สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านในวันนี้พวกเราจะพาท่านเดินทางไปที่ "ชุมชนบ้านศาลาดิน" ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนเก่าแก่ ริมคลองมหาสวัสดิ์ ในชุมชนแห่งนี้จะมีเรื่องราวน่าสนใจมากขนาดไหนเลื่อนลงไปติดตามกันได้เลยครับ

ขอบคุณภาพจาก Workpoint News

ประวัติ

ก่อนที่เราจะไปเที่ยวชุมชนบ้านศาลาดินเรามาทำความรู้จักกับ "คลองมหาสวัสดิ์" กันก่อนดีกว่า

คลองมหาสวัสดิ์ เป็นคลองสายประวัติศาสตร์เส้นสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าให้ขุดขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2400 ใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์

ความน่าสนใจของชุมชนบ้านศาลาดินอยู่ตรงที่พวกเขาได้รวมตัวกัน โดยใช้เวลากว่า 20 ปี เพื่อฟื้นฟูคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหมดความสำคัญจนกลายเป็นแหล่งทิ้งขยะและเต็มไปด้วยผักตบชวา จนกลับมาสวยงามมีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเริ่มจากการนำเอาวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมชุมชน มาสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยใช้จุดเด่นความเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำตั้งแต่ครั้งโบราณมาเป็นจุดเชื่อมโยง แถมที่นี่ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย

แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบ้านศาลาดิน อาทิ เช่น นาบัวลุงแจ่ม,ตลาดน้ำบ้านศาลาดิน,บ้านฟักข้าว,นากล้วยไม้,สวนผลไม้ เป็นต้น

เมื่อได้ทราบรายละเอียดเบื้องต้นกันแล้วพวกเราขอพาท่านผู้อ่านลงเรือเพื่อเริ่มท่องเที่ยวที่ชุมชนบ้านศาลาดินกันเลยดีกว่าครับ

จุดแรกที่เราจะพาท่านผู้อ่านมาชมกันนั่นคือ "นาบัวลุงแจ่ม" ที่นี่เป็นพื้นที่ปลูกบัวสัตตบงกชในทุกๆเช้าดอกบัวจะถูกเลือกและเก็บเพื่อนำมาสักการะบูชาพระตามความเชื่อของชาวพุทธ อีกทั้งยังมีบริการพายเรือชมบัวและเก็บดอกบัวเพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวได้นำดอกบัวกลับไปเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วยนะครับ




ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดอกบัวนั่นก็คือชาเกสรดอกบัว น่าทานมั้ยล่ะครับท่านผู้อ่าน

เมื่อเราล่องเรือไปเก็บบัวกันเรียบร้อยแล้วเราก็มาต่อกันที่ "บ้านฟักข้าว"

ที่บ้านฟักข้าวแห้งนี้จะมี คุณขนิษฐา พินิจกุล เป็นผู้ดูแลการปลูกต้นฟักข้าวและการจำหน่ายน้ำฟักข้าว

จากที่พวกเราได้อ่านข้อมูลและฟังที่คุณลุงบอก "ฟักข้าว"นั้นในเยื่อหุ้มเมล็ดจะอุดมไปด้วยสารไลโดปีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ มีประโยชน์มากๆเลยเห็นด้วยมั้ยครับท่านผู้อ่าน

ที่บ้านฟักข้าวนี้ยังมีน้ำมะพร้าวอัญชัน,คุ้กกี้ฟักข้าว,หมี่กรอบฟักข้าวจำหน่ายอีกด้วยนะครับ และถ้าท่านผู้อ่านเดินทางมาในวันเสาร์-อาทิตย์ที่นี่จะมีก๋วยเตี๋ยวฟักข้าวสูตรพิเศษมาให้ทุกท่านได้ลอง อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ หลากหลายสุดๆไปเลยใช่มั้ยครับ


สำหรับท่านผู้อ่านที่ชอบกล้วยไม้เราได้พาท่านนั่งเรือมาต่อกันที่ "นากล้วยไม้"

นากล้วยไม้แห่งนี้เป็นสถานที่ส่งออกกล้วยไม้ "พันธุ์ทัศนีย์" เป็นกล้วยไม้ที่มีสีม่วงสดซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาวมหาสวัสดิ์ครับ

นั่งเรือกันมาซักพักแล้วมาเปลี่ยนรรยากาศกันดีกว่าครับ ท่านผู้อ่านชอบทานผลไม้กันหรือเปล่าครับ ถ้าชอบห้ามพลาด "สวนผลไม้และนาข้าว" ของที่นี่นะครับเพราะที่นี่มีสวนผลไม้ลุงบุญเลิศผลไม้สดจากสวนที่สามารถทานได้อย่างหลากหลายตลอดทั้งปี การเดินทางเข้าไปที่สวนจะเป็นการนั่งรถอีแต๋นเยี่ยมชมนาข้าวสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมวิวแบบ 360ํ และยังมีผลไม้แปรรูปด้วยนะครับ


เราเดินทางกันมาถึง "บ้านข้าวตัง" ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายแล้วนะครับ

ที่นี่จะมีการบูรณาการเพื่อการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานของหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยที่นี่จะมีร้านกาแฟเพื่อบริการนักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชมชุมชนบ้านศาลาดิน และยังมีข้าวตังไว้จำหน่ายทุกท่านด้วยครับ

การเดินทางไปยังชุมชนบ้านศาลาดิน

ขอบคุณภาพจากtourvtthai.com

ค่าใช้จ่ายและการบริการ

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อใช้บริการล่องเรือชมสวนคลองมหาสวัสดิ์ได้ มีอัตราค่าบริการต่าง ๆ คือ ค่าเรือ 350 บาท/ลำ, ค่าหัว 100 บาท/คน, เรือ 1 ลำ นั่งได้ 6 คน ค่าบริการเพิ่มเติมในกรณีนั่งรถอีแต๋น เที่ยวละ 100 บาท นั่งได้ 10 คน (สามารถลงเรือชมสวนได้ที่จุดบริการนักท่องเที่ยว ณ วัดสุวรรณาราม และตลาดน้ำบ้านศาลาดิน เปิดบริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.)

ช่องทางการติดต่อ

Facebook : บ้านศาลาดิน วิถีชุมชน คนคลองมหาสวัสดิ์

เบอร์โทรติดต่อ : 081 498 6340 คุณวันชัย

083 000 4371 คุณวันเพ็ญ


Oiltravel

 วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.16 น.

ความคิดเห็น