Cebu, Philippines

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ

รีวิวนี้จะเป็นรีวิวการท่องเที่ยวใน Cebu ,Philippines

สำหรับคนที่ชอบลุยและชอบความลำบาก (แต่แน่นอนมันคุ้ม!!)



รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 - 10 เมษายน 2562

- ถึงสนามบิน Cebu เช้าวันที่ 6 เวลา ประมาณ 5.00 น.

- บินออกจากสนามบิน Cebu วันที่ 10 เวลา ประมาณ 12.00 น.


สถานที่ท่องเที่ยว

1. เมือง Oslob (วันที่ 6 - 7)

    • Oslob Whale Shark Watching (ที่ดูฉลามวาฬ)
    • Tumalog Falls
    • Sumilon Bluewater Island Resort Port

2. เมือง Moalboal (วันที่ 7-10)

    • White Beach
    • Canyoneering
    • ทัวร์ดำน้ำ

ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (ทริปนี้เดินทางกันทั้งหมด 4 คน) ค่าใช้จ่ายรวม 14,600 บาท

    1. ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ BKK - CEB : 7,000 บาท (ราคานี้มีเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์)
    2. ค่าที่พักคืนวันที่ 6 : 450 บาท
    3. ค่าที่พักคืนวันที่ 9 : 700 บาท
    4. ค่าใช้จ่ายหลัก : 3,550 บาท (5800 Php)
      • ค่าเดินทาง (Grab) : 250 Peso ต่อคน
      • ค่าเดินทาง (เช่ามอเตอร์ไซค์ / ค่าน้ำมัน ) : 1,400 Php ต่อคน
      • ค่ากิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ : 3,000 Php
        1. ดูฉลามวาฬ 1,000 Php ต่อคน
        2. Canyoneering 1,500 Php รวมอุปกรณ์ทุกอย่างรวมรองเท้า ต่อคน
        3. นั่งเรือข้ามเกาะ และกิจกรรมอื่นๆ (ประมาณ 700 Php)
      • ค่าที่พักคืนที่ 7 - 8 : 900 Php ต่อคน
    5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าอาหารของฝาก ซิมเน็ต) 2,900 บาท (4,700 Php)
***************************************บินตรง Cebu - bkk ไม่เสียค่าภาษีสนามบิน*********************************************

สรุปภาพรวมค่าใช้จ่าย แบ่งออกเป็น 3 ก้อน

1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 7,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน (ค่าเดินทาง + ที่พัก + กิจกรรมต่างๆ) 4,700 บาท
3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าอาหาร + อื่นๆ) 2,900 บาท
รวม 14,600 บาท

รายละเอียดการเดินทางทั้งหมด 5 วัน 4 คืน

(การเดินทางท้ังหมดในเกาะ ผมและเพื่อนเช่ามอเตอร์ไซค์กันตั้งแต่ที่สนามบิน โดยใช้เส้นทางตามที่แสดงในรูปประกอบด้านล่าง)

จุดสีแดง เป็นเมืองที่ผมและเพื่อนใช้ในการพักผ่อน ประกอบด้วยเมือง Oslob และ Moalboal

Day 1 - 06 เมษายน 62

2.00 น. : ออกเดินทางจากสนามบินสิงคโปร์

5.00 น. : ถึงสนามบิน Mactan - Cebu Intl Airport จากนั้นเรียก Grab ไปส่งที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์

7.30 น. : ออกเดินทางสู่เมือง Oslob (ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.)

11.30 น. : ถึงเมือง Oslob


Day 2 - 07 เมษายน 62

6.00 น. : เดินทางไปชมฉลามวาฬที่ Oslob Whale Shark Watching

8.30 น. : เริ่มทำกิจกรรม

9.30 น. : เดินทางไปยัง Sumilon Island

13.00 น. : ออกจากที่พัก และเดินทางไปน้ำตก Tumalog Falls

13.30 น. : เดินทางสู่เมือง Moalboal (ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.)

16.30 น. : ถึงเมือง Moalboal


Day 3 - 08 เมษายน 62

8.00 น. : เดินทางไป Canyoneering

13.00 น : เดินทางไปดำน้ำชมปะการังที่เกาะ Zaragosa ดูเต่า และฝูงปลาซาร์ดีน


Day 4 - 09 เมษายน 62

10.00 น. : เดินทางไป White Beach

12.00 น. : ย้ายที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย


Day 5 - 10 เมษายน 62

7.00 น. : ออกเดินทางจาก Moalboal กลับมายังสนามบิน เพื่อเดินทางกลับ

9.30 น. : คืนรถมอเตอร์ไซค์ และนั่ง Grab กลับสนามบิน

10.30 น. : ถึงสนามบิน Mactan Cebu Intl Airport


Let's Begin !!


ผมกับเพื่อนเราออกเดินทางจาก ประเทศไทย ในวันที่ 3 เมษายน 62 เวลาประมาณ 21.00 น. ไปยัง ประเทศสิงคโปร์ และออกเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ ไปยังเกาะ Cebu ประเทศฟิลิปปินส์ ในเช้าวันที่ 6 เมษายน 62 เวลาประมาณ 2.00 น. ซึ่งน่าจะถึง Cebu ประมาณ ตี 5.00 น. โดยทริปนี้ทั้งทริป ผมและเพื่อนตั้งใจว่าเราจะเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับรอบเกาะกัน (บอกเลยว่าเหนื่อยกว่าที่คิดไว้จริงๆ แต่ถือว่าคุ้มเพราะเราสามารถควบคุมเวลาได้ และวิวข้างทางบอกเลยว่าสุดดด)


Day 01 : Singapore - Cebu - Oslob


และแล้วเราก็มาถึงสนามบิน Mactan Cebu Airport เวลาถึงโดยประมาณ 5.30 น. เมื่อลงเครื่องมาเราก็ผ่าน ตม. ซึ่งจะต้องกรองใบเข้าเมืองและใบสุขภาพ รวมๆ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที จากนั้นพอผ่าน ตม. ออกมา ก็จะเป็นลานกว้างๆ เราจะเจอกับร้านขายซิมการ์ด ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 300 php (6 Gb) - 500 php (10gb) (ประมาณ 200 - 300 บาท ) ( ผมแนะนำว่าซื้อแค่ 300 php ก็พอครับ เพราะสัญญาณเน็ตไม่ค่อยดีแบบจริงจัง ผมซื้อมา 10 Gb ใช้ไปไม่ถึง 3 Gb)

สำหรับบรรยากาศในเช้านี้บอกเลยว่าน่ากังวลมากครับ เมฆนี่แบบว่ามืดมาก ในใจผมนี่ไม่อยากให้ฝนตกเลยเพราะว่าต้องขับมอเตอร์ไซค์กันอีกไกล ถ้าเกิดตกจริงคงซวยมากเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาลุยฝนกันเลย หลังจากผมและเพื่อนซื้อซิมการ์ดเสร็จ เราก็ทำการเรียกแกร็บ (ค่าเดินทาง 450 Php) เพื่อเดินทางไปรับรถมอเตอร์ไซค์ที่เราจองไว้ ซึ่งขณะนี้เวลาประมาณ 6.30 น.

ผมกับเพื่อนถึงร้านเช่ารถเวลาประมาณ 7.15 น. (ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์อยู่ที่วันละ 450 Php น้ำมันรถเต็มถังตอนรับ และมีค่ามัดจำรถอีกคันละ 2000 Php) ใครที่สนใจเช่ารถจากพี่เค้า สามารถ Add facebook เค้าได้ที่ : Jackie SUrnaljag Nozmih)

ซึ่งหลังจากที่ผมและเพื่อนถึงร้านเช่ารถ และจัดการเอกสารเสร็จ ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก พวกเรานึกไว้ในใจว่าซวยแล้วววววว เพราะจากร้านเช่ารถไปยัง Oslob ระยะทางประมาณ 114 กม. และใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชม. (ในรูปเป็นเวลารถยนต์ส่วนตัวนะครับ)

และดูทรงแล้ว ฝนไม่น่าจะหยุดตกง่ายๆ ผมและเพื่อนจึงตัดสินใจเริ่มเดินทางกันทันที โดยตอนนี้เวลาประมาณ 7.45 น. และนี่คือบรรยากาศของการขี่รถลุยฝนครับ


ขับไปได้สัก 1 ชม. ฝนก็ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่องและไม่มีแววว่าจะหยุดเลย ผมกับเพื่อนจึงตัดสินใจแวะพักและทานอาหารเช้ากัน อาหารที่นี่มีความคล้ายกับอาหารบ้านเรา และราคาก็เท่าบ้านเราเลยครับ อยู่ที่ช่วงราคา 40 - 60 Php แต่ค่าเงินเราแข็งกว่าเลยถือว่าถูกกว่าครับ พอกินข้าวเสร็จเราก็เริ่มเดินทางกันต่อ โดยขณะนี้เวลาประมาณ 9.30 น. ฝนยังคงตกลงอย่างต่อเนื่อง

โดยหลังจากขับลุยฝนกันมาต่ออีกราวๆ 1 ชม. ฝนก็เริ่มหยุดตก และนี่คือวิว 2 ข้างทางของเกาะเล็กๆที่ชื่อว่า Cebu ครับ


หลังจากผ่านความยากลำบากที่ขี่มอเตอร์ไซค์ลุยฝนกันมา ในที่สุดผมกับเพื่อนก็ถึงที่พัก เวลาประมาณ 12.00 น. ใช้เวลาไปประมาณ 4 ชม. นิดๆ รวมพักระหว่างทางอีกประมาณ 10 - 15 นาที

โดยผมและเพื่อนเลือกพักกันที่ โรงแรม จีที ซีไซด์ อินน์ (GT Seaside Inn) ราคาต่อคืนอยู่ที่ประมาณ 900 บาทต่อห้องครับ และนี่คือวิวที่พัก บอกเลยว่าชิวมากกก


หลังจากถึงที่พัก เช็คอินกันเรียบร้อย ผมกับเพื่อนทั้งหมดก็หมดสภาพครับ เพราะว่าเหนื่อยมากกกกกกกก จากการขับรถมอไซลุยฝนกันมาทั้งช่วงเช้า

ตกเย็นพวกเราได้ออกไปหาอะไรกินกัน โดยอาหารขึ้นชื่อของเมือง Oslob คืออาหารปิ้งย่างครับ สามารถหากินได้ใกล้ๆกับที่พักเลย ตามรูปภาพประกอบ(พื้นที่ที่วงกลมสีแดง) และอีกอย่างที่ไม่อยากให้พลาดครับ คือน้ำผลไม้ปั่น ที่ไม่ว่าจะมิกซ์กับผลไม้ชนิดใด ก็อร่อยแบบหยุดไม่ได้จริงๆครับ ราคาเริ่มต้นที่ 49 - 89 Php ตามขนาดแก้วและชนิดผลไม้ครับ




Day 02 : Oslob - Moalboal

เช้าวันที่ 2 เราตื่นกัน 6.00 น. และเดินทางไปยัง Oslob Whale Shark Watching เป็นสถานที่สำหรับดูฉลามวาฬครับ (สามารถเดินทางไปที่ศูนย์ได้เลย ขับมอไซค์ไปได้และมีที่จอดรถครับ แนะนำว่าควรไปเช้าๆ นะครับ คนเยอะมากกกกกกกกกก) โดยผมและเพื่อนเดินทางไปถึงกันประมาณ 6.30 น. ซึ่งปรากฎว่าคนเยอะแล้ว กว่าผมและเพื่อนจะได้ลงเรือกันก็เกือบ 8.30 น.


โดยค่าใช้จ่ายจะตกคนละ 1000 php ครับ มีเวลาทั้งสิ้น 40 นาที
(แนะนำว่าให้เตรียมตัวไประดับหนึ่งนะครับเพราะว่า 40 นาที ไวมากกกกก)


หลังจะดูฉลามวาฬเสร็จ ตอนนั้นเป็นเวลา 9.30 น. พวกเราเดินทางไปยัง เกาะ Sumilon Island โดยหลังจากดูปลาเสร็จแล้ว เดินขึ้นมาทางด้านบน จะมีคนมาขายทัวร์อยู่(พวกเราเจอพี่เสื้อส้มครับ) โดยราคาเหมาต่อรถ 1 คัน จะอยู่ที่ 1500 php ใครได้แพงกว่านี้ถือว่าแพงนะครับ โดยเค้าจะมีรถมารับและส่งเราถึงบริเวณที่ดูฉลามวาฬครับ

หลังจากที่เราขึ้นรถมากับพี่เสื้อส้ม เค้าก็จะพาเราไปยังที่ท่าเรือ เพื่อเดินทางไปยังเกาะ Sumilon Island โดยเราจะต้องเสียอีกคนละ 50 php เป็นค่าเข้าเกาะ


เราาสามารถอยู่ที่เกาะนี้ได้ตามสบายครับ หลังจากเราเล่นน้ำเสร็จ และต้องการที่จะกลับไปยังฝั่ง ให้จำสีของพี่ๆไว้ให้ดีๆครับ มากับบ.ทัวร์สีไหน กลับสีนั้นครับ พอเราไปหาเค้าเสร็จเค้าก็จะทำการติดต่อเรือให้มารับเรา



หลังจากพวกเรากลับมาถึงฝั่งก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อเก็บของและเดินทางไปยังจุดหมายถัดไป คือเมือง Moalboal (โดยผมและเพื่อนยังไม่มีที่พักกัน กะไปหาเอากันข้างหน้า ><)

ซึ่งสามารถเดินทางได้ตามภาพในแผนที่เลยครับ วิวข้างทางค่อนข้างชิว โดยใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 - 3 ชม.


โดยก่อนเริ่มเดินทางผมและเพื่อนได้แวะร้านกาแฟระหว่างทางกลับที่พัก บอกเลยว่าวิวสุดมากกกกก บรรยากาศดี นั่งเล่นชิวๆ มองคลื่นน้ำทะเลเพลินๆก็เจอน้องเต่าว่ายน้ำขึ้นมาบนผิวน้ำเป็นระยะ แค่นี้ก็มีคุ้มแล้วครับ

หลังจากออกจากร้านกาแฟมาผมและเพื่อนก็ได้แวะน้ำตก Tumalog Falls กันซึ่งเป็นทางผ่านก่อนที่เราจะเดินทางไปยังเมือง Moalboal ซึ่งเราสามารถขับรถมอไซค์ไปได้ถึงแค่หน้าทางเข้าด้านบนนะครับ หลังจากนั้นเราต้องนั่งมอไซค์วิบากเข้าไปที่น้ำตกคนละ 20 php ครับ


ซึ่งเราใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกกันประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นก็เริ่มเดินทางกัน

วิวข้างทางก็จะประมาณนี้

และแล้วผมกับเพื่อนๆก็ได้เดินทางถึงเมือง Moalboal เวลาประมาณ 17.00 น. สาเหตุที่ถึงค่อนข้างเย็นเนื่องจากผมและเพื่อนมีแวะทางอาหารกันระหว่างทาง จึงถึงช้านิดนึง ><

ซึ่งตอนนี้เรายังคงไม่มีที่พัก พวกเราได้แยกย้ายกันหาที่พักตามพื้นที่รอบๆ Panagsama Beach เนื่องจากชายหาดนี้เป็นหาดที่สามารถลงไปดำน้ำดูปลาซาร์ดีนเป็นล้านๆ ตัวได้เลย เพียงแค่ว่ายออกไป 5 - 10 เมตร



ผมและเพื่อนขับรถหากันประมาณ 30 นาที จนมาถึงจัดในแผนที่

ตรงบริเวณนี้เอง หากเราขับรถมอไซค์เข้ามาพร้อมกระเป๋าจะมีคนวิ่งมาหาเรา และสอบถามว่าต้องการห้องพักมั้ย ลองคุยไปเรื่อยๆ จนได้ราคาที่พอใจนะครับ ผมและเพื่อนได้ราคา 1800 php ต่อคืน ผมและเพื่อนจึงตัดสินใจพักกัน 2 คืนครับ คือคืนวันที่ 7 และ วันที่ 8 เมษายน 2562 (รายละเอียดที่พัก เป็นบ้านหลังใหญ่ 1 ห้องนอนใหญ่ มี 4 เตียง มี 1 ห้องน้ำ และ 1 ครัว)

หลังจากที่เราจัดการเข้าที่พักกันเสร็จแล้ว ในตอนกลางคืนเราก็เดินเล่นแถวๆนั้น มีทั้งร้านอาหาร ร้านนั่งชิว ร้านปิ้งย่างแบบเดียวกับที่ Oslob เลย แถวนั้นมีร้านเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ และก็มีร้านขายของฝากน่ารักๆอีกด้วย ซึ่งในตอนกลางคืนถือว่าคึกคักมากๆ เรียกได้ว่าทุกร้านมีแต่นักท่องเที่ยวทั้งนั้นเลยครับ

สำหรับกิจกรรมถัดไปของเราคือ Canyoneering ซึ่งเราได้ติดต่อกับคนที่เสนอห้องพักให้กับเรานั่นเอง โดยเราได้ราคา 1500 php/คน ซึ่งเขาจะมีอุปกรณ์ต่างๆ(เสื้อชูชีพ หมวกกันน็อค รองเท้าลุยน้ำ) มีอาหารกลางวัน และมีรถมารับ-ส่งถึงที่พักเลย ถือว่าสะดวกครับ เรานัดกันไว้ว่าออกเดินทางตอน 7.30 น. ครับ


Day 03 : Moalboal - Canyoneering

เช้าวันที่ 8 เมษายน เราได้ออกเดินทางไปทำกิจกรรม Canyoneering กันด้วยรถมอเตอร์ไซค์พ่วง คันนึงนั่งได้ประมาณ 4 คน แบ่งเป็น 2 คัน (เรามีไกด์ 2 คนครับ) และในครั้งนี้เราก็มีผู้ร่วมทริปมากับเรา เป็นคนไทย 2 คนเลย (เจอกันแบบงงๆ555) เราออกเดินทางจากที่พักไปยังจุดทำกิจกรรม ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที (เห็นแบบนี้ไม่ใช่ใกล้ๆเด้อ) ถึงจุดรวมนักท่องเที่ยวก็ใส่อุปกรณ์ต่างๆ สำหรับสิ่งของมีค่าต่างๆ ถ้าสะดวกก็เอาไปได้ แต่ถ้าไม่สะดวก เขามีล็อกเกอร์เก็บของให้ครับ จากนั้นเราต้องนั่งมอเตอร์ไซค์วิบากเข้าไปอีก 3-5 กิโลเมตร แล้วเดินเข้าไปอีกเกือบกิโลเมตร เรียกได้ว่าหอบตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย55 พอถึงแล้ว เราก็เปียกกันตั้งแต่ด่านแรกเลย ซึ่งมีความเปียกหลายระดับ ไม่ว่าจะนอนแช่น้ำเปียกๆ นั่งบนโขดหินเปียกๆ เดินเปียกๆ และโดดน้ำลงไปเปียกเลย! ในด่านแรกนั้นมีผาวัดใจให้เรา 2 จุด จุดแรกคือผาโดดจากผาหินชันซึ่งต้องปีนขึ้นไปอย่างทุลักทุเล ความสูงประมาณ 7 เมตร กับโดดจากหน้าผาลงมา ความสูง 10 เมตร ผมเลือกขึ้นไปที่ระดับ 10 เมตรครับ บอกเลยว่าเสียวจริงๆ ก่อนจะโดดไกด์แนะนำว่าให้เก็บแขนให้ชิดลำตัวที่สุด จะได้ไม่บาดเจ็บมาก ผมได้รวบรวมความกล้า+แรงเชียร์(หรือแรงกดดัน?)จากเพื่อนๆและนักท่องเที่ยวโดยรอบ ตัดสินใจ...เหินฟ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

การเหินฟ้าลงมาครั้งนี้ ผมให้ 3 คำเลยว่า "เจ็บ แขน มาก" 55555 ถึงเวลานั้นผมลืมตัวจริงๆเผลอกางแขนไป เจ็บไปพักนึง ต่อจากผาวัดใจก็จะเป็นโหนเชือกแบบใสๆ ระดับความสูง 2 เมตร โดดน้ำกันอย่างสนุกสนาน


ต่อจากโหนเชือก เราต้องเดินเท้าต่อไป ที่ผาวัดใจ ผมตกใจมากว่าเรามาถึงจุดนี้กันแล้วเหรอ จุดนี้มีความสูงที่ 13 เมตร! ถือว่าสูงที่สุดสำหรับรอบนี้แล้ว (โดยจุดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 15 เมตรครับ แต่น่าเสียดายว่าตอนที่เราไป เขาปิดไว้ ไม่ให้โดดครับ) มีนักท่องเที่ยวทั้งต่อแถวโดดน้ำ ทั้งยืนดูความสูงของผา มีทั้งอยากลองและถอดใจกันไป แต่ผมยอมรับว่า มันสูงและเย็นครับ!



จากนั้นเป็นจุดโดดน้ำกับความสูง 4 เมตร และ 7 เมตรครับ และด่านสุดท้ายคือ 15 เมตรครับ ซึ่งด่านสุดท้ายเขาให้ลงเล่นน้ำได้ครับ แต่ต้องใส่เสื้อชูชีพลงไปด้วย สิ่งที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ เขาไม่มีแพให้เช่าแล้วน่ะสิครับ เราก็ลงเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นเราได้สอบถามกับไกด์ จะซื้อทริปดำน้ำต่อ เขาให้ราคา 2000 php/4คน เราเลยลองชวนพี่ๆ 2 คนนั้น พี่เขาสนใจไปกับพวกเรา เลยต่อรองราคาใหม่ได้ราคา 2500 php/6 คน ถือว่าดีงาม :D จึงตัดสินใจไปดำน้ำกันครับ



หลังจากที่พวกเรารับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว (อาหารที่เขาจัดให้ อิ่มและอร่อยมากกกกก) ไกด์ได้ขับรถมาส่งเราที่ท่าเรือแถวตลาดใหญ่ก่อนถึงที่พักครับ ก่อนที่จะไปดำน้ำก็มีอบรมกันสั้นๆให้รู้จักสถานที่ที่เราจะไป อบรมเสร็จแล้วเราก็นั่งเรือออกไป จุดแรกคือดำน้ำดูปะการังที่เกาะ Zaragosa ครับ



ระหว่างที่นั่งเรือออกไป ฝนก็มีทีท่าว่าจะตก แล้วก็ตกจริงๆครับ55 คลื่นก็แรงมาก ทำเอากังวลกันเลย เพราะต้องนั่งเรือออกไปประมาณครึ่งชั่วโมงครับ แต่พอถึงที่หมายและได้ลงไปดำน้ำ ถือว่าคุ้มค่าครับ มีปะการังสวยๆเยอะแยะเต็มไปหมด ผมใช้เวลาอยู่กับมัน ซึมซับความสวยงามของโลกใต้น้ำให้คุ้มค่าที่สุด



จากเกาะ Zaragosa ก็นั่งเรือฝ่าคลื่นทะเลและลมฝนกลับมาที่แถวๆที่พักของเรา เพื่อมาดูน้องเต่าครับ ซึ่งหาดูได้ง่ายมากๆเลย และโชคดีที่เราได้เจอด้วยครับ มันเชื่องมาก แบบว่าพอเข้าเราไปใกล้ๆก็ไม่หนีคนเลย ช่างน่ารักจริงๆครับ

ส่วนสุดท้ายสำหรับแพ็คเกจดำน้ำนี้คือ ดูปลาซาร์ดีนครับ อยู่ใกล้ๆกับจุดที่เราพบเต่าครับ แต่ต้องว่ายออกไปหน่อย ปลาซาร์ดีนจะอยู่รวมกันเป็นฝูงนับร้อยตัว ว่ายไปในทิศทางเดียวกันสวยงามมากๆครับ

สำหรับวันนี้ผมถือว่าคุ้มค่าแล้วนะ ได้ทั้งโดดน้ำวัดใจ และได้มาดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้น้ำที่ผมและเพื่อนๆเองก็ไม่ได้โอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ แถมยังได้เพื่อนร่วมทริปเพิ่มอีกด้วย ถือเป็น Activities Day ที่สนุกและประทับใจมากๆครับ


Day 04-05 : Moalboal - Relax time

2 วันสุดท้ายนี้เป็นวันพักผ่อนครับ โดยก่อนที่เราจะเช็คเอาท์ เราได้เดินทางไปที่ white beach จากที่พักเราขึ้นไปทางเหนือ 5 กิโลเมตร เป็นหาดทรายขาวทั้งหาด และมีคนมาเล่นน้ำที่หาดนี้เยอะมากๆ บริเวณหาดก็จะมีร้านค้าและปาร์ตี้เล็กๆ เรียกได้ว่าครึกครื้นมากๆ แต่น่าเสียดายที่ฝนตกอย่างหนัก เลยไม่ได้ซึมซับบรรยากาศบนหาดทรายขาวได้มากพอ




เราเดินทางกลับมาเช็คเอาท์แล้วย้ายไปที่พักคืนสุดท้าย ลงทางใต้เพียงกิโลครึ่ง เป็นที่พักริมหาดบรรยากาศดีมากกกก ชื่อว่า Pescadores Seaview Suites (เจ้าของเป็นสามีภรรยา น่ารักมากๆๆๆ เขาให้เสื้อผมมา 2 ตัว 55555) ที่พักมีทั้งแบบห้องพักติดริมหาด และเป็นบ้านพักแบบหลังๆ บริการแบบ full services มีอุปกรณ์ดำน้ำแบบ snorkeling ไว้บริการฟรีครับ ในเมื่อพร้อมขนาดนี้ ไม่รอช้าครับ รีบเปลี่ยนชุดแล้วลงไปแหวกว่าย หาน้องเต่าและแก๊งปลาซาร์ดีนกันอีกรอบ เพราะบริเวณหาดนี้ก็เป็นระแวกเดียวกันกับที่ไกด์ได้พามาชมปลาและเต่าเมื่อวานนี้ครับ ดูน้อง ว่ายน้ำเพลินๆ เป็นวันพักผ่อนที่ดีมากครับ




ตกค่ำเราออกไปกินข้าวกันแถวที่พักเดิม แต่ก่อนที่จะถึงร้านข้าว สังเกตว่ามีคนมุงกันเยอะๆหลายๆกลุ่มแล้วมีเสียงเฮเป็นระยะ... ถูกแล้วครับ บ่อนนั่นเอง 5555555555 ที่ผมลองเข้าไปดูนั้นมีอยู่ 2 อย่างครับ อย่างแรกคล้ายๆ roulette ครับ แต่วิธีที่จะได้ผลลัพท์คือ การปล่อยลูกบอลให้กลิ้งลงหลุม แล้วใต้หลุมจะมีเลข ถ้าใครทายเลขนั้นแล้วบอลกลิ้งลงหลุม ก็ได้ตังครับ 55555 และอีกวงนึงจะเป็นวงไพ่ครับ รอบโต๊ะ4ด้านจะมีไพ่ 6 ใบ ตรงกลางเป็นหลุมไพ่ 6 ใบเหมือนกัน วิธีเล่นคือ เอาลูกปิงปองใส่ลงไปในรางน้ำให้มันตกลงมา ลูกปิงปองกลิ้งลงตรงกับไพ่ที่เราแทงไว้ ก็ได้ตังละ ง่ายๆเลย 55555



เช้าวันสุดท้ายฟ้าฝนเป็นใจไม่งอแงครับ เราเช็คเอาท์ออกเดินทางจากรีสอร์ท 7.00 น. ใช้อีกเส้นทางนึงวนรอบเกาะ ระหว่างทางเราก็ได้เจอความงามอีกมุมหนึ่งของเกาะนี้เหมือนกัน (แต่เนื่องจากทำเวลา จึงไม่ได้แวะถ่ายรูปครับ แค่ได้เห็นก็ชื่นใจแล้ว) เราเดินทางไปคืนรถ และเรียกGrab ไปสนามบินหวุดหวิดมาก เพราะวันนั้นการจราจรติดขัดและมีฝนเล็กน้อย แล้ววันนั้นก็มีคนเดินทางเยอะมากอีกเช่นกัน แบบว่า...ที่นั่งที่ทางสนามบินจัดไว้ให้ไม่มีว่างเลย เหมือนเก้าอี้ดนตรีอ่ะคุณ! ระหว่างที่รอ พวกเราก็ผลัดกันซื้ออาหารมาทาน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ปลดล็อคผมซักที คือ ระหว่างทางตั้งแต่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านเมืองต่างๆจนกลับเนี่ย มีร้านขายไก่ทอด อารมณ์แบบ KFC ที่นี่ใช้ชื่อว่า Jollibee ผมผ่านไปเป็นสิบๆสาขาแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองมันซักที คราวนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วแหละ! ผมไปต่อคิวรอสั่งครับ คนเยอะมากกกกกกกกก แล้วผมก็ได้มีโอกาสสั่งเสียที เซ็ตที่ผมสั่ง เป็นเซ็ตไก่ทอด 1 ชิ้น สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศโรยชีส พร้อมน้ำ อร่อยมากกกกกกก ทั้งหมดนี้ราคาไทยคร่าวๆ 70 บาทครับ!!!! ถือว่าเป็นการปิดทริปนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ

สำหรับรีวิวครั้งนี้เป็นการเดินทางมาเที่ยวที่ฟิลิปปินส์ สนุกและประทับใจมากๆครับ อยากให้เพื่อนๆลองเปิดโอกาส ไปสัมผัสวิถีชีวิตและบ้านเมืองของเขาดูครับ ฟิลิปปินส์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ หากผิดพลาดประการใด หรือมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านครับผม :D



McInG

 วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 21.45 น.

ความคิดเห็น