การเดินทางใช้เวลาเพียง 2 คืน 2 วัน วันที 29 มีนาคม - 31 มีนาคม

ออกเดินทางหลังเลิกงานไฟล์ทสายการบินแอร์เอเชีย

Bangkok - Don Mueang (DMK)
Don Mueang International Airport (DMK)
29 Mar 2019, 1925 PM (7:25 PM)

Ho Chi Minh City (SGN)

Tan Son Nhat International Airport (T2) (SGN)
29 Mar 2019, 2105 PM (9:05 PM)

เริ่มต้นการเดินทางใครบอกว่าแค่เสาร์อาทิตย์เที่ยวโฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่ไม่ได้ มาดูทัวร์ชะโงกกัน เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน (ไม่ต้องลางาน) มุ่งตรงสู่สนามบินไฟล์ท 19.25 พร้อมออกหร๋อๆๆ Delay จ้า 45 นาที ไม่เป็นไรแค่มาลุ้นว่าจะทันรถนอนที่จองไว้หรือไม่เท่านั้นเอง TT


โชคดีถึงสนามบิน 9.45 PM จองรถนอนไว้รอบ 10.45 PM กะว่่าจะพาคณะทัวร์นั่รถเมล์แต่คาดว่าจะไม่ทันเลยนั่งแทกซี่จากสนามบินไปเป็นรถ 7 ที่นั่งหารแล้วคนละ 50 บาท แต่หากมีเวลาแนะนำนั่งรถเมล์ชมเมืองได้นะคะ หรือเรียก Grab Taxi จะถูกกว่าที่เวียดนามถูกมากกกก แต่เวลามิอาจคอยท่าทางคณะทัวร์เลยใช้บริการของสนามบิน มีต่อรองราคานิดหน่อย พร้อมซื้อซิมการ์ดในราคาประมาณ 280 บาท 4 GB 7 วัน เมื่อทุกคนพร้อมชั้นก็พร้อมค่ะ

จองรถนอนผ่านเว็บนี้ล่วงหน้าเลยค่ะ https://futabus.vn/en-US

มีเวลานิดหน่อยกองทัพเดินด้วยท้อง จัดเบียร์เวียดนามรองท้อง (ใช่หร๋อ) 1 กระป๋องแล้วนอนได้

พร้อมนอนขึ้นรถเสร็จแค่ชั่วอึดใจเดียวไฟทุกดวงบนรถจะดับ ไม่นอนก็ต้องนอนจ้า แม้ระหว่างทางจะไม่สวยงามเหมือนรอยยิ้ม นอนลุ้นคนขับทุกวินาที เบรคจนขาแข็ง กว่าจะถึงเช้า เพิ่งเข้าใจว่าก่อนฟ้าจะสางช่างยาวนานเพียงใด


ผู้รอดชีวิตจากเมื่อคืน 555 ถามว่าเปลี่ยนชุดกันตอนไหน ที่ไหน ตอบเลยค่ะที่สถานีรถบัส คณะเรา Landing ประมาณ 5.30 AM หลังจากนั้นล้างหน้าแปรงฟัน แปรงโฉม ให้ดูได้เพื่อจุดหมายต่อไป ถ่ายรูปกับเมืองดาลัด ที่แรกกินก่อนเลยจ้ามาดาลัดไม่กินไม่ได้ โยเกิร์ต คือมันดีย์งาม recommend ให้ 10 กะโหลก อร่อย ละมุนลิ้น ราคาถูก มีแบบโยเกิร์ตชีสด้วย


จิบ

จิบน้ำชาไปพรางพร้อมกินโยเกิร์ต ร้านนี้เคยมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วคือไม่รู้จะไปร้านไหน ขี้เกียจหา ว่างั้นแต่รสชาดดีจะเปลี่ยนทำไม ถ่ายรูปไม่เกรงใจอากู๋ข้างๆ

สตาร์ทด้วยอาหารเช้าตบท้ายด้วยร้านบั้นหมี่ ของขึ้นชื่อที่นี่เขา ไหนบั้นหมี่ คำถาม เห็นแต่กำแพง ก็แหมที่นี่เขามีดีที่กำแพงไม่ถ่ายเหมือนมาไม่ถึง ร้านนี้รอคิวถ่ายมากกว่ารอคิวซื้อขนมปัง


ได้ขนมปังยังอาศัยเค้าถ่ายรูปมาตั้งเยอะ ยังๆ อีเจ่คนนี้มาร้านขนมปังถ่ายรูปยืนอ่านหนังสือ อ้าวผิดคอนเซ็ป ไม่ใช่ร้านหนังสือไม่ต้องมุมนี้ก็ได้มั้ง 55 ขนมปังฝรั่งเศสใส่ผักและไส้ต่างๆที่นี่เขาเรียกกันว่า บั้นหมี่แหละ ตรงไหนมีบะหมี่ถาม แต่อร่อยชอบมากเพราะหาทานที่อื่นไม่ได้ราคาแสนถูกประมาณ 45 บาทแล้วแต่เลือกไส้เลย ดีงามที่คนขาย ทั้งหน้าตา กิริยาและภาษา (อังกฤษ) ของนางดีมาก ให้เกียรติร้านหน่อยนะคะ บอกพิกัดชื่อร้าน Ci Xay Gió

จากนี้เราได้ใช้เวลาอันมากกับการถ่ายรูปกำแพงเหลืองเพราะรถที่เรานัดหมายยังไม่มา ถ่ายรูปกันวนไป เรานัดรถมารับตอน 8.00 AM ซึ่งตกลงเหมากันไว้เพื่อพาคณะเราทัวร์รอบดาลัดและไปส่งที่มุยเน่ พร้อมทัวร์พระอาทิตย์ขึ้นที่มุยเน่ และส่งเรากลับที่โฮจิมินห์ มาครั้งนี้ค่อนข้างสบายเรื่องการเดินทาง แนะนำทัวร์ของบริษัทนี้ค่ะhttps://www.muinego.com/tour/mui-ne-sand-dunes-jeep-tour

ลองต่อรองราคาดูเน้อ เราได้มาในราคา 8,000 บาทสำหรับ 6 คนผู้ใหญ่ 5 เด็ก 1 เป็นรถ Fortunner นั่งสบายๆๆๆ จนกลับโฮจิมินห์ คุ้มนะเราว่าถ้ามาหลายคน Add Line ไปคุยได้ (โฆษณานี้มิได้มีแอบแฝงหรือได้รับค่าตอบแทนใดๆ 55)

ไปๆ ออกเที่ยวกันเอาที่หลักๆเลยนะที่คิดว่าหลายๆคนที่เคยมาหรือลองค้นหาข้อมูลก็จะทราบดีก็ตามรีวิวเค้าไปหละเนาะ อันนี้คัดมาแล้วเน้นๆ ว่าถ่ายรูปแล้วปัง ลงอินสตราแกรมได้ ไม่น้อยหน้าใคร ที่นี่เขาเรียกว่า Hoa Son Dien Trang มุมเหมือนมือยืนเข้าไปในห้วงป่าลึกนี่แล สวยนัก

ที่ต่อมาย้อนวัยขอบอก Roller Coaster นี่มันสนุกมาก ที่นี่คือ Datanla water fall ทางที่ง่ายที่คุณจะลงไปน้ำตกคือวิธีนี้ แต่อีกทางคือเดินลงและเดินขึ้นบันได ตอบแบบไม่คิดเสียตังค์ 300 กว่าบาทและใช้วิธีนี้เหอะ

ที่นี่เป็นร้านกาแฟนะคะ ถ่ายได้เห็นมุมเมืองดาลัดคิดว่าอยู่สวิตเซอร์แลนด์ (แต่ไม่เคยไปรู้ได้ไงว่าเหมือน) มาถ่ายรูปเฉยๆได้ค่ะ กาแฟไม่ต้องซื้อ 55 ได้รูปอันพึงพอใจละกลับได้ไปต่อ เพราะทริปเราทัวร์ชะโงกเดี๋ยวไปไม่ครบ ชื่อร้านขอโทษทีค่ะจำไม่ได้ ลองเสริจ์หาใน google นะคะมีอยู่เลือกร้านกาแฟในดาลัดจะมีร้านนี้หนึ่งในนั้น

มาถึงทุ่งลาเวนเดอร์ เอ้ย!!! garden hydrangeas จริงๆไม่ใช่ที่นี่นะคะสังเกตุได้จากที่มีบ้านคนรอบด้านและท่อสปริงเกอร์รดน้ำ ในเมืองชัดๆ!!! จริงๆจะไปอีกทีนึงซึ่งอยู่นอกเมืองแต่ด้วยเวลาไม่ทัน เอาละ ตรงข้างถนนนี่พี่เห็นทุ่งอยู่ เดี๋ยวถ่ายออกมาก็เหมือนๆกันที่นี่ก็ได้


เพราะจากนี้เราต้องมาที่นี่อีกค่ะ โบสถ์สีชมพูที่เห็นคนอื่นเขามากันบอกแล้วทัวร์ชะโงก ต้องมาให้ครบถ่ายรูปจบเสร็จ กลับเดินทางต่อ มีหลายมุมนะคะลองเลือกดูมุมไหนที่คิดว่าอยู่แล้วตัวเองสวยที่สุด

เจ่ได้มุมละอยู่ตรงนี้สบายใจพอดีปวดขาเดินมาเยอะ ขอสายย่อพักตรงนี้สักแพพ เราจะได้เดินทางต่อได้

ที่นี่ชื่อว่า Domaine De Marie Church

ไปกันต่อค่ะมิรอช้าเวลาล่วงไปเกือบบ่ายสามเพราะจุดสิ้นสุดของทริปดาลัดเราจะจบลงที่บ่ายสามหลังจากนั้นจะมีรถอีกคันมารับเพื่อไปส่งที่มุยเน่ค่ะ หนึ่งในแลนด์มาร์คของวัยรุ่นเวียดนาม Lam Vien Square มาเถอะ ที่นี่เขาก็ถ่ายรูปสวย สายฮิป สายแฟ สายไหนๆ ก็มา ได้รูปสวยกลับไปแน่


ตัดภาพไปที่มุยเน่เลยนะคะ หลังจากจบที่ดาลัดวันตอนบ่ายสี่โมงเย็นรถก็มารอรับที่ตลาดดาลัด ดีเลย์ไปหนึ่งชั่วโมงแต่อย่างน้อยเราก็มีเวลาช้อปปิ้งที่ตลาดดาลัด บ้างกินสตรอเบอรี่ บ้างกินทุเรียนไปพรางๆ รถมารับและไปส่งถึงมุยเน่ประมาณ 19.30 ณ ที่พัก แต่ระหว่างทางกว่าจะถึงอุปสรรคมากมาย ฝนตกก่อนหน้านั้นทำให้เต็มไปด้วยหมอกระหว่างทางที่ลัดเลาะเขาจากดาลัดไปมุยเน่ เสียวเป็นระยะๆ ตลอดเส้นทาง ซึ่งรถเราก็ไม่มีไฟตัดหมอกสงสัยเป็นรุ่นเริ่มต้น 555 ระหว่างทางคนขับก็จอดแวะทักทายเพื่อนตลอดทาง ไม่รู้จะรู้จักอะไรกันนักหนา เดี๋ยวแวะๆ เจอเพื่อนพวกที่ขับรถด้วยกันจอดทักกันตลอด นี่ตกลงมาส่วนตัวคณะเราอาศัยโบกรถนางมาหรือเหมาเนี่ย ตามใจ ตามสบายของนางไม่ได้แคร์จ้าพวกคณะทัวร์นี้อยู่ในรถ คิดไปต่างๆ นานา จินตนาการเนาะ เอ หรือว่า นางจะนัดแนะกับพวกเพื่อนขับรถหลอกคณะทัวร์ของเจ่ไปหลอกฆ่าชิงทรัพย์หว่า ด้วยความที่ดูหนังกันมาก imagine ก็มาอย่างต่อเนื่อง แต่ในที่สุดก็รอดค่ะ คืนนั้นจบไปด้วยอาหารเย็นแบบซีฟู้ดที่มุยเน่ ในราคาถูกมากกกก ตกคนละ 300 กว่าบาท เหน็ดเหนื่อยจากการลุ้นคนขับและจินตนาการและการเดินทางซึ่งนอนกันน้อยมาก ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเลย จากนั้นเราเลยแยกย้ายกันนอนค่ะ เช้ามามันก็จะสดใสๆ กันประมาณนี้

รถจี๊ปมารับคณะเราประมาณ 4.30 AM เพื่อไปดูแสงแรกที่ทะเลทราย ตื่นเช้ามากตีสี่อย่างน้อยแต่งหน้าเซตผมเพื่อถ่ายรูปแฟชั่นเซตต่อไป อย่าได้หมดแรง อย่างน้อยเมื่อคืนก็มีแรง อุ่ยๆ อันนี้ไม่ใช่สตาร์ทรถไม่ติดนะ พี่แค่ไม่ได้ใช้นำ้มันเครื่องไดเกียว 555 รู้เลยเกิดช่วงไหน

อ่ะ ช่างภาพพร้อม แสงพร้อม ไฟพร้อม เซตแรกมา สะบัดต่อไม่รอละนะ

กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ วันที่สองของการเดินทาง บอกแล้ว สองวันก็เที่ยวได้ มีแค่ชุดกับใจมาก็พอ ธรรมชาติที่นี่สวยงาม สร้างสรรค์ภาพในไอจี ให้คนที่มาเที่ยวได้แน่นอน

จากที่นี่คือทะเลทรายขาวเดี๋ยวเราไปต่อที่ทะเลทรายแดง ใช้เวลาที่นี่นานเหลือออออ เดี๋ยวไม่ทันกลับโฮจิมินห์ตามเป้าหมาย

มาที่ Red Sand กันบ้าง ตังค์หมดนั่งขายหอย เอ้ย!!! ขายขนมก่อนเป็นค่าเดินทาง 55 ขนมนี่อร่อยมาก ซื้อ 2 กล่องพร้อมถ่ายรูป แต่หน้าตากะแย่งอาชีพคุณยาย


รูปนี้น่าจะสวยที่สุดเพราะไม่เห็นหน้า ทะเลทรายแดงแต่ตอนแรกคิดว่าไซด์งานก่อสร้าง บ้า!!! ขออภัยค่ะ เปรียบเปรย ถามว่าถ่ายดีๆ แถวบ้านเราเขตก่อสร้างก็น่าจะพอได้ blackground แบบนี้


ที่นี่เขามีการละเล่นสไลด์เดอร์ด้วยด้วยน้าเป็นแผ่นกระดานและมีเชือกผูกง่ายๆ ให้เราสไลด์ตัวลงมาจากกองทราย ถ้าอยากเล่นไม่ต้องห่วงจะมีเด็กๆ เข้ามาเสนอขายเป็นจำนวนมากบริเวณตั้งแต่ทางเข้าเนินทราย แต่พี่ไม่ได้เล่น รีบพูดเลยทัวร์ชะโงก ต้องรีบไปต่อ


ขายหอยหมดแล้วจ้าเลยมาหาปลาต่อที่หมู่บ้านชาวประมง landmark อีกที่ของที่นี่จะเห็นเรือกระด้งไกลๆ หลายสีสัน ชวนให้น่าถ่ายรูป หากลงไปด้านล่างจะมีพวกอาหารทะเลสดๆ ขายสามารถซื้อและทานกันได้ที่นี่เลยขาซูชิต้องลองเพราะมีพวก ปลา หอย สดๆ ให้ทานจิ้มกับวาซาบิและพริกเกลือ (น้ำจิ้มซีฟู้ด) สูตรเฉพาะของที่นี่เขาแล

อ่ะจบทริปของมุยเน่เริ่มตั้งแต่ 4.30 AM จนถึง 8.00 AM. จริงๆมีอีกสถานที่ที่เขาไปกันคือFAIRY STEAM แต่เวลาไม่พอและเท่าที่เจ่เคยไปมาครั้งที่แล้วก็ไม่มีอะไรนะ คล้ายๆประมาณแพะเมืองผีบ้านเรา (พูดซะเสียขออภัยด้วยค่า) ร้อน เดินไกล ไม่ไปดีกว่า หาข้าวเช้าทานและเตรียมตัวกลับไปหาลุงโฮกัน

ร้านนี้คนขับรถจี๊ปพามาบอกอร่อย เป็นเฝอ ที่คนท้องถิ่นกินกัน เขาจะกินกับขนมปังฝรั่งเศสประมาณนี้ แต่อันนี้หิวกินระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวเพราะตอนที่เรามาคนเยอะ ลุงข้างๆอ่ะที่มองเพราะหิวขอชิมคำได้ป่ะ

ไปกันต่อหลังจากเสร็จทริปที่มุยเน่ รถจี๊ปส่งเรากลับรร เพื่ออาบน้ำและ check out หลังจากนั้นนัดหมายกันเวลา 9.15 เพื่อกลับโฮจิมินห์ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บกระเป๋ากลับเมืองกันค่ะ รถคันเดิมที่ไปรับจากดาลัดมาส่งที่มุยเน่ มารับคณะเราเพื่อไปโฮจิมินห์ แต่เมื่อวานเจ่ถามว่าพรุ่งนี้คันเดิมมั้ย นางตอบเปล่าไม่ใช่นาง อ้าวแล้ววันนี้คือ??? แฝดนางหรุอ หึหึ มารับก็คันเดิมคนเดิม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.ครึ่งถึงโฮประมาณบ่ายโมงให้เขาส่งแถวฟามงูหลาวเพราะจะฝากกระเป๋าเพื่อเดินเที่ยวในโฮกันก่อน เพราะไฟล์ทของพวกเราจะเป็นรอบค่ำ มีเวลาค่ะ โอ้ย 2 วัน 2 คืนเที่ยวครบ

ที่ฝากกระเป๋าแนะนำสามารถสอบถามตามรร.บริเวณนั้นได้เลย ลองถามเขาดูของเราได้มาในราคา 5 USD ทั้งหมด 6 ใบทุกคนรวมกัน จากนั้นไปหาข้าวกลางวันทานกัน


หัวหน้าทัวร์อย่างเจ่พาไปกินนี่เลย บุ่นจ่า เจ่ชอบมากเป็นน้ำซุปต้มผักหวานๆ หมูทอดและกินกับเส้นเฝอ จริงๆ คล้ายเส้นขนมจีนนั่นแหละ อันนี้ร้านดูดีหน่อยไม่เคยมาเหมือนกันเสริ์จเอาจากที่ใกล้ที่สุดใน google map รสชาดใช้ได้เลย


จุดหมายแรกไปที่โบสถ์นอร์ธเทอดาม ซึ่งมาตรงนี้ก็จะเที่ยวได้ 2 ที่ใครๆก็น่าจะมาเนอะ แนะนำจากร้านที่เราทานกันเมื่อกี้เรียก Grab Taxi เลยจ้าถูกคุ้ม มากัน 2 คันในราคาคันละประมาณ 70 บาทดีกว่าเดินป่ะ อากาศเย็นขนาดนี้ เย็นจนเหงื่อแฉะ


บริเวณเดียวกันแค่เดินข้ามถนนจะเป็นไปรษณีย์กลาง ก็จุดเที่ยวของที่นี่เขาเช่นกัน จากนั้นก็เข้าไปข้างในหาของที่ระลึกกัน เจ่ได้แม็กเน็ตติดตู้เย็นมา สะสมเวลาไปเที่ยวแต่ละประเทศ


เดินจากไปรษณีย์กลางตาม google map มาเพื่อมาตึกนี้ประมาณ 900 เมตร ตามอากู๋มาเลยไม่ไกล จุดที่ต้องถ่ายรูปเช่นกัน จบจากนี้เราก็ไปหาร้านกาแฟบนตึกสักร้าน พักเหนื่อย ตากแอร์ รอเวลา

ตึกนี้ชื่อ Cafe Apartment เกร๋ๆ แต่ที่จริงเพราะค่าเช่าแพงเลยอยู่บนตึกกันถ้าขึ้นไปบนตึกโดยลิฟท์มีค่าบริการนะจ้ะ แต่ไม่อยากเสียเงินก็เดินบันไดเอาจริงๆก็ไม่กี่ชั้นเอง


อันนี้เอาไว้เป็นอุทาหรณ์นะที่พี่จะได้รูปนี้มา นางจะแกล้งเข้ามาเล่นด้วยเชิญชวนให้เราถ่ายรูป ไอเรานึกว่าไม่มีอะไรสรุป พอถ่ายรูปเสร็จจ่ายตังค์มาด้วยจ้าแพนด้าขอตังค์เจ่ เครๆ เอาน่าถือว่าช่วยการกุศล หึหึ แหมๆ ทำมาตีสนิท หมาแพนดี้หลอกเจ่ซะละ


หลังจากจ่ายเงินให้กับหมาแพนดี้ก็ขึ้นมาสำรวจบนตึกร้างแห่งนี้กัน ไม่ใช่ตึกคาเฟ่ สายแฟ (สายกาแฟ) ต้องมานะจ้ะ จดจ้องผ่านหน้าต่างของแต่ละห้องได้เลยว่าจะเข้าร้านไหน เจ่เลือกร้านนี้เพราะดูดี สายผู้ดีอังกฤษต้องเพราะเขามีดีที่ชาและขนมที่เสิร์ฟมาเป็นเซต ประมาณว่า Tea Time สามารถเลือกชุดถ้วยชาและกาน้ำชาได้เอาตามที่ชอบเลยจ้ะ จะชอบแบบน่ารักมุ้งมิ้ง หรือสวยหรูก็เลือกเอาหนึ่งคนหนึ่งถ้วย คณะเราสั่งสองชุดชาเพราะมาหลายคนเลือกชาได้ 2 แบบ เขามีให้ดมและค่อยเลือกจ้ะ


หลังจากจบที่ร้านกาแฟเราก็เดินไปซื้อของฝากกันที่ตลาดบินถันเพราะยังพอมีเวลาเหลือและต่อด้วยซุปเปอร์มาร์เกตแถวระหว่างทางเดินกลับไปโรงแรมละลายเงินดองกัน และหลังจากนั้นเดินกลับโรงแรมที่ฝากกระเป๋าไว้เรียก Grab ไปส่งที่สนามบินได้รถคันใหญ่นั่ง 6 คนจบเลยจ้าประมาณ 150 แต่ให้ทริปคนขับไปเพราะพูดจาดี มีservice mind ให้ไป 200 ไม่ต้องทอนนะคะ ก่อนขึ้นเครื่องก็ได้บั้นหมี่ที่ซื้อจากร้านแถวฟามงูหลาวมาตบท้ายก่อนกลับพร้อมกับ


นมดาลัดแม้ไม่ได้อยู่ที่ดาลัดแล้วแต่ก็หาซื้อที่ซุปเปอร์ในโฮจิมินห์ได้ หวานพอดีละมุน อร่อย ขึ้นเครื่องจะได้หลับสบาย


บ๊ายบายโฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่ เห็นมั้ยว่าไม่ต้องลางานแค่เสาร์อาทิตย์ก็เที่ยวได้ 3 เมืองครบด้วย เหนื่อยบ้าง เสียวบ้าง มีกลัวๆ กันบ้างแต่ก็สนุก นอนน้อยแต่ไม่ต้องลางาน ไฟล์ทมาถึงประมาณ 23.30 กลับบ้านนอนเช้าวันจันทร์ทำงานต่อได้เลย รอบนี้เป็นครั้งที่สองที่มาเมืองนี้แต่ก็ยังมีเรื่องสนุกๆ เหมือนเดิมทุกครั้งที่ได้กลับมา

LadiiParun

 วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 13.44 น.

ความคิดเห็น