เราออกเดินทางเพื่อทิ้งโลกทั้งใบ
แต่สุดท้ายกลับอยากเก็บมันไว้ให้นานที่สุด

วันนี้มาแบบมีสาระนะ มีสาระบ้างก็ดีเนาะ
สวัสดีจ้า แจ๊คคนเดิมมาอีกแล้ววววว วันนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ไหน อดใจรอสักครู่ ขอขายของแป๊ปปปป
ก่อนเดินทางมารู้จักกันมากขึ้น ฝากติดตามการเดินทางของแจ๊คได้ที่เพจค่ะ
เพจเราชื่อ นักเดินทางตัวน้อย
https://www.facebook.com/journeymemories/
ฝากกดไลค์ให้กำลังใจด้วยนะคะ
ขายของเสร้จแล้ว เดินทางต่อได้ เฮะ!!!!
วันนี้แจ๊คขอพาเพื่อนๆไปสัมผัสความงามของดอยทูเล จ.ตาก เขาว่าโหดนัก จะสวยแค่ไหนตามแจ๊คมาค่ะ
ม่อนทูเลหรือ ดอยทูเล หรือภาษาปกาเกอะญอ เรียกว่า ทูเลโค๊ะ” แปลว่า“ภูเขาสีทอง”
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก
ความสูง 1,350 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
เหมาะสำหรับการกางเต็นท์นอนชมดาว ดูหมอก และเก็บภาพอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ที่เดียวครบเลยค่ะ
ระยะทางราวๆ 6-7 กิโลเมตร เดินประมาณ 4-7 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น อันนี้ก็แล้วแต่ความเร็วความช้าของแต่ละคนนะ
ดอยทูเลจะเปิดให้นักเดินทางไปพิชิตในช่วงตุลาคมเป็นต้นไปของทุกปี แต่วันที่นั้นต้องติดตามในเพจ ดอยทูเลค่ะ
เจ้าหน้าที่จะอัพเดตให้ตลอด และในนั้นมีค่าใช้จ่าย เบอร์โทรในการจอง มีบอกไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

photo by กิต

วิธีการมาพิชิตดอยทูเล

ต้องโทรจองล่วงหน้านะคะ เบอร์นี้ค่ะ 088-4288790 แจ้งเส้นทาง วันที่ จำนวนคน ชื่อ เบอร์โทรของคนจอง

สำหรับเส้นทางนั้นมีเส้นทางให้เลือกประมาณนี้ค่ะ

สำหรับ ทริป 2 วัน 1คืน ตัวอย่างเช่น

ขึ้นทางทูเล ลงทางม่อนคลุย

ขึ้นทางม่อนคลุย ลงทางทูเล

ส่วนเราสายแข็ง ขึ้นทางทูเลลงทางทูเล เส้นทางชัน ชนิดที่ว่าต้องร้องขอชีวิตเลย แต่มันใกล้กว่านะ



จองเรียบร้อยเจ้าหน้าที่จะเตรียมรถกะบะ และลูกหาบไว้ให้ค่ะ

นี่เป็นครั้งที่2 ที่แจ๊คได้ไปพิชิตดอยทูเล

แต่ทริปนี้เราไปกัน 20 คนเหมารถตู้ไปกัน 2 คันค่ะ และมีน้องขี่มอเตอร์ไซค์มาจากแม่ฮ่องสอนมาสมทบ รวมทั้งทริปเป็น 21 คน

ลุงศักดิ์ถ่ายภาพให้แหละ ทั้งขับรถ ถ่ายภาพ เดี๋ยวจะให้เป็นลูกหาบด้วย อิอิ

การเดินทาง เราต้องเดินทางไปที่ อบต.ท่าสองยาง พบเจ้าหน้าที่ ลงทะเบียน เราจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากันตรงนี้

ต่อไปก็นั่งรถกะบะไปยังจุดเริ่มเดินและพบลูกหาบ

photo by เต้

ดอยทูเลนี้ จุดเริ่มเดินจะอยู่ที่บ้านแม่จวาง

ไปถึงเราก็จัดแจงสัมภาระ แยกของกองกลางให้ลูกหาบ



ก่อนเดินถ่ายภาพหมู่ร่วมกันก่อน หน้าตาก็ยังสดใสกันดี

เรียบร้อยแล้วก็เดินกันเลยค่ะ


ระยะทางช่วงแรก เราจะเดินลัดเลาะตามคันนา จุดนี้ต้องระวังนะ คันนาแคบมาก ตกคันนาไปหลายคนค่ะ 55555

สถานีต่อไปก็ข้ามรั้ว

และเดินไต่ระดับสูงขึ้น เราจะมองเห็นวิวทุ่งนา

จากตรงนี้เราจะเดินเข้าป่ากันยาวๆเลย เส้นทางราบสลับชัน ตอนชันนี่ก็ชันมากๆ


แจ๊คเอาภาพทูเลรุ่น 1 มารวมๆด้วยค่ะ


ไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ5555 เหนื่อยจ้า


ดูที่คาง เหงื่อไหลเป็นสายน้ำ หยดแหมะๆๆๆๆ

ต้องพักกันหลายยกเลย

ตามเส้นทางจะมีลูกศรสีแดง บอกทางเป็นระยะๆ บางจุดเป็นตัวอักษรแต่บางแยกไม่มี ต้องรอลูกหาบบอกทางค่ะ

ตอนแรกก็เดินเกาะกลุ่มกันดี เดินๆไป เริ่มแยกกัน บางคนฟิต บางคนไม่ฟิตก็เดินกันตามกำลังค่ะ

เพราะถ้าคนเดินช้าไปเดินกับคนเดินไว จะเหนื่อยมาก ตามไม่ทัน

ส่วนเราเดินกลางๆ ตามข้างหน้าไม่ทัน รอข้างหลังก็ช้าเกิน สรุป ต้องเดินคนเดียว555

ระหว่างทางจะมีลำธารเล็กๆ พอให้กรอกน้ำดื่มได้ ตามทางมีสัญญาณโทรศัพในบางจุด

เราก็โทรคุยกันบ้าง แชทถามการเดินทางกันบ้าง บางช่วงเหงาจัด ก็ Live ในfacebookเลย

แต่บอกเลย คลื่นดีแทคดับสนิทจ้า ไปย้ายเถอะเชื่อเรา

น้องๆบอก พี่แจ๊คแมร่งชิล เดินไป Live ไป

ป่าวเลย พี่เหงา เดินคนเดียว 55555


ทางชันที่สุดจะอยู่ช่วงสุดท้าย ทั้งชันทั้งมีหิน แดดร้อนตลอดนะช่วงม่อนสุดท้าย

แต่เราจะได้เห็นวิว และเขาที่เราเดินผ่านมา



กลุ่มที่มาแรกๆรอเราอยู่จุดนี้ ยังไม่มีใครขึ้น เพราะมีเราคนเดียวที่รู้จุดตั้งแค้มป์

เราก็ทำหน้าที่แอดมิน เดินนำทัพ

เหนื่อยมากนะเดินนำเนี่ย ชันก็ชัน โอ้ยยยยย ให้ตายเหอะ เดินไปพักไปเหอะ เดี๋ยวเป็นลม


ในที่สุดพวกเราก็ถึงจุดตั้งแค้มป์ ได้จุดที่เราเล็งไว้ คือริมลำธาร บนดอยมีจุดตั้งแค้มป์อยู่กระจายๆกันไป

ผู้รอดชีวิตชุดแรกถึงแล้ว แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้จ้า อุปกรณ์ตั้งแคมป์อยู่ที่ลูกหาบคนหลัง


นั่งพักก่อนค่ะ ขอบคุณภาพจากน้องแชมป์

กราฟเส้นทางที่เราเดินมาค่ะ จากนาฬิกาน้องแช้มป์

เวลาผ่านไปสักพัก สมาชิกทยอยขึ้นมา ลูกหาบทยอยมา เราตั้งแคมป์กลาง กางเต๊นท์ให้คนที่ยังมาไม่ถึง

เราชอบตรงนี้เพราะลมไม่แรงและใกล้น้ำ

อ่อลืมบอก บนดอยมีห้องน้ำด้วยนะคะ ห้องน้ำดีเลย มีก็อกน้ำต่อขึ้นไป ใช้สะดวกสบายค่ะ

หมูก็อยู่กับลูกหาบคนข้างหลัง งั้นขออาบน้ำก่อนค่ะ

อาบน้ำก็แล้ว อะไรก็แล้ว หมูก็ยังไม่มา รื้อของดู หุงข้าวได้ งั้นหุงข้าวก่อนละกัน ตอนนี้ทำได้แค่นี้5555

ช่วงเย็นทุกคนพักผ่อนตามอัธยาศัย บางคนไปดูพระอาทิตย์ตกดิน บางคนช่วยกันทำกับข้าว

ส่วนแจ๊ค ต้องทำกับข้าวค่ะ ไม่ได้เดินขึ้นไป แต่เราใช้โดรนบินถ่ายภาพค่ะ

แสงเย็นนี้สวยมาก

เราจะมองเห็นจุดตั้งแค้มป์อีกจุดด้วย



ขอเอาภาพจากครั้งที่แล้วมารวมด้วยนะคะ เพราะสวยทั้งสองรอบเลย


พระอาทิตย์ดวงโตของวันนี้ค่ะ

ขอบคุณภาพพระอาทิตย์ไข่แดงจากน้องแช้มป์

ลูกหาบมากับสมาชิกคนสุดท้าย นั่นก็คือ น้องนัท หรือหัวหน้าเผ่าของเรานั่นเอง เล่นเอาเกือบจะมืดเลยจ้า

สายล่าช้างก็ไปเก็บช้างกันก่อน นี่คือช้างคืนนี้ ก่อนจบฤดูกาลล่าช้างเผือก

ขอบคุณภาพทางช้างเผือกจากปาล์มค่ะ

คืนนี้ อาหารจะเสร็จช้าหน่อย เพราะอุปการณ์มาช้า พ่อครัวแม่ครัวช่วยกันอย่างแข็งขัน

ขอบคุณภาพจากน้องเต้

กับข้าวเสร็จ ทุกคนกินกันอย่างตั้งใจ หิวมากจ๊ะ55555 ไม่ได้ถ่ายภาพไว้เลย หิวจริง

หลังจากทานข้าวเสร็จก็นั่งคุยกันผิงไฟ ย่างหมู สังสรรค์

บรรยากาศของทริปนี้ เราการันตีตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทางว่าฮาแน่นอน

หัวเราะกันจนเหนื่อยตั้งแต่อยู่ในกรุ๊ปไลน์ ทุกคนเข้ากันได้ดี เฮฮาเกินไป๊ นี่แหละการเที่ยวแบบของเรา ไม่ต้องรู้จักใครก็ได้ เดี๋ยวมารู้จักกันเองในทริป

เราเชื่อว่าโลกจะเหวี่ยงคนบ้าๆมาเจอกัน 555555

คืนนี้ใครเพลียก็เข้าเต๊นท์ไปก่อน เราเอาเปลไปผูกนะ แต่นอนแค้มป์กลาง เราว่าแค้มป์กลางอุ่นดี อิอิ

แต่กว่าจะได้นอน เครื่องดื่มที่เตรียมกันไป เราต้องเคลียร์ให้หมด

เคลียร์เครื่องดื่มเหรอ

ป่าววววว เคลียร์คนนี่แหละ นอนแค้มป์กลางต้องส่งแขก 555

สุดท้ายมันมีคนนอนไม่หลับไง แอดมินรู้ใจน้อง เลยเรียกมานั่ง ตั้งวงเล็กๆอีก 1 รอบ

ได้เวลาอันเหมาะสม พวกเราแยกย้ายกันเข้านอน แหม กว่าจะได้นอนนะ

อากาศหนาวค่ะแต่พอเข้าถุงนอนแล้ว หลับสบายเลย ตีห้าครึ่งพรุ่งนี้เจอกันนะ เราจะขึ้นไปเก็บวิวตอนเช้า

ยอดนี้ไม่ซีเรียสว่าทุกคนจะต้องตื่นไปพร้อมกัน เพราะเดินไม่ไกล และไม่หลงแน่นอน เขาเป็นเขาโล้นๆ มองเห็นยอด ใครตื่นไหวก็ไป ใครตื่นไม่ไหวก็ตามขึ้นไปทีหลัง

DAY 2 เช้านี้ลืมตาขึ้นตีห้ากว่าๆ เอื้อมมือไปปลุกเจ้าแช้มป์ที่นอนแคมป์กลางด้วยกัน

(น้องบอกนี่ใช้มือหรือใช้เท้า ปลุกทีนึงหน้าสั่นเลย) โถ่วววว พี่ปลุกเบาๆนะ 55555

เตรียมอุปกรณ์ แล้วเดินขึ้นเขาท่ามกลางความเหน็บหนาว ต้องเร่งฝีเท้าค่ะ กลัวไม่ทันแสงเช้า

เหนื่อยมากค่ะ

และนี่ก็คือภาพของเช้านี้ ก่อนพระอาทิตย์จะมา

เขาลูกข้างหน้า ยังเดินไปได้อีก แต่เราอยู่แค่ยอดนี้ค่ะ

แสงเริ่มมาแล้วล่ะค่ะ พระอาทิตย์ขึ้นแล้วแต่ถูกเขาบังไว้

ภาพนี้จากปาล์มเพื่อนร่วมทริปที่บ้าพลัง เดินไปยอดนู้น5555

ถ้ายืนอยู่ตรงป้าย เราจะได้ภาพพระอาทิตย์ขึ้นแบบนี้ค่ะ


มาดูทะเลหมอกกันค่ะ

ภาพเยอะค่ะ มีทั้งนายแบบนางแบบ ช่างภาพทำหน้าที่กันอย่างแข็งขัน

เทพแช้มป์


ทูเลรุ่น 1

photo by กระแต

Photo by Palm

พวกเราก็ยังถ่ายภาพกันอย่างต่อเนื่อง555


Photo by แช้มป์

Photo by กิต

Photo by เฟียส

ไม่มีคำพูดมากมาย มีแค่ธรรมชาติตรงหน้า ที่อยากเอามาถ่ายทอด

หลังจากเก็บภาพข้างบนจนหนำใจ เราเดินลงมาถ่ายภาพอีกจุดด้านล่าง

ไม่มีอะไรจะพูด โชว์รูปอย่างเดียวแล้วค่ะ

แค่อยากจะบอกว่า ดอยทูเลสวยมาก อยากให้ลองไปกันค่ะ

แอคอาร์ตถ่ายภาพกันยกใหญ่ คือจะไม่มากันอีกแล้วใช่มั้ย5555 เอาให้คุ้มกับความเหนื่อยเนาะ



ลากันไปด้วยภาพนักแสดงนำฝ่ายหญิง อิอิ

หลังจากนี้ เรากลับแค้มป์ทานอาหารเช้า เก็บสัมภาระ แล้วอำลาดอยทูเล

พร้อมแล้วก็เดินกันเลยจ้าสาวๆ ดูพร้อมมากนะ ขอบคุณภาพจากพี่น้ำอ้อย

A:แหม พวกเรานี่ไม่อยากจะกลับเลย

B:มันสวยมากจนอยากอยู่นานๆใช่มั้ย

A:ป่าวววววว ทางมันชัน เจ็บเท้าาา

ผ่าม!!!!!!!!

ขอบคุณทุกคนที่ไปลุยด้วยกัน

แจ๊คขอจบรีวิวดอยทูเลไว้เท่านี้นะคะ ดอยทูเลเป็นอีกดอยที่บอกเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ควรไป

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้

และแจ๊คหวังว่ารีวิวนี้จะสร้างแรงบรรดาลใจ ให้ใครสักคนออกเดินทาง

ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ต้องเดินทาง


ฉันอยากให้เธอ อยู่ในเรื่องราวของฉัน

สักวันเราคงได้มาร่วมสร้างเรื่องราวด้วยกัน

แจ๊ค:นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/journeymemories

นักเดินทางตัวน้อย

 วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 09.25 น.

ความคิดเห็น