อ่างขางทริปนี้เป็นทริปสั้น ๆ 2 วัน 1 คืน ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2561

การเดินทาง แอร์เอเชีย

ดอนเมือง - เชียงใหม่ ไฟลท์ 6:40 - 7:55

เชียงใหม่ - ดอนเมือง ไฟลท์ 22:40-23:50

ใช้รถเช่า avis

ตั้งใจไว้เมื่อปีก่อนว่าปลายปีนี้จะไปอ่างขาง แต่เมื่อต้นปีมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่า

บ้านพักโครงการหลวงทุกที่ปิดให้บริการแก่บุคคลภายนอก

ใจก็คิดว่า ไม่เป็นไร ที่พักรอบ ๆ อ่างขางก็เยอะพอสมควร พักข้างนอกแล้วกัน

แต่พอเข้ากลางปีก็มีข่าวว่า บ้านพักบนอ่างขางทั้งหมดก็ปิดตัวลงเช่นกัน

จะเอาไงดีล่ะทีนี้ ไม่เป็นไร พักแถวฝางก็ได้ แล้วขึ้นลงเที่ยวอ่างขางเอา ไม่น่าไกลมาก

ปรากฎ เส้นทางขึ้นลงจากฝางถนนปิดซ่อม เปิดอีกทีเมษาปี 62 เลย


อะเฮื้อออออ แล้วเอาไงดี แผนตระเวนปลายปีคงพับไปก่อน

เพราะคนน่าจะเยอะ และที่พักบนอ่างขางไม่มี น่าจะลำบากสำหรับเรา


อย่ากระนั้นเลย ไปสำรวจพอสังเขปก่อนดีกว่า ช่วงตุลานี่หละ ปลายฝนคนยังไม่เยอะ

ก็หาที่พักแถวเชียงดาว เพราะต้องขึ้นลงทางนี้เนาะ

เดินทางกันเถอะ

รับรถเรียบร้อยก็ตรงเข้าเส้นทางไปเชียงดาวเลย แวะกินมื้อเช้าที่ร้านกาแฟฮิมน้ำ ตรงจุดตรวจแก่งปันเต๊า

โชคดีมาเช้าคนยังไม่มี ปกติร้านนี้คนเยอะตลอด ก็จัดมื้อเช้ากันไปเบา ๆ



อืมมมม ไม่น่าเบาเท่าไหร่นะ


ชอบร้านนี้เพราะวิวสวย บรรยากาศดี ยำวุ้นเส้นอร่อย

อิ่มหนำสำราญก็เดินทางกันเลย ถึงแยกเชียงดาว จะมีป้ายบอกเป็นระยะนะคะว่าให้ใช้ทางไหนไปอ่างขาง


ก็ตามป้ายไปเลย เลี้ยวซ้ายเข้าตามป้ายไปเรื่อย ๆ ไปโผล่บ้านอรุโณทัย แล้วก็ยาวไป ๆ ไม่ต้องกลัวหลง

ขนาดคนหลงทุกทริปอย่างเรา ทริปนี้ยังไม่หลงเลย ถนนเส้นนี้ก็โอเคนะคะ ถนนดี ไม่ชันขับง่าย ๆ ชิว ๆ

จุดชมวิวซุยถัง ก็จะเหงา ๆ หน่อย คนไม่มี อะไร ๆ ก็มีแค่ที่เห็นนี่หละค่ะ


ไปต่อเนาะ

ระหว่างทางก็สวยงามนะ หมอกจาง ๆ บาง ๆ ลอย ๆ

แล้วก็ถึงจุดชมวิวม่อนสน ตรงนี้เป็นลานกางเต๊นท์ที่เดียวที่อนุญาตให้พักได้บนอ่างขาง

วันที่เราไปก็ยังไม่มีนักท่องเที่ยวนะคะ แต่หลังจากนี้น่าจะมีเรื่อย ๆ หละ

พื้นที่ก็กว้างขวางแหละ แต่ถ้าช่วงปีใหม่นี่ยังนึกไม่ออกจะรองรับผู้คนไหวมั้ย

จากม่อนสนเข้าหมู่บ้านขอบด้งกันสักหน่อย

ภูเขาสตรอเบอรี่ ที่ยังไม่มีสตรอเบอรี่

ก็ดูวิถีชีวิต ผู้คนหมูไก่กันไป

ก็พอดีได้เวลาหิว ไปหาอะไรกินที่สโมสรสถานีเกษตรหลวงกันเถิด


#สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

เป็นวันที่ไม่มีคนจริง ๆ ตรงทางเข้าหน้าโครงการหลวงเงียบเหงาวังเวง

ที่พักร้านรวงต่าง ๆ ปิดเงียบสนิท ถ้าเป็นปีก่อน ๆ คงคึกคักพอสมควร

ขับเข้าไปข้างในโครงการหลวง เห็นผู้คนบ้างประปราย

ก็ว่าจะไปสำรวจแปลงบ๊วยซะหน่อย ฝนลงเม็ดมาปรอย ๆ งั้นไปหาข้ากินเลยแล้วกัน


ภายในร้านสโมสรมีแค่เรา โอ้ เหงาจัง


อาหารยังคงอร่อยตามมาตรฐานโครงการหลวง

ไก่มะนาวอะไรสักอย่าง จำชื่อไม่ได้หละ ชอบมากเมนูนี้

ปลาเทราต์หรือสเตอร์เจียนหว่า จำไม่ได้แล้ว (ขี้ลืมนะเรา)

ลาบเห็ด อร่อยมากเลย

ส่วนอันนี้ ไก่ดำตุ๋นยาจีน อิฉันกินไม่เป็นค่าาา ขอบาย

คนข้าง ๆ อุตส่าห์สั่งมาให้กินบอกว่าของดีจะได้บำรุงร่างกาย

ก็ลองดูแล้วนะ ไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ ไม่ใช่ทางเรา 5555


อิ่มแล้วก็ขับรถวนไปวนมานิดหน่อย ฝนปรอย ๆ ไม่ค่อยได้ลงไปถ่ายอะไร

ไปแปลงชา ๒๐๐๐ กันเถอะ


#แปลงชา ๒๐๐๐

โอ้ อาณาจักรนี้เป็นของเรา แทบไม่มีคนเลย

และ ไม่มีหมอก ไม่มีแสง ไม่มีอะไรใด ๆ เลยเช่นกัน แง ควรต้องมาเช้าตรู่สินะถึงจะมีแสงสวย ๆ

ไม่เป็นไร ไว้มาใหม่ในวันที่ข้างบนนี้มีที่ให้พักเนาะ

ลงเถอะ เดี๋ยวจะมืดซะก่อนเข้าที่พัก มืด ๆ เดี๋ยวก็หลงทางอีกหรอก


ระหว่างทางนี่ก็วิวสวยแฮะ


ม้าแถวนี้เขาเลี้ยงปล่อยกันรึ เห็นเพียบเลยตามทาง


ก็ส่องวิถีชีวิตผู้คนไปเรื่อย



#บ้านผ่อดอยกอยดาว

ลงมาถึงเชียงดาวเข้าที่พักเลย อยู่ในตัวเมืองเชียงดาวแหละ เข้าซอยไปหน่อย

มาถึงที่นี่แสงเย็นกำลังงาม ชอบจัง

รูปที่นี่จะเยอะหน่อย เพราะเราชอบ

บ้านผ่อดอย กอยดาว มีบ้านพักแค่สองหลังกลางทุ่งนา

วิวเบื้องหน้าคือความตระหง่านของดอยหลวงเชียงดาว



ทางเข้าก็ประมาณนี้ มีความบ้าน ๆ กันไป เราชอบ

ที่นี่เขาเป็นร้านกาแฟด้วย มีเค้กมีขนมขาย อ้อ มีอาหารง่าย ๆ ขายด้วย

ก็เช็คอินกันที่ร้านนี่หละ

เข้าห้องพักกันนนน นั่นไง

ห้องน้ำ เครื่องอาบน้ำสบู่ แชมพูมีให้พร้อม มีเครื่องทำน้ำอุ่น

ต้องบอกก่อนว่า ห้องพักที่นี่สำหรับพักผ่อนจริง ๆ นะ ที่นี่เขาไม่มีทีวีตู้เย็นอะไรทั้งนั้น

มีเพียงพัดลมติดผนังเท่านั้น ใครต้องการวามสบายแบบเว่อวัง ก็ข้ามไปเนาะ



สำหรับเรานั้น ชอบที่นี่มาก สวย สงบ นอนหลับสบายมากมาย ตื่นเช้ามาสดชื่น



สำหรับอาหารเย็นเขาจะมีชุดหมูกะทะ หรือขันโตก อันนี้แจ้งไว้ล่วงหน้านะคะถ้าใครจะรับ

ส่วนเราไม่ชอบกินหมูกะทะ และอาหารพื้นบ้านก็ไม่ถนัดนัก จึงมาสั่งอาหารตามเมนูปกติเขา

อันได้แก่ ไก่กระเทียมราดข้าวไข่ดาว เอ้อ เราสั่งเค้กชอคโกแลตมาไว้กินตอนดึกด้วยหละ

เค้กอร่อยมากอ่ะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ ลืม!


ตัดมาตอนเช้าเลยแล้วกัน ก็คาดหวังว่าจะเห็นหมอกลอยคลอเคลียดอยหลวง

ปรากฎ ดอยหลวงหายค่ะคุณผู้ชม!! หายไปไหน หายไปกับหมอกที่ฟุ้งเกินความพอดี

ไม่เป็นไร คว้ากล้องออกไปเดินเล่นตามท้องนาก็ได้

ชอบจังเลย มีความสดชื่น

เดินไปเดินมาตกคันนาบ้างอะไรบ้าง ก็กลับไปกินมื้อเช้า เป็นอาหารง่าย ๆ ตามภาพเลยค่ะ


กาแฟสั่งเพิ่มต่างหากนะคะ ไม่ได้รวมอยู่ในอาหารเช้า


อ้อยอิ่งอีกเล็กน้อยก่อนเก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์

ส่วนตัวประทับใจกับที่นี่นะคะ ราคาที่พักพันเศษ ๆ กับการพักผ่อนที่สงบได้ดั่งใจ

คราวหน้าอาจกลับมาใหม่ กลิ่นข้าวเขียวยังหอมอวลติดจมูก


#วัดผาลาด

ออกจากเชียงดาวก็มีเวลาเหลือ ๆ อีกพอสมควร แวะไปวัดบ้างอะไรบ้าง

วัดผาลาดค่ะ อันนี้เราไม่รู้จักมาก่อน อย่างว่าแหละ เราไม่ใช่สายวัดปกติไม่ได้ชอบเข้าวัดเท่าไหร่

แต่พอดีระหว่างเดินทางก็เปิดหานั่นนี่ไปเรื่อย วัดผาลาดก็ขึ้นแนะนำมาให้หน้าเฟซ

กดดู เฮ้ย! น่าสนใจ ไป ๆๆ


วัดผาลาดอยู่บนเส้นทางเดียวกับที่ขึ้นดอยสุเทพ จะอยู่ซ้ายมือก่อนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ

จริง ๆ ก็มีป้ายใหญ่โตริมถนน แต่คนไม่ค่อยสังเกตุกันไง

เพราะจุดหมายคนส่วนใหญ่ มักอยู่ที่พระธาตดอยสุเทพ

เราเองขนาดตั้งใจไปก็ขับเลย ต้องหาทางวนลงมาอีก

เป็นวัดที่สวยงามมากทีเดียว ร่มรื่น มีน้ำตกไหลผ่านวัดด้วย

ไม่ค่อยมีคนไทยมากันเท่าไหร่ เท่าที่เห็นมีแต่ฝรั่งกับญี่ปุ่น

วัดผาลาด สวยแปลกตาดี

ปฎิมากรรมและประติมากรรมบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าแนวไหน

เหนือก็ไม่ทั้งหมด พม่าก็มีส่วน มีความบาหลีบ้างเล็กน้อย

จริง ๆ วิวเหนือน้ำตกมองลงไปเห็นเมืองเชียงใหม่ด้วย

แต่วันนั้นหมอกและไอแดดค่อนข้างหนาแน่น ถ่ายรูปลงมาก็มองไม่เห็น

เราเห็นฝรั่งเดินลงมาจากบนภูเขากันเพียบ

ทีแรกก็สงสัยเขาเดินลงมาจากไหนกัน พอดีมีคนในพื้นที่บอกว่า

มีเส้นทางลัดขึ้นลงดอยสุเทพ ฝรั่งชอบเส้นทางนี้กันมากเลย

โอเค คราวหน้าเราจะลองขึ้นลงดูบ้าง



มีนกยูงด้วย น่ารักเชียว

ออกจากวัดผาลาด เวลาก็ยังเหลือเฟือ ไปไหนดีล่ะ?

#วัดอุโมงค์
ขับรถวนไปวนมา ไปวัดอุโมงค์แล้วกัน เคยไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ยังเหมือนเดิมไหมนะ

มีความแตกตื่นเล็ก ๆ กับความเปลี่ยนแปลงรอบ ๆ วัด

เราว่าเราไปครั้งแรกเมื่อไม่กี่ปีผ่านมาเองนะ

ตอนนั้นบริเวณรอบวัดไม่มีอะไรเลย มีบ้านคนประปราย แล้วก็ป่ารก ๆ พื้นที่ว่าง ๆ ไรงี้

ทางเข้าวัดก็เป็นลูกรังอยู่เลย เราปั่นจักรยานไปชิว ๆ

ครั้งนี้ไปอีกที เฮ้ยยย ไรเนี่ย รอบ ๆ วัดคือเมือง

อาคารตึกรามบ้านช่องเต็มพื้นที่ มีโรงแรมหรูละแวกนั้นด้วย

ถนนรถราขวักไขว่เต็มไปหมด

เล่นเอายืนงงในดงเมือง

ใช่เหรอวะ นี่ละแวกวัดอุโมงค์จริงเหรอ

อึน ๆ มึน ๆ เลยเรา แต่ในวัดก็สงบเงียบอยู่แหละนะ

แม้ไม่เท่าเดิม แต่ก็ไม่มีอะไรเอิกเกริก

อ้อ ดูเหมือนต้นไม้จะน้อยลงกว่าเดิมนะ เมื่อก่อนรู้สึกเป็นป่ามากกว่านี้

ไก่เยอะเหมือนเดิม น่ารักดี

ส่วนนางคนนี้นอนระเหิดระหงดีแท้

คิด ๆ ไป ก็นะ โลกหมุนเร็วจนเราตามไม่ทัน หรือว่าเราเป็นคนเดินช้าเองก็ไม่รู้นะ

จบรีวิวที่ป้ายนี้แล้วกัน อ่านแล้วสะเทือนใจ!



ออกจากวัดอุโมงค์ก็ไปกินโอ้กะจู๋เช่นเคยแหละค่ะ

จากนั้นก็เข้าสนามบิน ส่งรถ รอไฟลท์กลับ เป็นอันจบทริป เจอกันใหม่ทริปต่อไปค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมกระทู้ค่ะ

Paramee Na Prasri

 วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 13.49 น.

ความคิดเห็น