ลองนั่งรถไฟ ไปปีน " เ ข า ล้ อ ม ห ม ว ก" กันไหม 1ในกิจกรรมที่ต้องลอง จ. ประจวบฯ เที่ยวง่ายๆ ไปไม่ยาก

🚩Day 1
➡️ 07.30 น.นั่งรถไฟ ขบวนที่ 255 ธนบุรี-หลังสวน ลงที่สถานีประจวบคีรีขันธ์
➡️เที่ยวเขาช่องกระจก
➡️พักที่โรงเเรมมนต์ทะเล
🚩Day 2
➡️ปีนเขาล้อมหมวก
➡️เที่ยวถ้ำพระนอนวัดอ่าวน้อย
➡️เที่ยวโบสถ์ไม้สัก
➡️เที่ยวหลวงปูทวด
➡️นั่งรถไฟกลับ กรุงเทพ
......เขาล้อมหมวกไปง่ายๆปีนไม่ยากเว้ยเเกรรร !! พร้อมเเล้วเดินทางมากับเราได้เลยครับ ป.ล.ทริปนี้เราจัดกันไปมาเเล้วนะครับ อันนี้คือรีวิวให้อ่านเป็นเเนวทางการท่องเที่ยวครับ

สวัสดีครับ พ่อ แม่ พี่น้อง พบกับพวกเราอีกครั้งกับกลุ่มคนที่รวมตัวกันท่องเที่ยวเเนว BackPack จะพาเพื่อนๆไปเที่ยว ไปทำความรู้จักกับ เเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แหล่งท่องเที่ยวที่ว่านี้คือ กิจกรรมปีนเขาล้อมหมวก #ทำไมต้องปีนเขาล้อมหมวก #เดินทางยังไง #ค่าเข้าเสียไหม #ไปลำบากหรือป่าว เรามีคำตอบให้ครับ ถ้าพร้อมแล้วลองเดินทางมาพร้อมกับพวกเราได้เลยครับ

เราเริ่มต้นทริปกันที่สถานีรถไฟธนบุรีในเวลา 06.30น เพื่อตีตั๋วรถไฟไปลงที่สถานีประจวบคีรีขันธ์ โดยขบวนรถไฟ รถธรรมดาขบวนที่ 255 ต้นทางธนบุรี ปลายทางหลังสวน สาเหตุที่เลือกเดินทางโดยรถไฟคือ เราอยากเดินทางแบบ Slow life นั่นเอง เมื่อถึงสถานีรถไฟธนบุรีแล้วสิ่งแรกคือการซื้อตั๋วรถไฟ ราคาตั๋วรถไฟคือ 56 บาท เป็นรถนั่งพัดลมธรรมดาชั้น 3 สกิลในการเลือกที่นั่งเพื่อไม่ให้โดนแดดคือ ให้เลือกนั่งทางฝั่งขวามือ เมื่อเราหันหน้าไปทางเดียวกับหัวรถจักร ครับ


ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 5 นาที ทางสถานีธนบุรีจะทำการปล่อยขบวนรถธรรมดา ขบวนที่ 255 ต้นทางสถานีธนบุรีปลายทางสถานีหลังสวน ออกจากสถานีธนบุรีในเวลา 07.30 น. ท่านผู้โดยสารที่ทำธุระอยู่ด้านล่างขบวนรถ กรุณานำสิ่งของของท่านขึ้นจัดหาที่นั่งให้เรียบร้อยด้วย เมื่อขบวนรถออกจากสถานีธนบุรีแล้วจะหยุดรับส่งท่านผู้โดยสารทุกๆสถานีตลอดปลายทางสถานีหลังสวนครับ และแล้ว 07.30 น. รถไฟออกจากสถานีธนบุรีตามเวลาเป๊ะ


#ระหว่างทาง เป็นอะไรที่น่าสนุกเเละน่าจดจำ เพราเราจะได้เห็นวิถีชุมชนที่รถไฟวิ่งผ่าน เห็นวิวสองข้างทาง ทุ่งหญ้าสีเขียว สลับกับภูเขาลูกเตี้ยๆลูกนู้นทีลูกนี้ที เห็นผู้คนบนรถไฟทุกระดับชั้นมากมาย

#ไม่ต้องกลัวหิว เมื่อรถไฟถึงสถานีต่างๆก็จะมีพ่อค้าเเม่ขายนำของกิน น้ำ ขนม โดยของกินจะเป็นของกินประจำท้องถิ่นนั้นๆหิ้วขึ้นมาขายบนรถไฟ ทำให้เราเพลิดเพลินกับการกินเเละฟินได้ตลอดทาง


13.30 น.รถไฟก็พาเรามาถึงจุดหมายปลายทางของเราคือสถานีประจวบคีรีขันธ์ เมื่อลงจากรถไฟแล้ว รถตู้ที่เราเช่าไว้เพื่อรับส่งเราตลอดทริปก็มารอรับเราที่หน้าสถานีรถไฟเพื่อพาเราไปยังเขาช่องกระจกครับ

เขาช่องกระจกมีบันไดขึ้นไปทั้งหมด365ขั้นอาจดูเยอะแต่ใช้เวลาขึ้นไม่นาน มีที่ให้เรานั่งพักเป็นชั้นไปเรื่อยๆ ขึ้นง่าย รับรองว่าขึ้นไปถึงแล้วจะหายเหนื่อยเป็นปริดทิ้ง
#ข้อควรระวัง ระวังลิงข้าวของเครื่องใช้อย่าเดินถือกระเป๋าสะพายเอยกล้องเอยถ้าจะพกให้ระวังให้ด
ลิงที่นี่วิงราวกระเป๋าโทรศัพท์และของทุกอย่างที่เวลาคุณถือรึสะพายแล้วเผลอของคุณจะถูกลิงกระชากไปจากตัวทันท
* *และที่จอดรถแนะนำให้จอดหน้าศาลหลักเมืองจะปลอดภัยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย ถ้าจอดข้างๆเขา ในวัด รึข้างศาลากลางระวังกระจกข้างหายนะเพราะลิงจะรื้อละหักกระจกรถคุณไปเล่นแบบสบายใจ กลับมาถึงรถอาจมีหัวร้อนแน่นอน


วิวด้านบนไม่ธรรมดาใช่ไหมละ ถ้ามาถึงจุดๆนี้รับรองหายเหนื่อยเเน่นอน วิวสวยๆเเบบนี้ต้องมีหลงรักกันบ้างละ


หลังจากกลับมาจากเขาช่องกระจกเราก็หามื้อเข็นกินกันที่ตลาดโต้รุ่งติดถนนเลียบทะเล ทุกวันศุกร์ - เสาร์ ที่นี่จะมีถนนคนเดินด้วยน๊าาาา ของกินเพี๊ยบ เรียกว่าเดินกินกันได้เลยละ นอกจากนี้ยังมีร้านนวดให้เลือกมากมายเลยละ ก่อนเข้าโรงเเรมที่พัก มองไปไกลๆจะเห็นยอดเขาสูงๆ ยอดเขานั่นเเหละคือเขาช่องกระจกที่เราจะไปปีนวัดใจกันในวันพรุ่งนี้ อิอิ


➡️ https://www.facebook.com/monttalay/
ค่ำคืนนี้เราพักกันที่นี่ครับ @ที่นี่โรงเเรมมนต์ทะเล หรือโรงเเรมสุขสันต์เก่าครับ บรรยากาศที่นี่โอเคเลยครับวิวติดทะเล ห้องพักราคาไม่เเพงครับ 590-690 ครับ ภายในห้องเเบ่งเป็นสัดสาวนอย่างลงตัว มีทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น มีน้ำบริการ ด้านล่างจะเป็นร้านค้าของทางโรงเเรมครับ

🚩Day 2
เราตื่นกันเเต่เช้ามากกกก เพื่อที่จะมาลงทะเบียนปีนเขาล้อมหมวกกัน ที่ต้องมากันเช้าๆเพื่อตอนปีนขึ้นลงจะได้ไม่ร้อน เพราะถ้าเรามาสายเราก็จะเจอเเดดเเละผู้คนที่หลังไหลมาปีนเขาล้อมหมวกกัน .....มองเห็นยอดเขาสูงๆไหม นั่นเเหละคือเป้าหมายที่เราจะต้องพิชิตกันในวันนี้ *เขาล้อมหมวกไม่ได้เปิดให้ปีนกันทุกกวันนะครับ ภายในหนึ่งปีจะเปิดให้ปีนเฉพาะวันหยุดยาว3วันขึ้นไป เช่นช่วงปีใหม่ สงกรานต์ หรือวันหยุดที่ติดต่อกัน3วันขึ้นไป ก่อนมาปีนลองสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ก่อนอีกครั้งนะครั


นี่ขนาดเรามาเช้าเเล้วนะ ดูสิ มีคนมายืนรอลงทะเบียนเพียบเลยละ การลงทะเบียนไม่มีอะไรมากครับ เเค่กรอกชื่อ นามสกุล จังหวัด เพญมขายหรือ เพศหญิง เบอร์โทร เเต่นั้นเองครับ เเหะๆง่ายไหมละ

หลังจากลงทะเบียนเสร็จ เราก็ทำกานเข้าห้อฃน้ำ ซื้อน้ำตืดขึ้นไปสัก1ขวดเพราะด้านบนยอดเขาล้อมหมวกไม่มีอะไรขายนะครับ ห้องน้ำก็ม่ายมี ระหว่างรอเวลาเราก็มาสักการะเจ้าพ่อเขาล้อมหมวกกันสักหน่อยเพื่อขอพรให้ขึ้นลงเขาอย่างราบลื่นครับ


ค่างเเว่น ลิงชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่บริเวณต้นไม้ติดเขาล้อมหมวก ใกล้ๆกับศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ค่างเเว่นทีื่นี่เชื่องม๊ากกกกก ถึงขั้นลูบหัวกันได้เลยที่เดียว


06.30 น.เป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่ทหารปล่อยนักผจญภัยอย่างเราๆขึ้นไปสัมผัสความท้าทายบนเขาล้อมหมวกกันเเล้วละ ด้านบนจะมีเจ้าหน้าที่คออำนวยความสะดวกในการปีนเขาให้พวกเราด้วยนะ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการปีนเขาล้อมหมวกคือ กางเกงขายาว , รองเท้าผ้าใบ (รองเท้าเเตะไม่อนุญาตืให้ขึ้นครับ),ถุงเมือ ครับ


ทางขึ้นช่วงเเรกจะเป็นทางเดินบันไดน่ารักๆบั่นลาให้เราตายใจ 555 บอกเลยบันไดนี่เเหละตัวตัดกำลังเลยละ


หลังจากเดินจนสุดเเนวบันไดเเล้วจะมีจุดให้เราพักเหนื่อยกัน เมื่อหายเหนื่อยเเล้วต้องเดินขึ้นเขากันต่อไป ตั้งเเต่จุดนี้จะเป็นทางหินขรุขละตลอดเส้นทางเลยละ ระหว่างทางเดินจะมีเชือกให้เราเกาะขึ้นไปเรื่อยๆ จุดไหนที่ชันมากๆก็จะมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยยืนประจำจุดเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวครับ


ระหว่างทางเดิน ทางจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆครับ ต้องใช้ความระมัดระวังในการปีนด้วยนะครับ


บางจุดอาจจะต้องออกเเรงกันสักหน่อยเพราะบางช่วงทางจะชันมากครับ ยิ่งถ้าวันไหนคนเยอะหรือช่วงสายๆนะ อาจจะต้องยืนรอต่อคิวไต่เขือกขึ้นกันเลยทีเดียว


ทางขึ้นชันเเค่ไหนถามใจเธอดู ขึ้นมาถึงขนาดนี้เเล้วใจต้องนิ่ง อิอิ


จะเห็นว่าบางช่วงทางขึ้นจะมีเชือกเเค่2เส้นเท่านั้น ทำให้การปีนเขาจะต้องรอคิวในการไต่เชือกขึ้นทำให้อรรถรสในการปีนลดลงไป เเต่คิดในเเง่ดีเหมือนเราได้พักเหนื่อยไปในตัวน๊าาาา


ถ้าขึ้นมาจุดๆนี้เเล้วรับรองว่าทุกคนจะต้องยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันเเน่นอน ลองคิดเล่นๆดูว่าเราปีนไปปีนมามองดูอีกที เฮ้ยยย เราขึ้นมาสูงได้ขนาดนี้เลยหรือวะเเกรรร เจ๋งอะ ครั้งหนึ่งในชีวิตเว้ยยย ^^


มาถึงจัดนี้ก็ให้รู้ไว้เลยว่าเรามาได้80%ของระยะทางเเล้ว จุดนี้คือจุดที่ชันเเละปีนยากที่สุดของการปีนเขาล้อมหมวกเเล้วครับ เพราะเราจะต้องจับเชือกให้เเน่นๆเเล้วไต่หน้าผาที่เเทบจะชันเเบบ 80 องศา เพื่อขึ้นไปยังจุดต่อไป จุดนี้จะต้องรอคิวขึ้นนะครับ เพราะเชือกจะมีเเค่2เส้นในการปีนขึ้น เเต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยครับ เพราะจุดไหนที่อันตรายหรือปีนยากจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ทุกจุดที่ปีนครับ


ปีนมาเรื่อยๆก็ถึงเเล้วววว เราใช้เวลาในการปีนขึ้นมาราวๆ1ชั่วโมงนิดๆครับ


เมื่อขึ้นมาถึงจุดหมายปลายทางเเล้วด้านบนจะเห็นเป็นพื้นที่ที่ไม่กว้างมาก ส่วนใหญ่จะเป็นโขดหินเเหลมคมครับ เดินก็ระวังๆกันด้วยน๊าาา เเต่วิวตรงนี่คือมันดีงาม คือเห็นวิวทั่วอ่างประจวบเลยละ ลมเเรงเอาเรื่องด้วยนะ ตรงนี้จะมีป้ายบอกว่าเราได้พิชิตเขาล้อมหมวกที่ความสูง 902 ฟุต เเล้ว จุดนี้ก็อาจจะต้องรอคิวในการถ่ายรูปกันสักนิดนึงนะ ใกล้ๆจุดถ่ายรูปจะมีพระพุทธรูปให้เรากราบไหวด้วยนะ

ตอนลงเราจะต้องลงทางเดิมนะครับ เเต่ตอนลงจะเสียวๆนิดนึงเพราะเราจะเห็นพื้นที่ด้านล่างหมดเลยไง เราเเนะนำให้หันหลังเเล้วปีนถอยหลังลงจะง่ายกว่าเเละที่สำคัญไม่เสียว !! ด้วยนะ


โดยการลงจะใช้เวลาไวกว่ากว่าปีนขึ้นครึ่งของครึ่งเลยละ เราใช้เวลาในการปีนลงราวๆ 30 นาทีครับ ระหว่างทางลงเราเจอเรื่องไม่คาดคิดครับ เราเจอฝน !! ฝนตกเเบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย อยู่ๆก็ตกไม่เกรงไม่เกรงใจ ไม่ถามสุขภาพเราเลย 555 ลงยากกว่าเก่าเพราะน้ำฝนจะชะล้างดินจากยอดเขาไหลลงมา ทำให้ทางลงค่อนข้างลื่นมากกกก เเต่ก็นะเย็นดีถือซะว่าเป็นประสบการณ์เเบบที่หาได้ยาก


หลังจากเสร็จภาระกิจปีนเขาล้อมหมวกเเล้วเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าขึ้นรถตู้มาที่ #ถ้ำพระนอนวัดอ่าวน้อยวัดนี้เป็นอีก1วัดที่เราอยากเเนะนำถ้สได้มาเยือน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ตืดชาดหาดคิดทะเลเลยละวิวสวยมาก ส่วนการขึ้นไปชมพระนอน เราจะต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกราวๆ 500 เมตร อะไรฟะ ลงจากเขาล้อมหมวกเสร็จหมาดๆ ก็ต้องมาปีนบันไดขึ้นเขาวัดอ่าวน้อยอีกเเละ เราชื่อว่าหลายๆคนจะต้องคิดเเบบนี้ เเต่ถ้าลองได้ขึ้นไปเเล้วจะต้อง ว๊าววว !! เเน่นอน ถ้าเราเดินจนถึงสุดทางบันไดเราจะเจอทางมุดลงถ้ำ ด้านในเย็นเหมือนติดแอร์เลยละ ภายในถ้ำจะมีพระนอน2องค์ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำนอหจากนี้ยังมีรูปปั้นพระพุทธรูปอีกหลายองค์เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบภายในถ้ำ จุดไฮไลท์เลยคือ จุดถ่ายรูปหินรูปหัวใจ จะเป็นช่องหินรูปหัวใจเวลาโดนเเสงเเดดส่องลงมาลำเเสงจะสวยงามมาก อย่าลืมมาสัมผัสด้วยตัวเอวล

พอลงมาจากถ้ำพระนอนเเล้ว ใกล้ๆกันจะมีโบสถ์ที่สร้างจากไม้สักทั้งหลังให้เราเยี่ยมชมเเละถ่ายรูปกันด้วยนะ เรียกว่ามาทีเดียวก็ได้เที่ยวทั้ง2ที่เลย
โบสถ์ไม้สักทอง เป็นโบสถ์ไม้สักที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีพระหยกขาวจากพม่า 3 องค์ เป็นโบสถ์ติดกับทะเลอ่าวน้อย เป็นวัดที่จัดอบรมวิปัสสนากรรมฐาน น่าศรัทธาเลื่อมใสมากเลยละ ภายในโบสถ์ทีาฝ่ผนังของโบสถ์มีการแกะสลักพุทธประวัติและเรื่องราวของรามเกียรติ์อย่างงดงาม ลองมาสักครั้งเเล้วจะรู้ว่าเมืองไทยมีดี

เรานั่งรถตู้จากตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์เพื่อกลับกรุงเทพ เราได้เเวะวัดห้วยมงคล ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีรูปสลักหลวงพ่อทวดแกะจากไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ ให้ประชาชนได้สักการะบูชา ข้างบนสามารถมองเห็นทิวเขาล้อมรอบ เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกหนึ่งที่ของหัวหิน เลยละ หลังจากออกจากบัดห้วยมงคลเเล้วเราก็นั่งรถตู้ยาวววววววจนถึงกทม.เลยเเบบสวัสดิภาพครับ

#ขอบคุณที่อ่านจนจบ หวังว่ารีวิวไก่เขี่ยจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับนักเดินทาง อาจจะไร้สาระไปบ้างก็ขออภัยเราเเค่อยากเเบ่งปันภาพสวยๆรีวิวการเดินทางก็เท่านั้น
เเล้วพบกันใหม่ในทริปต่อๆครับ พบกับเราได้กับ ……ขอบคุณครับ ^^

Taeremix

 วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00.50 น.

ความคิดเห็น