รีวิวนี้ผมเป็นคนเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ไม่มีสปอนเซอร์ครับ หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณที่นี้ด้วยครับ สงสัยหรือต้องการพูดคุยมีคำถาม กด Like กด Share กด Subscribe ได้ที่

FB : http://www.facebook.com/littleduckinthefog "เป็ดน้อยในดงหมอก"

Youtube : Little duck in the fog

รีวิวแบ่งเป็น 4 ตอนครับ

1. รีวิว Hongkong Airline A330 Business class และ Miracle Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ - Club Autus ที่ Hong Kong International Airport

2. รีวิว Hotel Ease Access Wanchai โรงแรมฝั่งฮ่องกงที่ผมเข้าพัก พร้อมวิธีการเดินทางจากสนามบิน Chep Lap Kok (Hong Kong International Airport)

3. ทริปนี้เรากินอะไรกันบ้างที่ฮ่องกง -- Eat Me See Hong Kong --

4. Part นี้เป็น Part เที่ยวล้วนๆ และส่วนใหญ่ก็เป็นฝั่งฮ่องกง -- Hong Kong Calling Day --

จากตอนที่แล้วผมมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงประมาณ 9 โมงตามเวลาท้องถิ่นครับ สนามบิน Chep Lap Kok เป็นสนามบินที่สะดวกสบายมากๆในหลายเรื่องครับ ทั้งในด้านการคมนาคมเข้าเมืองมีทั้ง รถเมล์ แท๊กซี่ แต่ที่ผมเลือกใช้บ่อยๆเลยคือ Airport Express อีกทั้งในเรื่องอาหารการกิน และเรื่องป้ายบอกทาง ไม่ต้องกลัวว่าจะไปไม่ถูกครับ

ผมเลือกใช้บริการ Airport Express โดยซื้อบัตร AE ที่สามารถขึ้น Airport Express ไป - กลับ รวม MTR Subway 3 วัน คือถ้าคุณมีบัตรนี้คุณจะโดยสาร Airport Express เข้าเมืองทั้งขาไป - ขากลับ และขึ้นรถไฟใต้ดิน MTR Subway ได้ตลอด 3 วันไม่จำกัดเที่ยว ทั้งหมดนี้ในราคา 350 HKD แต่ช้าก่อนถ้าคุณไม่อยากเก็บบัตรกลับเมืองไทยเป็นที่ระลึก (ซึ่งจริงๆก็มีน้อยคนที่จะเก็บ ฮ่าๆๆ) ก่อนคุณกลับคุณสามารถเอาบัตรมาคืนที่ Counter AE ที่คุณซื้อตอนแรกนั่นแหล่ะ คุณจะได้ค่ามัดจำบัตรคืนตั้ง 50 HKD ต่อ 1 ใบ เป็นผมๆก็แลกคืน ขี้งกแม้กระทั่งเงิน 200 ฮ่าๆๆ

ผมนั่ง AE มาลงที่สถานีฮ่องกง และจากสถานีฮ่องกงให้เดินมาที่สถานี Central และต่อ MTR มาลงที่สถานี Causeway Bay ให้เดินออกทางออก C ครับ

เมื่อขึ้นมาจากสถานี Causeway Bay Exit C ถนนข้างหน้าจะชื่อ Lockhart Rd. ให้คุณเดินมาทางซ้ายตรงไปประมาณ 350 เมตรจะเจอตึกที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมครับ

เดินลอดใต้สะพานมาซัก 150 เมตรก็จะเจออาคารที่ชื่อ CHUANG's ENTERPRISES BUILDING ชั้น 16 ของตึกนี้แหละครับเป็นที่ตั้งของ Hotel Ease Access Wanchai ครับ

ขึ้นมาชั้น 16 แล้วครับ ก็มาติดต่อ Reception ครับมา Check-in ได้เลยแต่เข้าพักได้ 14:00 เวลา Check-out 12:00 นะครับผม

ช่วงที่ผมมาถึงน่าจะประมาณ 10:30 - 11:00 ยังไม่มีใครมาเลยจร้า เลยชิวๆสบายๆสมกับเป็นทริปหอยทากของเรา เรื่องราคาก็ออกจะโหดอยู่ครับ แต่ช่วงที่ผมไปราคาโหดทุกที่ครับเช็คหลายโรงแรมแล้วใจแทบหล่น ห้องที่ผมซุกหัวนอนราคาคืนละ 4700 บาทจองใน Agoda ครับ

ผมได้ห้อง 1601 ก็อยู่ชั้นเดียวกับ Reception เลยแหละครับ

ภายในห้องเป็นห้องที่เล็กพอสมควรครับ ถ้านึกไม่ออกว่าเล็กอย่างไรให้นึกถึง IBIS หรือ BENITO ที่ผมรีวิวไปก่อนหน้านี้ คือถ้าแบะเปิดกระเป๋าใหญ่ๆวางกับพื้น ก็ไม่ต้องเดินกันพอดีครับ

เตียงนอนเหมาะสำหรับนอน 2 คนสบายๆไม่อึดอัด หมอนดีใช้ได้ไม่แฟ่บแบบญี่ปุ่น เตียงนุ่มสบายครับ แต่ถ้าจะมีเด็กนอนด้วยก็คงต้องเป็นเด็กตัวจิ๋วแหละครับ ถ้าโตขึ้นมาหน่อยน่าจะนอนกันอึดอัดพอสมควรครับ

อุปกรณ เครื่องใช้ มีตู้เสื้อผ้า ร่ม และ Locker ร่มนี่ขาดไม่ได้เลย อากาศแปรปรวนเหลือเกิน (ณ ขณะที่ผมรีวิวอยู่นี่มีพายุเข้า Wanchai เสียชีวิตไป 2 คน) ฮ่องกงถ้าพายุเข้านี่อันตรายมากครับ ยังไงก่อนวาง Plan เช็คภูมิอากาศกันด้วยนะจ๊ะ

ด้านขวามือของห้องก็เป็นโต๊ะออฟฟิตวางของมองเห็นวิวถนน ฮ่องกง

ขนมนี่ผมซื้อมาเองนะครับ ทางโรงแรมไม่ได้จัดมาให้นะจ๊ะ ผมว่ามาอยู่แถบนี้มันได้มุมมองไปอีกแบบครับ ผมมาฮ่องกงหลายครั้งอยู่ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เลือกย่านฝั่งฮ่องกงครับ ก็ไม่จำเจดีครับ

โรงแรมโดยปรกติก็จะมีโทรศัพท์ไว้บริการ เล่นเนตได้ด้วย แต่ครั้งนี้ผมลอง Sim2Fly ดูเป็นครั้งแรกก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่ก่อนจะพก Wireless Router แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยสะดวกเพราะต้องพกอีกเครื่องพร้อมสายขาจกับ Power Bank เลยเลือก Sim2Fly ก็สัญญาน OK ครับ (ซื้อเองนะจ๊ะ)

ในห้องมีกาน้ำร้อน ชา กาแฟ น้ำเปล่าให้ 2 ขวดครับ ทริปนี้ผมเอาน้ำเปล่าแบกไปด้วย มา 3 วัน 2 คืนทริปนี้ไม่ได้ซื้อน้ำเลย ผมว่าน้ำเปล่าแพงมาก แบกน้ำเปล่าไปเองกับที่บนเครื่องบินแจกด้วย

ห้องน้ำก็เป็นแบบกะทัดรัด น้ำร้อนอิ๊บอ๋าย บิดเกินมานิดเดียว XXแทบสุก ทำงานดีมาก

ในห้องน้ำมี แชมพู เจลอาบน้ำ และ โลชั่นทาตัวครับ

แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หวี ที่โกนหนวดและครีม มีไว้ให้บริการครับ

ดูคลิปวีดีโอวิธีการเดินทางและรายละเอียดของห้องได้ที่นี่ครับ

I am a Runner

 วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 20.33 น.

ความคิดเห็น