สวัสดีเพื่อนๆพันทิปครับ ห่างหายไปนานเกือบๆปี

กลับมาครั้งนี้กับการเดินทางที่คิดว่าน่าจะโหด และเหนื่อยเป็นอันดับต้นๆที่เคยท่องเที่ยวมาเลยก็ว่าได้

แต่แลกมาด้วยความสนุก มิตรภาพ และการที่ได้สัมผัสชีวิตจริงๆของชนเผ่าพืนเมืองเลี้ยงกวางเรนเดียร์ ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นสุดท้ายของมองโกเลีย



ฝากกดไลค์ และติดตามได้ที่

หรือสอบถามข้อมูลทริป

Page : WitGoAway Traveller

http://www.facebook.com/witgoaway

ขอบคุณครับ




หากพูดถึงมองโกเลีย... นึกถึงอะไร

...บ้างก็ทะเลทราย

หรือ จะเจงกิสข่าน นักรบชื่อดังบุกตะลุยไปไกลถึงยุโรป หรือ

จะเป็นชนเผ่า Eagle...



แต่จะมีใครบ้างที่นึกถึง... ชนเผ่าเลี้ยงกวางเรนเดียร์...



จากที่ได้เคยเห็นงานเขียนของฝรั่ง ตั้งแต่ 4-5 ปีก่อน ประกอบกับพี่เอ๋ พี่ที่ได้ไปเที่ยวด้วยกันประจำ (หากใครเคยติดตามก็อาจะจำได้ตอนไปเทรคในปากีสถาน) กระตุ้นให้จัดทริป....เอานะ ซักที... เลยเกิดเป็น เรื่องราวการเดินทางที่สุดประทับใจในการเดินทางในมองโกเลีย ที่แตกต่างจากทั่วไป



กับเพื่อนร่วมทริป 14 คน ที่อยู่ๆก็มารวมตัวกันแบบ งงๆ

และไกด์ คนเลี้ยงม้า พร้อมลูกหาบอีก 11 คน

รวมแล้ว 25 คน กับ...ม้าป่า สุดคึกคัก ทั้งหมู่บ้านร่วมๆ 34 ตัว



ภาพถ่ายทั้งหมดจากกล้อง : Sony A7s และ Huawei P10



เรื่องราวการผจญภัย จะเป็นอย่างไร ติดตามได้เลย...



สามารถแชร์รีวิวได้ตามปกตินะครับ

แต่ไม่อนุญาตสำหรับผู้ใดที่เอาไปใช้เพื่อประโยชน์ในเชิงการค้า และทางธุรกิจ ยกเว้นจะได้รับอนุญาตก่อนครับ

เริ่มจากแผนการเดินทาง

เราเดินทางกันในเดือน Sep 2018 ซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูร้อน เตรียมเข้าสู่ฤดูหนาว...

การเดินทางไปลง Ulaanbaatar ได้หลายเส้นทาง ถูกสุดก็ผ่านจีน หรือผ่านฮ่องกง หรือจะผ่านเกาหลีใต้



เราเลือกเดินทางผ่านฮ่องกง...เพราะไม่ต้องทำวีซ่า ต่อเครื่องก็ไปได้เลย ที่อื่นก็ไม่ต้องทำ เพียงแต่จีนเราไม่แน่ใจนักกับระบบที่นั่นเท่าไหร่

ส่วนเกาหลี เครื่องก็ค่อนข้างแพง...นี่แหละลงตัวที่ผ่านฮ่องกง...



วันที่ 1 : เดินทางถึง ULN ช่วงเย็นเข้าที่พักทันทีปรับสภาพ เตรียมตัวเริ่มการเดินทางวันรุ่งขึ้น

วันที่ 2 : ULN - Murun (Moron) โดยสายการบินภายใน ใช้เวลา 1.30 ชม. เครื่องบินเล็ก ก็ถึง Moron



สนามบิน Moron เป็นสบามบินเล็กๆมีแค่อาคาร ต้องเดินเท้าเข้าไป

ลงเครื่องปุ๊บ ไม่รอช้า ออกเดินทางโดยรถต่อไปยัง Khuvsgul lake ซึ่งเป็นทะเลสาบทีขนาดใหญ่ ติดๆ กับรัสเซีย ดูแผนที่ก็ใกล้ๆ กับ ทะเลสาบไบคาล ชื่อดังนั่นแหละ...

Khuvsgul lake

ที่พักคืนนี้ เราจะนอน Ger กัน... ภายใน Ger จะมีเตียงให้ 3-5 เตียง แล้วแต่ขนาด ซึ่งถือว่าดีเลยแหละสำหรับมองโกเลีย และไกลขนาดนี้

วันที่ 3 : เริ่มคืบคลานเข้าผืนป่ามองโกลเข้าจริงๆ เพราะว่าตอนแรกก็ขับบนถนนลาดยางอยู่ดีๆ คนขับรถก็ปาดลงข้างทาง ทั้งที่ไม่มีทาง แบบนี้ก็ได้เนอะ....

พอหลังๆ ก็เริ่มเห็นเป็นเส้นทางนิดหน่อย ผ่านร่องน้ำเล็กๆ

แต่ที่เล็กๆ นี่แหละ รถของพวกเราคันนึ่ง ติดโคลนนน...55+





ได้พัก ตับไตไส้พุง บ้างก็ยังดี...โดนเขย่าตลอดทาง..

มองไปยังยอดเขาลูกนี้ ชวนให้นึกถึง โลโก้ค่ายหนังค่ายหนึ่ง ของฝรั่งเค้า....

ถึงที่พักแล้ว นอน Ger ต่ออีกคืน... เป็นคืนเริ่มต้นของการที่ไม่ได้อาบน้ำกัน พร้อมรึยังกับการที่จะไม่ได้อาบน้ำต่อจากนี้อีก 5 วัน

วันที่ 4

..

..

เข้าสู่ความผจญภัยไปอีกขั้นด้วยการขี่ม้า เข้าป่า....

ถ้าถามว่ามีใครเคยขี่ม้ามั้ย.... ไม่มี ......

มันต้องมีครั้งแรกกันทุกคน ถึงจะมีครั้งที่ 2 ได้ เนอะ....



รับอากาศสดชื่นยามเช้า กลิ่นขี้ม้า วัว แพะ แกะ คลุ้ง...แต่ก็ยังสดชื่นนนนน... ซี๊ดดดด...

จิบชา กาแฟอุ่นๆ ยามเช้า...

มาแล้วๆ ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้.... สวัสดีวันตรุษจีนคร้าบ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ เฮงๆ นะครับ 555



แผนการวันนี้ ขี่ม้าทั้งวัน....แต่กว่าจะออกก็เที่ยงแล้วล่ะ เพราะต้องเกณฑ์รวบรวมมา จากหลายคอก

มาใส่อานม้า พร้อมกับเย็บผ้า ให้เรานั่งกันสดๆ...เราใช้ม้าเค้าเยอะที่สุด และกรุ๊ปใหญ่ที่สุดเท่าที่เค้าเคยมี นักท่องเทียวมา (เค้าว่างั้น)

ใช้ม้าไปถึง 34 ตัว .....ในการให้พวกเราขี่ 14 คน แบกของกิน เต็นท์ ของใช้ อีก เพราะต่อไปนี้อีก 5 วัน 4 คืน เราจะต้องใช้ม้าตลอดเวลา

ในการเดินทางด้วยม้าแต่ละวัน จะประมาณ 20 km. ต่อวัน ซึ่งก็ถือว่าโหดเลย สำหรับมือใหม่หัดขี่



ช่วงเช้าระหว่างรอ...ก็มีชุดพื้นเมืองมาขาย ให้ลอง ให้เช่า ถึงหน้า Ger เลยจัดเล่นกันซะเลยย

คนมองโกล ยังขำตาม...

นี่แค่การแสดงนะคับ ไม่ใช่เรื่องจริง แต่แอคติ้งที่หนึ่งหมดเลยยย 555 ต้องปล่อยไปเป็นเรื่องส่วนตัวละล่ะ

คนมองโกลขี่ม้านี่ดูดี สงสัยชุดให้

เด็กๆ นี่บังคับม้าสบายเลย ควบวิ่งสบายๆ

ได้เวลาออกเดินทางแล้ววววว ลุยยยย

ออกจากแคมป์ได้ไม่นาน...

แก๊ง..กะ แรง...แก๊ง.... เสียงกระบอกน้ำสแตนเลส ตกลงไปที่พื้น

กระทบหินก้อนขนาดลูกบอล...

ได้ไม่ทันไร....



ม้าเจ้ากรรมที่กำลังบังคับอยู่ ยกล้อ พร้อมกับเสี่ยงอันเป็นเอกลักษณ์ ว่าตรูคือม้า.... "ฮี่ๆๆๆ"



พยายามคุมม้าตามที่ไกด์ได้สอนมาก่อนหน้านี้...

ยกล้อแว๊บๆ ก็ลงมา เหมือนจะสวยยยย......



แต่ ...ลงมาปุ๊บ ..เหมือนนั่งรถสปอร์ต ออกตัวด้วยความแรง 0-100m. น่าจะ 10วิ ได้

หลังติดเบาะ แต่ไม่มีที่พิง ร่างหงายไปข้างหลัง.... พร้อมกับเข้าโค้งขวา เหมือนโดนเท มือกะถือเชือกพยายามบังคับ....



ฉันจะพาเธอลอยยยย....ล่องไปในอวกาศ... (มันใช่ ต้องเพลงนี้เท่านั้น)



ไม่กี่วิ...ก็มาถึงที่หมายย ....



นอนหงายกองอยู่กับพื้น.... พร้อมฝุ่นคลุ้ง ทั่วบริเวณ... เสียงม้าอื้ออึง แตกตื่น....



นิ่ไปซัก 10 วิ ...แบบงงๆ... ค่อยๆลุก พร้อมกับแผลที่ข้อมือ และอาการปวดหลังเล็กๆ.....



...ฝูงม้า และเพื่อนร่วมทริป กำลังอยู่ในภาวะตื่นตระหนก เพราะที่เล่าให้ฟัง ม้าทั้งหมดแตกฝูงตกใจ กระจายตัวกันไปหมด

โชว์การตกม้า...เหมือนจะบอกเพื่อนๆว่า ระวังกันด้วยยยย...55+



ม้าที่เทผมเรียบร้อย ชื่อว่า โอวัลติน....อันนี้ตั้งให้เองเลย.....

หลังจากที่มันเทผมเสร็จ เหมือนแรงเฉยของความแรงยังมี ก็วิ่งไปเกี่ยวปาดหน้าม้าของพี่อีกตัว ตกม้าเช่นกัน...



นั่นล่ะ กระจายแตกตื่นไปหมด

หลังจากลุกตั้งหลักได้...ไกด์ก็เข้ามาเช็คสภาพ ทำการยืด เหยียด ราวกับหมอ

ตรวจสอบข้อต่อกระดูก การเคลื่อนไหว....ละก็เอ่ยว่า OK Let's go ! เอ่อตรูไม่เป็นไรเนอะ...



คนเลี้ยงม้าต้องกลับไปต้อนม้า กลับเข้าฝูงทั้งหมดอีกครั้ง

เนื่องจากม้าเป็นสัตว์ขี้ตกใจ ตกใจที ไปหมดทั้งฝูง

และการขี่ม้าตรงเท้าที่สอดเข้าที่เหยี่ยบ ซึ่งไกด์จะเตือนเสมอว่า ห้ามสอดเข้าลึก เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นสะบัดไม่หยุดโดนม้าลากพื้นแน่ๆ....



ก็ไม่คิดไม่ฝัน ว่ามันจะต้องมาเจอประสบการณ์ได้เร็วขนาดนี้....ดีนะเชื่อฟังไกด์

หลังจากสงบสติทั้ง ม้า และคนเรียบร้อย ก็เตรียมออกเดินทางต่อ....



ผม...ก็ยังคง ขี่เจ้าโอวัลตินเช่นเดิม....

ขวัญเอ๋ย ขวัญมานะ.....ขอเรียกขวัญตัวเองก่อนนน....



การเดินทางของวันสิ้นสุดลง หลังจากเสียเวลากับการตกม้ารอบแรก.....อ๊ะ มีอีกรอบเหรอ...ใช่แล้วววว

คืนนี้ขอนอนพักร่างก่อนนนนครับ เตรียมต่อพรุ่งนี้

วันที่ 5..

....

...

วันที่จะมีท แอนด์ กรี๊ด ชนเผ่า ตื่นเต้นๆ

......

ตื่นเช้าด้วยการที่เหมือนมีเชือกมาขึงตัว...ตึงไปหมด คงมาจากอาการช้ำเมื่อวาน จะหาใบบัวบกกินก็ไม่มี คงต้องนวดๆ ไปก่อน

แต่หลังจากขี่ม้าได้ซักพัก....อาการตกม้าก็เริ่มมา จากจังหวะการก้าวเดินของม้า มีอาการเจ็บหลังตามมา จนต้องขอเดินดีกว่า....

ประกอบกับ ขี่ม้า ถ่ายรูปไม่ได้ด้วยนี่สิ เรื่องใหญ่...55

เดินได้พัก ต้องกลับไปขี่เจ้า โอวัลติน อีกแล้ว เพราะทางข้างหน้าแฉะ และเละมากก....

เลยขอบายไปก่อน เดินได้ เดินบนเขาเอา 555

มุมๆนี้มองๆ ไปมันอลังการเหมือนกัน อย่างกับในฉากหนัง ลอร์ดออฟเดอะริงค์ แต่แค่ความรู้สึกล่ะ คงไม่เหมือนซะทีเดียว

ผ่านเวิ้งนั้นมาได้ ก็พักอาหารบ่ายยยยย...

เมื่ออิ่มท้อง...เดินทางต่อ



ราวกับว่า จะเดินทางไปบุกเมืองอะไรซักอย่าง ...

ผ่านเขาลูกแรก มองย้อนกลับไปด้านหลัง...ภาพที่เห็นนี่......ทำเอาฟินไปเลยย

ตัดภาพกลับมาด้านหน้า....ไหนล่ะจุดหมายยยย 55

เอาชัดๆ หลังภูเขาหัวตัดตรงหน้าเลยยย.....เฮือกกก

จ้ำเท้า ไม่ทันม้าาาาาา....

ขึ้นม้าๆ !!!

เสียงตะโกนของไกด์ดังมาแต่ไกล....(ไม่ใช่ภาษาไทยนะฮะ 55)

เพราะทางต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยโคลน และเราต้องรีบเดินแล้วเพราะเริ่มบ่ายมาก เราจะต้องเดินทางให้ถึงเร็วที่สุดก่อนมืดด....



อะเคร ขึ้นก็ได้.....

หลังจากขึ่เจ้าโอวัลติน ได้จนเหลือเขาลูกสุดท้ายก่อนถึงแคมป์ชนเผ่าเรนเดียร์.....



ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆ.....

....เฟอรารี่ ออกตัวอีกรอบบบบ ยังคงแรงเหมือนเดิมไม่มีตก....เอาซะหลังหงายไปเลยยยย....



แล้วผมก็....

ลอยไปในอวกาศ อีกครั้ง.....



แต่ขออวดดด 555+ ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ลงด้วยการคว่ำหน้า ประหนึ่งนักบินดีดตัว สละเครื่อง....

ไม่งั้น เฟอรารี่ พาลงเขาแน่นอน....



ตุ๊บบบ!...บ

ลงหน้าคว่ำ คราวนี้นิ่งไป 10 วิ ด้วยความที่โกรธมาก แ..'ง เอ้ยยย เอาอีกแล้ว....

จึงขอสงบสติด้วยการนอนนิ่งไปต่อไปอีก 10 วิ จนไกด์ ทุกคนนึกว่า ไปซะแระ...



ย้อนกลับไป 10 นาทีก่อนหน้า.... <<<<<

เนื่องจากการบาดเจ็บจากตกม้าครั้งแรก จึงพยายามบังคับม้าให้เดิน ห้ามวิ่ง เพราะโดยธรรมชาติ ถ้ามีที่หรือถ้าฝูงไปไกลมันจะวิ่งตาม เราก็ไม่อยากจะตกอีกเลยพยายามให้เดินอย่างเดียวช้าๆ รองสุดท้ายของฝูง...



ละก็มีคนเลี้ยงม้า คอยต้อนๆด้านหลัง...ตลอดเวลาเพื่อเร่งให้เดินเร็วขึ้น....



แป๊ะ......

สิ้นสุดเสียงจากบั้นท้ายม้าเท่านั้นแหละ....เรื่องจึงเกิด...



>>>>>

ค่อยๆลุกมาด้วยความโกรธ... ก ว่าแล้วววววว....

เหมือนเดิมไม่เจ็บอะไร แต่ข้างในผมช้าไปหมดแล้วววววว.....



ส่วนคนเลี้ยงม้า...รวมถึงไกด์ ก็หน้าเสียไปตามๆกัน แต่ก็เข้าใจนะ ว่าอยากให้ถึงก่อนค่ำ เพราะมันจะอันตราย....

ได้แต่บ่นๆไป ก็เท่านั้น



ยังคงขึ้นขี่เจ้า โอวัลติน ต่อ แต่...คราวนี้ ช่วยมีคนจูงไปเลยเหอะ....ไม่ไหวจะดึงแล้ว ระบมมมม

จนถึงยอดเขาได้...



ถึงที่หมายแล้ว!!!!



แต่...

..

อ้าวว... ไหน... ชนเผ่า... กวางล่ะ..... ไหน...

มีแต่ป่า และความว่างเปล่า....



เอาละไง...งานงอกก อุณหภูมิก็ต่ำลงเรื่อยๆ พร้อมกับหิมะ...



ชนเผ่าไปไหน ?

คืนนี้นอนที่ไหนยังไง ?



แล้ว.....



เราทำไงต่อกันดี.....???

ในหุบเขาลึก แน่นอนว่า สัญญาณโทรศัพท์ ไม่มี....

มาหาถึงตำแหน่งที่ไกด์นัดแล้วก็ไม่เจอ....

...ตะวันเริ่มจะตกดิน พร้อมกับเงามืดเริ่ม คืบคลานมาเรื่อยๆ....

...

อากาศเย็นลงเรื่อยๆ...จนเริ่มมีหิมะตก...

จากนั้น ซานต้าก็ขี่กวางเรนเดียร์มา... ไม่ใช่ๆ ผิดเรื่อง....



เราจึงเดินทางกันต่อไป ยังจุดที่คาดว่า ชนเผ่า เลี้ยงกวางเรนเดียร์หลบลึกเข้าไปในหุบเขา

...

..

ฝ่าหิมะ และอากาศหนาว...ในขณะที่ร่างกายทุกคนเหนื่อยล้า...อย่างเห็นได้ชัด..

ด้วยความหวังว่า...

..ชนเผ่านั้น ขยับย้ายถิ่นฐานลึกเข้าไปในหุบเขาลูกหนึ่งตรงหน้า....

เรามี bodyguard ดมกลิ่น สีดำมาด้วยตัวหนึ่ง วิ่งตามมาตั้งแต่หมู่บ้านเลย ฟิตจริงๆ

พระอาทิตย์ลาลับขอบภูเขาเรียบร้อย

ระหว่างนี้ เราได้ให้ม้าเร็วมองโกล ควบม้า หาชนเผ่าเรนเดียร์ตามภูเขาละแวกนี้....

อยู่ๆก็มี เจ้าไซบีเรียนน้อยโผล่มา จากไหนก็ไม่รู้ เป็นมิตรวิ่งทักทายทุกคน....เหมือนรู้จักกันมาก่อน...

ม้าเร็ววิ่งกลับมา.......

พร้อมกับบอกว่า "ไม่มี ไม่เห็น อะไรเลย" เงิบบบ...

เอาแล้วไง....เราจึงตัดสินใจพักค้างแรมกันตรงนี้แหละ พรุ่งนี้เช้าว่ากันใหม่.....



....ในคืนเดือนมืด มีเพียงกองไฟ สลัวๆ...

กับพวกเรากลางหุบเขา...อันเงียบสนิท ได้ยินแต่เสียงกองไฟ และลม เพียงเท่านั้น

เพื่อตั้งแค้มป์ สำหรับคืนนี้.....



ขณะที่ผมกำลังปลีกตัวออกจากกองไฟ ...เพื่อเดินหาตำแหน่งการตั้งเต้นท์....



ฉับ...ฉับ.......

...

..



เสียงแว่วๆ...คล้ายกับมีอะไรเดินฝ่าต้นไม้พุ่มเตี้ย อันรกแน่น...



เข้าใจว่าเป็นพวกลูกหาบมองโกล กำลังเดิน.....



...ทันใด...ที่สาดไฟฉายส่องไป....



แสงสะท้อนสว่างมาจากแววตาคู่หนึ่ง....



เฮ้ยย......กวาง....

ใช่!!! .......กวางงงงงงง!!!



มาพร้อมกับคนสองคน.....



ทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจรีบเดินมาหาชายชนเผ่า....



"นี่แหละ ....ชนเผ่าที่เลี้ยงกวางเรนเดียร์....ที่เรากำลังตามหา" ....ไกด์บอกพวกเรา



ชายในชุดมองโกล ที่ดูเปรอะเปื้อน ผมเผ้ารุงรัง พร้อมกับเด็กน้อย แก้มแดงสด ความสูงเท่าหลังกวาง....

ไม่รีรอ ที่จะรีบจัดการมัดกวาง และคุยกับเราทันที....

ตามหาเราเจอได้ยังไง...ทุกคนต่างอยากรู้



"กองไฟ กลางหุบเขามืด ทำให้เห็นได้จากระยะไกล" .....ชายชนเผ่าตอบ

ตามเวลานัดตำแหน่งแรก เรานัดกันประมาณ ห้าโมงเย็น แต่ด้วย พวกเรามาเลท ประมาณหกโมงกว่าๆ ประกอบกับหิมะตกหนัก

...เค้าเลยต้องกลับไปยังแคมป์ก่อน...

ส่วนเจ้าไซบีเรียนน้อยนั้น....ก็อยู่กับเค้า อาจจะตามกลิ่นได้จากระยะไกล เลยมาถึงก่อน....



จากค่ำคืนเดือนมืด...กลายเป็นคืนที่สว่างไสว

จากคืนหนาวเหน็บ ....สูความอบอุ่นในใจ

จากความหวังดูริบหรี่...กลายเป็นความสดใส สดชื่น



....พร้อมกับใบหน้าที่เลอะเปื้อนยิ้ม กันทุกคน....



คืนนี้คงเป็นคืนที่นอนหลับฝันดีที่สุด.... ของพวกเรา.....



[ To be continued ]

วันที่ 6 ...

.

..

ออกจากเต็นท์ ก็มีเกล็ดหิมะเกาะอยู่บนเต็นท์ และรอบบริเวณพื้นที่

แต่เมื่อวาน สองพ่อลูกชนเผ่า ก็อยู่กับพวกเราตลอดทั้งคืน...

...อาศัยตอนตากนำค้าง รอบกองไฟ...

การที่ไปยังไม่ถึงแคมป์เมื่อวาน...

..ทำให้วันนี้ เราต้องออกเดินทางอีกครั้ง....

เพื่อไปแคมป์ที่ชนเผ่า ได้ย้ายไปตั้งล่าสุด ให้ได้...



ลูกชาย...ออกลากกวางที่ขี่มาเมื่อวานอีกครั้ง เพื่อพร้อมในการเดินทางไปยังแคมป์

กำลังใจจากเมื่อวาน....ทำให้เรามีแรงที่จะไปให้ถึงจุดหมาย

เมื่อคนพร้อม ม้าพร้อม เราก็มีกวางเรนเดียร์นำฝูงไป....



เดินทางอ้อมภูเขา 2 ลูก ก็ถึงที่หมาย....

แต่....



ไหน...ไหนล่ะกวางงงงทั้งฝูง....

มีแต่กระโจม ตั้งอยู่กลางหุบเขา 2 หลังเพียงเท่านั้น.....



ถึงปุ๊บ....การต้อนรับจากภรรยา ชนเผ่าเป็นอย่างดี....

เข้ากระโจม นมกวางอุ่นๆ...ให้ดื่ม พร้อมกับขนมขบเคี้ยว ผลิตผลจากนมกวางเรนเดียร์

ขนมขบเขี้ยววว แท่งเดียว เพลินได้ทั้งวัน.... ถ้าฟันไม่หักก่อน.. รสนมจริงๆ แต่จืดๆ ค่อยๆเล็ม

ขออภัย...หายไปหลายวันครับ มัวแต่ไปจัดการเรื่องลิขสิทธิ์อยู่ครับ



งั้นเรามาต่อกันเลยยยย...



จากการต้อนรับอันแสนอบอุ่นที่สุดครั้งหนึ่ง....เพราะข้างนอกหนาวมากกก ครึ้มๆ พร้อมลมยะเยือกก...

การได้อยู่ในกระโจม หลับลมนั้นดีเป็นไหนๆ...



ซักพักได้ยินเสียเด็กๆ มาแต่ไกล ...



อ้าาาา.....มาแล้วววว กวางทั้งฝูงมาถึงแล้ววว...

ทีนี้สนุกละ...ทุกคนรีบออกจากกระโจม กระจายตัวทันที คนละทิศทาง

เพื่อถ่ายภาพกวางทั้งฝูง



กวางจะถูกมัดกัน เป็นคู่ๆ ส่วนใหญ่ เพื่อเวลาหนีจะวิ่งได้ช้า แต่ดูแล้วเนี๊ยะ ไม่น่าจะหนี เลี้ยงดีซะขนาดนี้...

ถ่ายกันเต็มที่ พร้อมกับขี่กวางเล่น....55+ กวางขี่ได้ แต่ต้องตัวใหญ่นิดนึง...นั่งสบายกว่าม้าเป็นไหนๆ อยากจิขี่กลับเลย..



พอตะวันลับฟ้าเท่านั้นแหละ หนีเข้าเต็นท์แทบไม่ทัน...มันหนาววมั๊กๆ

วันที่ 7....

ขากลับของการเดินทาง...หลังจากบรรลุเป้าเรียบร้อยยย.

..แต่ระยะทางอีกยาวไกล ... เพราะเข้ามาไกล๊ไกล...

และยังมีเรื่องเซอร์ไพรส์ต่อ....



เช้านี้...มีโชว์ 2 รายการ...

รายการแรก...รีดนมกวาง..

ส่วนรายการที่ 2 กราบกวาง... 555+ พี่ทำตามสัญญา บอกว่าถ้าเจอกวาง จะกราบบบบ...55+ (เอาภาพหลบหน้าให้แล้วนะ ไม่รู้เลยว่าใคร)

แสงมา ความงามก็เฉิดฉายย.. นี่ไงเต็นท์ที่พัก...ฟินมั้ยล่ะ...แต่ไม่ได้มีเวลาออกมาชมอะไรหรอก หนาวว..

ส่วนน้องกวาง...ก็ถูกปล่อยไปหากินต่อ.

..เค้าบอกปล่อยตามอัธยาศัย... แต่ต้องคอยดูไม่งั้นไปเขาลูกไหนก็ไม่รู้...



แต่กับวิวตรงหน้า....โอ้ยยย สวยงาม ยังไม่อยากกลับเลยย.

ก่อนกลับ...ก็ร่ำลา ครอบครัวกวางเรนเดียร์



"ดีใจ...ที่ทุกคนมา และสนุกกับการสัมผัสชีวิตพวกเรา..แต่..มีความกังวลว่า เราอาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วก็ได้" หัวหน้าเผ่าบอกกับผม...



เพราะว่าตอนนี้ลูกสาวก็เข้าไปเรียนในเมืองแล้ว...อาจจะไม่มีสืบทอดต่อไป...ฟังแบบแล้วอยู่ๆก็รู้สึกหวิวๆ..ยังไงไม่รู้



เซย์กู๊ดบายยยยยยยยย

พวกเราออกเดินทางกลับในช่วงสายๆ....แน่นอนก็ต้อง ขีม้า สินะ...อู๊ยย ระบม... กันทุกคน



ขี่ไปแบบคนหมดสติ เหนื่อย แต่พอได้เห็นวิวก็ ตื่นนนนนน

โชคดีมาตอนช่วงเวลาเปลี่ยนสีพอดี ...เพราะขามายังเขียวๆอยู่เลย

แต่ถ้าจะให้มาตอนเหลืองมากๆ คงหนาวแย่... นอนเต็นท์ด้วยนี่สิ...

ถึงปลายทางพัก กางเต็นท์หนึ่งคืน พรุ่งนี้เดินทางต่อกลับแคมป์ตอนแรก....

เลือกจุดกางเตนท์ เอาวิวสวยๆ มุมดีๆ ตื่นมาแบบเจอวิวสวยๆในเตนท์.....



....

...

...

ตกดึก

ฟิ้ววว....วว........ววว ผับๆ..ผับ..... เสียงลม กับเสียงเตนท์กระพือ...

พายุหิมะ..มากระหน่ำ.....

เตนท์ก็จะพัง...

หนาวก็หนาว...



ลมพักแรง เต็นท์แทบจะแบนราบไปกับพื้น ...ลงมาห่อหุ้มตัวเราที่นอนถ่วงน้ำหนัก อยู่ในเต็นท์เท่านั้น



เสียงลมปะทะเต็นท์กระพือ ผับๆๆๆๆ ตลอดคืน... เพียงแค่ให้นอนหลับ ยังยาก..

....



วันที่ 8 .... Winter is coming !



กลับสภาพเต็นท์ที่พับ กับ หิมะขาวโพลน กองกับพื้น...มันช่างแตกต่างจะเมือวานโดยสิ้นเชิง

นี่แหละ เซอร์ไพรส์....

ทำเอาแทบไม่ได้งีบเลย...

"เมื่อคืนนี้ ไม่ได้นอนเลย...เหมือนมีคนตบหน้าทั้งคืน" 55 พี่อ๋อง บอกไว้...

เพราะเต็นท์สะบัดมาก และเราต้องเอาตัวดันเต็นท์ไว้ตลอดคืน...

...เมื่อคืน นอนกันได้ด้วยเหรอ... ผมถามไกด์

"ได้สิ นอนเหมือนปลาแช่แข็ง!! " ไกด์ตอบมา 555

คือได้แต่นอนเอามือวางข้างลำตัวขยับไม่ได้ 55+



ดูจากสภาพเต็นท์ไกด์แล้ว น้ำคงนองเข้าไปละแช่แข็งเลยยล่ะ..

อาหารเช้าเรียบร้อย ก็ออกเดินทาง...

วันนี้ผมขอเดินละกัน....อาการจากการตกม้ายังมี เพราะถ้าขี่ละมันกระแทก จะช้ำไปหน่อยยย...

มีผู้ร่วมเดินกลับอีก 3 คน อันนี้ ความเมื่อยจากการขี่ม้าล้วนๆ ...เดินดีก่าขี่

นี่นึกกว่าอยู่ในฉากหนัง Game of Thrones

ถึงแล้ววววที่พัก...เรา..

ล้างหน้าล้างตา เรียบพร้อบก็พักสลบ ตื่นมาชมวิวต่อ...มันก็ฟินนนนอยู่



แสงอาทิตย์ใกล้จะลาลับฟ้า...มันยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ....

วันที่ 9....เจ้าป่าเข้าเมือง...



กับการเที่ยวบุกตะลุยแบบนี้มาหลายวัน....การได้เข้าเมือง เป็นอะไรที่เรารอคอยย...



ระหว่างทาง...สภาพพื้นที่หลังจาก พายุหิมะกระหน่ำ เมื่อคืนวันก่อน....

บ่งบอกได้ว่า มันหนักแค่ไหน นี่ขนาดสองวันแล้ว หิมะยังหนาอยู่เลยย......

ถึงแล้วววที่พักคืนนี้ อยู่ระหว่างทาง.... ดีหน่อยได้เป็นบังกะโลว์ แต่หนาวเหมือนเดิม..

ยัง ยัง ไม่หมด ยังออกมาเที่ยวอดีตปากปล่องภูเขาไฟกันต่อ... ใช้แรงต่ออีกนิด น่าจะก๊อกท้ายๆ ละล่ะ..

วันที่ 10.....



ออกจากบ้าน เอเอฟ...กลับบ้านได้...

โปรแกรมวันนี้ไม่มีอะไรมากก แค่....นั่งรถยาวไป....

แต่ดีกว่าขี่ม้าล่ะ...



ตื่อ...ดึ้ง..... กิ้งๆๆ...... เสียง SMS เข้า สัญญาณโทรศัพท์มาแล้วจ้าาาาาาา.....

แต่....



จากสายการบิน บอกว่าไฟลท์เรา "ยกเลิก"

อ้าว...กำ



เซอร์ไพรส์ จริงๆอีกรอบ...

ไฟลท์จาก ULN - HKG ไม่ยกเลิก แต่

ยกเลิก HKG - BKK เนื่องจาก เจ้าพายุ มังคุด เข้าถล่มฮ่องกง เป๊ะ....โหยยย ถูกหวยย...



สรุปคือ เราได้ไฟลท์อีกวัน ดังนั้น กิน เที่ยว เปรี้ยว ฮ่องกง ต่อ 1 คืนนนนนน

วันที่ 11... กิน กิน กิน HKG



ไหนๆ ก็ต้องอยู่ต่อ 1 คืน วันนี้ จะกินๆๆๆๆ



ได้เวลา ร่ำลา Mongolia Reindeers และ ม้าที่น่าร๊ากกก

ด้วยความเพลียก็หลับเลยหลังจากเครื่องขึ้นได้ซักพัก...

....

..

อย่างกับฝัน นึกว่า กำลังควบม้า ในมองโกล...

ลืมตามา อ๊ากก เข้าสู่พายุที่เพิ่งจะผ่านพ้น ฮ่องกงไปได้ซักราวๆ 5 ชม แต่เมฆนี่ มันเสียววว



แต่ก็ Landing อย่างปลอดภัยยยย เย้...

คืนนี้เดินเล่น ฮ่องกงไป กินบะหมีร้อนๆ ขนมอร่อยๆ... พักผ่อน กลับบ้านพรุ่งนี้...

วันที่ 12 ...กลับบ้านเราาาาาาาาาาา

ถึงไทยด้วยความหมดสภาพ....เจอกันใหม่ทริปต่อไป ไม่เอาแบบนี้....



============================================



Facts :

+ ทริปนี้ ถือว่าไม่ง่าย จะบอกลำบากก็ว่าได้ เพราะต้องเดินทางด้วยรถ ไปในที่ๆ ไม่ใช่ถนนปกติ...

+ เดินทางด้วยม้าไปกลับ 4 วัน วันละ 20 กว่าkm. ในการเดินทางไปหาชนเผ่าเรนเดียร์

+ นอนเต็นท์ 4 คืน Ger 3 คืน

+ สภาพอากาศแปรปรวน ถึงหนาว

+ ชนเผ่าเรนเดียร์ จะย้ายที่อยู่ เกือบๆ ทุกสัปดาห์ ตามอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงกวางในบริเวณนั้น ดังนั้นการ หาก็ไม่ได้ง่ายนัก



สรุป ท่านที่จะไปแบบนี้ จะต้องสนุก ชอบแนวนี้ ลุยหน่อย กินง่าย นอนง่าย ปรับตัวได้ตามสภาพอากาศ และพื้นที่

ถ้าหากว่าชอบ ก็ลุยเลยครับ เพราะ สิ่งที่ได้กลับมา มันคุ้มค่ามากมาย...



======

ขอบคุณ

=====

> ขอบคุณ...ทุกท่านที่ติดตามรีวิวมาตลอดๆ..

> ขอบคุณ...พื้นที่รีวิว Pantip

> ขอบคุณ...เซอร์ไพรส์ทั้งหลาย ทำให้ทริปยิ่งเป็นที่ น่าจดจำในชีวิตเลยยย

> ขอบคุณ...ไกด์ และม้า...ที่นำประสบการณ์ดีๆ ...แต่บางทีก็ไม่อยากตกแล้ว

> ขอบคุณ...เพื่อนร่วมทริปทุกคน เป็นทริปที่สนุกมาก และโหดมาก อีกทริปนึงเลย...แต่ไม่มีใครบ่นอะไรดังๆเลย อาจจะบ่นในใจ ไว้เจอกันใหม่ทริปต่อไป รักทุกคนนนนน 55

====================================

ถ้าชอบ ถ้าใช่ ช่วยกดไลค์เพจ

และติดตามได้ที่เพจ WitGoAway Traveller http://www.facebook.com/witgoaway ครับ กราบบบ

คำถามทริป อื่นๆ รบกวนติดต่อใน inbox ที่เพจนะครับ หลังจากรีวิวเสร็จแล้วจะไม่ค่อยได้เข้ามาใน pantip เท่าไหร่ฮะ..

++++++++

จะนำสิ่งทีดี มาสู่ชีวิต ต่อไป แล้วเจอกันทริปถัดไปครับ ขอบคุณครับ

+++++++



ปล. เนื่องจากโดนก็อปปี้ภาพไปหลายทริปแล้ว ฝากถึงคนที่จะก็อปนะครับ

ไม่อนุญาตให้นำไปใช้เพื่อการพาณิชย์ หรือเชิงธุรกิจใดๆทั้งสิ้นครับ

WitGoAway Traveller

 วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 10.38 น.

ความคิดเห็น