จากน้ำตกไรน์อันแสนอลังการ ลดทอนความตื่นเต้นตุบตับในใจ ลดดีกรีความใหญ่มาหาอะไรแบบมินิมอลกันบ้าง พวกเราเดินทางต่อมายังเมืองมหาเสน่ห์เล็กๆ ริมแม่น้ำไรน์ ใครมาสวิตเซอร์แลนด์แล้วพลาด ขาดการเยี่ยมเยือนก็คงแปลก เพราะเป็นเมืองที่ทุกทัวร์บรรจุไว้ นักท่องเที่ยวทุกคนก็ต่างอยากมาเห็น หนูเล็กก็เช่นกัน

พอข้ามแม่น้ำไรน์จากเขตเมืองใหม่ เข้าไปในเขตหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ เหมือนหลุดเข้าไปหมู่บ้านในนิทาน เล็กๆ น่ารัก เงียบ สงบเพราะเรามาเที่ยวในวันธรรมดา จึงไร้นักท่องเที่ยว ไร้ทัวร์ให้วุ่นวาย กวนใจ เดินกันสบายเลย

บ่อน้ำกลางเมือง สามารถดื่มกินได้

Stein am Rhein งดงามไปด้วยภาพวาด ผนังอาคารรอบกายที่ Rathausplatz แค่เดินแหงนชมก็สุขล่ะ ไม่แปลกเลยที่เมืองนี้จะถูกบรรจุไว้ไม่ว่าใครจะมาเยือนสวิตเซอร์แลนด์ดินแดนในฝัน เล็กๆ แต่ทำให้ใจพองโตได้ดีจัง

เมื่อมาเดินริมน้ำ ก็เจอเจ้าสองตัวนี้รอต้อนรับ

ตกแต่งเมืองรอเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาเยือน

Magnet น่ารักๆ ของที่ระลึกที่หาซื้อได้มากมาย

นาฬิกา cookkoo ที่เอามาทำเป็น Magnet ก็มี

มีดพับ Victorinox ของที่ระลึกที่ราคาเท่ากันทุกร้าน

เสียที่ฟ้าหม่น ฝนเหมือนอยากจะตั้งเค้าStein am Rhein ในวันแรกพบจึงไม่สดใสเท่าที่ใจอยากเจอ น่าเสียดายจัง ฤาว่าฟ้ากำหนดให้เราต้องกลับมาอีกหน ดูน่าจะเป็นเช่นนั้นกระมัง

จาก Stein am Rhein เราพากันหอบผ้าหอบผ่อนย้ายที่นอนกัน เพื่อตอบสนองอารมณ์นกขมิ้นล้วนๆ นั่นเพราะตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปเที่ยวสะพานไม้อันเลื่องชื่อของสวิส จึงขอไปนอนเมืองเล็กๆ ละแวกนั้นดีกว่า

Emmetten คือที่หมายที่เลือกแบบมั่วๆ ที่พักที่จองไว้วิ่งลงใต้มาราว 140 กิโลเมตร ถ้าไม่หลง สำหรับนักเดินทางที่ขับรถเที่ยวเป็นประจำอย่างเรา หลงบ้างไรบ้างอยู่แล้วค่ะท่านผู้ชม เป็นเรื่องปกติ ไม่หลงก็ไม่สนุกสิ ไม่มีลุ้น

จากเดิมที่ต้องใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง ก็ต้องทดเวลาบาดเจ็บไปอีกสักเล็กน้อย ก็ต้องเข้าใจพวกเราสักนิดสำหรับวันแรกในการขับรถในสวิตเซอร์แลนด์ มันก็ต้องมีกันบ้างล่ะ กว่าจะคลำทางถึงที่พัก เหมือนๆ จะขับผ่านทะเลสาบ และเหมือนๆ จะมีขึ้นเขา เหมือนๆ จะมีอะไรต่อมิอะไรเพราะมันมืดเราจึงมองไม่เห็นอะไรต่ออะไรมากมาย พี่ใหญ่กับหนูเล็กเริ่มรื้อฟื้นความทรงจำกันว่า ใครกันนะเลือกที่พักแห่งนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่เวลาโทษกัน กลับไม่ได้ ไปให้ถึงย่อมดีกว่า กว่าจะถึงก็เล่นเอามืด และสัญชาตญาณก็บอกเราว่า หนทางที่พาเรามาสู่ที่พักนั้นมันไต่ระดับความสูงไม่ใช่เล่น เพราะหนทางมันแสนแคบ แสนชัน เล่นขับมายามมืดเช่นนี้อีก มองอะไรไม่เห็นเอาเลยว่ารอบๆ ที่พักเราหน้าตาเป็นอย่างไร แค่พาชีวิตรอดไม่ตกเขาไปเสียก่อนก็ดีถมไปล่ะ

แต่ถึงที่พักก็หายเหนื่อย และนี่คือที่พักของเราค่ะ

ไม่ใช่แค่ทุกสิ่งที่จัดเตรียมไว้พร้อมสำหรับพวกเรา แต่ความชื่นใจคือข้อความต้อนรับ พร้อมชอคโกแลตชิ้นน้อยและน้ำดื่มอร่อยๆ เหมาะกับที่ซมซานมา ที่จัดวางไว้รอท่า แม้ราคาค่างวดไม่มากมายแต่ก็ทำให้ลบคำครหาเล็กๆ ที่เคยได้ยินมาว่าชาวสวิสเป็นพวกไม่เอาใครออกไปได้

คืนนั้นจึงนอนหลับฝันดี ไม่ฝันเห็นอะไร ไม่เห็นเจ้าชายเจ้าหญิง หลับกันปุ๋ยทุกคน สงสัยคงอ่อนเพลียกับการลุ้นการเดินทางมายังที่พักคืนนี้จนเหนือยอ่อน หลับกันยาว เพื่อที่ตื่นมาจะพบสัจธรรมว่า แม้ฟ้าจะสว่าง เราก็จะยังคงไม่ได้เห็นอยู่ดีว่ารอบๆ ที่พักเรา ตกลงมันเป็นยังไง ทั้งหนาวได้ใจ หมอกหนาได้โล่ขนาดนี้

เช้านี้เรามีนัดกับคุณเจ้าของให้เข้ามาเก็บค่าที่พัก บรรยากาศการสนทนาเป็นไปด้วยความอบอุ่น เธอดีใจที่พวกเราเลือกมาพักพร้อมกับมอบนามบัตรไว้เป็นส่วนลดหากมีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมเยือนกันอีก คุยกันถูกคอเป็นอันมากไปไหม สุดท้ายเธอเตรียมจะกลับออกไปพร้อมวางค่าที่พักคืนไว้ ไม่เอากลับไปด้วย จะออกรสอะไรขนาดนั้น เกือบได้อยู่ฟรีแล้วสิเรา

แผนวันนี้ไปเที่ยวเมืองสะพานไม้ แล้วก็ย้ายที่พักกันอีกรอบ อยู่กับที่กันไม่ค่อยเป็นค่ะ ต้องเดินทางกันตลอดว่าแล้ว เวลาไม่คอยท่าหนีหมอกหนาๆ ไปหาฟ้าสวยๆ เที่ยวต่อกันดีกว่า...เนอะ

การขับรถในสวิตเซอร์แลนด์นั้นแสนสะดวกสบาย เพราะบริษัทรถเช่าจะมีสติ๊กเกอร์ที่เรียกว่า Vingette ติดที่หน้ารถไว้พร้อมทำให้สามารถใช้ทางด่วนได้ตลอด เราจึงขับขึ้นๆ-ลงๆ ได้โดยไม่ต้องคิดเยอะ ทางด่วนก็ช่วยย่นระยะเวลาเราได้มาก ถนนหนทางก็ดีใช้ได้ทีเดียว อาจจะแพ้ก็แค่เยอรมนีเพื่อนบ้าน พอลงจากทางด่วนวิ่งเข้าสายเล็กๆ สู่จุดหมายก็ไม่ไกลแล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่สนุกไม่แพ้การนั่งรถไฟ แถมยังได้อีกมุมมองหนึ่ง และบ่อยครั้งที่เราได้แวะบางที่ บางแห่ง ที่เราไม่มีบรรจุไว้ในแผนเพราะไม่เคยรู้จัก เพราะเมืองเหล่านี้ไม่เคยเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวชาวไทย

Beckenride เมืองเล็กๆ ที่เราแวะเดินเล่น

ทะเลสาบ Luzern

ยามเช้า ยังคงเงียบสงบ

ทางม้าลายแบบนี้ ชอบจัง

แม้จะย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว แต่ยังมีสีสันเล็กๆ ให้เห็นบ้าง

ตอนหน้า หนูเล็กจะพาเที่ยว Luzern เพื่อไปชมสะพานไม้อันมีชื่อเสียง มาติดตามกันต่อว่าการเดินทางของเราจะมีสีสันอะไรบ้าง

แวะไปทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ค่ะ ที่

https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/


Piyai&Noolek

 วันพฤหัสที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.31 น.

ความคิดเห็น