เที่ยวเขาใหญ่ชิลๆ แบบ 2 วัน 1 คืนกันมั้ย ?


ช่วงนี้ร่างกายเรียกร้องหาธรรมชาติ

และธรรมชาติที่เราไปได้ง่าย และน่าไปที่สุดในเวลานี้คงหนีไม่พ้น " Khao Yai "


ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเที่ยวพักผ่อนรับธรรมชาติกันแค่ด้านล่าง

ไม่ได้กะขึ้นไปด้านบนเขาใหญ่

แต่ไปๆมาๆ ดันไปโผล่บนเขาใหญ่ได้ไงก็ไม่รู้ ^,^


ว่าแล้วก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า สตาร์ทรถ แล้วกด GPS ไปเขาใหญ่โล้ด

https://goo.gl/maps/d4SqJmnNuxr

..

เริ่มต้นทริปนี้ด้วยการแวะเที่ยวเส้นทางที่ผ่านก่อนเลยค่ะ

เราแวะไปกันที่

สวนกระบองเพชรกลางดง

สวนกระบองเพชรกลางดง


ที่นี่เป็นอาณาจักรแคดตัสเลยก็ว่าได้ มีแทบทุกสายพันธุ์

แคดตัสทั้งหมดถูกจัดเรียงไว้ในโรงเพาะ อย่างสวยงาม

และเปิดให้คนเข้าไปชม ไปถ่ายรูป ไปเลือกซื้อได้

มีทั้งขายส่งและขายปลีก

ถูกใจต้นไหนก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้เลย

ใครที่ซื้อเยอะก็สามารถติดต่อถามราคาส่งได้ด้วยน๊า

จะบอกว่าด้านในสวยมาก มองมุมไหนก็เพลิน

แคดตัสละลานตา สามารถถ่ายรูปชิคๆได้ทุกมุม

ด้านหน้าทางเข้าจะมีพวกกุหลาบหิน จัดไว้ให้ชม

สีสันแถวนั้นคือวินเทจมาก Love เลย

ภายในแปลงมีเจ้าหัวสีเนี่ยเยอะมาก มีหลายสี ได้รับความนิยมสุด

ส่วนแคดตัสอื่นๆก้อมีเยอะเหมือนกัน ราคาเริ่มต้น 20 บาทเองน๊า

ใครที่ชื่นชอบหรือสนใจกระบองเพชร ผ่านมาแถวกลางดง

ก็อย่าลืมแวะมาที่นี่น๊า

ของจริงสวยกว่าในรูปอีก มีเยอะมาก ต้องมาจ้า

" มาเป็น FC แคดตัสแบบเราเร็ว "

..

:: แนะนำเพิ่มเติม ::

สำหรับใครที่จะเข้ามาที่สวนแคดตัสให้ลองสอบถามไปที่สวนก่อนนะคะ

ว่าวันนั้นสวนเปิดมั้ย เพราะบางวันเค้าจะออกไปส่งแคดตัสข้างนอก

เผื่อเข้าไป แล้วสวนไม่เปิด อาจจะเสียเวลาได้ค่า

:: สอบถามเพิ่มเติม ::

Facebook : สวนกระบองเพชรกลางดง

หรือโทร : 093-3646646

Line ID : klangdongcactus

สำหรับพิกัด กดลิ้งมาตามทางนี้ได้เลยนะคะ

https://goo.gl/maps/uz66HRGYYhG2


.............................

สถานที่ต่อไป

เราจะพาไปเติมหวานที่ Cafe’ กันค่า มาเขาใหญ่ไม่เช็คอิน Cafe’ ไม่ได้ !!

เดี๋ยวนี้นะ ที่เขาใหญ่ คาเฟ่เยอะมาก ร้านแทบจะติดๆกัน !!

เรียกว่าตั้งแต่เลี้ยวเข้าทางปากช่องมานี่นับร้านกันไม่ถ้วนเลย

แต่ละร้านนี่ก็ตกแต่งร้านได้น่าแวะเข้าไปทั้งนั้น ...แต่จะให้แวะไปทุกร้าน ก็คงไม่ได้สินะ!!

เราเลยตัดสินใจเลือกไปนั่งสวยๆที่ร้านนี้ค่า

Please Don't Tell Khaoyai

อย่าบอกใครนะ !!

ที่นี่เป็น Hidden Cafe’

Please Don't Tell Khaoyai

เป็น Cafe’ วิวเริ่ดอีกแห่งที่คู่ควรแก่การไป Check In เป็นอย่างมาก

ด้านในร้านตกแต่งสวย มีมุมเก๋ๆให้ถ่ายรูปเยอะเลย ถูกใจสาย Selfie แน่นอน

ส่วนรอบๆร้านก็บรรยากาศดีเวอร์ ได้นั่งชิลวิวธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร

ที่ร้านจะมีที่นั่งทั้งโซนด้านใน และโซนด้านนอก

แต่วิวด้านนอกคือดีมาก !! วิวชนะเริ่ด !!

ร้านนี้เค้ามีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม และที่โดนใจเราสุดก็เมนูเครื่องดื่มเลย

แบบว่าตกแต่งเครื่องดื่มได้น่ารักมาก เห็นแล้วเลือกไม่ถูก อยากจะสั่งมาลองทุกเมนูเลย

( อยากบอกว่าอาหารที่นี้ก็อร่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะข้าวผัด ให้คะแนนเต็มไปเลย )

ไปดูบรรยากาศรอบๆร้านกันดีกว่า ว่าจะชิล และวิวดีแค่ไหน

ในร้านถ่ายรูปได้ทุกมุม ถ่ายกันจนเมมเต็มไปข้างนึง !!

Please Don't Tell Khaoyai

อย่าบอกใครนะ !!! เดี๋ยวคนจะล้นร้าน

..

ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Monlada Khaoyai เส้น เขาใหญ่-วังน้ำเขียว กม 3

หรือ search Please Don't Tell Khaoyai ใน google map ได้เลยนะคะ

มาถึงหน้าโครงการถ้าเข้าไปไม่ถูก ถาม รปภ. ที่โครงการได้เลย

บอกเค้าว่าไปร้านกาแฟ พี่เค้าแนะนำทางมาร้านได้ละเอียดยิบ

ร้านเปิด 08:30 - 17:30 น.

:: สอบถามเพิ่มเติม ::

www.facebook.com/PleaseDontTellKhoayai

โทร : 084-9161466


.............................


ออกมาจาก Cafe’ เราจะไปนั่งช้างกันค่ะ

ตื่นเต้นมาก นี่จะเป็นการขี่ช้างครั้งแรกของช้าน ^^

คือมาเขาใหญ่ก็ตั้งใจอยากมาใกล้ชิดธรรมชาติ

เลยอยากหากิจกรรมที่ทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติได้มากที่สุด

ขี่ช้างนี่แหละ...ตอบโจทย์ !!

..

ก่อนมาเราเลยหาข้อมูล ว่าเที่ยวเขาใหญ่ไปขี่ช้างที่ไหนดี

ได้ข้อมูลมาเป็นที่นี่ค่ะ

The Jungle House Khaoyai


จริงๆแล้วที่นี่ ก็เป็นโรงแรมแหละ

แต่ในโรงแรมเค้ามีบริการนั่งช้างด้วย มันกู้ดตรงนี้

( ลูกค้าที่ผ่านไปมาถึงแม้จะไม่ได้เข้าพักก็สามารถมานั่งช้างได้เหมือนกันน๊า )


เห็นป้ายแบบนี้เลี้ยวเข้าไปเลยค่า

The Jungle House Khaoyai

ที่นี่เป็นโรงแรมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ

แบบเป็นธรรมชาติจริงๆ ที่เค้าไม่ได้ไปปรับอะไรในพื้นที่ป่าเลย

แค่ก้าวเข้าไปนี่ก็ได้กลิ่นความเป็นธรรมชาติมาเลยค่า

ที่นี่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ป่า เขา และลำธาร

ด้านหลังของโรงแรมเดินเข้าไปจะเจอป่า เรียกว่าเป็นป่าที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

สามารถเข้าไปสัมผัสธรรมชาติของป่าได้โดยที่ไม่ต้องขึ้นไปบนเขาใหญ่เลย

ใครที่ชอบความเป็นธรรมชาติ ชอบอยู่กับธรรมชาติ อยากให้ลองมาที่นี่ค่ะ

สายธรรมชาติถ้าได้มาพักที่นี่นะ รับประกันถูกใจแน่นอน

..

และทริปนี้สายธรรมชาติอย่างเรา มีรึจะไม่จองห้องพักที่นี่

ธรรมชาติเรียกร้องมาขนาดนี้ เดินออกไปโดยไม่จองห้องพัก ถือว่าพลาด !!

ในส่วนของห้องพักจะมีหลากหลายสไตล์เลยค่ะ ลักษณะของแต่ละหลังก็ต่างกันไป

ซึ่งห้องพักจะกระจายกันอยู่ตามพื้นที่ป่า แยกไปตามโซนต่างๆ

และของเราเลือกพัก บ้านต้นไม้ ค่ะ

เป็นบ้านที่สร้างอยู่บนต้นไม้จริงๆ เห็นแล้วเก๋มาก เป็นยังไงไปดูในรีวิวต่อเลย


มาถึงแล้วก็มา Check In กันก่อน

...พนักงานต้อนรับที่นี่น่ารักยิ้มแย้มแจ่มใส อัธยาศัยดี ดูสดใสตลอดเวลา...

Lobby Check In จะอยู่ด้านในนะคะ ถ้าจอดรถด้านหน้าต้องเดินเข้ามาอีก

แต่จะมีป้ายบอกทางมา Lobby เดินมาตามป้ายได้เลยค่ะ

หรือถ้าไม่อยากเดิน จะขับรถมาด้านใน มาจอดที่หน้า Lobby ก็ได้น๊า

สามารถขับรถเข้ามาตามทางถนนของโรงแรมได้เลยค่ะ

( บางคนเห็นเป็นทางไปที่พักเดี๋ยวจะคิดว่าขับเข้ามาไม่ได้...ขับเข้ามาได้น๊า )

..

Check In เรียบร้อยแล้ว

เดี๋ยวจะพาไปดูห้องพักกันน๊า ว่าจะธรรมชาติสมกับที่บอกไว้รึป่าว

ด้านหลังนั่นไง ห้องพักของเรา เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ


เราได้พักบ้านต้นไม้ 3 ค่ะ โดยบ้านจะอยู่ที่ชั้น 3 บนสุดเลยจ้า



ธรรมชาติมั้ยล่ะ !!

แบบนี้สิได้ใกล้ชิดธรรมชาติของจริง ^_^

ในห้องเก๋มาก เก๋จนต้องรีบหยิบกล้องมาถ่ายรูปไปอวดเพื่อน

..

ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบนะคะ

Wifi แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น อุปกรณ์อาบน้ำ

พักสักแปป เดี๋ยวเราจะพาไปนั่งช้างกัน


ได้เวลาความสนุกแล้ววววว

สำหรับการนั่งช้าง จะใช้เวลาในการนั่งไป-กลับประมาณ 25-30 นาทีนะคะ

ราคาปกติ 1 ท่าน 500 บาท

พิเศษ !! ถ้านั่งช้าง 2 ท่านขึ้นไป เหลือท่านละ 300 บาทเท่านั้น !!

กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเยอะมาก

วันที่เราไปก็มีนักท่องเที่ยวทั้งลูกค้าในที่พัก และลูกค้าข้างนอกมานั่งช้างกันตลอด


ขึ้นนั่งช้างครั้งแรกก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ 55+


พี่ช้างที่เรานั่งวันนี้ชื่อ "พี่บัวบาน"

จะเป็นช้างขี้เล่น และขี้เกียจ พร้อมกันในเวลาเดียว 55

เดินๆไปนางก็จะหยุดบ้าง เล่นต้นไม้บ้าง พี่ควาญช้างบอกว่านี่แหละนิสัยนาง

แต่นางน่ารักนะ สั่งอะไรก็ทำ พาเราไป-กลับอย่างปลอดภัย


เส้นทางที่เรานั่งช้าง ก็จะผ่านป่า ผ่านลำธาร

ให้เราได้เข้าไปใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ได้เห็นธรรมชาติของผืนป่าจริงๆ











^^ กลับมาแล้ว....แฮปปี้ตลอดเส้นทางจ้า ^^

..

พอลงจากหลังช้างเรียบร้อยแล้ว

ก็มาให้รางวัลพี่บัวบานกันหน่อย พี่เค้าอุส่าพาเราเดินชมรอบป่า


แตงกวาตะกร้าละ 20 บาทนะคะ

จะซื้อกี่ตะกร้าก็ได้ ป้อนกันให้อิ่มไปเลย




บ๊ายบายพี่บัวบาน ถึงเวลาที่นางจะกลับไปพักผ่อน

หลังจากที่ช้างพาเราชมผืนป่าเรียบร้อย ก็จะกลับไป Stand by อยู่ด้านหน้าโรงแรมนะคะ

ซึ่งถ้าขับรถผ่านไปมาก็จะเห็น สามารถแวะให้อาหารพี่ช้างได้เลยค่ะ


เดี๋ยวพาไปดูรอบๆโรงแรมกันต่อ

อย่างที่เราบอกว่าที่นี่ธรรมชาติมาก ภายในโรงแรมก็เลยมีเหมือน Mini Zoo

สวนสัตว์เล็กๆ มีไก่ นกยูง กระต่าย ฯลฯ เราสามารถเดินไปถ่ายรูปกับพวกเค้าได้เลยนะ


ส่วนใครที่อยากปั่นจักยานชมป่า สามารถมายืมจักรยานไปปั่นรอบๆที่พักได้ด้วย

ติดต่อที่ Lobby ได้เลยนะคะ




ในนี้มีร้านกาแฟด้วยแหละ รูปด้านล่างนี่เป็นบริเวณหน้าร้านกาแฟค่ะ

พักอยู่ที่นี่ ก็จะเห็นพี่ช้างเดินไปเดินมาบ่อยๆ

แต่ไม่ต้องกลัวน๊า ช้างที่นี่ไม่ดุ ช้างน่ารักทุกเชือก เป็นช้างที่ถูกฝึกมาแล้วค่ะ

และเค้าก็ไม่ได้ปล่อยช้างเดินตัวเดียวนะ ยังมีควาญช้างเดินตามอยู่ตลอดด้วย


บริเวณนี้เป็นแถวสะพานด้านหลัง Lobby เป็นสะพานเชื่อมไปที่บ้านพักแต่ละหลังค่ะ



ถ่ายรูปกันเพลินเลย




สำหรับมื้อเย็นวันนี้ เราออกไปทานกันที่ร้านอาหารสุดฮอตในเขาใหญ่

เป็นลาว

ถือเป็นร้านอาหารอีสาน ร้านเด็ดประจำเขาใหญ่เลยก็ว่าได้

ทุกเมนูนัวแซ่บถึงใจ ใครๆที่มาก็ต้องบอกว่าอร่อย



เมนูแนะนำ ต้องนี่เลยค่ะตำหลวงพระบาง

เด็ดแค่ไหน ดูได้จาก....สั่งกันทุกโต๊ะ !!!!


เมนูลาบเป็ด ก็อร่อยไม่แพ้กัน



มาเขาใหญ่แล้ว ต้องมาลองอาหารอิสานที่ร้านเป็นลาวนะคะ ร้านนี้เด็ดจริง !!

ปล.ใครที่เคยไปเป็นลาวตอนร้านอยู่ด้านในซอย ไปตอนนี้ไม่มีร้านตรงนั้นละน๊า

เค้าย้ายจากที่เดิมมาอยู่แถวปากทางขึ้นเขาใหญ่แล้วค่า


:: สอบถามเพิ่มเติม ::

www.facebook.com/penlaosthailand

โทร : 083-4613666

...........................


หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ได้เวลากลับที่พัก ไปพักผ่อน




บรรยากาศช่วงกลางคืน แสงสีเป็นประกายเชียว

จะมีเสียงจิ้งหรีด เสียงจักจั่น มาร้องเพลงให้ฟังด้วย

ครื้นเครงกันเลยทีเดียว นี่แหละธรรมชาติที่แท้จริง

สำหรับคืนนี้......นอนฟังเสียงธรรมชาติกล่อมจนหลับไปเลย

ตั้งใจมานอนเขาใหญ่ทั้งที มันต้องได้ฟิลแบบนี้สิเนอะ ^^

..


...Morning...

สำหรับมื้อเช้าทางโรงแรมจะมีเมนูมาให้เราเลือกค่ะ

อยากจะทานเป็นข้าวต้มหมูสับ หรือ Breakfast เลือกได้ตามใจชอบ




ก่อน Check Out วันนี้ เดี๋ยวจะพาไปดูบรรยากาศด้านหลังโรงแรมกันอีกหน่อย

เดินเข้ามาด้านในจะมีสะพานปูนทอดยาวไปตามแนวป่า ยาวไปจนถึงลำธาร

ระหว่างทางที่เดินบนสะพานปูน ก็จะเห็นธรรมชาติสองฝั่งทาง

บางช่วงก็จะเห็นช้างเดิน ไปเดินมาด้วยนะ






ได้มาพักที่ The Jungle House Khaoyai ได้ฟิลใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สุด

ทุกอย่างดูกลืนไปกับธรรมชาติ ถือเป็นที่พักบรรยากาศดีมากอีกที่ในเขาใหญ่เลย

ทั้งยังมีกิจกรรมขี่ช้างรอบๆป่า ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดไปอีก

เป็นการมาพักผ่อนที่คุ้มที่สุดแล้วกับที่นี่

สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้ ต้องลองมาสักครั้งน๊า


:: การเดินทาง ::

รถส่วนตัว : กด GPS มาที่ The Jungle House Khaoyai ได้เลยค่ะ

ตามลิ้งนี้น๊า https://goo.gl/maps/D9gwDCJadxN2

รถตู้ : ขึ้นรถตู้ที่หมอชิต ไปที่คิวรถตู้หมอชิต-ปากช่อง

เดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง ไปลงรถที่แยกปากช่อง แล้วต่อสองแถว

โดยท่ารถจะอยู่ใกล้กับตลาดไนท์ปากช่อง นะคะ

สามารถขึ้นสองแถวไปลงหน้าโรงแรมได้เลยน๊า

หรือบอกเค้าว่าลงที่ The Jungle House Khaoyai ได้เลย

โรงแรมอยู่ติดริมถนน ลงรถแล้วเดินเข้ามาง่ายมาก

หรือสามารถติดต่อสองแถวเหมารถเข้าไปก็ได้น๊า แนะนำสอบถามที่วินอีกทีจ้า

-สองแถวไปเขาใหญ่รอบแรก 06.00 น. รอบสุดท้าย 17.00 น.



:: สอบถามข้อมูลที่พักเพิ่มเติม ::

www.facebook.com/junglehousekhaoyai

โทร : 044-297307, 089-8454215


.............................


ก่อนกลับจะพาไปขึ้นเขาใหญ่กัน

Khaoyai Nationalpark



จุดชมวิว กม. 30

วิวตรงนี้สวยดี เลยจอดรถแอบมาขอถ่ายภาพเก็บไว้หน่อย





อ่างเก็บน้ำสายศร

วันนี้เราเก็บภาพตรงนี้มาให้ดูได้ไม่เยอะนะคะ พอดีมีเค้ามาถ่ายพรีเวดดิ้งกันหลายเจ้าเลย

อ่างเก็บน้ำจะอยู่เลยที่ทำการอุทยานขึ้นมานิดนึงค่ะ

ทุกครั้งที่ขึ้นมาเขาใหญ่ เราจะแวะมาตรงนี้ตลอด อยู่ตรงนี้สักพัก

ฟังเสียงนก เสียงน้ำไหล แค่นี้ก็สบายใจแล้ว


ขับรถขึ้นมาเรื่อยๆ จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ " ผาเดียวดาย "

เป็น Hidden Place ที่น่าสนใจมาก

เราขึ้นมาถึงผาเดียวดาย ด้านหน้าจะมีที่จอดรถไว้ให้

ลงจากรถแล้วต้องเดินเข้าไปในป่าอีกประมาณ 500 เมตร

ระหว่างทางเดินเข้าไปชมผาเดียวดายจะเป็นทางเดินสะพานไม้

ชมธรรมชาติได้ทั้งสองข้างทาง อากาศเย็นสบายแม้จะเป็นในหน้าร้อน


พอเดินเข้ามาถึงจุดชมวิว คือมันดีมาก อยากจะร้องกรี๊ด

มันคุ้มค่ากับการเดินเข้ามา ตรงหน้าเราเห็นขุนเขาน้อยใหญ่เต็มไปหมด

เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำค่ะ

" ถ้ามาหน้าหนาว คงจะได้ฟินกับทะเลหมอกตรงหน้าแน่ๆ "





.....จบทริป 2 วัน 1 คืนที่เขาใหญ่...

เป็นทริปที่ได้สัมผัสธรรมชาติแบบจริงๆ ได้ใช้ชีวิตแบบ Slowlife

ได้เห็นความสวยงามของสองข้างทางที่มาเขาใหญ่

ได้ค้นพบ Hidden cafe ที่บรรยากาศน่าหลงใหล

ได้เพลิดเพลินกับการเข้าไปเที่ยวในอาณาจักรกระบองเพชร

ได้ไปยืนอยู่กลางหน้าผา ที่ไม่คิดเลยว่าใกล้กรุงจะมีหน้าผาที่สวยแบบนี้

ได้พักท่ามกลางป่าเขาที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์

ได้ประสบการณ์ใหม่ๆในการนอนบนบ้านต้นไม้ ฟังเสียงธรรมชาติ

ได้ขี่ช้างเข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ๆ

การได้มาพักผ่อนแบบนี้...แค่นี้ก็แฮปปี้อย่างบอกไม่ถูกแล้ว

...

แค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพมาที่เขาใหญ่ในทริปนี้ เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าที่สุดเลย



ขอบคุณที่ติดตามรีวิวมาจนจบนะคร๊า :)

ไปติดตามกันต่อที่นี่เลย : www.facebook.com/paigunmai

paigunmai

 วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 11.50 น.

ความคิดเห็น