โปรแกรมการเดินทางนี้ ซื้อไว้ 2 ทริปคะ

  • ทริปแรก เขื่อนเชี่ยวหลาน 2 วัน 1 คืน คนละ 3200 บาท(ซื้อจากงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 48)
  • ทริปที่สอง เกาะเต่า 3 วัน 2 คืน คนละ 6290บาท ราคาคนไทยด้วยนะ ^^ (ซื้อจากเฟสบุคหรือไลน์ บริษัท Lovely Satun Travel)

ทริปแรก

  • พักแพคีรีวาริน พร้อมอาหาร 3มื้อ
  • เรือไป-กลับ

ทริปสอง

  • พักโรงแรม The beach club by haadtien พร้อมอาหารเช้า
  • เรือไป-กลับ
  • รถรับส่งสนามบิน
  • ทริปดำน้ำรอบเกาะเต่าและเกาะนางยวน

เริ่ม....

17 ก.ย. 2018 วันแรก

เดินทางไปสุราษด้วยเครื่องบินไฟท์แรกที่ดอนเมือง เวลา 7.10 น. ถึงสุราษ เวลา 8.25 น. (DMK 7.10 น. - URT 8.25 น.) ใช้บริการของเครื่องปีกแดง

ก่อนเดินทาง รีบโทรหาบริษัทรถตู้พันธิป เบอร์ 077-287059 ที่จะรับไปส่งท่าเรือเขื่อนคะ (พอดีเราลืมโทรหาบริษัท นึกขึ้นได้ที่ดอนเมือง โชคยังดีที่โทรติด โทรไป 6.40 น. นึกว่าจะไม่มีคนรับแล้วนะ ในใจคิดว่า งานเข้าแล้ว --") แต่ทางที่ดีควรโทรก่อนวันเดินทาง 1 วัน

  • ทางบริษัทเขาจะถาม ไฟท์บินมาถึงสุราษกี่โมง ? และขอเบอร์โทรกลับ หรือทางเขาจะให้เบอร์คนขับรถตู้มาอีกที ให้เราโทรเช็ค ในกรณี ตามเวลานัดแล้ว ยังไม่เจอรถตู้
  • รถตู้ที่มารับเรา จะบริการ อยู่ 3 เส้นทาง คือ สนามบินสุราษ/ในเมือง/ท่าเรือเขื่อนเชี่ยวหลาน สรุปเบอร์ให้นะคะ จากการที่เราได้ใช้บริการคะ 077-287059 / 093-6509724 / 086-6926241 ค่าบริการจากสนามบิน-ไปท่าเรือเขื่อน ประมาณ 200 บาท/คน

ถือว่าสะดวกสบาย ราคาไม่โหดเท่าไหร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ถึง 1 ชม แล้วแต่การแวะรับผู้โดยสารคะ

ประมาณ 9 โมงนิดๆ ทางเขื่อนที่เราจองไว้ ได้โทรสอบถามว่าเราถึงไหนแล้วโดยประมาณ นัดแนะกันเรียบร้อย จนถึงท่าเรือที่เขื่อน ก็โทรหาทีมงานเขาอีกครั้ง **อย่าลืมขอเบอร์โทรคนขับรถไว้ บอกว่าขากลับเราจะเข้าในเมือง แล้วทางคนขับจะให้เบอร์ทีมงานเขาอีกทีคะ พอไปถึงเป็นช่วงพายุฝนมังคุด แต่ก็ไม่ได้ตกตลอดวัน ยังดีที่มีแดดอ่อนๆ

จากนั้นขึ้นเรือ มุ่งหน้าสู่แพคีรีวารีน เรือออก 11.30 น. ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1.30 ชั่วโมง บรรยากาศ ฝนนิดหน่อย แดดบ้าง ยิ่งเวลาแดดลงกระทบกับน้ำ ทำให้เห็นน้ำใสและสีเขียวมรกต สวยงามจริงๆ เดินทางประมาณ 20 นาทีได้มั้ง คลื่นโทรศัพท์ทุกเครือข่ายของเราก็จะถูกบดบัง ไร้สัญญาณ ทีนี้ตัวเราเองก็จะจับจ้องธรรมชาติโดยอัตโนมัติ รุ้เลยว่าประเทศไทยยังมีที่สวยๆแบบนี้อยู่จริงๆ เป็นอารมณ์ความรู้สึกสัมผัสได้ สบายใจ สบายตา หรือ การใช้ธรรมชาติบำบัดหลังจากที่ทำงานมาหนักๆ พนักงานออฟฟิตทำนองนี้ มาเจอธรรมชาติแบบนี้ รู้สึกโล่งเลยอย่างบอกไม่ถูก


ทางคนขับเรือของแพ จะพาเราไปเที่ยวจุดไฮไลท์คือ เขา 3 เกลอ และพาเข้าที่พักทานข้าวกลางวัน อีกประมาณบ่าย 2 จะพาเราไปน้ำตกอีก แล้วจากนั้นก็กลับที่พักเล่นน้ำอัธยาศัย

ตอนเย็นมีอาหารเย็นประมาณ 1 ทุ่ม ที่พักที่นี่สามารถเติมอาหารได้ตลอด ยกเว้นผลไม้ และทางแพมีกิจกรรมคล้ายๆเขียนความรู้สึกต่างๆ ลงในรูปฟิวเจอร์บอร์ดที่เขาตัดเป็นรูปต่างๆ เพื่อห้อยในร้านคะ มีหลากหลายรูปแบบ บริการดีมาก ประทับใจ อาหารก็สะอาด อร่อย คุ้มกับราคากับการพักผ่อนจริงๆ คลื่นโทรศัพท์ไม่มีจริงๆคะ ^^ แต่มีไฟฟ้า และห้องน้ำส่วนตัว ไม่มีปลั๊กให้เสียบสายชาร์ต ถ้าชาร์ตต้องไปที่เค้าเตอร์ แนะนำเอาเพาเวอร์แบ้งติดตัวไปคะ

18 ก.ย. 2018 วันที่สอง

สำหรับอากาศยามเช้า เช้านี้มีโปรแกรมไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ประมาณ 6.30 น. แต่โชคร้ายกว่านั้น ฝนกำลังจะตก พายุมังคุด ก็เลยได้แค่ชมบรรกาศ แค่บรรยากาศโดยรอบก็ไม่ทำให้รู้สึกเสียดายโปรแกรมเช้านี้เลย

ถึงเวลา Check Out ออกที่พัก ประมาณ 8-9 โมง ก็นั่งเรือกลับเหมือนเดิมคะ ถึงท่าเรือเขื่อนประมาณ 11 โมงคะ จากนั้นก็โทรหาเบอร์รถตู้ขากลับเข้าเมือง เดินทางสู่ท่าเรือลมพระยาตาปี(ศรีสุราษฎร์) ซึ่งรอบนี้เราแจ้งคนขับไว้ด้วยนะคะ อันนี้แล้วแต่บางคัน คันนี้เขาขอคิดเพิ่มคนละ 50 บาท เข้าเมือง 200 (รวมเป็น คนละ 250 บาท)

ถึงท่าเรือประมาณ 13.00 น. ซึ่งทางทริปที่เราจอง เขาแจ้งว่าให้ถึงท่าเรือก่อน 1 ชั่วโมง เราจองตั้งแต่ต้นทริป ขึ้นเรือประมาณ 15.30 น. เช็คเอาตั๋วเรือไป-กลับ เอาเลขจากทางไลน์โชว์มือถือที่เค้าเตอร์เลยคะ เพราะทางทริปเขาจองให้เราเรียบร้อย

เวลาเหลือและหิว แนะนำร้านลำภู 2 เดินไม่กี่นาทีก็ถึง เพราะร้านอยู่ข้างท่าเรือเลยคะ อาหารอร่อยจริงๆ มื้อนี้เราจัดเต็มหมดไป 1800 บาท



15.30 น. ถึงเวลาขึ้นเรือ ขอย้ำส่วนมากฝรั่งต่างชาติเยอะมากคะ เพราะเกาะเต่าโดเด่นเรื่องการดำน้ำ "scuba" ทั้งเกาะมีแต่ร้านดำน้ำ มีทั้งการเรียนดำน้ำด้วยคะ ส่วนเกาะพะงันก็ " Full moon Party" บางคนก็ไปเกาะสมุย

ใช้เวลาเดินทาง ตั้งแต่ 15.30 น. ถึง 19.20 น. เพราะเรือแวะส่งคนที่เกาะสมุย และเกาะพะงันก่อนคะ พอถึงท่าเรือจะมีพนักงานจากโรงแรมมาชูป้ายชื่อโรงแรมคะ มีหลายโรงแรมมากคะ ดูป้ายดีๆนะคะ แล้วเดินไปหาเจ้าหน้าที่ตรงนั้นเลย แล้วพนักงานจะพาเราไปรอรถรับส่งเข้าไปในโรงแรมอีกที รอรถที่ออฟฟิตของโรงแรมคะ

ถึงโรงแรม The beach club by haadtien ซึ่งเราเลือกประเภทห้องจากตอนที่จองทริปเรียบร้อยคะ

เข้าที่พักเสร็จ ก็ไปหาไรกินที่โรงแรม เนื่องจากมาถึง 19.30 น. กว่าจะรอนักท่องเที่ยวคนอื่นครบคนที่จะเข้าโรงแรม ไปถึง check in พร้อมเอกสาร เอากระเป๋าเข้าที่พักเสร็จ ก็หิวเลย --" ตัดสินใจกินที่โรงแรมเลยคะมื้อนี้

19 ก.ย. 2018 วันที่สาม

บรรยาการยามเช้าของโรงแรม

ทานอาหารเช้าเสร็จ ทางทริปเขาจะแจ้งเราว่าจะมีคนมารับเราไป ที่ร้านดำน้ำ เพื่อไปจุดรวมลคะ

ลุยยย......

เกาะนางยวน น้ำโครตใส ใสจริงๆ

ถึงเวลากลับขึ้นฝั่ง

ตอนกลับ บอกเขาขอเช่ารถจักรยานกลับ เพื่อที่ตอนเย็นค่ำๆ จะออกมาเที่ยวข้างนอก แนะนำร้านเช่าน้องปุ้ม เนื่องจากไม่ต้องเอาบัตรวาง แต่เอามัดจำวางแค่นั้นเลยคะ ร้านสะดวกคะ ตอนกลับออกมา เราก็คืนตรงนั้นและไปเอาตั๋วกลับขึ้นเรือสบายๆ ชิลๆ วันละ 200 บาท

ขี่มอไซต์อาจจะหวาดสียวหน่อยนึงกับทางขึ้น ถ้าขี่ไม่คล่องแนะนำค่อยๆขี่นะคะ เพราะทางค่อยข้างสูง พอถึงโรงแรมก็อาบน้ำ แล้วก็ไปร้านข้างนอกหาร้านตะเวนทั่วๆ ค้นในพันทิป เจอรีวิว ร้านโรตีข้างเซเว่น และก็ไปร้านโลตัสบาร์


20 ก.ย. 2018 วันที่สี่

ตื่นเช้าไปทานอาหารเสร็จก็เตรียมแพ็คกระเป๋ากลับ เนื่องจากรอบเรือ ออก 9.30 น. จึงต้อง check out ออกโรงแรม 8.40 น. เอารถไปส่งร้าน แล้วเดินไปเอาตั๋วตัวจริง ทางทริปส่งตั๋วมาทางไลน์ เราก็ไปเอาที่เค้าเตอร์เลยคะ แนะนำว่าไปเผื่อเวลาด้วยนะคะ เนื่องจากนักท่องเที่ยวเยอะมากกกกก จริงๆ เดี่ยวจะไม่ทันรอบเรือคะ วันเดินทางกลับ ท้องฟ้าถ้าจะเปิดขนาดนี้..

ถึงเกาะพะงัน แวะส่งผู้โดยสาร

ถึงท่าเรือลมพระยา ประมาณ 15.30 น. พอดีคะ ขึ้นรถต่อเลยคะ ฟรีคะ เนื่องจากราคารวมในทริปแล้ว

ถ้ามีโอกาสกลับไปอีก ก็ยังเลือกที่จะไปที่ๆนี่ หลงรักทะเลไทย... ^^

JJ Cps

 วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.28 น.

ความคิดเห็น