​The Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket​ ไข่มุกเม็ดงาม บน เกาะนาคาใหญ่

The Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket ไข่มุกเม็ดงาม บน เกาะนาคาใหญ่

The Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket

เทอ.... คือ ไข่มุก เม็ดงาม บนเกาะนาคาใหญ่

เป็นรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่บนเกาะนาคาใหญ่

ห่างจากตัวภูเก็ต ไม่ไกลมาก

เกาะนาคาใหญ่ ตั้งอยู่ ณ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

เป็นเกาะชุมชนของชาวประมง ชาวสวน

ซึ่งใช้ชีวิตเรียบง่ายตามวิถีชาวเล

เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใสน่าเล่นแถมยัง

มีความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

สำหรับทริปนี้

พวกเราเดินทางไปกัน ทั้งหมด 4 คน

โดยทำการจองห้องพัก ไว้ 2 แบบใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน

ห้องพักที่จองไว้เป็นแบบ

Tropical Pool Villa

กับ

Sea View Pool Villa

การเดินทาง เราสามารถขับรถยนต์

จากสนามบินภูเก็ต

ไปที่ท่าเรือ อ่าวปอ แกรนมาริน่า

ใช้เวลาในการขับรถ ประมาณ 27 นาที

โดย เราจะต้องนั่ง

Speedboat ข้ามไปที่เกาะ

ใช้เวลา ประมาณไม่เกิน 10 นาที

เมื่อเรามาถึง จะมีเรือของทางโรงแรม

จอดเทียบท่ารออยู่

โดยก่อนเดินทาง เราจะทำการแจ้งเวลา

โดยประมาณ

ก่อนที่เราจะมาถึง เพื่อทางโรงแรม

จะได้จัดตารางเวลาเรือ

มารับเราได้อย่างถูกต้อง

ท่าเทียบเรือ อ่าวปอ แกรนมาริน่า

( Ao Po Grand Marina )

เราใช้เวลาในการนั่ง Speed Boat

ประมาณ 10 นาที เพื่อข้ามมาที่รีสอร์ท

ว้าววว.....ใกล้ถึงแล้ว

โดยเราจะเห็นว่ามีท่าเที่ยบเรือ

เป็นสะพานไม้ทอดยาว

ออกมาจากตัวหาดของรีสอร์ท

เมื่อมาถึงจะมีเจ้าหน้าที่

เตรียมรถ Buggy มารอรับเรา

เพื่อที่จะขับไปจอดบริเวณ รอ Check in

หลังจากที่เรามาถึงบริเวณที่ให้แขกพัก รอ Check in

หรือเรียกว่า Welcome Sala

เจ้าหน้าที่ นำ Welcome Drink มาให้ดื่มคลายร้อน มีผ้าเย็นๆ

มาเพิ่มความสดชื่นให้กับพวกเรา พร้อมพวงมาลัยต้อนรับ

สำหรับที่ The Naka

จะมีธรรมเนียมอยู่ว่าเมื่อแขก

ทีเข้าพักมาถึง จะต้องตีฆ้อง 2 ครั้ง

เพื่อเป็นการแสดงให้ พญานาคที่ปกปักดูแล

เกาะนาคาได้รับทราบว่าเรามาถึงแล้ว

โดยอีกความหมาย

ก็คือ เป็นการ แสดงความเคารพ

ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นเอง

หลังจากพวกเราตีฆ้องเสร็จ

เราก็เดินถ่ายรูปบริเวณชายหาด

ใกล้ๆท่าเทียบเรือ

หาดสวยงามมากครับ ต้นไม้ร่มรื่นมาก

สีเขียวของต้นไม้ตัดกันกัน

หาดทราย ท้องฟ้าและท้องทะเล

มุมนี้มีเปลผูกอยู่ด้วย ได้หนังสือสักเล่มน่ะ

ลมพัดเย็นๆ มองทะเล เฮ้ออออ สุขที่สุด

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาพวกเรา

ไปส่งยัง Villa ที่เข้าพัก

ระหว่างทางที่รถ Buggy ไปส่งเราที่ห้องพัก

จะผ่าน Main Pool และชายหาด

ห้องที่ผมเข้าพัก เป็นห้อง

แบบ Sea View Pool Villa No.59

ส่วนคุณน้ากับน้องสาว เข้าพักเป็นห้อง

แบบ Tropical Pool Villa No.12

แผนที่ห้องพัก รวมถึง ที่ตั้ง Guest Facicilities

ถึงแล้วครับ หน้าห้องของผม Villa No.59

หน้า Villa จะมีจุดวางหินรูปร่างน่ารัก

โดยใช้เป็นสัญลักษ์ ว่าถ้าหลับตา

คือห้ามรบกวน

แต่ถ้าลืมตา

สามารถเข้าไปทำความสะอาด

หรือ บริการอื่นๆได้ โดยมีเชือกดึงกระดิ่ง

อยู่ตรงหน้าประตู

เมื่อเราเปิดประตู Villa เข้ามา ก็จะเห็น

ศาลานั่งเล่นริมสระ รวมถึงวิวทะเล

ส่วนทางขวามือก็จะเป็นตัวของห้องพัก

สำหรับสระน้ำมีขนาดกำลังพอดี

แบบเล่นน้ำได้ แช่ตัวได้ เหมาะมาก

กับคู่ Honeymoon

ใน Villa จะแบ่งเป็นโซน ห้องนอน ห้องน้ำ

สระว่ายน้ำ มุมนอนอาบแดด ศาลานั่งเล่น

อ่างอาบน้ำแบบ Out door

และยังมีส่วนของ

ห้อง Stream อยู่ใน Villa อีกด้วย

เราสามารถนั่งพักผ่อน

ได้เกือบทุกมุมในตัว Villa

ลมทะเลพัดเย็นๆ นอนเอนกาย

ช่วงบ่ายกว่าๆ สบายที่สุดเลยมุมนี้

ทางเดินเชื่อมระหว่าง อ่างอาบน้ำ กับสระ

จะมีมุมสวนเล็กๆตามแนว

ของแผ่นหินทางเดิน

มาถึงส่วนของตัว ห้องนอน

มันช่างน่าทิ้งตัวเอนกายลงไปพักร่างจริงๆ

เครื่องนอนต่างๆที่นี้ นุ่มมาก เรียกว่า

เป็นเตียงดูดวิญญาณ ได้เลยทีเดียว

เพดานของห้องนอน ทรงสูง ทำให้ดูโล่ง

โปร่งสบาย ไม่อึดอัด

บนที่นอนมีแผ่นพับของทางรีสอร์ท

พร้อมทั้งกับมีข้อความ

Have a good day

เขียนอยู่บนใบไม้

สร้างความประทับใจให้กับแขกที่เข้าพัก

วิวท้องทะเลเบื้องหน้า

พระอาทิตย์กำลังใกล้จะลับขอบฟ้า

ยิ่งแสงจากดวงอาทิตย์ที่ท้องฟ้าเริ่มน้อยลง

เรามองออกไปยังด้านนอก

ภาพที่เห็น ทำให้เราอยากหยุดเวลาแบบนี้

ไว้นานๆ จริงๆเลยครับ

มื้อเย็นวันนี้เราเลือกที่จะทานอาหารที่โรงแรม

โดยเราทราบตอน Check in ว่า

ที่ห้องอาหาร Z Bar มี Promotion Buffet Tapas

พวกเราเลยจองไว้ ทั้งหมด 4 ที่

ค่าเสียหายต่อคน ก็อยู่ ประมาณ 700++

บรรยากาศห้องอาหาร Z Bar

โรแมนติกมาก

มี Day Bed นั่งทานไป มองวิวทะเลไป

ที่สำคัญเราสามารถ

ดูพระอาทิตย์ตก ที่นี่ได้อีกด้วย

หลังจากที่เราเลือกเมนูเสร็จ อาหารก็มาเสิร์ฟ

โดยเราเลือกที่จะชิมหลายๆแบบ ในจานเดียว

ขอบอกว่า อร่อยทุกแบบ ที่สำคัญ

เราสั่งมาหลายจานมาก 555

ส่วนเครื่องดื่ม เราเลือกเป็น น้ำผลไม้ปั่น

รสชาดดีงาม

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เราก็กลับห้องพักของเรา

เพื่อไปเก็บภาพบรรยากาศในห้องพัก

เมื่อมองจากด้านนอกตัวห้องนอนเข้าไป

สีของแสงไฟ สะท้อนกับผนังสีครีม

ทำให้บรรยากาศรู้สึกอบอุ่น

แสงเทียนบริเวณทางเดินเชื่อม

จากห้องนอนไปยังส่วนของห้องน้ำ

ทำให้เพิ่มเติมความโรแมนติก

ในมุมของอ่างล้างหน้า เราสามารถ

มองเห็นห้องนอนได้ ผ่านทางหน้าต่าง

ประมาณว่า ใช้ห้องน้ำอยู่ เราก็เห็น

คุณแฟนในห้องนอน 555

เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น

เรายังไม่อยากตื่นลุกอออกจากที่นอนเลย

เพราะเตียงที่นี้ นอนสบายมาก

ดูดวิญญาณ จริงๆครับ 555

แต่เนื่องจากวันนี้เรามีกิจกรรม

ที่ต้องทำหลายอย่าง

เลยต้องตัดใจ รีบตื่นมาอาบน้ำ

และรีบไปทานมื้อเช้า

ท้องทะเลที่เงียบสงบ

พร้อมกับแสงยามเช้าที่ส่องมาในสวน

เราทานมื้อเช้ากันที่

ห้องอาหาร Tonsai restaurant

ในรูปนี้ เราจะเห็นห้องอาหาร

My Grill อยู่ด้านหน้า

ส่วนห้องอาหาร

Tonsai restaurant จะอยู่ถัดไป

ที่ The Naka มื้อเช้าจะเสิร์ฟ

เป็นแบบ A la cart

เราสามารถเลือกสั่งได้จากเมนู

รวมถึง Sparkling Wine

ทีเสิร์ฟกันตั้งแต่เช้า

และยังมี ไลน์ Buffet ทั่วไปควบคู่ไปด้วย

เป็นอะไรที่ดีงามมาก

หลังจากเสร็จจากมื้อเช้าที่แสนอร่อย

เรียบร้อยแล้ว เรามีโปรแกรม ปั่นจักรยาน

(โดยทางรีสอร์ทมีจักรยาน เสือภูเขา ไว้ให้แขกที่เข้าพักยืม)

เพื่อไปสำรวจหมู่บ้านชาวประมง ที่อยู่ไม่ใกล้ๆ

หลังจากเราปั่นไม่ได้ไม่นานมาก

เราก็มาถึงหมู่บ้าน ชาวประมง

คุณลุงคุณป้าในหมู่บ้าน ถามเราว่าอยากเห็นหาดสวยๆมั้ย

เราเลยรีบตอบไปว่า "ครับ" แล้วเราก็รีบไป

ตามคำบอกทางของชาวบ้านทันที

พอเรามาถึงชายหาด

โอ้.. มันช่างสวยมากครับ ไม่เสียเที่ยวที่เรามา

ผมกับคุณน้า เล่นชิงช้า กันสนุกเลยที่เดียว

เราใช้เวลากันอยู่ที่นี่ ประมาณ 40 นาที

ถึงจะไม่นามมาก แต่เราก็เก็บเกี่ยวช่วงเวลา

ที่ดี กันเต็มที่

หลังจากกลับ มาจากการปั่นจักรยาน

ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายพอดี

โดยทางรีสอร์ท จะมี

Ice cream home made

ไว้คอยบริการให้กับแขกที่เข้าพักทานได้ ฟรี

ขอบอกว่าอร่อยทุกรส เลยครับ

อากาศร้อนๆ เมื่อทานแล้ว สดชื่นมาก

พอทาน Ice cream เรียบร้อยแล้ว

เราก็กลับเข้าห้องพัก

เพื่อที่จะเล่นน้ำ และนั่งชมพระอาทิตย์ตก

ภายใน Villa ของเรา

เวลาผ่านไปไม่นานนัก แสงตะวันก็หมดไป

มีเพียงแสงไฟจากห้องนอน และแสงในสระน้ำ

กับบรรยากาศที่สงบ

มีเพียงเสียงลมของทะเล

และเสียงคลื่น เบาๆ มันช่างเป็นช่วงเวลา

ที่ Slow life จริงๆ

เช้าวันถัดมา หลังจากเราตื่นนอน

มองผ่านบานหน้าต่างออกไป

วิวที่เราเห็น มันช่างสวยมากกกก

อากาศช่วงเช้า ดีจริงๆครับ

เราเลยไม่รอช้า รีบหาเครื่องดื่มมาจิบ

เคล้าคลอ บรรยากาศทันที

หลังจากอาบน้ำและทานมื้อเช้าเสร็จ

เราก็รีบออกไปเก็บภาพภายในรีสอร์ท

เราต้องรีบ เพราะที่นี่มีพื้นที่กว้างจริงๆ

เริ่มต้นกันที่ Main Pool ของที่นี่ครับ

เป็นสระว่ายน้ำ แบบ Freefrom

ลักษณะของสระมี 2 Step

มีเตียงนอนอาบแดด อยู่ในน้ำด้้วย

มุมตรงนี้มีเพียงเราแค่ 2 คน 555

บริเวณที่ชายหาดก็มีเตียงอาบแดด

อยู่ใต้ร่มไม้ เผื่อว่า

บางคนไม่ค่อยชอบแดดแรง

อย่างเช่นน้องสาวของผม

เธอกลัวแดดมาก 555

ส่วนเพื่อนของผม ก็รีบหยิบไม้พาย

ลากเรือคายัก เดินลงทะเล ไปเรียบร้อย

ส่วนผมได้นอนเปลตรงนี้คงเพลินเลยทีเดียว

ต้นไม้ในรีสอร์ทมีค่อนข้างมาก ร่มรื่น

สีเขียว ตลอดทางเดิน ภายในตัว รีสอร์ท

ต้นไผ่ถูกดัดโค้งเป้นซุ้มทางเข้าในส่วน

ของ Spa Naka

Spa ที่ The Naka

มีชื่อเสียงมากหลายเมนู

1 ในนั้นคือ Watsu Treatment

ห้องอาหาร Z bar

มีบริการแบบ Private Dinner

ที่ศาลา ริมทะเล

นั้ง Dinner ไปมองวิวทะเลไปด้วย ฟินสุดๆ

จากมุมนี้ เราสามารถมองเห็น

Villa ของเราอยู่ไกลๆ

เราใช้เวลา พักผ่อนในทริปนี้

ทั้งหมด 3 วัน 2 คืน

ผมคิดว่ามันยังน้อยไปนิดดด

อยากอยู่สักอาทิตย์เลย

เพราะผมยังไม่ได้ทำกิจกรรม

อีกตั้งหลายอย่าง

เช่น พายเรือคายัก สปา โยคะ ฟิตเนส เป็นต้น

ที่แห่งนี้เรานั่งเรือข้ามมาเพียงไม่กี่นาที

แต่กลับแตกต่างจากฝั่งทางภูเก็ตมาก

ไม่ว่าจะเป็นความเงียบสงบน้ำทะเลที่ใส

ความร่มรื่นของต้นไม้ เหมือนกับ

เราข้ามมาอีกโลก เลยทีเดียว

...หากผมมีโอกาศ ผมจะกลับมาพัก

ที่นี่อีกแน่นอน

และจะจดไว้เป็นlist ต้นๆ

ที่จะ ลือกมาเลยทีเดียว...

สรุปหลังจากที่ได้เข้าพัก

โรงแรมค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะสำหรับแขกที่ต้องการมาพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นแบบครอบครัว เพื่อนฝูง หรือ แม้แต่คู่รัก
Villa มีขนาดใหญ่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ
อาหารเช้าอร่อย และชอบตรงมี Sparkling Wine ด้วย
พนักงานบริการดีมาก
ห้องแบบ Sea View Pool Villa วิวสวยมาก นี่ยังไม่นับห้องตัว Top ของที่นี่น่ะ
ตัวโรงแรม มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ รู้สึกสดชื่นมาก
ห้องพักมีราคา ค่อนข้างสูง แต่บางช่วงทางโรงแรมจะจัด โปรโมชั่น ราคาจะลดลงมาอีก
เนื่องจากตัวรีสอร์ท มีความเป็นธรรมชาติสูง ขณะเข้าพัก เราอาจจะเจอสัตว์เลื้อยคลาน หรือแมลงบางประเภทได้
แสงสว่างในส่วนของห้องน้ำน้อยไปหน่อย
อากาศบริเวณ ในส่วนห้องน้ำค่อนข้างร้อนไปหน่อย เพราะมีเพียงพัดลมเพดาน