>> ติดตามเรื่องราวการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจสวัสดีคนแปลกหน้า

https://www.facebook.com/hellostrangerpage/

>> IG : hellostrangerth

https://www.instagram.com/hellostrangerth
.
.

#นั่งรถไฟไปเที่ยวน้ำตกที่สระบุรี

ทริปสามวันสองคืน แบ็คแพ็คเที่ยวเองแบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัวได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ทริปนี้เราตั้งใจว่า อยากจะไปหาที่กางเต็นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติ แต่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ค้นหาข้อมูลและแผนที่ประมาณนึง ก็สรุปได้ว่า เราจะเดินทางไปสระบุรีด้วยรถไฟ และต่อรถประจำทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทริปนี้ก็จะลุยๆ หน่อย ตามสไตล์สาย Backpacker โดยมีน้องอีกคนมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน ทริปนี้ไม่มีเหงาแน่นอน

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี


ลานกางเต็นท์บริเวณอ่างเก็บน้ำเขารวก ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จ. สระบุรี



อ่างเก็บน้ำเขารวก ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จ. สระบุรี


>> ถ้าพร้อมแล้ว...เรามาเริ่มออกเดินทางไปด้วยกันนะคะ : )


เราและน้อง เริ่มต้นออกเดินทางแต่เช้าที่หัวลำโพง เพื่อนั่งรถไฟไปยังปลายทางสถานีชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี


ค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถไฟครั้งนี้ ราคาคนละ 50 บาท



นั่งรถไฟกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ประมาณ 2.5 ชั่วโมง เราก็มาถึงสถานีชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี


จากสถานีชุมทางแก่งคอย เราก็เดินตรงไปยังวัดแก่งคอย ซึ่งเป็นจุดที่เราจะขึ้นรถประจำทางหรือรถสองแถวต่อไปยังน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีก็ถึงหน้าวัดแก่งคอย ระหว่างทางจะผ่านตลาดสดเทศบาลเมืองแก่งคอย เราเลยแวะซื้ออาหารตุนไว้เพื่อเป็นเสบียงสำหรับตอนกลางวัน



เรานั่งรถสองแถวสาย สระบุรี-แก่งคอย-มวกเหล็ก ราคาคนละ 30 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. และแล้ว เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ซึ่งรถจะจอดให้เราลงด้านหน้าอุทยานเลย (ระหว่างทางจะผ่านน้ำตกมวกเหล็กด้วยนะ หากใครที่สนใจอยากจะเข้าไปเที่ยว ก็บอกคนขับรถไว้ตั้งแต่ตอนขึ้นได้เลย แต่ตอนกลับอาจจะต้องรอรถนานหน่อย เพราะวันเสาร์-อาทิตย์ รอบรถจะน้อย)


ตรงจุดลงรถสองแถว คือบริเวณหน้าวัดน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เราสองคนได้แวะเข้าไปในวัด ไหว้พระและทำบุญ เสร็จแล้วก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม จะเจออุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย



ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย มีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ด้วย ซึ่งจะอยู่บริเวณลานนับดาว นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารและห้องน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย



นี่คือที่นอนคืนแรก วันที่เราไปคนเยอะมากๆ แต่ส่วนใหญ่จะไปเช้าเย็นกลับ ทำให้บรรยากาศโดยรอบลานกางเต็นท์ค่อนข้างเงียบสงบ



หลังจากกางเต็นท์เรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินเที่ยวรอบๆ ภายในอุทยาน



สะพานดงพญาเย็น ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย



โชคดีที่ตอนเราไปยังพอมีน้ำอยู่บ้าง ตรงจุดนี้สามารถลงเล่นน้ำได้



แค่ได้นั่งมองและฟังเสียงน้ำตก ก็รู้สึกสดชื่น : )



เช้าวันที่สอง เราเดินทางออกจากอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพื่อให้ทันรถสองแถวที่จะมารับเราเที่ยวแรก...รอไม่นาน รถสองแถวก็จอดรับเราด้านหน้าอุทยาน และมาส่งเราที่ บขส.สระบุรี จากนั้นเราก็ต่อรถหวานเย็นสีฟ้า สายสระบุรี-พระพุทธฉาย เพื่อเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น (หากเดินทางวันเสาร์-อาทิตย์ จะต้องเผื่อเวลาสักหน่อย เพราะเที่ยวรถน้อย วันนึงมีแค่ 2-3 รอบเท่านั้น)


รถหวานเย็นสีฟ้า สุดสายที่วัดพระพุทธฉาย เราเลยแวะไหว้พระและเที่ยวชมภายในวัด



ถามคนแปลกหน้าแถวๆ วัด เขาบอกว่า ด้านบนวัดพระพุทธฉาย มีจุดชมวิวที่สวยงาม จึงทำให้เราอยากที่จะเดินทางขึ้นไป



บันไดทางขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณด้านบนของวัดพระพุทธฉาย ถึงแม้จะไม่สูงมาก แต่ก็ทำให้เราพอได้เหงื่อจากการเดิน



ระหว่างทางเดินขึ้นบันได จะมีฝูงลิงจำนวนมาก คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย บ้างก็วิ่งตาม บ้างก็มาขออาหาร สำหรับเราขอแค่ยืนดูความน่ารักอยู่ห่างๆ ก็พอ 555





แวะไหว้พระที่วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี



และแล้ว...เราก็มาถึงจุดชมวิวด้านบนของวัดพระพุทธฉาย



ถึงแม้แดดจะร้อน แต่ข้างบนก็มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา



เราเดินทางออกจากวัดพระพุทธฉาย เดินเรื่อยๆ ไปตามทางถนนใหญ่ ก็พบป้ายบอกทาง ทำให้มั่นใจว่า ยังไงเราก็ไม่หลงแน่นอน ระยะทางจากวัดไปถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ประมาณ 3 กม. เดินไปได้สักพัก ก็มีคนแปลกหน้าจอดรถแวะรับเราให้ร่วมทางไปด้วย ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ : )


เที่ยวน้ำตกวันที่สอง ที่น้ำตกสามหลั่น ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จ. สระบุรี



ตอนที่เราไป น้ำค่อนข้างน้อยมาก เราเลยเลือกที่จะเดินศึกษาธรรมชาติภายในอุทยานแทน


ระหว่างทางเดินป่าและน้ำตกจะค่อนข้างลื่น ควรเดินด้วยความระมัดระวัง สวมใส่รองเท้าที่กระชับ และรองรับการเดินบนพื้นที่มีสภาพทั้งเปียกและแห้งได้ดี #keen #keenthailand



เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จ. สระบุรี


อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวก็คือ บริเวณอ่างเก็บน้ำเขารวก ซึ่งสามารถกางเต็นท์ได้ มีร้านค้าและห้องน้ำให้บริการ



เย็นของการเดินทางวันที่สอง เราใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่และกางเต็นท์นอนบริเวณอ่างเก็บน้ำเขารวก



เราเดินทางกลับตอนเช้าของวันที่สาม โดยเดินไปรอรถหวานเย็นเหมือนเดิมที่วัดพระพุทธฉาย ลงที่ บขส. สระบุรี และต่อรถตู้กลับกรุงเทพฯ


#สรุปสถานที่ท่องเที่ยว
1.วัดแก่งคอย
2.วัดน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
3.อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
4.วัดพระพุทธฉาย
5.อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น

#ค่าใช้จ่าย (ไม่รวมค่ากิน)

ค่ารถเมล์ไปหัวลำโพง 9 บาท
ค่ารถไฟ กทม.-ชุมทางแก่งคอย 50 บาท
ค่ารถสองแถวจากวัดแก่งคอย-อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 30 บาท
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 20 บาท
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น 20 บาท

ค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท

ค่ารถสองแถวจากน้ำตกเจ็ดสาวน้อย-บขส. 35 บาท
ค่ารถหวานเย็นจาก บขส.-วัดพระพุทธฉาย ไปกลับ 30+30 บาท
ค่ารถตู้กลับกรุงเทพฯ 90 บาท

ค่ารถเมล์กลับบ้าน 9 บาท

รวม 353 บาท

ถึงแม้การเดินทางในครั้งนี้ จะมีอุปสรรคบ้าง รอรถนานบ้าง เดินไกลบ้าง แต่เราก็ได้รับมิตรภาพการเดินทางที่ดีจากคนแปลกหน้า คอยช่วยเหลือและบอกทาง ทำให้การเดินทางในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ขอบคุณมากๆ นะคะ

#ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
#อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น
#นั่งรถไฟไปสระบุรี #สระบุรี
#keen #keenthailand
#NatureHike #NatureHikeThailand
#สวัสดีคนแปลกหน้า #HelloStranger

สวัสดีคนแปลกหน้า

 วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 13.48 น.

ความคิดเห็น