ทริปนี้ขึ้นเกิดช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา มีเพื่อนอยากไปเที่ยว "พัทลุง" ไปที่มีบรรยากาศทุ่งนา ธรรมชาติ

อยากไปอารมณ์แบบ ลมพัดฉิว 🌾🌾⛅️ กลางนา

เลยได้เวลาลงตัวกันทุกคน 2 วัน 1 คืน กับพัทลุง การเดินทางเริ่มต้นกันที่พังงา

ขับรถยนต์ส่วนตัวไปกันแบบว่า มีร้านกาแฟไหนน่านั่งก็จะแวะ

"พัทลุง" ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งทำนา เป็นเมืองอู่นาข้าว ตามคำขวัญจังหวัด และนี้ก็คือครั้งแรกของเพื่อนที่ได้ไปเที่ยวพัทลุง เพราะเขาเห็นดิฉันรีวิวพัทลุงบ่อย และยังมีรีวิวใน Readme ที่ไปพัทลุงมาก็หลายรีวิวด้วย

คำขอของเพื่อนที่ต้องการไปสัมผัส "พัทลุง"

- ที่พักกลางทุ่งนา ที่กำลังมาแรงตอนนี้ .........Sampaothai สำเภาไทย................

- อยากไปเดินตลาดท้องถิ่นที่มีของอร่อยๆ..... ตลาดป่าไผ่สร้างสุข หรือ หลาดใต้โหนด....ต้องไปสักที่ให้ได้

- ร้านกาแฟ บรรยากาศกลางทุ่งนา ที่เห็นวิวเขาอกทะลุ ......ขนำบาร์ (ขนำ คอฟฟี่)....ครั้งเปลี่ยนไปชิมคอกเทล

มาเริ่มเดินทางไปพร้อมๆกัน เริ่มต้นกันที่พังงา ออกรถกันตั้งแต่เช้าประมาณ 08.00 โมงเช้า เพื่อจะไปให้ทันตลาดป่าไผ่สร้างสุขที่มีแค่วันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น

ขับรถกันมาเรื่อยๆก็เข้าจังหวัดตรัง ชอบถนนสายนี้จังเลย มีต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง

พอเข้าสู่ตรัง เห็นเพื่อนๆหลายคนเขามาเช็คอินร้านที่นี้กันเยอะ เลยลองแวะดูบบรยากาศกันสักหน่อยที่

" ภูหลวง ลูกลม " นาโยง ทางผ่านไปพัทลุงได้ เลยแวะได้สะดวก

มาถึงแล้ว "ภูหลวง ลุกลม" ร้านอาหารพื้นบ้านและกาแฟสดที่อยู่ริ่มทุ่งนา เรียบสายชลประทาน บริเวณหน้าเขาช้างหาย ในตำบล นาหมื่นศรี

มาถึงก็จะเห็นอาคารที่สร้างด้วยไม้ไผ่ หลังคามุงจาก ที่มีบรรยากาศทุ่งนารายล้อมและปลูกพืชผักสวนครัว

พอเข้ามาในร้านก็จะเห็นการตกแต่งบรรยากาศภายในที่เน้นเอกลักษณ์ทางภาคใต้ อย่างมโนราห์

ก็จะมีเครื่องดื่มให้บริการอย่างกาแฟสด ข้าวแกง ขนมจีน ขนมหวาน เป็นต้น

ได้มาแล้วขอเป็นเครื่องดื่มกับน้ำแข็งใสแหละกันนะ เพราะยังไม่ค่อยหิวกันเลย

ด้านนอกอาคารก็จะมีสะพานไม้เชื่อมต่อรอบอาคารหลัง ให้เดินสัมผัสบรรยากาศลมเย็น

มาเที่ยวตรัง อย่าลืมมานั่งจิบกาแฟ "ภูหลวง ลูกลม"

ที่อยู่: ตำบล นาหมื่นศรี อำเภอ นาโยง ตรัง

จันทร์ - ศุกร์ 07.00 - 18.00

เสาร์ - อาทิตย์ 07.00 - 20.00

โทรศัพท์: 061 949 9229

ออกจากภูหลวง ลูกลม ก็เดินทางไปต่อมุ่งหน้าสู่พัทลุงซึ่งใกล้เข้ามาแล้ว พอได้เห็นทางข้างหน้าคือ "เขาพับผ้า" ถือว่าเป็นถนนสายที่สวยอีกที่หนึ่งสำหรับเราเลยนะ

ใช้เวลาไม่ได้ก็เข้าตัวอำเภอควนขนุน และตรงไปที่ "ตลาดป่าไผ่สร้างสุข" ตั้งอยู่ในส่วนไผ่ขวัญใจ อาจจะเรียกตลาดสีเขียวก็ได้นะเพราะอยู่ในบริเวณสวนไผ่ที่ร่มรื่นและเต็มไปด้วยกอไผ่มากมาย ร้านค้าก็เป็นคนในชุมชนมาออกร้านขายของกินท้องถิ่น หรือผลิตภัณฑ์ของคนในชุมชนเอง และเน้นรักษ์ธรรมชาติด้วยการลดการใช้พลาสติก

เมื่อได้ที่จอดรถแล้วก็เดินเข้าตลาดป่าไผ่ ได้อารมณ์ป่าไผ่มากๆเรียกได้ว่าบรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ สวยด้วยกอไผ่

เมื่อเข้ามาในตลาดแล้วก็จะเจอร้านค้ามากมาย หลากลาย ที่จะนำเสนอเมนูของกินทั้งคาวหวาน ในสูตรแบบท้องถิ่นจริงๆ

นี่เลยอยากบอกว่าครั้งแรกที่ได้ยินและกินนะ อร่อยมากกับ "ปากหม้อแป้งสาคูต้น" ซึ่งทำจากต้นสาคูจริงๆ อร่อยหอม หวาน มัน กะทิสดๆ เนื้อแป้งมีความเหนียวเฉพาะตัวมาก ต่างจากแป้งปกติที่ทำกันทั่วไป

เดินๆก็จะได้ยินเสียงดนตรี "มโนราห์" หรือ "หนังตะลุง" สลับกันตลอด ก็จะเห็นนักเรียนมาเปิดกล่อง เล่นดนตรีและรำมโนราห์ให้ได้ชมกัน

อาหารที่นี้จะได้ภาชนะธรรมชาติมาใส่อาหารให้ลูกค้า และมีพื้นที่โซนกลางไว้นั่งพักผ่อนรับประทานอาหารกัน

มีกาแฟสดแบบดริป ให้ได้จิบเข้ากับบรรยากาศมากๆ "ร้านกาแฟต้องรอ" ที่มีเมล็ดกาแฟหลากหลายให้เลือกแล้วแต่ความชอบของลูกค้า ใครชอบเข้มชอบอ่อนๆก็ ดูจากเมนูกันได้เลย

เมื่อได้กาแฟกันแล้วก็เอาขนมมารวมกัน ช่างเข้ากับกาแฟเข้มๆนะ

มาถึงโซนด้านในก็จะมีซุ้มกับข้าว แกง ขนมจีนให้กินกัน ใครจะทานที่ตลาดหรือซื้อกลับบ้านก็ได้นะ เห็นแล้วก็มีแต่ของอร่อยๆ ของขึ้นชื่อพัทลุงทั้งนั้นเลย

เข้ากันไปอีกโซนของ"สวนไผ่ขวัญใจ" ก็จะเต็มไปด้วยของกิน และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

ร้านนี้เด็กๆมุงกันเต็มหน้าร้านเลย เป็นร้านขายลูกหันซึ่งทำมาจากวัตถุท้องถิ่นจริงๆ ที่หลายคนไม่ค่อยไดด้เห็นแล้ว แต่มาที่นี่ยังพอมีให้ดูเลือกซื้อกลับไปได้

พืชผักสวนครัวสดๆ ผลไม้ตามฤดูกาลที่มาจากในชุมชน มีความปลอดภัยจากสารเครมีแน่นอน

ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ของ "สวนไผ่ขวัญใจ" ให้เลือกซื้อกันหลากหลายในราคาย่อมเยาว์

“ตลาดป่าไผ่สร้างสุข” ตลาดเขียวเพื่อชุมชน

ทุกวันเสาร์ เวลาเปิด 🕗9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น
(บนถนนสายไสยวน - ควนขนุน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง อยู่ห่าง รพ.ควนขนุน ประมาณ 200 เมตร ห่างจากตัวเมืองพัทลุง 17 กิโลเมตร )


เดินตลาดกันจนอิ่มก็ไปต่อที่พักของเราในทริปนี้ ยิ่งขับเข้าสายหมู่บ้านมะกอกใต้ - ชัยบุรี สองข้างทางมีทุ่งนาแบบว่าวิวเขียวขจีมาก เห็นแบบสุดลูกหูลูกตา ไปมาในช่วงต้นข้างกำลังเขียวเพิ่งจะออกรวง ทุ่งนาที่กว้างใหญ่ตัดกับวิวภูเขาที่อยู่ด้านหน้า สวยเหมือนภาพวาดเลย

ขับมาผ่านทุ่งนาไม่นานก็จะมาถึง "สำเภาไทย" ที่พักกลางทุ่งนาที่กำลังมาแรงในช่วงนี้

ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าสำเภาใต้ ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งเป็นที่เพาะปลูกข้าวแหล่งสำคัญของพัทลุงก็ว่าได้นะ

ขับมาก็จะเจอป้ายไม้ใหญ่เห็นชัดเจน "Sampaothai"

เมื่อจอดรถเข้าที่เรียบร้อยก็เดินเข้ามายังจุดที่พัก หรือจุดไฮไลท์ที่มีเรือสำเภากับสะพานไม้ทอดยาวพาดผ่านทุ่งนา ระหว่างทางเดินก็จะเจอซุ้มเสาวรส สองข้างทางก็ปลูกพืชผักสวนครัว และก็เจอกับบ่อหรือบึงน้ำที่มีอาคารไม้อยู่ริมบึง พอเข้าไปก็จะเจอเคาเตอร์ขายเครื่องดื่ม กาแฟสด และเต็มไปด้วยประชาชนที่ไปเที่ยวชม บรรยากาศของที่นี้กันมากมาย โดยที่นี่เปิดให้คนนอกที่ไม่ได้จองที่พัก เข้าไปเยี่ยมชมถ่ายรูปเช็คอินกันได้

เมื่อไปยังที่โซนเคาเตอร์เครื่องดื่ม ก็แจ้งกับพี่ว่าที่จองห้องพักไว้ในชื่อ....... สักครู่ก็จะมีพี่เจ้าของพาเดินไปยังห้องพักซึ่งตอนนี้มีอยู่แค่ 4 ห้องเท่านั้น มาสะดุดตาที่หัวสะพานมีแกะเกี่ยวข้าวอันใหญ่มากๆตั้งประดับอยู่

เห็นไหมสำเภาลำใหญ่กลางทุ่งนาเขียวขจี

นี้คือหน้าตาลักษณะห้องพักสำหรับคืนนี้ที่ "Sampaothai" เป็นหลังยกสูงจากพื้นดินสร้างด้วยไม้หลังคามุงจากและจะมีสะพานเชื่อมต่อยาวหน้าห้องทุกหลัง

เปิดมาดูบรรยากาศในห้องกัน เปิดมาถึงก็จะเจอเตียงใหญ่สำหรับสองท่าน พร้อมมีแอร์ด้วยนะตอนกลางวันอากาศร้อนๆไม่ต้องกลัวเลย พื้นที่ห้องกว้างพอสมควรสำหรับเพิ่มที่เสริมคนที่สามได้ (ก็จะมีที่นอนเสริม ผ้าห่ม ผ้าขนหนู หมอน ให้กับเสริมคนที่สามครบเชทจร้า)

ห้องน้ำก็สะดวกสบาย มีโซนเปียกที่มีกั้นด้วย

เช็คห้องเรียบร้อย อากาศร้อนคนด้านนอกที่มาเยี่ยมชมก็เยอะ แต่ที่นี่จัดการได้ดีไม่ให้เข้ามาเขตที่พัก ก็เดินไปสั่งน้ำเย็นๆมาที่ห้อง ไปได้น้ำมะพร้าวอ่อนเย็นชื่นใจ ตอนแรกว่าจะไปแวะที่"ขนำ คอฟฟี่"ก่อนจะเข้าที่พัก แต่เจออากาศร้อนและอิ่มจากตลาด ก็เลยจะเปลี่ยนบรรยากาศไปตอนเย็นเปลี่ยนจากกาแฟมาเป็นคอกเทล

อาคารที่เป็นร้านกาแฟของสำเภาไทย สำหรับลูกค้ามาเยี่ยมชม บรรยากาศก็ชิลๆดี นั่งจิบน้ำเย็นๆมองทุ่งนาที่เขียวขจีให้สบายตา

"ขนำ คอฟฟี่" บรรยากาศโซนใหม่บาร์ในทุ่งนา ชิลๆ

จิบคอกเทลดีๆสักแก้ว พร้อมกับนั่งชมพระอาทิตตกวิวเขาอกทะลุพร้อม ฟังเพลงเบาๆ สไตล์ขนำในทุ่งนา

พักผ่อนกันหายเหนื่อยก็ออกจากสำเภาไทยไปยัง "ขนำ คอฟฟี่" ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนมโนราห์หรือบายพาส ก็ไม่ไกลจากที่พักได้เวลาขับรถประมาณ 10-15 นาที ก็จะมาถึง "ขนำ คอฟฟี่" ขนาดจะเกือบ 17.30 น.ยังมีจอดลูกค้าจอดข้างทางเยอะอยู่นะ ที่นี่ก็ขึ้นชื่อ เรื่องร้านกาแฟก่อนหน้านี้ "จิบกาแฟแลเขาอกทะลุ"

มาครั้งนี้ร้านเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกัน มีการต่อสะพานไปด้านหลังไปกลางทุ่งนาพร้อมกับขนำเล็กๆ สำหรับเป็นที่นั่งให้ลูกค้า ก็ยังคงคอนเซปสร้างแบบไม้และธรรมชาติให้เข้ากัน และคงเป็นอีกที่หนึ่งมาชมพระอาทิตย์ตกวิวเขาอกทะลุลัญลักษณ์ของจังหวัดนี้เลย

ตัวอาคาร "ขนำบาร์" จะอยู่โซนด้านหลังกลางทุ่งนาซึ่งสร้างขึ้นมาเมื่อไม่ได้นี้เอง บรรยากาศร้านคอกเทลแบบชิลๆจริง สร้างด้วยไม้หลังคามุงจาก ตัวเคาเตอร์บาร์ก็ตกแต่งด้วยไม้ พอค่ำลงก็เริ่มเปิดแสงไฟก็จะสวยไปอีกแบบ

เห็นเขาอกทะลุไหม ตั้งเด่นสง่ากลางตัวเมืองพัทลุง

ชมบรรยากาศโดยรอบกันแล้ว มาถึงตัวคอกเทลกันบ้างที่นี่ก็มีหลากหลายเมนู และยังมีอาหารประเภทยำ

วันนี้ลองคอกเทลหลายเมนูเลย ถือว่ารสชาติอร่อยผ่าน

ตอนกลางคืนบรรยากาศก็ดีนะ โซนบาร์ก็จะเปิดถึง 22.00

กำลังจะกลับที่พักก็มาสะดุดตากับชิงช้าสวรรค์ใหญ่ ที่อยู่ไม่ไกลจากขนำ คอฟฟี่ อยู่ถนนบายพาสสายเดียวกัน ก็เลยจอดแวะเยี่ยมชมกันสักหน่อย "เรื่องเล่า กับข้าวยามเย็น" เป็นคล้ายตลาดที่ตกแต่งแบบย้อนยุคแนววินเทจหน่อยๆ แต่จะมีโซนที่นั่งด้านในใจกลางตลาด

เดินเข้ามาก็ดูๆทำให้คิดถึงงานวัด เพราะมีชิงช้าสวรรค์ตั้งเด่นสง่ามาก

เข้ามาด้านในก็จะเจอลานกว้าง พร้อมโต๊ะที่นั่ง

มีซุ้มอาหารให้เลือกหลากหลาย

"เรื่องเล่า กับข้าวยามเย็น" น่านั่งน่าไป hang out ตอนเย็นมาก ๆ ร้านของกินเป็นซุ้ม ๆ ไปดูแล้วราคาไม่แพง บรรยากาศดีมีที่นั่งให้นั่งเยอะ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอ มีดนตรีสดให้ฟัง

- เรื่องเล่า กับข้าวยามเย็นก็จะเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 16.00 - 24.00

ตอนกลางคืนที่สำเภาไทยเงียบ สงบ มากๆ อากาศตอนกลางคืนดีมากเลย

เช้าๆของวันหยุด กับบ้านกลางทุ่ง ตื่นของเช้านี้ช่างสดชื่นมากๆ กลิ่นต้นข้าวยามเช้าหอมจริงๆ


เช้านี้ตื่นมาแล้วตั้งใจจะเดินตามสะพานไปอีกฝั่งดู เพราะเมื่อวานตอนเย็นคนเยอะและอากาศร้อน เลยขอมาช่วงเช้าดีกว่า


เดินเล่นดูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด อีกด้านหลังสำเภาก็จะเจอกับต้นไม้ใหญ่ผูกเปลไว้ด้วย สะพานก็จะสิ้นสุดลงที่คลอง

เดินกลับมาที่อาคารใจกลางหรือเรียกห้องอาหารก็ได้นะ อาคารหลังที่อยู่ริมน้ำ ที่มีเคาเตอร์น้ำและโต๊ะอาหาร ก็จะเจอกับคุณยายกำลังเก็บผักพูดคุยกันสนุกเลย ชวนเก็บผักสดๆกัน ยายบอกว่านี้ผักที่กินกับขนมจีนมื้อเช้าสำหรับลูกค้าที่มาพัก

มื้อเช้าก็จะมีข้าวต้ม ขนมจีน ขนมหวาน ข้าวยำสมุนไพร ขนมจีบ ขนมปังปิ้ง แบบว่ามื้อเช้าที่นี้เยอะมากและคุ้มกับราคา (ที่พัก+มื้อเช้า ในราคา 1,250 บาท)

อะไรจะดีไปกว่านี้แล้วกินอร่อยพื้นบ้านประจำท้องถิ่นแสนอร่อยบวกกับนั่งชมวิวทุ่งนาไปด้วย ทำให้เจริญอาหารมากเลย

และสามารถสั่งลาเต้ร้อนสักแก้วก็ได้นะ (แต่ไม่รวมกับค่าที่พักนะ) ขนมเปียกปูนที่นี้อร่อยมากๆทำให้คิดถึงคุณยายเลยเหมือนกับสูตรคุณยายที่เคยทำให้กิน

จบแล้วสำหรับทริป 2 วัน 1 คืน ที่พัทลุง กับบรรยากาศทุ่งนา ไว้เจอกันทริปหน้านะว่าจะได้ไปเที่ยวไหนมาจะมาบอกเล่าสู่กันฟัง จะปิดด้วยเพจของที่พักและร้านกาแฟน่านั่งให้นะ


- ภูหลวง ลูกลม https://th-th.facebook.com/phuluangluklm/

- Sampaothai https://th-th.facebook.com/byTasorn/

- ขนำ บาร์ (ขนำ คอฟฟี่) https://www.facebook.com/KanamCoffee/

- ตลาดป่าไผ่ สร้างสุข https://th-th.facebook.com/kindeemeesuk.pattalung/



ตามมาเที่ยว กิน แบบชิลๆกัน กับ How About chill out

https://www.facebook.com/Howaboutchillout/

How About Chillout

 วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.03 น.

ความคิดเห็น