันแน่นๆ นะน้องนะ (ฮา…)

และ 90 กิโลเมตร ออกจากเชียงใหม่ตอนสิบโมงครึ่ง แวะกินแวะเที่ยวนิดหน่อย ในที่สุดราวสี่โมงเย็นก็ถึงบ้านนาเลาใหม่ จุดหมายของเราสักที จากตรงนี้เห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวอยู่ใกล้ๆ บนยอดดอยที่ผมเคยเที่ยวเดินป่าขึ้นไปเปิดเฉพาะเดือน พ.ย. ถึง ก.พ. ส่วนการพักแบบชิลๆ ที่บ้านนาเลาใหม่เปิดเที่ยวตลอดทั้งปี

บ้านนาเลาใหม่เป็นชุมชนชาวลีซูหรือลีซอ อาศัยอยู่ในพื้นที่แถบนี้มานาน ดั้งเดิมก็บุกป่าทำไร่เลื่อนลอยทั่วไป ภายหลังมีการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าก็เริ่มฟื้นฟูอนุรักษ์ ปัจจุบันป่าดอยหลวงเชียงดาวจึงกลับมาสวยงามอีกครั้ง ชาวบ้านหันมาพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักอีกทาง มีที่พักสไตล์กึ่งโฮมสเตย์ผสมเกสต์เฮ้าส์สิบกว่าแห่ง ดังในโลกโซเชียลที่สุดคือบ้านระเบียงดาว ส่วนที่อื่นๆ ก็ลักษณะเหมือนกันแหละครับ จริงๆ จะพักที่ไหนผมว่าแทบไม่ได้ต่างกันนะ วิวก็แบบเดียวกัน

มาเที่ยวหน้าฝนวันธรรมดาคือดีดี๊ดี นักท่องเที่ยวน้อยมาก เงียบสงบ เราเดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ กับวิวดอยหลวงเชียงดาวในหมู่บ้านได้ตามใจชอบ ฝนตกปรอยๆ ตกๆ หยุดๆ สดชื่นดีอีกแบบ

เรื่องที่พักเราไม่ได้จองมาเพราะตั้งใจวอล์คอิน สอบถามบ้านระเบียงดาวก็เป็นไปตามคาดคือมีแขกสองสามห้องเท่านั้น ราคาเข้าพักคนละ 600 บาท พร้อมอาหารเย็นและอาหารเช้า เป็นมาตรฐานที่พักในบ้านนาเลาใหม่ จะที่ไหนก็ประมาณนี้

ห้องพักที่นี่เป็นแบบเรียบง่าย บ้านไม้ง่ายๆ ภายในมีแค่ที่นอน มุ้ง พัดลมไม่มี ทีวีไม่มี ตู้เย็นไม่มี สัญญาณไวไฟไม่ต้องถามหา แต่มีห้องน้ำในตัว ใครขี้หนาวแนะนำให้รีบอาบน้ำก่อนตะวันตกดิน ไม่อย่างนั้นถึงไม่ใช่หน้าหนาวก็อาจแข็งได้เหมือนกัน (ฮา…)

วิวระเบียงห้องของเราดีงามอย่างนี้นี่เอง นั่งเล่นเพลินๆ หมอกลอยมาปกคลุมยอดเขาเชียงดาว ลั่นชัตเตอร์แบบรัวๆ เลยเชียว



หรือใครจะมานั่งเล่นตรงพื้นที่ส่วนกลางก็ได้ครับ วิวเปิดโล่งกว่านิดหน่อย มีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตดีกว่าตรงห้องพัก



ราวห้าโมงเย็นที่พักจะยกอาหารมาเสิร์ฟถึงระเบียงห้องพัก อาหารง่ายๆ ต้มจืด ไข่เจียว ผัดผัก แต่ทีเด็ดอยู่ที่น้ำพริกลีซู อร่อยมาก แค่คลุกข้าวสวยร้อนๆ กินก็ฟินแล้ว ยิ่งได้ไข่เจียวกับผักลวกมากินเคียงด้วย สวรรค์ชัดๆ




พอฟ้ามืดความเงียบเพิ่มขึ้นอีกระดับก็มาเยี่ยมเยือนบ้านระเบียงดาว คำว่าระเบียงดาวมีที่มาจากไหนก็ดูเอาเถิด เราสองคนดูดาวเพลินจนแทบอยากจะหลับอยู่ที่ระเบียงห้องเลยทีเดียว



เพราะฟ้าเปิดเมื่อคืน ไม่มีฝนตกสักเม็ด ทำให้ตอนเช้าผมไม่ได้หวังเห็นหมอกสวยๆ แต่คำว่าไม่มีหมอกสวยๆ ไม่ได้หมายถึงบรรยากาศยามเช้าจะไม่สวยนะ เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ดอยหลวงเชียวดาวก็สวยเสมอ




อาหารเช้าแบบธรรมดา ข้าวต้มหมูสุดอร่อย โอวัลติน กาแฟ น้ำชา มาวางไว้หน้าบ้านรอเราอยู่แล้ว เป็นมื้อเช้าอันเรียบง่ายที่มีความสุขเหลือเกิน




คนมาเที่ยวส่วนใหญ่ สักแปดโมงก็มักเช็คเอ้าท์เก็บของเดินทางเที่ยวต่อหรือกลับกันแล้ว แต่เราใช้เวลาเรื่อยๆ สบายๆ นอนเล่นพักผ่อนถ่ายรูปกันต่อจนใกล้สิบเอ็ดโมงถึงค่อยออกมา ความสวยระดับนี้อยากจะเชยชมนานๆ ครับ


วันธรรมดาหน้าฝน เสน่ห์ของระเบียงดาว และเชียงดาว การมาเที่ยวที่นี่ไม่ยากเลยอย่างที่บอกไป แถมยังทำได้ง่ายดาย สะดวกสบาย มีเวลาแค่สองวันหนึ่งคืนก็เที่ยวได้ ลองดูสักครั้งครับ ใกล้ชิดความสวยและความเรียบง่ายขนาดนี้ มีแต่ฟินกับฟิน


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง

http://www.facebook.com/alifeatraveller



นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller

 วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.23 น.

ความคิดเห็น