สวัสดีครับ พบกับเรา กันอีกครั้ง ทริปนี้เราพาเพื่่อนๆร่วมเดินทางไปกับพวกเรา กับการเที่ยวเเบบ One Day Trip ด้วยการเหมารถไฟสุดหรูระดับเฟริร์สคลาสของประเทศไทย SRT Prestige เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กับคนเเปลกหน้าทั้ง 55 ชีวิต ภายในรถไฟจะหรูหราเเค่ไหน ว่าเเล้วขึ้นรถไฟตามเรามาเลยยยยยยย

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้ารถไฟสุดหรูชุดนี้กันก่อนดีกว่า SRT Prestige หรือขบวนรถชุดเกียรติยศรถไฟไทย ชุดรถไฟระดับเฟิสต์คลาสของไทย จะมีทั้งหมด จำนวน 4 ตู้ โดยเเบ่งเป็น รถประชุมปรับอากาศ 1 ตู้ -รถนอน 1 ตู้ - รถเสบียง (ครัวร้อน)1 ตู้ - รถเสบียง (ครัวเย็น) 1 ตู้ โดยขบวนรถชุดนี้ได้ดัดแปลงมาจากรถโดยสารปรับอากาศเจอาร์-เวส เ้พื่อให้บุคคลทั่วไปได้เช่าเป็นชุดขบวนรถเพื่อเดินทางประชุม สัมมนาย่อย และท่องเที่ยว รถชุดนี้จะไม่มีวิ่งบริการทั่วไปนะครับ เเต่จะให้บริการเป็นการเช่าเท่านั้น โดยการเช่านั้นมี 2 ประเภท คือ เช่าและพ่วงไปกับรถขบวนเดินรถปกติ หรือเช่าเป็นขบวนพิเศษที่วิ่งต่างหาก


ว่าเเล้วก็มาพูดถึงการเดินทางของเรากันดีกว่า เราเดินทางไปกับทริปของการรถไฟเเห่งประเทศไทย เเต่ที่พิเศษกว่าคือครั้งนี้เราเหมาตู้รถไฟ ชุดรถ SRT Prestige กันถึง 2 ตู้ คือรถเสบียง (ครัวร้อน)1 ตู้ - รถเสบียง (ครัวเย็น) 1 ตู้ โดยทริปนี้เรามีสมาชิกร่วมทริปทั้งหมด 55 คน ต่างคนต่างที่มา ต่างคนต่างเพิ่งรู้จักกัน เเต่ตอนนี้เราเที่ยวด้วยกัน เป็นเพื่อนกันเเล้วนะ 07.10 น.รถไฟออกจากสถานีกรุงเทพตามเวลาครับ


ตารางเวลารถไฟขาไปครับ


ทีนี้เราขึ้นมาดูบรรยากาศภายในรถครัวเย็น (บจพ.ป.331) กันบ้างครับ โดยภายในจะตกเเต่งเป็นเเนวบาร์น้ำ นั่งชิลดูวิวระหว่างทาง โดยรถครัวเย็นเป็นห้องจัดเลี้ยงสไตล์ค็อกเทล มินิบาร์ เสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารปรุงสำเร็จ มีโต๊ะอาหาร 2 ที่นั่งและ 4 ที่นั่ง บาร์เก้าอี้สูง 7 ที่นั่ง และโซฟานั่งเล่นพักผ่อน สามารถรองรับได้รวม 35 ที่นั่ง เป็นรถที่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จ่ายกระแสไฟฟ้าได้

บรรยากาศภายในรถครัวร้อน(บจพ.ป.311) โดยรถครัวร้อนจะเป็นห้องอาหารเคลื่อนที่ มีโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่ง 4 ชุด และแบบ 2 ที่นั่ง เคาน์เตอร์บาร์ ห้องครัวที่มีเตาสำหรับปรุงอาหาร 3 เตา บริการเครื่องเสียง เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยง มีจอทีวี2จอ สามารถรองรับได้รวม 25 ที่นั่ง เป็นรถที่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จ่ายกระแสไฟฟ้าได้

การเดินทางด้วยรถไฟขบวนพิเศษครั้งนี้ ทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย เพราะภายในขบวนรถไฟมีกิจกรรมให้ทำมากมาย สำหรับใครที่สนใจอยากนั่งรถไฟขบวนพิเศษ ต้องบอกก่อนว่าเงื่อนไขในการเช่ามีดังนี้

1.การเช่ารถโบกี้นอน หรือรถประชุม จะต้องเช่ารถเสบียงปรับอากาศ รถครัวร้อน หรือรถครัวเย็น เพื่อจ่ายกระแสไฟด้วย

2.หากเที่ยวขากลับ ให้รอรถข้ามวัน จะต้องเสียค่าธรรมเนียมอัตราค่าบริการคืนละ 6,000 บาท

3.สามารถเช่ารถเพิ่มได้ตามเงื่อนไขของการรถไฟแห่งประเทศไทย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและอัตราค่าบริการ ได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย เบอร์ 1690 หรือ www.railway.co.th

วิวสวยๆจากท้ายขบวนรถครัวเย็น

ถึงอยุธยาเราก็เเจกอาหารเช้าให้สมาชิกภายในรถได้กินกัน

ระหว่างทางก็มีการเล่นเกมส์เเจกของรางวัลให้กันพอหอมปากหอมคอครับ

10.11 น.รถไฟถึงจุกชมวิวรถไฟลอยน้ำตามเวลา โดยที่รถไฟจะจอดให้เราถ่ายรูปและชมวิวตรงจุดนี้เป็นเวลา 30 นาที อยากบอกว่าเฮ้ยยย มันสวยมาก บรรยากาศจริงมันสวยกว่าในรูปมาก อยากให้มาเห็นด้วยตาตัวเอง เเต่ที่เเน่ๆคือคนเยอะมากกกกกก

11.32 น.รถไฟถึงที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ตามเวลา โดยที่รถไฟจะจอดให้นักท่องเที่ยงลงเที่ยวเขื่อนป่าสักเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เมื่อนักท่องเที่ยวลงหมดเเล้วขบวนนรถไฟจะเคลื่อนขบวนไปจอดรอเวลาที่สถานีรถไฟเเก่งเสือเต้น เเล้วจะกลับมารับนักท่องเที่ยวที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อีกทีในเวลา 15.30 น.

ตารางเวลาเดินรถไฟที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ลงจากรถไฟมาเเล้วด้านหลังที่หยุดรถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะมีร้านอาหารจำพวกอาหารตามสั่งให้เลือกกินกันหลากหลาย หรือจะเดินมาที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็จะมีศูนย์อาหารให้เลือกกินเช่นกัน

ภายในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะมีบริการรถตัวหนอนพาเที่ยวรับลมชมบรรยากาศภายในสันเขื่อน บัตรราคา 30 บาท/คน โดยรถจะใช้เวลาพาเราชมรอบๆเขื่อนเป็นเวลาประมาณ 45 นาที

ระหว่างอยุ่บนรถตัวหนอนจะมีไกด์น้อยมาคอยให้ความรู้เกี่ยวกับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้วยนะ

บรรยากาศระหว่างทางบนรถตัวหนอน เหมือนจะร้อนเเต่อยู่บนรถลมเเรงมากๆเย็นสบายเลยละ

รถตัวหนอนจะเเวะให้เราลงไปสักการะหลวงปู่ใหญ่เป็นเวลา 10 นาที

รอบๆหลวงปู่ใหญ่ มีของขายด้วยนะจะซื้อเป็นของฝากก็ยังได้ ราคาไม่เเพงครับ

นอกเหนือจากการนั่งรถตัวหนอนเเล้วเรายังสามารถขึ้นหอคอยเพื่อชมวิวเเบบ 360 องศาได้อีกนะ

หรือจะมานั่งรับลมริมเขื่อนก็ได้บรรยากาศไปอีกเเบบนะ

จุดนี้เป็นอีกจุดที่หลายๆคนต้องมาถ่ายรูปกับป้าย

จะเดินเล่นรับลมก็ยังได้ เพราะลมที่สันเขื่อนเย็นสบายมาก

หรือจะหนีอากาศร้อนๆมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดก็ยังได้

ก่อนกลับก็ยังมีตลาดให้เลือกซื้อของฝากของกินอีก โอ้ยยยย ฟินเวอร์

ก่อนกลับยังมีเวลาให้ถ่ายรูปเล่นกับขบวนรถไฟพอหอมปากหอมคอ

15.30 น .รถไฟออกจากที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามเวลาเป๊ะ

ตารางเวลารถไฟขากลับครับ

บรรยากาศขากลับบนขบวนรถไฟสุดหรู

18.30 น.รถไฟพาพวกเราถึงที่หมาย สถานีกรุงเทพตามเวลา เป็นอันจบทริปรถไฟหรูที่จะเป็นอีก1ความทรงจำดีๆอีก1ทริป

คลิปความรู้สึกที่ได้นั่งรถไฟหรูเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

คลิปวีดีโอลทริป ครั้งหนึ่งกับการนั่งรถไฟสุดหรู SRT Presting เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่ารีวิวไก่เขี่ยจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับนักเดินทาง เเล้วพบกันใหม่ในทริปต่อๆครับ ......ขอบคุณครับ ^^



Taeremix

 วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 02.39 น.

ความคิดเห็น