สามารถติดตามการเดินทางของเราสองคน ได้ที่ เพจ: ฅน ติด เที่ยว

https://www.facebook.com/AristitleTour/

15 จุดเช็คอิน พัทยา-หัวหิน 2019

3 วัน 2 คืน เที่ยวครบ จบในทริปเดียว

แพลนเราในทริปนี้จุดหมายปลายทางคือ พัทยาและหัวหิน ซึ่งเรามีเวลาที่จำกัด แต่อยากเที่ยวให้ทั่วทั้งพัทยาและหัวหิน เราจึงเลือกใช้บริการ เรือเฟอรี่ข้ามอ่าวไทย Royal Passenger Liner ที่ทำให้การเดินทางจากพัทยา-หัวหิน เป็นเรื่องง่าย สะดวกและรวดเร็ว ใช้เวลาแค่เพียง 2 ชั่วโมง ไม่ต้องนั่งรถให้เมื่อยและเสียเวลา เอาเวลาที่เหลือไปเที่ยวดีกว่าเยอะ สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ www.royalferrygroup.com #RoyalPassengerLiner #เรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทยพัทยาหัวหิน #พัทยาหัวหินใกล้กันเพียง2ชั่วโมง #พัทยา #หัวหิน #pattaya #huahin #AristitleTour #ฅนติดเที่ยว


เริ่มต้นทริปนี้กันที่พัทยา สถานที่แรกที่เราจะไป คือเกาะยอดฮิต ที่คนไปเที่ยวเยอะมากๆ และทะเลยังสวยงามอีกด้วย นั่นคือ เกาะล้าน ตอนนี้เราอยู่ที่ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย รอขึ้นเรือข้ามไปยังเกาะล้า


วันนี้เป็นวันหยุดยาวนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ มาคนเดียว มาเป็นคู่ มาเป็นกลุ่มแก๊ง จะมายังไงก็สนุกไปคนละแบบ


ต่อคิวรอขึ้นเรือ ค่าเรือคนละ 40 บาท ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที เรือมีทุกๆครึ่งชั่วโมง หรือใครรีบก็สามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทได้ คนละ 200 บาท ใช้เวลา 15 นาที


จุดเช็คอินที่ 1.เกาะล้าน
ถึงแล้วที่นี้เกาะล้าน เกาะยอดฮิตของนักเดินทาง

ลงจากเรือแล้วเราก็มองหามอเตอร์ไซค์เช่าทันที ราคาที่เกาะล้านจะอยู่ที่ 200-300 บาท วันที่เราไปได้มา 250 พร้อมน้ำมัน 1 ลิตร บางคนอาจจะคิดว่าทำไมให้น้ำมันน้อยจัง แต่ขอบอกเลยครับว่าไม่น้อยนะ เพราะเกาะล้านเป็นเกาะไม่ใหญ่ ขับรอบเกาะล้าน 2 รอบยังไม่หมดเลย555

หลังจากได้รถแล้วเราก็ออกแว๊นรอบเกาะกันตามวิถีไบค์เกอร์ เริ่มที่จุดแรก หาดนวล
หาดนวล ตั้งอยู่ใกล้กับหาดแสม เป็นหาดขนาดเล็กยาวประมาณ 250 เมตร ถ้าเทียบกับหาดอื่นๆ ถือว่าเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก เพราะด้วยความใสของน้ำทะเลและหาดทรายนั้นยังเป็นรองหาดตาแหวน และหาดเทียนอยู่มาก

บรรยากาศหาดนวล

ขอสักรูปสวยๆที่หาดนวล


ทะเลสวยน้ำใส



มาต่อกันที่จุดที่สอง จุดชมวิวเขายักษ์
จุดชมวิวเขายักษ์ หรือเขาหน้ายักษ์หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ จุดชมวิวกังหันลม ตั้งอยู่ใกล้กับหาดแสม เข้าทางเดียวกัน แต่จะมีถนนเล็กๆ ไปยังจุดชมวิว ซึ่งจะผ่านกังหันลม และค่อยๆ ลัดขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด ด้านบนเป็นที่ตั้งของเสาโทรเลขและเรดาห์ บริเวณจุดชมวิวมีการทำลานชมวิวเป็นทางเดินไปชมวิวยังจุดต่างๆ เป็นจุดชมวิวบนอ่าวแสม ที่มีความสวยงามมากด้วยมุมมองที่กว้าง 360 องศา มีลมพัดเย็นสบาย สามารถมองเห็นชาดหาดได้หลายหาดด้วยกันรวมไปถึงวิวพัทยาด้วย ข้อควรระวัง สำหรับการขึ้นมายังจุดชมวิวจุดนี้ ด้วยถนนที่ค่อนข้างแคบและชันในช่วงสุดท้าย + เป็นถนนอิฐบลอกตัวหนอนที่ไม่เรียบเสมอกัน ทำให้ค่อนข้างอันตราย ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่มีะรถสวนขึ้นหรือลงมา จุดชมวิวจุดนี้นับได้ว่าทางขึ้นเส้นทางโหดที่สุดบนเกาะล้าน ซึ่งมีอุบัติเหตุบ่อยมาก


สามารถมองเห็นหาดนวลได้อย่างสวยงาม


จุดที่สาม หาดแสม
หาดแสม เป็นหาดทรายยาวประมาณ 700 เมตร เป็นชายหาดอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยว เข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะชาวต่างชาติแถบยุโรป หาดนี้จะมีความสงบกว่า 2 หาดแรก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของอาคารปลา กระเบน สำหรับ ควบคุมการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมและโซล่าเซลล์ ทำให้มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และ ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเข้ามาศึกษาดูงานการใช้พลังงานทดแทนในสถานที่ดังกล่าวอยู่เป็นประจำ


ฟลาบิงโก้สีชมพูกลางชายหาด


บรรยากาศหาดแสม มองเห็นอาคารปลากระเบนด้วย


ชาวต่างชาติเยอะจริงๆ


จุดที่สี่ หาดเทียน
หาดเทียน หาดที่สวยงามอีกหาดหนึ่งบนเกาะล้าน แต่ความคึกคักของนักท่องเที่ยวจะมีน้อยกว่า หาดค่อนข้างสงบกว่าหาดตาแหวนเล็กน้อย หาดเทียน เป็นหาดที่น้ำทะเลใสสวยงามไม่แพ้หาดตาแหวน หาดเทียนมีความยาวของหาดประมาณ 500 เมตร ความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของหาดนี้ คือ สะพานที่ทอดยาวริมทะเลเรียบไปจนถึงชายหาด


นักท่องเที่ยวดูบางตากว่าหาดอื่นๆมาก


จุดที่ห้า หาดตาแหวน
เมื่อมาถึงเกาะล้าน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมุ่งตรงไปทีหาดนี้ก่อน หาดตาแหวน เป็นหาดที่คึกคักไม่แพ้ท่าหน้าบ้าน เพราะเป็นจุดจอดเรือรับส่งนักท่องเที่ยวเช่นกัน หาดตาแหวน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะล้าน เป็นหาดทรายยาวประมาณ 750 เมตร มีความงามเพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลใสสีคราม ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากที่สุด มากจนเต็มหาด มองไปก็มีเรือนำเที่ยวและนักท่องเที่ยวเยอะเต็มไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ มีเครื่องเล่นทางน้ำเป็นจำนวนมาก ทั้งสกูตเตอร์ เจ๊ทสกี บานาน่าโบ๊ท มีร้านค้า ร้านอาหาร ริมหาดให้บริการมากมาย รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกตั้งเรียงรายตลอดแนวชายหาด มีเตียงนอนผ้าใบเรียงรายไปจนสุดหาด รวมทั้งมีรถสองแถว รถมอเตอร์ไซต์ จอดให้บริการค่อนข้างคึกคักมากกว่าหาดอื่นๆ


ท่าเรือหาดตาแหวน


นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ดูแล้วอบอุ่นสุดๆ555


จุดที่หก จุดชมวิวหาดตาแหวน
จุดชมวิวตั้งอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนป่าเฉลิพระเกียรติ จุดนี้จะมีรูปปั้นเหมือนของหลวงปู่ทวดตั้งอยู่บนจุดสูงสุด มองไปเบื้องหน้าเห็นวิวท้องทะเลของหาดตาแหวน ที่เต็มไปด้วยเรือและนักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะล้าน การเดินทางเมื่อขับมายังเส้นทางหลักที่ไปหาดตาแหวน จะเห็นป้ายเขียนว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมฯ จะมีถนนเส้นเล็กๆให้ขึ้นไปให้เลี้ยวขึ้นไปเลย เส้นทางไปยังจุดชมวิวจะแคบซักหน่อย โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายเส้นทางชัน ควรขับมอเตอร์ไซต์ด้วยความระมัดระวัง


สวยงามมาก


มาเกาะล้านห้ามพลาดจุดชมวิวหาดตาแหวนนะครับ เดี๋ยวเขาจะว่าเรามาไม่ถึง555


จุดที่เจ็ด หาดตายาย
เป็นหาดที่ตังอยู่คนละฝั่งกับ หาดที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเอกเทศอยู่เพียงหาดเดียว เพราะจากท่าเรือหน้าบ้านต้องเลี้ยวมาทางซ้าย ในขณะที่หาดอื่นเลี้ยวไปทางขวา แต่ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือหน้าบ้าน หาดตายายเป็นหาดที่ค่อนข้างบรรยากาศสงบ มีน้ำทะเลที่ใสหาดทรายขาว และนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เรียกได้ว่าน่าจะเป็นหาดที่สงบที่สุดบนเกาะล้านเลยก็ว่าได้


นักท่องเที่ยวน้อย แต่ลงเล่นน้ำต้องระมัดระวังหินหน่อยนะครับ หินเยอะมากตรงจุดนี้



จุดเช็คอินที่ 2.Pizza&Coffe Kohlarn
เป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ติดกับท่าเรือหน้าบ้าน มีบริการพิซซ่า สปาเกตตี้ ชา กาแฟ และอื่นๆมากมาย แอร์เย็นสบาย ระหว่างรอเรือ เราก็นั่งสั่งอะไรกินนิดหน่อย

บรรยากาศภายในร้านตกแต่งมุมน่ารักๆหลายมุม ให้เราได้เซลฟี่กัน


ร้านเล็กๆแต่แอร์เย็นมากกกก



มุมนี้คงถูกใจคนรักแคคตัสไม่น้อย


สปาเกตตี้กับชามะนาว



ถึงเวลาที่จะต้องกลับพัทยาแล้ว

นั่งเรือไม่นานก็กลับมาถึงพัทยาแล้ว นักท่องเที่ยวยังเดินทางกันมาไม่หยุด


ขอสักรูปกับมุมมหาชน




หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวันได้เวลาเข้าที่พักแล้ว ที่พักคืนแรกของเราวันนี้ เราเลือกพักที่ D Varee Jomtien Beach, Pattaya ดีวารี จอมเทียน บีช พัทยา เป็นโรงแรมใหญ่ติดกับชายหาดจอมเทียน ติดกับแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เดินทางสะดวกมีรถสองแถวผ่านหน้าโรงแรมตลอด
ติดต่อจองห้องพักได้ที่ https://www.djbpattaya.com/

D varee Jomtien Beach


ห้องโถงรับแขกกว้างขว้าง เบาะนั่งสบาย พนักงานบริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการรวดเร็วทันใจมาก



นี่คือห้องพักของเราในคืนนี้ ห้องกว้าง เตียงนุ่ม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมวิวยังสวยอีกต่างหาก มองเห็นหาดจอมเทียนได้ทั้งหาดเลยแหละ


ทีวีจอแบนขนาดใหญ่


แชมพู ครีมอาบน้ำ สบู่ล้างหน้า ถุงคลุมผม สำลีปั่นหู มีครบพร้อมใช้งาน


มีอ่างอาบน้ำด้วยนะ ใครชอบแช่ตัวขัดผิว ก็ลงอ่างไปเลยครับ555

ชุดชากาแฟพร้อมกาน้ำร้อน

ตู้เย็นมีพร้อมสำหรับแช่เครื่องดื่มเย็นๆ



มีเก้าอี้นั่งรับลมเย็นๆจากทะเลที่ระเบียงด้วยนะ


เหมาะสำหรับมาพักผ่อนกันเป็นครอบครัว


มีไดร์เป่าผมและตู้เซฟสำหรับเก็บของมีค่าเวลาออกไปเที่ยวข้างนอก มั่นใจหายห่วงได้เลย ไม่ต้องกลัวของหาย


บรรยากาศยามค่ำคืน



จุดเช็คอินที่ 3.Walking Street Pattaya
Walking Street Pattaya ถูกขนานนามว่าเมืองยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับไหล
หากพูดถึงพัทยาเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีครไม่รู้จักถนนคนเดินยามค่ำคืนสุดฮิตอย่าง Walking Street Pattaya (วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา) ซึ่งที่นี่เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทุกประเทศ เรียกได้ว่า ถ้ามาพัทยาแล้วไม่ไปวอล์คกิ้ง สตรีทแสดงว่ามาไม่ถึงพัทยา ถนนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณริมหาดพัทยาใต้ยาวไปจนถึงแหลมบาลีฮาย ในวอล์คกิ้งสตรีท นั้นส่วนใหญ่จะมีสถานบันเทิงและร้านอาหารต่างๆอยู่มากมายเลยทีเดียว หากใครชอบเที่ยวกลางคืน ชอบฟังเพลงหลงไหลในบรรยากาศแสงสีเสียง คงถูกใจมิใช่น้อย

หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายหลายประเทศ ครึ้กครื้นสุดๆ


ระหว่างทางในถนนสายนี้จะมีโชว์ต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ โชว์มายากล โชว์เต้น โชว์ร้องเพลง หากใครถูกใจโชว์ไหนก็มอบเงินเล็กๆน้อยเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ศิลปินเหล่านี้ได้



จุดเช็คอินที่ 4.Jomtien Beach Night Market
หลังจากไปเดินเล่นที่ Walking Street Pattaya จนเหนื่อยกันแล้ว ก็เลยกลับมาหาอะไรกินแถวๆโรงแรม ตลาด Jomtien Beach Night Market อยู่ใกล้ๆกับโรงแรม D varee ที่เราพักเลย ตลาดตั้งอยู่ตรงข้ามกับหาดจอมเทียน เป็นตลาดขายอาหาร มีอาหารมากมายให้เลือกซื้อ และมีโต๊ะให้นั่งกินที่หน้าตลาดด้วยนะ

คนมาเดินตลาดเยอะอสมควร ชาวต่างชาติก็เยอะ ตลาดปิดประมาณ 22.00 น



ปลาหมึกไม้ใหญ่ๆ แต่ราคาถูกมากๆ


ปลาย่างตัวละ 100 เองนะ


เราเลยจัดปลาย่างหนึ่งตัวกับปลาหมึกซะเลย ตามด้วยเหล้าปั่นเบาๆพอคืนนี้ อิ่มแล้วนอนได้555



เมื่อคืนไม่รู้เหมือนกันว่าหลับตอนไหน แต่ตื่นเช้ามาเจอวิวแบบนี้ อากาศดีๆอย่างนี้ บอกได้คำเดียวว่าฟินเฟ่อ

ที่นี้มีสระว่ายน้ำถึงสองสระเลยนะ เลือกเล่นได้ตามสบายเลย



วิวยามเช้าหาดจอมเทียน


ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ที่นี้เขาจัดให้แบบบุฟเฟ่ อิ่มไม่อั้น กินกันจนจุกไปเลย มีอาหารหลายอย่าง รับรองกินไม่ครบแน่นอนเพราะอิ่มซะก่อน555


ก๋วยเตี๋ยวก็มีนะ


ข้าวผัดก็มีนะ


กับข้าวเยอะแยะมากมาย


ตบท้ายด้วยขนม


ยังไม่พอก็จัดผลไม้ต่อ กินกันให้พุงกางไปเลยงานนี้


สระว่ายน้ำด้านล่างติดกับห้องอาหาร อิ่มแล้วจะลงเล่นน้ำต่อก็ไม่มีใครว่านะ ตามสบายเราได้เลย


ขอสักรูปก่อนจะเช็คเอ้าท์


มีมุมสำหรับคุณหนูๆ เหมาะสำหรับพาเด็กๆมาพักผ่อ


ติดต่อจองห้องพักได้ที่ https://www.djbpattaya.com/



จุดเช็คอินที่ 5.ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
ตลาดน้ำ 4 ภาค สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมและเป็นศูนย์รวมของ กิจกรรม ความหลากหลายเกี่ยวกับ การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ตลาดน้ำ 4 ภาค รวบรวมของดี 4 ภาค มาไว้ที่นี่ เป็นแหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน และแหล่งท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรม มารวมไว้จุด เดียวกัน รวมไปถึงการแสดง กิจกรรมวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมไทย หรือจะเป็นการล่องเรือพายชม ทัศนียภาพตลาดน้ำย้อนรำลึก ประวัติศาสตร์การกสิกรรมไทย ที่แปลงเกษตรสาธิต และสมุนไพรไทย เป็นการท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ได้รู้จักความเป็นมาในอดีตของการค้าขายทางสายน้ำ รวมไปถึงการ เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของทั้ง 4 ภาค

บรรยากาศภายในตลาด


ภาคอีสาน


ช่วงที่ไปละครกรงกรรมกำลังมาแรงก็จะอินๆหน่อยนึกว่าตัวเองอยู่ที่ชุมแสง555


มีบริการล่องเรือรอบตลาด สำหรับใครที่อยากได้ภาสวยๆ ก็ลองติดต่อที่ทางเข้าตลาดได้เลยนะครับ


กลิ่นไอบรรยากาศเก่าๆมันก็ผุดขึ้นมา


มีเรือพายขายของเยอะแยะมากมาย


สะพานแขวน ที่นี้มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ด้วยนะ


ร้านค้าขายของที่ระลึกมากมา


บรรยากาศภายในตลาดน้ำ



จุดเช็คอินที่ 6.SURIYA LAND
สุริยาแลนด์ (Suriya Land) ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดน้ำสี่ภาค เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่ารวมของแปลกแหวกแนวของหลุดโลก แหล่งท่องเที่ยว ทั้งของใหม่ ของเก่าแนววินเทจ และของสะสมโบราณที่หาชมได้ยาก ที่มีไอเดียตกแต่งสถานที่แบบคาดไม่ถึง ตื่นตะลึงกับกีต้าร์โปร่งและอูคูเลเล่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถขึ้นไปถ่ายรูปข้างบนตัวกีต้าร์ได้

บริเวณด้านหน้า


เดินเข้ามาข้างในว้าวมาก ของเก่าสะสมเยอะแยะเต็มไปหม



มอเตอร์ไซค์เก่า ตู้น้ำมันเก่า


แก้ว ถ้วย ชาม จากทุกมุมโลก


เทปเพลงเก่า


เครื่องเล่นแผ่นเสียง


นาฬิกาหลากหลายรูปแบบ


จักรยาน มอเตอร์ไซค์หายาก


เงินสกุลไทย



เที่ยวกันจนทั่วพัทยาแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปหัวหินกันแล้ว
เรือเฟอรี่ Royal Passnger Liner มีให้บริการทุกวััน พัทยา-หัวหิน 13.00 น./หัวหิน-พัทยา 16.00 น.

ชั้นประหยัดราคา 1250 บาท/เที่ยว ชั้นธุรกิจ 1550 บาท/เที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่แหลมบาลีฮาย เช็คอินก่อนเวลาเรือออก 30 นาที ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวก็เช็คอินได้เลยนะ

สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่www.royalferrygroup.com

เรือลำใหญ่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 300 ที่นั่ง



ได้เวลาขึ้นเรือกันแล้ว Go To Huahin


ห้องโดยสารกว้างขว้าง เบาะนั่งไม่ชิดกันจนเกินไป


เบาะใหญ่นั่งสบาย


มีบริการน้ำดื่มฟรี


มีร้านค้าบนเรือ จะกินอะไรสามารถสั่งได้เลย มาม่าก็มีนะ สำหรับนักเดินทางอย่างเรา555


แต่เราสั่งโออิชิกับสแน็คแจ็คไป กินเล่นเวลาเดินทาง เพลินดีตลอดการเดินทาง พนักงานบริการดีมาก ยิ้มแย้ม แจ่มใสตลอดเวลา


ส่วนนี้จะเป็นชั้นสองหรือชั้นธุรกิจ


เบาะจะแตกต่างกับชั้นประหยัดตรงที่สามารถปรับเอนลงนอนได้สบายกว่าและเบาะใหญ่กว่า


ส่วนห้องนี้จะเป็นห้อง VIP สำหรับ 4 ท่าน


เป็นห้องส่วนตัว มีทีวีในห้องด้วย


บันไดทางขึ้นชั้นสอง


ห้องน้ำสะอาด


นั่งมา 2 ชั่วโมง ก็มาถึงกันแล้ว ที่นี่หัวหิน เรือจะมาจอดที่ท่าเรือเขาตะเกียบ เรือวิ่งตรงเวลาเป๊ะมาก


จากท่าเรือจะเข้าตัวเมือง จะมีรถแท็กซี่ สองแถวรอให้บริการที่ท่าเรือเลย ส่วนเราเป็นสายไบค์เกอร์ ก็เลยต้องเดินหารถเช่ากันอีกตามเคย แต่ที่จริงเราหาข้อมูลก่อนจะมาแล้วแหละว่ามีร้านแถวๆนี้ แต่พอโทรไปถาม ร้านเขาไม่มาส่งรถให้ เราเลยเดินมาเรื่อยๆจนมาเจอกับร้านนี้ Baan Rao Restaurant มีให้เช่าทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ส่วนรถจักรยานยนต์ราคาเริ่มต้น 250 บาท พร้อมหมวกกันน็อคและน้ำมันนิดหน่อย

ได้รถแล้ว แว๊นไปที่พักกัน



ที่พักเราคืนนี้ เราพักกันที่ Suchayahouse ที่พักหลักร้อย ที่ติดถนนสายหลักของหัวหิน เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอย่างเพลินวาน ติดกับโรงพบาบาลหัวหิน ด้านหน้าโรงแรมมีแฟมิลี่มาร์ท
ติดต่อจองห้องพักล่วงหน้าได้ที่https://www.facebook.com/suchayahome หรือโทร 032-520390,098-892-4987
ได้ตลอด 24 ชม.

บรรยากาศภายในห้องพัก ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น



เตียงนอนนุ่ม กว้างนอนสบาย มีผ้าขนหนูสีขาววางไว้ให้ ดูแล้วสะอาดตาดีมาก


มีโทรทัศน์พร้อมจานดาวเทียม จะดูหนังฟังเพลง ครบหมด


ภายในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะ


ห้องน้ำสะอาด เหมือนเพิ่งสร้างมาไม่นาน สบู่ ยาสระผมพร้อม


มีสระว่ายน้ำ สำหรับใครที่ร้อนไม่อยากไปเล่นน้ำที่ทะเล ก็ลงสระที่โรงแรมได้เลย


น้ำใสน่าโดดจริงๆ แต่เราต้องออกไข้างนกกันแล้ว ไปแว๊นรอบหัวหินกันต่อดีกว่าเนาะ



จุดเช็คอินที่ 7.SeenSpace Hua hin
จุดเช็คอินแรกในหัวหินของเราคือ SeenSpace Hua hin เพราะอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักเรานัก เลยกะว่าจะแวะเดินเล่นสักหน่อย
Seenspace Hua Hin (ซีนสเปซ หัวหิน) คอมมูนิตี้มอลล์ติดทะเลแห่งแรกของหัวหิน และสถานที่พักผ่อนสุดชิลติดริมทะเลหัวหิน ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Eat, Lay, Play, Relax ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ผสมกับลอฟ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์อันทันสมัย เป็นศูนย์รวมของร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านค้ามากมาย รวมถึงยังมีกิจกรรม ตลาดนัดหัวหินติดทะเล ให้ได้นั่งทานของอร่อยริมทะเลอีกด้วย โดยโครงการเอง แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ Seek Apperel ร้านเสื้อผ้า, Seek Lifetyle ของแต่งบ้านหลากดีไซน์ หลายแบรนด์, Seek Appetite โซนอาหารประเภท Grab & Go ที่สามารถซื้อของอร่อยทานง่ายแล้วมานั่งชิลริมทะเลได้


จุดเช็คอินที่ 8.ชายหาดหัวหิน
ชายหาดหัวหิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหัวหิน มีทางลงหาดอยู่ที่ถนนดำเนินเกษม สองข้างทางลงหาดมีโรงแรมและร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก หาดหัวหินมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียดเหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเลเป็นชายหาดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมาก เพราะมีการขี่ม้าเที่ยวเลียบหาดชมทิวทัศน์ของท้องทะเล อาคารบ้านพักตามแนวชายหาด

เรามาไม่ทันพระอาทิตย์ตก พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะ บมเย้นสบาย เดินชิลล์ๆริมทะเลกับรู้ใจ มันเป็นความรู้สึกดีที่อธิบายไม่ถูกจริงๆ



นั่งริมชายหาดกันเป็นคู่ๆ คนโสดไม่ถูกใจสิ่งนี้555


มีบริการขี่ม้าชมวิวเลียบชายหาด เป้นเอกลักษณ์ของที่นี้เขาเลยแหละ


อีกมุมที่พลาดไม่ได้เวลาเรามาที่ชายหาดหัวหินนั่นคือการได้มาถ่ายรูปคู่กับต้นมะพร้าวที่เอนลงมา ต่างกับต้นอื่นๆที่ตั้งตรง


จุดเช็คอินที่ 9.ตลาดโต้รุ่งหัวหิน
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ตั้งอยู่บนถนนหัวหินซอย 72 หรือถนนเดชานุชิต เป็นถนนคนเดินเพื่อการพักผ่อนและการค้าขายสินค้าในเวลากลางคืน ที่ปิดถนนทั้งซอย ตั้งแต่ถนนเพชรเกษมถึงทางรถไฟ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มาถึงหัวหินต้องมา เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่หัวหินมายาวนาน เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารอร่อย มากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง สินค้าแฟชั่น ของแต่งบ้าน ของฝาก ของที่ระลึก ให้ผู้มาเที่ยวได้เลือกดูเลือกซื้อได้ตามใจชอบ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 23.00 น


จุดเช็คอินที่ 10.เพลินวาน
เพลินวาน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ต้องแวะเมื่อมาเยือนหัวหิน ปกติจะคุ้นเคยกับในภาพบรรยากาศย้อนยุคแบบเรสโทร จำลองตลาดของไทยสมัยโบราณ แต่ตอนนี้เพลินวาน ได้มีการเปลี่ยนโฉมใหม่กลายเป็นภาพที่สดใสขึ้นเน้นตีมทะเลคลุมโทนสีน้ำเงินฟ้า ให้กลายเป็นชายหาดบางแสนในปี พ.ศ. 2500 โดยใช้ชื่อ ตอน บางแสน ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับวิถีริมชายหาดแสนอบอุ่น

ม้าหมุน


ร้านขายของเล่นเก่าๆเด็กๆสมัยนี้คงจะไม่เคยเห็นกันหลายอย่างเลยแหละ


มีร้านอาหารมากมาย


มีขนมอร่อยๆให้เลือกซื้อเยอะแยะเต็มไปหมด


ร้านกาแฟ


ส่วนนี้เป็นเหมือนตลาดขายของทะเลแห้ง


ชิงช้าสวรรค์


ร้านขายของที่ระลึก


มุมถ่ายรูปแนวย้อนยุค


มุมนี้ก็ได้


บรรยากาศภายในเพลินวานชั้นล่าง


บรรยากาศภายในเพลินวานชั้นบ
ดึกแล้วก็ได้เวลากลับที่พัก นอนพักผ่อนเก็บแรงไว้ลุยหัวหินต่อพรุ่งนี้



จุดเช็คอินที่ 11.ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ
เช้านี้เราตื่นสายกันนิดหนึ่ง เพราะว่าเมื่อคืนดื่มไปนิดหน่อย555
ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ เป็นร้านกาแฟเล็กที่อยู่คู่หัวหินมายาวนาน ภายในร้านหลายๆอย่างยังคงสภาพเดิม เมื่อก่อนขายแค่ชา กาแฟ แต่เดี๋ยวนี้พัฒนาขายข้าว ก๋วยเตี๋ยวด้วย หลายอย่าง

เจ๊กเปี๊ยะ น่าจะเป็นชื่อเจ้าของร้าน



สามารถสั่งชา กาแฟได้เลยที่โต๊ะที่ตัวเองนั่ง อยากกินอะไรสั่งได้เลย


ส่วนผมเช้านี้จัดไปเบาๆกับข้าวหน้าเป็น เราะคนเยอะมาก แน่นร้านเลย เลยสั่งอะไรง่ายๆ ไม่รู้ว่าเมนูแนะนที่นี้คืออะไรเหมือนกัน แต่ก็อร่อยนะ ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ก็แวะอุดหนุนกันได้นะครับ แต่ให้มาเช้าๆหน่อยคนจะไม่เยอะและไม่ต้องรอนาน



จุดเช็คอินที่ 12.สถานีรถไฟหัวหิน
สถานีรถไฟหัวหิน ตั้งอยู่ถนนพระปกเกล้า ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานีรถไฟชั้น 2 ของทางรถไฟ สายใต้ ทางด้านอาคารสถาปัตยกรรมได้รับยกย่องเป็นอาคารอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟ หัวหินเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ อิทธิพลจาก สถาปัตยกรรมวิคตอเรีย ได้รับการยกย่องว่าเป็น สถานีรถไฟที่สวยที่สุด ในประเทศไทย เป็น สถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย และหากใครมาหัวหินก็ ต้องมาถ่ายรูปคู่กับป้ายสถานีรถไฟนับว่าเป็นธรรมเนียมที่สืบต่อกันมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

นั่งรถไฟไปก็เจอหลายสถานี ไม่เคยเจอสถานีไหนสวยเท่านี้มาก่อนเลย



มีนักท่องเที่ยวมารอขึ้นรถไฟเยอะเลย บางคนก็มาเดินเล่นถ่ายรูป


"พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ "เป็นพลับพลาจตุรมุขสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เดิมมีชื่อว่า" พลับพลาสนามจันทร์ " ตั้งอยู่บริเวณสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พลับพลาแห่งนี้มีไว้ในการที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ เสด็จประทับทอดพระเนตร กองเสือป่า และลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อม ยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากสิ้นรัชสมัยพระองค์การรถไฟแห่งประเทศไทยจึง ได้ทำการรื้อถอนมาเก็บไว้เพื่อ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์


ถ้าไม่ได้ถ่ายคู่กับป้ายหัวหินเดี่ยวเขาว่าเรามาไม่ถึงเสื้อพร้อมถุงมือพร้อมแต่หมวกเหมือนจะไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่555



จุดเช็คอินที่ 13.อุทยานราชภักดิ์
อุทยานราชภักดิ์ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ ที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีและเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหากษัตริย์แห่งสยาม

แว๊นรถกันมาไกลมาก หน้าดำหมดแล้ววว



จุดเช็คอินที่ 14.วัดเขาตะเกียบ
วัดเขาตะเกียบ ตั้งอยู่บนเขาตะเกียบ เป็นวัดที่สวยงาม ทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้สักการะบูชา วัดเขาตะเกียบยังมีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นชายหาดหัวหิน และตัวเมืองหัวหิน อีกทั้งภายในบริเวณยังมี “เจ้าลิงจ๋อ” อยู่ทั่วบริเวณ(ใครอย่าเผลอให้อาหารเชียว เพราะมันจะมารุมคุณทั้งฝูง)

บรรยากาศภายในวัด




ขึ้นไปไหว้พระด้านบนกันเถอะ


ไหว้พระขอพรกันสักหน่อย


ด้านบนสามารถมองเห็นชายหาดหัวหินได้


จุดชมวิววัดเขาตะเกียบ


สวยมากๆ มองเห็นหัวหินทั้งเมืองเลย


เผลอแปบเดียวโดนลิงขโมยน้ำส้มไปกินซะละ ใครจะมาตรงนี้ต้องระวังนิดหนึ่งนะครับ อย่าว่างอะไรไว้ที่รถเด็ดขาด เดี๋ยวจะโดนลิงปล้นแบบเราได้นะครับ555



จุดเช็คอินที่ 15.Air Space Hua Hin
ลงมากจากวัดเขาตะเกียบก่อนจะไปที่ท่าเรือเพื่อขึ้นเรือกลับพัทยาเราก็มานั่งตากแอร์เย็นๆกันก่อนเพราะตอนนี้เพิ่งบ่ายโมงเอง เรือออกตั้งสี่โมงเย็นแหนะ
Air Space Hua Hin ร้านอาหาร และกาแฟ อีกแห่งหนึ่งในของหัวหิน ตั้งอยู่ในพื้นที่เขาตะเกียบ เนรมิตความงามจากความว่างเปล่าขึ้นมาจนกลายเป็นร้านอาหารที่สวยงามโดดเด่นจนใครเห็นเป็นต้องหันมามอง
Air Space Hua Hin ออกแบบและตกแต่งให้ได้บรรยากาศของการบิน ตั้งแต่สัญลักษณ์ของร้าน จนถึงตัวอาคารที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรงเก็บเครื่องบินและของประดับตกแต่งทุกชิ้นล้วนมีที่มีที่ไปที่เกี่ยวกับการบินแทบทั้งสิ้น ตัวร้านจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือฝั่งร้านอาหาร และฝั่งร้านกาแฟ แต่สามารถสั่งอาหารระหว่างกันได้ แต่วันนี้เราจะพาเข้าร้านกาแฟ

ในส่วนของร้านกาแฟก็ตกแต่งไว้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน ประดับด้วยของสะสมที่ทรงคุณค่ามากมาย เห็นแล้วก็เกิดความประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว


เมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลายให้เลือก รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล ค๊อกเทล และอื่นๆอีกมากมาย




นอกเหนือจากในห้องอาหารทั้งสองส่วน บริเวณด้านนอกก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะจัดพื้นที่นั่งไว้โดยรอบอาคาร และมีบริเวณลานกว้างที่จัดเป็นที่นั่งไว้ให้บริการอีกด้วย ตอบสนองทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์



นี่ก็ได้เวลาเรือจะออกแล้วประมาณอีกหนึ่งชั่วโมงเราเลยมาหาอะไรกินรอที่ชายหาดเขาตะเกียบ

มีเก้าอี้ผ้าใบให้นั่งฟรีด้วยนะ แต่ก็สั่งอาหารหน่อยก็ดีนะครับ555


เราเลยสั่งยำหอยนางรมกับผัดกระเพราปลาหมึก ร้านนี้ราคาไม่แพงแถมอร่อยอีกด้วย ร้านแรกตรงหัวมุมเลย



ธนาคารปูตรงท่าเรือเขาตะเกียบ



ได้เวลาขึ้นเรือกลับพัทยากันแล้ว เรือมาจอดรอเราได้สักพักแล้

มาเช็คอินก่อนเรือออก 30 นาที
สามารถจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่


ท่าเรืออยู่ติดเขาตะเกียบเลย มองเห็นเขาตะเกียบด้วย



ได้เวลาขึ้นเรือแล้ว Go To Pattaya


ขอขอบคุณเรือเฟอรี่ Royal Passenger Liner สำหรับประสบการณ์การเดินทางดีๆแบบนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ให่สำหรับเรามากๆ เพราะไม่เคยนั่งเรือข้ามอ่าวไทยเลย ครั้งนี้เป็นครั้ง รู้สึกประทับใจมาก นักงานบริการดี เรือออกและถึงตรงเวลา สุดยอดมากๆครับ ขอบคุณครับ


นั่งเรือมา 2 ชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาพัทยาแล้วครับ


ชมวิวเมืองพัทยาก่อนจะเดินทางกลับ


ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ 15 จุดเช็คอิน พัทยา-หัวหิน 3 วัน 2 คืน

ชอบตรงไหนก็ไปเช็คอินกันได้เลยนะครับ ส่วนเราก็ขอตัวลาไปก่อนนะครับ ฝากติดตามเพจ ฅน ติด เที่ยว ไว้ด้วยนะคร๊าบบบบ

ลากันไปด้วยพระอาทิตย์ตกที่ท่าเรือแหลมบาหลีฮาย พัทยา

ฅน ติด เที่ยว

 วันพฤหัสที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.08 น.

ความคิดเห็น