สวัสดีครับ อากาศร้อนๆแบบนี้ ไปขึ้นภูเขาหิมะกันมั๊ย สักครั้งในชีวิตเหมือนกันนะที่อยากขึ้นภูเขาหิมะ 🗻ทริปนี้จะพาไป Jade Dragon Snow Mountain, Blue moon valley ไปขึ้นภูเขาหิมะกัน 2 ลูกและเยือนเมืองโบราณ 3 แห่ง ต้าหลี่ ลี่เจียง แชงกรีล่า

📣เราใช้เวลา 7 วัน (14/4/2019 - 20/4/2019)📣

Day 1 : กรุงเทพ - คุนหมิง

Day 2 : ต้าหลี่ - ลี่เจียง

Day 3 : ลี่เจียง

Day 4 : Jade dragon snow mountain, Blue moon valley

Day 5 : แชงกรีล่า

Day 6 : Shika snow mountain, Napa Lake

Day 7 : แชงกรีล่า - กรุงเทพ


รีวิวทริปย่าติงเมื่อ กย.2018 ครับ

https://th.readme.me/p/20501

ติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่

www.facebook.com/OKReady2go

ฝากกดไลค์ให้กำลังใจด้วยน๊าาา 😊😊

🛬มาถึงสนามบินฉางสุ่ย เราจองที่พักที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า เราจึงเลือกนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง 🎫สามารถมากดซื้อตั๋วที่ตู้ได้เลย คล้ายๆบ้านเรา มีเมนู ENG ครับ แล้วก็เลือกสถานีที่จะลง อาจจะมีลงต่อสายอื่นบ้าง แต่ไม่ยากครับ ค่ารถคนละ 6 หยวน

ที่นี่เวลาเข้าสถานีรถไฟฟ้าหรือรถไฟ ต้องแสกนกระเป๋าด้วยนะครับ

เดินออกมาจากรถไฟฟ้าไม่ไกล ที่พักของเราในคืนนี้คือ Hanting Hotel Kunming Railway Station (ป้ายชื่อไม่มีภาษาอังกฤษ แต่ google map ได้อยู่ครับ) ซึ่งก็สามารถเดินไปสถานีรถไฟเพื่อไปเมืองอื่นได้ ไม่ไกล

ห้องพักสะอาดดี รอบๆโรงแรมมีร้านอาหาร ร้านขายของครบถ้วน ที่พักตกประมาณคืนละ 200 หยวนครับ

เก็บของเสร็จเราก็เดินไปสถานีรถไฟเพื่อไปซื้อตั๋วไปต้าหลี่ในวันรุ่งขึ้น โดนเราเลือกนั่งรถไฟความเร็วสูงไป 🚅🚅

เข้ามาด้านในให้เข้ามาตรง ticket หมายเลข 1 เลยครับ โดยเราสามารถเช็ครอบรถและราคาได้ที่นี่ก่อนครับ https://th.trip.com/trains/schedule/

ต้องใช้พาสปอร์ตทุกครั้งนะครับเวลาซื้อตั๋ว เราซื้อตั๋วจากคุนหมิงไปต้าหลี่ และจากต้าหลี่ไปลี่เจียง ทีเดียวเลย 🚅

ได้ตั๋วเรียบร้อย เก็บดีๆเลยครับ ตั๋วระบุชื่อด้วยนะครับ ค่ารถไฟความเร็วสูงไปต้าหลี่ ราคา 145 หยวน และจากต้าหลี่ไปลี่เจียง 49 หยวน

มีเวลาเดินเล่นที่คุนหมิงครึ่งวัน เราแวะไปวัดหยวนทง เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองคุนหมิง สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุกว่า 1,200 ปี ค่าเข้าคนละ 6 หยวน

แวะเดินย่านช็อปปิ้ง ที่ถนน nanping

Jin Bi Square (จิน ปี้ ก๋วง ฉ่าง) ซุ้มประตูม้าทอง ไก่มรกต

Day 2 : เราเดินทางไปต้าหลี่ด้วยรถไฟความเร็วสูงครับ 🚅 รอบเช้าเลย ให้ดูรหัสหมายเลขขบวนรถเลยครับ ว่า ไปเกทไหน มันมีแต่ภาษาจีนครับ 😅

สังเกตุหมายเลขโบกี้ที่พื้นนะครับ

ตั๋วระบุที่นั่ง ภายในนั่งสบายครับ มีที่วางกระเป๋าด้านบน

มาถึงต้าหลี่ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม. ครับ หาที่ฝากกระเป๋า แล้วไปเดินย่านเมืองเก่าต้าหลี่ครับ ตกใบละประมาณ 10 หยวน จะได้ tag มา

เดินมาทางขวา(หันหน้าออกถนน)จะเจอคิวรถแท็กซี่ครับ เรานั่งรถแท็กซี่ไปประมาณ 46 หยวน

ต้าหลี่ เป็นเมืองโบราณทางตะวันตกของคุนหมิง ห่างมา 400 กิโลเมตร มีกำแพงล้อมรอบ และเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของจีนด้านหนึ่งติดเทือกเขาชางซานที่สูง 4,000 เมตร อีกด้านติดทะเลสาบเอ๋อร์ไห่ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของจีน

เมืองโบราณต้าหลี่ สร้างขึ้นเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน แต่เมืองโบราณแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะเห็นประตูเมืองทั้งด้านใต้และด้านเหนือที่มีสถาปัตยกรรมสอดรับกัน ตามสองฟากของถนนสายเก่าแก่มีบ้านโบราณปลูกสร้างไว้อย่างกระจัดกระจาย

มีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบเลย 📸

ของกินแปลกๆหลายอย่าง 🍡🍢อันแรกเหมือนแป้งโรตีม้วนแล้วเอาไปย่างให้กรอบ จริงๆมันคือชีสย่าง รสชาติ เปรี้ยวนิดๆ ไม่บอกไม่คิดว่าคือชีส และอีกอย่างขนมเปี๊ยะไส้กุหลาบ ของขายยอดฮิตของที่นี่ มีหลายร้านมากๆ

คนมาเที่ยวที่นี่เยอะจริงๆ 😅

ใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพักนึงก็กลับไปที่สถานีเพื่อนั่งรถไฟต่อไปลี่เจียง

เข้ามาในสถานีแล้วเดินมาทางซ้ายเลยครับ ชั้น 1

ขบวนนี้เป็นรถด่วนพิเศษ ไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง


มาถึงย่านเมืองเก่าลี่เจียง เก่าแก่กว่า 800 ปี ที่มีสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแตกต่างไปจากเมืองโบราณอื่นๆของจีน เนื่องจากเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งรกรากของชาวหน่าซี หรือนาซี มาตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองนี้ยังได้รับการขนานนามว่า "เวนิสแห่งตะวันออก" และเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย

จุดชมวิว หลังคาเมืองลี่เจียงที่เป็นเอกลักษณ์

เมืองเก่าลี่เจียงเป็นตอนกลางคืนเป็นอะไรที่น่าเดินมากๆ มีการจัดไฟตกแต่งตามร้านต่างๆอย่างสวยงาม 🤩

กังหันน้ำ ที่ลี่เจียง เป็น Landmark ของที่นี่เลย คนจะเยอะเป็นพิเศษตรงนี้

เช้าวันรุ่งขึ้นเราเดินผ่านวัดนึงเข้าไปเจอบ่อน้ำขนาดใหญ่ ชื่อ Baima Longtansi แวะเข้าไปถ่ายรูปเล่นดูเงียบสงบดีครับ

เมืองเก่าลี่เจียงตอนนี้เหมือนจะไม่มีการเก็บค่าเข้าแล้วนะครับ เคยอ่านๆรีวิวมาผ่านๆว่าไม่เก็บแล้ว สรุปก็คือไม่มีการตรวจแล้วครับ

ไม่คิดว่าจะเจอใบไม้แดงที่นี่ด้วยแฮะ 😊😊

ที่เมืองเก่าลี่เจียงนี่มุมถ่ายรูปเล่นคือแบบ 📸 เยอะมากๆ แถมอากาศก็ดี๊ดี เย็นสบาย เดินเล่นได้ทั้งวัน 😙

เดินมาเจอคล้ายๆเป็นศูนย์อาหารครับ 🍽 มีของกินหลายอย่างเลย ราคาก็ไม่ถูกนะครับ อาหารแพงกว่าบ้านเรา

แถมที่นี่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากหลาย สวยงามมากๆ 💐🌷🌹🌺

ตกตอนเย็นก็จะมีชาวพื้นเมืองออกมาเต้นรำกันด้วย 💃 เป็นโมเม้นที่ดีมากๆเลยนะ 😍

เช้าวันต่อมาเราเลือกซื้อทัวร์ one day trip ที่โรงแรมไป ภูเขาหิมะมังกรหยก, Blue moon valley และ ดูโชว์ impression of lijiang ทั้งหมดราคา คนละ 550 หยวน รวมค่ารถ ค่ากระเช้า ค่าเข้าทุกอย่างละอาหารกลางวัน 1 มื้อ

วิวภูเขาหิมะมังกรหยกที่สามารถเห็นได้ตลอดที่อยู่ที่ลี่เจียง เดี๋ยวเราจะขึ้นไปบนยอดนั้นกัน 😄😄

⏱ทัวร์นัดรับเราที่พัก 7.30 น. เป็นรถ van เล็กนั่งได้ 8 คน 🚐 เป็นทัวร์กรุ๊ปเล็ก มีไกด์ 1 คนขับรถเอง ถือว่าดูแลดีครับ ถึงมาแต่เช้าแต่คนมาที่นี่ก็เยอะมากๆ ต่อคิวขึ้นกระเช้า ขึ้นรถบัส ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยครับ (ตรงด่านเก็บค่าเข้าอุทยาน ผู้สูงอายุจะได้ลดค่าเข้าครึ่งนึงด้วยนะครับ โชว์พาสปอร์ตให้ดู)

สิ่งที่นี่ตกใจพอๆกับวิวภูเขาหิมะอลังการ 😲 ก็คือคนจีนนี่แหละครับ 555 เยอะจริงๆ ถ่ายรูปแต่ละทีนี่ญาติเยอะเต็มไปหมด 😁😅ข้างบนนี้มีตัวลามะ ให้ถ่ายรูปด้วยนะ ราคา 20 หยวน

🗻บนยอดนี้ความสูง 4,506 เมตรนะครับ ต้องระมัดระวังอาการแพ้ความสูงด้วย ทัวร์มีให้ออกซิเจนกระป๋องคนละ 1 กระป๋องถ่ายรูปพร้อมๆกับเพื่อนร่วมโลกชาวจีนไปหลายช็อตแล้ว 😄ก็ลงมาครับ เราอาจจะมีเวลาอยู่บนนี้ไม่มากเท่าไรนะครับเพราะเราจะไปดูโชว์กันต่อ

ลงมาจากภูเขาเรามาดูโชว์กันต่อเลยครับ การแสดงใช้คนเยอะมากๆ ฉากหลังเป็นภูเขาสวยงาม ราคาตั๋วเฉพาะโชว์ 280 หยวน เรามาแบบทัวร์คิดไปคิดมาถูกกว่ามาเองอี๊กก มีรถรับส่งถึงโรงแรม

รูปนี้ผมเดินไปด้านหลังสุดเลย เหมือนดูจากด้านหลังจะเห็นการแสดงได้ทั่วกว่า

ฉากการแสดงรวมถึงฉากหลังอลังการเลย

เสร็จแล้วก็พักกินอาหารกลางวัน

แล้วเราก็ไป หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) กันต่อครับ 🤩 ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือแม่น้ำที่ไหลลงมาจาก ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) 🗻 กับน้ำสีเทอร์ควอยซ์ใสปิ้งๆ สวยมากๆ กับฉากหลังที่เป็นภูเขาหิมะสวยๆ ขอบอกเลยว่าของจริงมันสวยกว่าในรูปมากๆเลยนะ ตั้งใจจะมาถ่ายรูปกับจามรี เดินข้ามแม่น้ำ แต่มาถึงจามรีเลิกงานแล้วจ้าาา 🙄

ที่นี่มีคู่รักมาถ่ายพรีเว้ดดิ้งกันหลายคู่เลย 😍 เราเลยอยากถ่ายบ้าง แต่ของเรามีพยานยืนยันด้านหลังเพียบเลย 555 😁😁

วันรุ่งขึ้นเราก็มาสถานีรถบัสเพื่อต่อไปแชงกรีล่า กะว่ารถมีทุกครึ่ง ชม. น่าจะสบายๆคนไม่เยอะมาก ที่ไหนได้ ต้องรอไปอีก 2ชม.จ้า ตั๋วเต็ม (ใช้พาสปอร์ตทุกครั้งนะ) ค่าตั๋ว 68 หยวน

ออกมาเดินแถวด้านนอกสถานีไปเจอร้านเบเกอรี่ร้านนึงขนมอร่อยมากอยู่เยื้องๆสถานีตรงหัวมุมถนน 😋 แวะซื้อไว้รองท้องมื้อกลางวัน เพราะเราต้องนั่งรถไปประมาณ 4 ชม.🚌

มาถึงแชงกรีล่า รถจะหยุดจุดนึงก่อนจะเข้าไปที่ท่ารถ ซึ่งเราเปิดดูจากแมพแล้วใกล้ที่พักเราย่านเมืองเก่ามากกว่า เลยลงที่จุดนี้เลย

เราพักที่ Shangri-La Baita International Youth Hostel ห้องพักดูดี เดินไปวัดต้าฝอไม่ไกล ตกคืนละประมาณ 100 หยวน

วัดต้าฝอ หรือ วัดกุยชาน (Guishan Temple) เรามาหน้านี้ยังพอเห็นต้นซากุระบานอยู่พอสมควร ที่นี่เค้าจัดสวยดีนะ 🌸ทางขึ้นก็พอจะหอบไปได้หลายแฮ่กเลย และถึงแม้จะไม่ได้อยู่บนภูเขา ที่นี่ก็ถือว่าเป็นที่สูง 3 พันกว่าเมตร สูงกว่าดอยอินทนนท์บ้านเราอยู่เยอะ เวลาเดินก็ค่อยๆเดินช้าๆนะครับ

Prayer Flag (ธงมนต์) มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และแน่นอนภาพและข้อความเหล่านั้นสะท้อนถึงแนวคิดและความเชื่อตามหลักพุทธศาสนาแบบธิเบต เมื่อลมพัดสายธงที่เต็มไปด้วยมนตราและภาพสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธ์ ก็เหมือนกับส่งพลังศักดิ์สิทธิให้ครอบคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ เสมือนเครื่องรางและสิ่งนำโชคให้กับผู้คนในบริเวณนั้น
สีที่ใช้กับธงมนตรามี 5 สี บอกความหมายถึงธาตุทั้ง 5 และจัดเรียงลำดับจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย หรือจากล่างขึ้นบนก็ได้ เริ่มจากสีเหลือง หมายถึง ดิน, สีเขียว หมายถึง น้ำ, สีแดง หมายถึง ไฟ, สีขาว หมายถึง ลม และสุดท้ายเป็นสีฟ้า หมายถึง อากาศธาตุ

ที่นี่จะมีกงล้อแบบทิเบตเพื่อหมุนสำหรับขอพร แต่กงล้อที่นี่มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่น คือ เป็นกงล้อยักษ์ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูง 21 เมตร และน้ำหนักมากถึง 60 ตัน ต้องใช้แรงคนมากกว่า 20 คนถึงจะสามารถหมุนได้


ย่านเมืองเก่าที่นี่ต่างจากที่ลี่เจียงมากๆ จะเงียบสงบกว่าเยอะเลย อากาศที่นี่ก็หนาวกว่าที่ลี่เจียงอยู่เยอะ ส่วนตัวชอบที่นี่มากกว่าลี่เจียงนะ ดูชิลกว่ามาก แต่อาจจะของกิน ขนมต่างๆ ไม่มากเท่าที่ลี่เจียง

Day 6: วันนี้เราจะไปขึ้นภูเขาหิมะอีกลูก Shika Snow Mountain และ Napa Lake เราใช้บริการของที่พัก คิดเรา 180/คัน เราไปกัน 4 คน 🚡 ส่วนค่าขึ้นกระเช้าตอนนี้เหลือคนละ 160 หยวนครับ กระเช้าที่นี่ขึ้นค่อนข้างช้าเลยนะ slow life ชมวิวกันไป

ด้านบนมีที่นั่งพักหลบหนาว มีอาหารขายอยู่บ้าง

ที่นี่คนน้อยกว่าที่ ภูเขาหิมะมังกรหยกแบบคนละเรื่อง 😉 แถมวิวสวยกว่าอี๊ก แวบแรกที่เดินออกมาคือหนาว ❄️ แถมลมแรงอีก คือถุงมือและหมวกจำเป็นมากสำหรับที่นี่นะ

วิวดีงามมมม ประทับใจมากกกก 😊😍

ด้านบนมีทำทางเดินไว้ดีเลย ที่นี่ถ่ายรูปสบายๆครับ ญาติไม่เยอะ 😆 มีลานหิมะให้ลงไปเกลือกกลิ้งได้เลย

ลงมาเราก็ไป Napa Lake กันต่อ ลุงคนขับแกพาไปจุดที่ไม่ต้องเสียเงิน เราก็เดินลงไปถ่ายรูปกับจามรี คนที่นี่คงขำ 😆 อารมณ์คงเหมือนฝรั่งมาถ่ายรูปกับวัวกับควายบ้านเรา 😄

ลุงแกบอกช่วงหน้านี้ ที่นี่ยังไม่ค่อยสวยเท่าไร แกบอกช่วงเดือน 6 จะสวยที่สุด

หันมาหาน้องม้าบ้าง🐴 เริ่มเบื่อจามรีละ 😄 ไม่เห็นมีตัวสีขาวๆขนฟูๆสวยๆเหมือนที่เคยเห็นในเน็ตเลย

นี่ไง พึ่งถ่ายรูปกับมันมาหยกๆ สั่งหม้อไฟจามรี โอ้ยย ทำร้ายจิตใจจริ๊งงง ซัดไปคำนึง เรื่องเงียบบบ 😊

เดินย่อยๆในเมืองเก่าสักพัก แวะไปดูคนที่นี่มาเต้นรำกันที่ใจกลางเมือง

เรายังจำความรู้สึกในครั้งก่อนได้อยู่เลย ที่เข้าไปเต้นกะเค้า 💃 เต้นก็ไม่ได้เข้าจังหวะกะเค้าเลย มั่วมากๆ นักท่องเที่ยวหลายคนก็เข้าไปร่วมวงด้วย มองไปทางไหนก็เห็นแต่รอยยิ้ม ช่างเป็นโมเม้นต์ที่สนุกสนานและน่าจดจำมากๆ ประทับใจจริง 😍

เดินกลับมาที่วัดต้าฝอ 📸 ขอถ่ายรูปวัดยามค่ำคืนที่เปิดไฟ สวยงาม เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ดูเพลินดีจัง 😊

และแล้วเราก็ได้ถ่ายรูปกะจามรีจนได้ 📸 คราวนี้จัดเต็มไปเลย พร็อบชุดชาวพื้นเมืองก็มา โดยเค้าจะคิดเป็นค่ารูปๆละ 20 หยวน แล้วจะมีตากล้องมาถ่ายให้เรา จัดท่าทางให้ เค้าจะปริ้นรูปให้เราเลยนะคือขั้นต่ำเราต้องเอา 1 รูป ส่วนค่าขี่จามรีต่างหากนะ ถ่ายรูปกะจามรี 20 หยวน ร้านเช่าชุดนี่ก็เร่งเราจัง จะไปถ่ายกะจามรีตอนแรกก็จะไม่ให้ บอกคนละร้าน ต้องเดินไปถามร้านจามรี แล้วก็รีบๆถ่าย สงสัยเราซื้อเค้ารูปเดียว เค้าคงไม่พอจายยยยย 😆

ภารกิจจามรีเสร็จสิ้นละ สบายใจ 555 😊😆 เราไปวัดซงจ้านหลินกันต่อครับ ตอนนี้เหมือนจะไม่มีตั๋วขายที่โรงแรมแล้วนะ ต้องไปซื้อตั๋วที่จุดขายตั๋วเลย นั่งรถสาย 3 ไปถึงจะมีคนบอกให้ลง เนื่องจากเราพึ่งไปมาปีทีแล้วเราเลยกะว่าจะแค่ไปถ่ายรูปรอบๆทะเลสาป แต่เหมือนว่าเค้าจะไม่ให้เข้าไปถ้าไม่มีตั๋ว เราเลยให้น้องที่ไม่เคยมาเข้าไป ค่าตั๋วคนละ 90 หยวนแล้วก็นั่งรถบัสต่อเข้าไป


(นี่รูปเก่าปีที่แล้วนะ)

“แชงกรีล่า” การเดินทางไปสู่แชงกรีล่านั้นต้องเดินทางไต่ไหล่เขาไปเรื่อยๆ ใช้เวลานานพอสมควร ไม่ต่างอะไรกับดินแดนในฝัน โดยชื่อแชงกรีลานั้นมาจากภาษาธิเบต หมายถึง หนทางนำไปสู่ดวงตะวันและดวงจันทร์โดยดวงจิต และแปลอีกความหมายหนึ่งว่า ดินแดนอีกด้านหนึ่งของโลกหรือแดนสวรรค์บนโลก

นี่คือข้อมูลที่ได้จากในเนต ในความจริงเมืองแชงกรีล่านั้นเจริญมากๆ มีสนามบิน แต่ไม่มีตึกสูง และรูปแบบของตึกนั้นจะเป็นเอกลักษณ์เหมือนๆกันหมด แต่ในย่านเมืองเก่านั้นก็ยังคงรักษาความมีเสน่ห์ ในสไตล์ทิเบตไว้ได้อย่างดี

จบแล้วครับสำหรับทริปนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 17-18k นะครับรวมทุกอย่าง

งบประมาณขนาดนี้ได้ขึ้นภูเขาหิมะ 2 ลูก สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่า 3 ที่ ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ


📣TIP📣

-ถึงแม้อากาศจะเย็น แต่แดดแรง UV เยอะสังเกตุจากแว่นที่เปลี่ยนสีตาม UV จะสีเข้มมาก ควรพกครีมทากันแดด และแว่นกันแดดปกป้องด้วยนะ

-ควรทำการบ้านภาษาจีนมาด้วย เพราะภาษาอังกฤษแทบไม่ช่วยอะไร

-ควรพกหน้ากากอนามัยมาด้วย เพราะคนจีนสูบบุหรี่จัด

-ซื้อตั๋วรถบัส รถไฟทุกครั้งใช้พาสปอร์ตด้วยนะ

-อย่าตกใจถ้าคนจีนพูดจาเสียงดัง กระโชกโฮกฮาก เป็นปกติ


www.facebook.com/OKReady2go

ขอฝากเพจไว้ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด like เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ หรือมีคำถามอะไรก็ ib มาได้เลย แล้วเราจะเก็บภาพมาฝากกันอีกแน่นอน


ขอบคุณครับ

OK Ready2Go

 วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 21.31 น.

ความคิดเห็น