• ไปปีนังมาก็หลายรอบครั้งนี้ครั้งที่ 7 ละแต่ไม่เคยรีวิว ส่วนใหญ่คนที่ไปก็จะรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ครั้งนี้เลยขอรีวิวเรื่องอาหารที่คิดว่าตัวเองกินแล้วอร่อยนะ บางตลาด บางร้านที่ไปอาจไม่เหมือนกับนักท่องเที่ยวเพราะบางที่เป็นไนท์มาร์เก็ตแต่ไมไ่ด้อยู่ในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว จะมีก็แต่คนในท้องถิ่นที่ไปกันเพราะอยู่นอกจอร์จทาวน์ เอาเป็นว่าที่รีวิวคือลองกินแล้วอร่อยนะคะ มีทั้ง street food และร้านอาหาร คาเฟ่

ชอบเมืองนี้ที่อาหารหลากหลายทั้งมาเลย์ จีน อินเดีย ราคาไม่แพง street food เยอะหากินได้แทบทั่วทุกที่ในปีนังอาหารเช้า กลางวัน เย็น ขนม ของกินเล่น

อย่างนึงที่เป็นค่านิยมของคนมาเลย์คือเวลาออกไปทานข้าวนอกบ้านจะไม่สั่งน้ำเปล่า จะสั่งเป็นน้ำหวานกัน เราเป็นคนชอบกินน้ำดื่มปกติเวลาไปแล้วสั่งจะดูแปลกในสายตาคนอื่น เขาบอกกันว่าน้ำดื่มสามารถหากกินได้ที่บ้านออกนอกบ้านจึงไม่ต้องซื้อกิน

ของขึ้นชื่อที่นี่มีหลายอย่างน่าจะพอรู้จักกันเช่น ลักซา ชาก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ต่างๆ ขนมก็ Chendal ลอดช่องปีนังเขาแหละ นอกจากนั้นก็จะมีประมาณเต้าฮวย เต้าทึงบ้านเรา

ครั้งนี้ไปมา 4 วัน 4 คืน

  • วันที่ 10 สิงหาคม -14 สิงหาคม 2561
  • สายการบินแอร์เอเชีย ไฟล์ทออกจากกทม.-ปีนัง 15.40 น.ถึง 18.35 น. (เวลาที่ปีนังเร็วกว่าไทย 1 ชม.)
  • ขากลับสายการบินแอร์เอเชีย ไฟล์ทออกจากปีนัง 18.55 ถึง กรุงเทพ-ดอนเมือง 19.45

บินกับแอร์เอเชียเพราะมีบัตรเครดิตร่วมกับสายการบินค่ะ ดีที่ได้ฟรีเครื่องดื่มมูลค่า 60 บาทหากเป็นไฟล์ที่เป็น FD หรือ XJ เพียงแสดงบัตรร่วมกับตั๋วเครื่องบิน ปกติเราแลกเป็นชาโออิชิทุกรอบ ดีกว่าต้องเสียค่าน้ำจริงป่ะ แล้วก็หากเป็นขาออกสามารถใช้ช่องพิเศษพรมแดง สำหรับลูกค้าที่ถือบัตรได้เช็คอินไม่ต้องรอคิวนานเหมือนลูกค้าทั่วไป ใครบินบ่อยคุ้มค่ะ ได้คะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรไม่ใช่เฉพาะจากการซื้อตั๋วแต่ใช้จ่ายซื้อสินค้าอื่นทั่วไปได้หมดเพียงแต่จำนวนคะแนนที่ได้จะไม่เท่ากับการซื้อตั๋วเครื่องบินและคะแนนจะได้กี่เท่าของมูลค่าสินค้าขึ้นอยู่กับสถานะของบัตรซึ่งเราบินจนตอนนี้เป็น Platinum น่าจะได้ประมาณ 3 เท่าและหากซื้อตั๋วเครื่องบินมูลค่า 5,000 บาทขึ้นไปผ่อนจ่าย 0% นาน 3 เดือนได้ด้วยจ้าถ้า ผ่อน 6 เดือนหรือ 9 เดือนจะมีดอกเบี้ย 0.79% คนชอบบินอย่างเราเหมาะเลย ใครบินบ่อยควรทำนะคะ เราใช้ Point สะสมแลกตั๋วเครื่องบินได้หลายเที่ยวละ และไปปีนังรอบนี้ก็เช่นกัน แลกจาก Point ทั้งหมดตอนนี้ใช้แลกได้ยันภาษีสนามบิน สรุปทริปนี้จ่ายเพิ่มไป 200 กว่าบาทเหมือนเที่ยวฟรี อิอิ

อันนี้เป็นตลาดไนท์มาร์เก็ตค่ะแต่ไม่ใช่ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเพราะไม่ได้อยู่ในย่านจอร์จทาวน์แต่เป็นตลาดค่อนข้างใหญ่มีขายตั้งแต่ของใช้ทั่วไป ของกินหลากหลายมากอยู่ริมถนนยาวตลอดแนวเปิดทุกวันศุกร์ วันที่ไปค่อนข้างร้อนคนเยอะด้วยเป็นคนท้องถิ่นที่พักอยู่แถวนั้นส่วนใหญ่เป็นคนจีนนะเท่าที่เห็นอาหารหลากหลายมากเดี๋ยวจะค่อยๆ รีวิวให้ดูนะคะเท่าที่ซื้อมาทาน เราไปนี่พูดภาษาอังกฤษดูแปลกไปเลยเขาจะรู้ว่าต่างชาติทันทีเพราะแถวนั้นก็พูดแต่ภาษาจีนกัน

อย่างแรกร้านนี้คนเยอะมาก ประมาณลูกชิ้นปลา เต้าหู้ ต้มในน้ำซุปใสๆรสชาดหวานนิดหน่อยในหม้อต้มคล้ายหม้อก๋วยเตี๋ยว เขาจะตักมาใส่ถ้วยและมีน้ำจิ้มราดให้รสชาดน้ำจิ้มคล้ายๆน้ำจิ้มลูกชิ้นบ้านเราแต่ไม่เผ็ดออกรสหวาน ใส่น้ำซุปขลุกขลิก เวลากินก็จิ้มกินหน้าร้านเลย ซดน้ำจิ้มผสมซุปขลุกขลิกนั่นแหละเสร็จแล้วก็คืนถ้วยเขาที่ร้าน หรือจะซื้อกลับก็ใส่ถุงให้ ก็ลูกชิ้นลวกบ้านเราเนาะ แต่แต่ละคนทำหน้าว่าอร่อยมาก สำหรับเราก็โอเคค่ะแต่ไม่ได้เป็นอาหารแปลกอะไรกินร้อนๆ ซดร้อนๆ ก็เลยพอได้ค่ะให้ผ่าน

เผลอแพพเดียวกลับมาหมดหม้อแล้วจ้าดีนะที่กินก่อนไปละ ทุกคนยืนกินข้างๆร้านกันแหละเสร็จแล้วก็ไปกินอย่างอื่นต่อ

ปูนิ่มทอดจ้าผู้แนะนำว่าเด็ดให้กิน Crab นี่แหละตัวละ 8 rm เกือบ 70 บาทบ้านเราทอดชุบแป้งและเอามาตัดเป็นชิ้นๆ โรยผงพริกไทยใส่ถุงกระดาษให้ อร่อยดีค่ะ ราคาสูงหน่อยเพราะเป็นปู แต่ตัวนิดเดียว

ไก่ทอดจ้า ที่นี่คนส่วนใหญ่กินไก่หมูหายากหน่อยเพราะเป็นอิสลามซะเยอะ

ไก่จ้าผู้recommend อีกเช่นเคยตอนแรกคิดว่าประมาณไก่ทอดหาดใหญ่รสชาดไม่เหมือนนะ อันนี้เป็นร้านอิสลามแต่เราว่าไก่ทอดหาดใหญ่อร่อยกว่า ไก่อันนี้มันจะมีกลิ่นๆ หน่อยอ่ะไม่แน่ใจว่ากลิ่นของอะไร แอบไม่ค่อยถูกปากแต่ก็กินได้ขายเป็นชิ้นเลือกเอาจะน่อง สะโพก อก ไม่มีน้ำจิ้มนะกินแบบนี้เลย

ลูกชิ้นในแกงกะหรี่ ประมาณนั้นนะ ฮ่าฮ่าเป็นลูกชิ้นปลาอยู่ในน้ำซุปรสชาดแบบแกงกะหรี่ ก็พอได้นะมีกลิ่นเครื่องเทศแต่ถ้าใครไม่ชอบเครื่องเทศอาจจะไม่ชอบกิน

นี่ไงเหมือนลูกชิ้นแกงเขียวหวาน แกงกะทิอะไรประมาณนั้นเป็นลูกชิ้นปลา


ร้านเห็ดทอดก็ประมาณเห็ด 3 อย่างทอดบ้านเราเลือกเอาจะแบบเอารวมเลือก size เลือกเห็ดราคาตามด้านบนค่ะถ้ารวม size เล็กก็ 7 rm size ใหญ่ก็ 10 rm

อันนี้แนะนำชอบคล้ายๆ หอยจ๊อแต่เป็นแบบเส้นๆ และเอามาตัดเป็นชิ้นๆ มีที่ปีนังเท่านั้นเรียกว่า โลบัก ทำจากเนื้อไก่ที่อื่นไม่มีขายนะต้องกินที่ปีนังเป็นอาหารท้องถิ่นของเค้า อันนี้ให้เต็มค่ะแต่ทอดๆ กินมากอาจจะเลี่ยน

ราคาไม่แพง 1 ชิ้น 1.80 rm 12 ชิ้น 20 rm

ซุปปลาฉลาม 55 ประมาณกระเพาะปลาแหละ ยังไม่รู้สึกแตกต่างกับกระเพาะปลาตรงไหน น้ำซุปเหมือนกันเลย

มีปลาฉลามเป็นเส้นๆกินเพื่อสุขภาพที่ดีสไตล์อาหารจีนใส่เห็ดหอม ก็ผ่านนะแต่รสชาดแบบกระเพาะปลาบ้านเรา

Nashilamak อันนี้อาหารอินเดียหลายๆคนน่าจะรู้จัก ประมาณข้าวใส่ห่อและเลือกใส่แกงต่างๆ ที่มีเครื่องเทศและปลาทอด ที่ร้านแนะนำก็หอย กุ้ง ที่คนขายบอกว่าส่วนใหญ่สั่งกัน ประมาณหอย กุ้งผัดพริกแกงเครื่องเทศบ้านเรา และเสริมด้วยปลาทอดตัวเล็กๆ แก้เผ็ด

ตอนที่ใส่เขาก็จะห่อและใส่ด้านข้างมาเวลากินเราก็เอามาคลุกๆ แบบนี้ดูไม่ค่อยน่ากินเลยเนาะ แต่ก็ได้อยู่ค่ะ สไตล์อาหารผัดพริกแกงเครื่องเทศ

ไข่นกกระทาทอดแต่เสียบไม้ เหมือนไข่นกกระทาครกบ้านเราค่ะแต่เขาเสียบไม้ ใช้เตาหลุมเหมือนกันจะได้หยิบกินได้เลยไม่ต้องนั่งแซะ โรยพริกไทยซอสหน่อย รสชาดเดียวกันค่ะ


หลังจากเดินช้อป ชิมมาหลายร้านๆ รวมๆมาได้ประมาณนี้กินสองคนฮ่าๆ อย่างเยอะมีชาก๋วยเตี๋ยวด้วยหมดนี้หมดไปเกือบ 500 rm เยอะนะซื้อมาหลายอย่างตามที่รีวิวข้างต้น ตลาดไนท์มาร์เก็ตที่นี่ของกินเยอะจริง เราว่าเยอะกว่าถนนเส้นดังๆ ที่เป็น street food ในจอร์จทาวน์เช่น ถนน Kimbery หรือถนน Chulia

แนะนำเลยคนที่อยากลองอาหารจะหลากหลายแต่ไม่ใช่ย่านท่องเที่ยว


เข้ามาย่านท่องเที่ยวจอร์จทาวน์ที่เราคุ้นเคยกันบ้าง คนที่มาเที่ยวที่นี่คงไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ขายลอดช่องปีนัง วันที่ไปต่อคิวยาวมาก ยาวเกิ้น แต่เขาทำไว Chendul รสชาดหวานแต่ไม่มากเส้นคล้ายลอดช่องบ้านเรา ราคาไม่แพงถ้วยนึงไม่ถึง 30 บาท

มากี่ครั้งก็ต้องกินนะ มา 7 รอบก็กิน 7 รอบ อร่อยชื่นใจใส่ถั่วแดงน้ำแข็งคลุกคลิกเช่นเคย ถ้าเป็นบ้านเราคงใส่น้ำแข็งพูนๆ ที่นี่น้ำแข็งคงแพง

อาหารประจำชาติ "ลักซา" แต่ร้านนี้ไม่อร่อยกินเพราะหิว ร้านอยู่ติดกันกับร้านลอดช่องปีนังนั่นแหละค่ะ คนเยอะเช่นกันทั้งที่ไม่อร่อยชามนึงประมาณ 40 บาทไทย ให้เดินไปสั่งอาหารตรงที่เขายืนทำนะและรอถือไปหาที่นั่งเองกินเสร็จก็มาจ่ายตังค์ที่คนทำ

ร้านนี้มาตามรีวิวคนอื่นค่ะอยากรู้ว่าอร่อยไหมอยู่ไม่ไกลจากร้านลอดช่องปีนังค่ะ ชื่อ Toh soon Cafe

ประมาณร้านสภากาแฟ มีทั้งคนแก่ วัยรุ่นมานั่งจิบกาแฟ ชา และกินขนมปังปิ้งคุยกัน แต่จริงๆเห็นมีอาหารด้วยนะ

recommend ของที่นี่เป็นขนมปังปิ้งสังขยาและอีกอย่างเป็นแบบใส่ไข่ ประมาณไข่ลวกด้านบนแต่เราไม่ได้สั่งมาเพราะยังอิ่มกับลักซาและลอดช่องอยู่ นี่คืออิ่มสั่งชาเย็นกับขนมปังปิ้งสังขยา ถามว่าหมดมั้ย หมดค่ะ

รสชาดเฉยๆนะให้ 6 ละกันเพราะที่ไทยสังขยาอร่อยกว่าแต่ขนมปังกรอบๆเล็กน้อย ขนมปังปิ้งเตาถ่านสังขยาไส้ไหลบ้านเราอร่อยกว่า

มากันต่อไหนบอกว่าอิ่ม"-- ร้านดังเขาหละ China House เดินมาไม่ไกลเพราะร้อนเหลือ ต้องการหาที่นั่งเย็นๆ พักก่อนร้อนไม่ไหว เลยเข้าร้านกาแฟ


ข้อดีร้านนี้เค้กเยอะมากกกก มากกจริงๆ ซื้อกลับบ้านได้หรือนั่งทานที่ร้านได้ไปชี้ๆ และรอคิว เค้กชิ้นใหญ่ ราคาไม่แพงมากสไตล์คาเฟ่ประมาณ 130-180 บาทแต่ชิ้นใหญ่จริงๆค่ะ

สั่งมาพร้อมกับโค้กซีโร่ เพราะกินพวกนมๆไม่ไหวละอยากได้เครื่องดื่มให้ชื่นใจ และท้องก็เริ่มรับไม่ไหวแล้วด้วย ฮ่าๆๆ แต่ก็สู้ต่อเพื่อมารีวิว ไม่ใช่หรอก เราก็อยากลองไปหมด น้ำหนักอย่าไปห่วงเดี๋ยวมาเอาออกทีหลัง (คิดแบบนี้แล้วสบายใจ)

เขาบอกว่ากินของหวานแล้วจะอารมณ์ดีหน้าตาจะแจ่มใส แบบนี้

เค้กมีมากจนตาลายเลือกไม่ถูกเลยลองอันนี้เค้กชอคโกแลต ราสเบอรี่ ถามว่าอร่อยไหม เนื้อเค้กแน่นแต่เราอาจจะไม่คุ้นรสชาดมันมีกลิ่นของราสเบอรี่เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่อย่างอื่นน่าจะอร่อยนะเห็นคนซื้อกลับต่อคิวกันเยอะมาก มันเยอะจริงจนไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหน แต่อันที่เลือกมา T_T

อันนี้ถ่ายหน้าร้านมาเฉยๆ เพราะกินไม่ไหวแล้วเลยไม่รู้อร่อยไหม ประมาณก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์เป็นบะหมี่ น่าจะคล้ายที่ JJ Market บ้านเราป่ะที่เป็นชามยักษ์แต่อันนี้เป็นบะหมี่เหลืองแห้ง กับน้ำ ไม่ได้ชิมเลยบอกไม่ได้ว่าอร่อยไหม พิกัด Chew Jetty เดินจากร้าน China House ไม่ไกล

อันนี้ก็ไม่ได้ลองเป็นประมาณขนมรูปมังกร เห็นคนยืนมุงดูก็เลยไปยืนดูเป็นแป้งๆ และมีพิมพ์ทำเป็นรูปมังกร รสชาดไม่รู้อ่ะไม่ได้ลองชิม อิ่มเหลือเกินที่ทางเดินเข้า Chew Jetty

มาต่อกันที่มื้อเย็น Wan tan mee เจ้านี้อร่อยค่ะที่ไนท์มาร์เก็ต Chulia Road รอคิวนานเชียแต่อร่อยนะ ประมาณบะหมี่เกี๊ยวบ้านเราราคาไม่แพง ชามเล็กประมาณ 40 บาท ชามใหญ่ประมาณ 50 บาท

หน้าตาดูดีเลยนะมีน้ำซอสดำๆ ขลุกขลิกกากหมูมีให้ตักใส่เองนะ รอคิวสั่งจ่ายตังค์ หยิบช้อน ตะเกียบโรยกากหมูเอง หาที่นั่งเองนะจ้ะ

ร้านนี้ฮกเกี้ยนหมี่ที่ Chulia Street เหมือนกันไม่ได้ลองกินเหมือนกันค่ะบรรยายรสชาดไม่ได้

Lok Lok ลวกลวก อันนี้ทุกคนน่าจะรู้จักลูกชิ้นลวก เต้าหู้ เห็ด ฯลฯ ลวกจิ้มน้ำจิ้ม ประมาณลูกชิ้นปิ้งบ้านเรายืนลวก ยืนจิ้มกันหน้าร้านได้เลยจ้าไม้ละประมาณ 10 บาท

ก่อนกลับขอแวะ 7-11 ของปีนังซะหน่อย Milo เขาผลิตที่มาเลเซียนะ รสชาดนี้ไม่มีในไทยอ่ะ เลยอยากลองแต่ลองแล้วเราว่ารสชาด original อร่อยกว่า อันนี้ออกจืดๆ สูตรไฮแคลเซียม และมีอีกหลายสูตรเลย

อันนี้เป็บซี่แบบขวด No Calories จ้าลองชิมแล้วมันไม่ซ่าส์อ่ะไม่เหมือนที่ไทยอ่ะ ที่ไทยถ้าเป็นเป็บซี่แม็กซ์ 0 แคลลอรี่อร่อยกว่านะ

มาลองยาคูลท์มาเลค่ะแพคเกจไม่เหมือนที่ไทย แต่รสชาดดีค่ะไม่เหมือนไทยอร่อยเหมือนกันออกจะกลมกล่อมกว่าไม่ออกเปรี้ยวอย่างเดียว

โยเกิร์ตยี่ห้อมาเลรสชาดก็คล้ายๆบ้านเรา ไม่ได้แตกต่างค่ะแต่มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกอยู่

J Co Donut อันนี้ recommend อร่อยมากกก ขอบอกแต่เสียดายไม่มีสาขาในไทยมีแต่สิงค์โปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย บาหลี ทำไมไม่มาเปิดที่ไทยนะ คืออร่อยกว่า Dunkin และ Mister Donut อ่ะ แนะนำอันบนสุดเป็นอัลมอนด์ แป้งเขาจะนุ่มกว่าเนื้อครีมเข้มข้นกว่า ชิ้นละประมาณ 30 กว่าบาทอร่อยคุ้มค่าค่ะ เต็ม 10


มื้อแรกของวันใช่ช่ะมะกินเบอร์เกอร์ ตอนแรกจะไปหาข้าวธรรมดากินแต่ search ร้านนี้น่ากินเป็นแฮมเบอร์เกอร์ขนมปังชาร์โคล ข้างในเป็นปูทอดอร่อยอ่ะไม่เคยกิน ตกเซตนึงก็ประมาณ 200 กว่าบาท มีเครื่องเคียงให้เลือกระหว่างมันฝรั่งทอดกับ หอมทอด

ให้ผ่านค่ะ เต็ม 10

หลังจากจบร้านแรกกลางวันคือร้อนมากค่ะที่นี่เลยต้องหาคาเฟ่นั่งเห็นร้านนี้เก๋ๆ เข้าไปตากแอร์รอให้เย็นๆหน่อยค่อยออกเดินเที่ยว รสชาดก็ใช้ได้นะคะ แต่ไม่ได้ว้าวอะไรมากมาย

ร้านสวยค่ะชื่อ DAN

จากนั้นมาซื้อขนมร้านนี้ก่อนกลับบ้านค่ะ เป็นร้านขึ้นชื่อของปีนัง Ming Xiang Tai ที่ดังๆก็จะเป็นทาร์ตไข่ พัฟไก่ และขนมเปี๊ยะ มีหลายไส้มาก ซื้อมาประมาณ 8 ชิ้น ก็คล้ายๆขนมเปี๊ยะนั่นแหละค่ะ (ก็ขนมเปี๊ยะเนาะฮ่าๆ) แต่จะเข้มข้นกินตอนทำเสร็จใหม่ๆกับน้ำชาร้อนๆเข้ากันมากก

ตบท้ายมื้อเย็น มื้อหนัก Steam Boat ของโปรดอีกอย่างที่มาทุกครั้งต้องกิน ประมาณชาบู สุกี้ บ้านเราค่ะ น้ำซุปมีให้เลือกทั้งแบบต้มยำและซุปไก่ดำแบบสมุนไพร สั่งมาทั้ง เราสั่งมาสองแบบเพราะมีสองช่องอยู่แล้ว


มาเป็นเซตค่ะแค่นี้ก็กินไม่หมดแล้ว ประมาณ 900 บาทสำหรับทาน 2 คน ถามว่าแพงไหมก็แพงอยู่นะ แตชอบรสชาดของซุปแต่คงไม่ได้แซ่บเหมือนบ้านเราเพราะนี่เป็นอาหารจีน


มื้อเช้าวันต่อมาอยากกินข้าวบ้างค่ะเลยไปทานร้านนี้ประมาณว่าข้าวแกงบ้านเราสามารถเลือกได้ เขามีข้าวสวยวางไว้แล้วเราเลือกกับข้าวและตักเองเลยค่ะ

หน้าตาอาหารก็มีหลากหลายคล้ายๆบ้านเรา ผัดผักบุ้งก็มี ปลาทอด ไส้กรอก แกง ผัด ต้มต่างๆ

พอตักเสร็จก็เดินไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินค่ะเขาคิดตามที่เราตักว่าเลือกกี่อย่างอะไรบ้าง

เหมือนอาหารไทยเลยเนาะข้าวแกงแหละค่ะ แต่ข้าวที่นี่บอกเลยว่าแข็ง คิดถึงข้าวนุ่มๆของไทย ใครได้กินข้าวไทยจะลืมเลยเพราะข้าวแบบนี้บ้านเราเรียกข้าวขาวธรรมดาซึ่งจะแข็งหน่อย ส่วนใหญ่เราก็จะกินข้าวหอมมะลิกัน

ร้านต่อมาหาคาเฟ่นั่งสิคะรออะไร กลางวันร้อนจะไปไหนล่ะ ร้านนี้ The Moon Shop Gallery เป็นร้านตกแต่งแบบมีต้นไม้ในขวดโหล ขวดแก้ว

ร้านนี้เขามีมุมที่ขายให้เราลองทำโอเอซิสในขวดด้วยค่ะเลือกซื้อขวดและกรวด หิน ดิน ต้นไม้และทำในร้านได้

อันนี้ crop รูปจาก IG 55 จาก วีดีโอเพราะร้านนี้ลืมถ่ายรูป อัดแต่คลิปไว้ อร่อยนะเป็นลาวาชอคโกแลต ตักปุ๊บไส้ไหลปั๊บ

มื้อเย็น เบาๆค่ะ ชอบกินลักซา กินได้เรื่อยๆ ร้านนี้คนซื้อมาบอกอร่อยมากกก แต่ก็อร่อยจริงค่ะน้ำซุปเข้มข้น เดี๋ยวต้องหาวิธีลองทำกินเองเพราะกลับมาไทยหากินไม่ได้ ชอบความคลาสสิคของที่ปีนังนะคะเพราะขนาดที่รัดถุงยังไม่ใช้หนังยางใช้เชือกฟางผูก รู้สึกเหมือนกลับไปยุคประเทศไทย 15 ปีก่อน 55 สมัยเด็กกินก๋วยเตี๋ยวยังมัดแบบนี้อยู่เลย ทุกร้านมัดแบบนี้หมดเลยทั้งน้ำ กาแฟที่ใส่ถุง ชอบๆอ่ะ

อันนี้กระทะร้อนค่ะประมาณอาหารมีทั้งเส้นบะหมี่เหลือ ข้าวกระทะร้อนเป็นอาหารสไตล์อินเดีย มาเลย์ค่ะอร่อยนะแต่กินระวังด้วยปากจะพองเอาได้

อันนี้สามารถหากินได้ที่ Tesco ที่ปีนังค่ะใน Food Court แต่ไม่แน่ใจว่ามีทุกสาขาหรือเปล่า

อันนี้อาหารอินเดียค่ะ ที่นี่อาหารหลายสัญชาติมากอินเดียเป็นชาตินึงที่ต้องลองในย่านลิตเติ้ลอินเดีย ข้าวแกงกะหรี่มีน้ำแกงให้จิ้ม 2 อย่าง ไก่ทอด และมีคล้ายอาจาดบ้านเราแก้เลี่ยน กินกับแผ่นแป้งโรตี อันนี้ให้ 10 ค่ะ อร่อยจานใหญ่มาก พิกัดร้าน Kapitan Restaurant

อันนี้ร้านอาหารตามสั่งแต่เป็นอาหารมาเลย์นะ รสชาดคล้ายไทยแต่อาจไม่จัดจ้านเท่า ทุกอย่างเป็นเมนูแบบบ้านเรา มีผัดผักบุ้งคล้ายๆนะแต่ที่นี่ค่อนข้างทานออกรสเค็ม มีน้ำพริกกะปิด้วยแต่ออกเค็มเหมือนกัน ถ้าเป็นบ้านเราก็จะเปรี้ยวนำ หวานตาม เผ็ดๆ แต่ก็ถือว่ารสชาดดีค่ะ แต่ออกเค็มไปนิด

มาถึงของหวานกันบ้างร้านนี้ยกให้เลย วาฟเฟิลอร่อยค่ะ ชื่อร้าน Pik Nik ร้านเขาเด็ดตรงวาฟเฟิล มีไข่โปะ แฮมโปะ ร้อนๆ ราดน้ำผึ้งอร่อยค่ะ แป้งอร่อยให้ผ่านนนน


น้ำผลไม้ปั่นมีหลายสาขาในมาเลเซีย อันนี้ที่เรากินในห้าง gurney plaza ยี่ห้อ Boost ค่ะเป็นร้านน้ำผลไม้ประมาณ Squeeze บ้านเรามีให้เลือกหลายแบบแล้วแต่เราจะมิกซ์กับผลไม้ชนิดใดบ้าง รสชาดไม่ต่างจากบ้านเราค่ะ ก็อร่อยนะ

ร้านกาแฟดั้งเดิมของมาเลเซียที่มีหลายสาขา เราชอบรสชาดของชานะเป็นชาร้อน ทานกับขนมปังปิ้งไส้เนยถั่ว กรอบนุ่มใน ราคาไม่แพง หากินได้ทั่วไป มีหลายที่ แบรนด์ท้องถิ่นที่นี่เค้าหละ คนที่มาเที่ยวมาเลเซีย ปีนัง น่าจะรู้จักหมด Old town coffee เพราะเราไม่กินกาแฟเลยกินชาแต่ก็อร่อยเหมือนกันหอมดีค่ะ

อันนี้เพิ่งได้ลองซื้อมากินไปหลายครั้งไม่เคยลอง ห่อประมาณ 150-170 บาท มี 15 ซองเป็นชานม ยี่ห้อ Penang หอมอร่อยกินร้อนชอบเลยค่ะ เลยซื้อกลับมาด้วย


วันสุดท้ายก่อนกลับปิดท้ายด้วยก๋วยเตี๋ยว Panmee ที่ Queen bay mall ออกรสเผ็ดแต่เข้มข้น ชอบเส้นจะนุ่มเป็นบะหมี่เส้นใหญ่ โรยด้วยปลาแห้งกรอบ รสออกเค็มๆและมีซอสอะไรซักอย่าง พร้อมไข่ออนเซ็นโปะหน้าสไตล์อาหารญี่ปุ่น อิอิ ชอบๆ กินมาสองรอบละ

บะหมี่ข้างบนต้องใส่พริกอันนี้ค่ะ ซื้อมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว Panmee ที่ Queen Bay Mall แหละ เขามีให้เติมตอนที่เราทานที่ร้านและซื้อกลับได้ กระปุกประมาณเกือบร้อย เอามาคลุกข้าว กินกับผัก ใส่ในต้มยำ ยำได้เป็นพริกไม่ถึงกับแห้งประมาณ พริกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระอ่ะ พอนึกออกใช่มะคะ แต่ไม่เผ็ดเท่ามีรสชาดกว่า

อันนี้ร้านบุฟเฟ่ต์ที่ KL ค่ะกัวลาลัมเปอร์ เอามาแถมให้ดูเป็นร้านประมาณหมูกระทะบ้านเราที่เป็นบุฟเฟ่ต์หัวละประมาณ 300 บาทแต่อันนี้เป็นบุฟเฟ่ต์ชาบู ที่นี่เรียก Steam Boat รู้สึกกินบ่อยเพราะเราชอบกินร้อนๆ

แต่อาหารที่มีให้เลือกทั้งอาหารทะเล ทอด หมู เนื้อ ไก่ เพียบ แถมของหวานอีก คุ้มนะคะ ดีกว่าบ้านเรานะ

รู้สึกว่าเขาใช้ของค่อนข้างดีในราคาประมาณนี้ กินให้พุงกางค่ะบุฟเฟ่ต์ จัดไปทั้งคาวหวาน ปิ้ง ย่าง ชาบู

ลุย !!!!

อันนี้แถมๆค่ะ ร้านที่ KL เหมือนกัน พิกัด Petaling Street Kuala Lumpur เป็นปลาย่างในนั้นจะมีประมาณพริกแกง grill บนตะแกรง ร้อนๆทานกับข้าวสวยเนี่ยอร่อยมาก


ปิดท้ายด้วยอาหารประจำชาติมาเลย์ ที่ใครๆก็รู้จัก ผัดซีอิ๊ว หรือผัดไทบ้านเรานั่นเอง Char Kway Teow ค่ะ ร้านนี้รอคิวนานมากนานเกิน 30 นาทีได้

บรรยากาศภายในร้านของดีก็ต้องรอใช่มะคะ รอจนหงุดหงิดโมโหหิว กินอะไรก็อร่อยละ

ปิดท้ายด้วยภาพนี้ค่ะจากมุมสูงเห็นเกาะปีนัง บ๊ายบาย See you next time ลาไปแบบตัวแน่นๆ

LadiiParun

 วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.03 น.

ความคิดเห็น