FOLLOW ME
Facebook page : Once-a-month
Instagram: onceamonth.travel
YouTube : Once-a-month


ที่นี่ “ อุทยานแห่งชาติขุนพะวอ “

อุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ริมถนนสายแม่ระมาด - บ้านตาก ห่างจากตัวอำเภอแม่ระมาดประมาณ 18 กิโลเมตร เดิมมีชื่อว่าอุทยานแห่งชาติแม่กาษา แล้วได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นอุทยานแห่งชาติขุนพะวอ เพื่อยกย่องพะวอ ซึ่งเป็นทหารชาวกระเหรี่ยงในสมัยสมเด็จพระเจ้าตาก ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉลี่ยประมาณ 21 องศา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาพักกันในฤดูหนาว


การเดินทาง

พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 05.20 น. ขี่ๆ พักๆ ไปเรื่อยๆ ก็มาถึงบ้านตากตอนประมาณ 11.30 น. อากาศวันที่เราเดินทางถือว่าดีอากาศเลย เมฆเยอะ แต่ไม่มีฝน ไปแบบสบายๆ ไม่ร้อน

ต่จากบ้านตากไปยังขุนพะวอระยะทางก็ประมาณ 70 กิโลเมตร ในตัวเมืองจะมี 7-11 และมินิมาร์ทเราสามารถแวะซื้อเสบียงกันได้นะ

หลังจากซื้อเสบียงกันเสร็จ ก็เดินทางกันต่อ ออกจากเมืองไปตามป้ายบอกทาง ไม่ต้องกลัวหลง

ถนนเส้นทางนี้จะเป็นถนนสองเลนค่อยๆ ไต่เขาไปเรื่อยๆ สองข้างทางส่วนใหญ่เป็นป่า ภูเขา เป็นเส้นทางที่สวยงามเลยทีเดียว รถไม่เยอะส่วนใหญ่ที่เจอก็จะเป็นชาวเขาที่ทำสวนผักอยู่ด้านบน เส้นทางนี้จะผ่านทางขึ้นดอยสอยมาลัยด้วย เราใช้เส้นทางนี้ทั้งขาไปและกลับ (ถนนหมายเลข 1175) และจะมีอีกทางที่สามารถไปยังขุนพะวอได้ คือ เส้นแม่สอด ตัดเข้าแม่ระมาด (105 > 1175)

ปล. ต้องขออภัยรูประหว่างทางไม่ค่อยมีเลย กลัวฝนจะตกเลยไม่ได้เอากล้องออกมา

แล้วเราก็วาร์ปมาถึงอุทยานแล้ว หลังจากที่เกือบจะได้เมาโค้งกันแล้ว โค้งเยอะมากใครที่เมารถแนะนำให้กินยากันไว้ก่อนเลย และแล้วฝนก็มาตกเอาช่วงสุดท้าย จะเข้าอุทยานอยู่แล้วเชียว ยังดีที่ตกปรอยๆ เราก็รีบขี่เข้าด่าน จ่ายเงิน แล้วขี่ขึ้นไปข้างบนเลยบรรยากาศตอนเข้ามามันก็จะฟินๆ หน่อย หมอกกำลังขึ้นเลย อากาศกำลังเย็นสบาย พวกเรามาถึงกันประมาณ 13.20 น.

หลังจากที่รอให้ฝนหยุด พวกเราก็เริ่มเอาของลง หาพื้นที่กางเต็นท์ ปัญหาของเราคือพื้นที่เยอะจัด เลือกจุดที่จะลงไม่ได้สักที อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี 555

หลักจากกางเต็นท์เก็บของกันเสร็จท้องก็เริ่มจะร้องแล้ว เราออกไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า ตอนที่ขี่มาเห็นมีหมู่บ้านมีร้านก๋วยเตี๋ยวดูน่ากิน เราไปกินก๋วยเตี๋ยวกันดีกว่า

เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูมีทั้งน้ำตก และน้ำใส เราก็จัดกันไปเบาๆ 3 ชาม และห่อกลับอีก 1 ถุงเอาไว้กินตอนมื้อเย็น ( กินแบบนี้เมื่อไหร่จะผอมเนี่ย ) แต่ทั้งหมดเนี่ยแค่ 100 บาทเท่านั้น ชามละ 25 บาทเอง ถูกมาก

เราไปหาซื้ออะไรไปทำกินตอนเย็นดีกว่า ก็ตรงแถวๆ นั้นแหละ เป็นร้านขายของชำ มื้อเย็นกะว่าจะเป็นต้มมาม่ากับเกาเหลาที่เราซื้อมา ส่วนมื้อเช้าจะหุงข้าวแล้วก็ทอดไข่เจียว ซื้อเสร็จก็กลับไปที่อุทยาน กลับมานั่งทำงาน ถ่ายรูปเล่น ใช้ชีวิตแบบ slow life สุดๆ

ดูสิ อากาศตอน 4 โมงกว่า 22 องศา อากาศเย็นสบายมาก

อ้อ .. ตรงบริเวณที่เรากางเต็นท์มีร้านค้าสวัสดิการด้วยนะ ก็จะเป็นพวกน้ำดื่ม ของแห้งต่างๆ แล้วก็ของใช้จำเป็นต่างๆ จะเปิดให้บริการ 08.00 - 16.00 น. ตรงนี้ก็จะมีโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งด้วย ส่วนใครที่ต้องการใช้เน็ตที่นี่เค้ามี 4G นะ บ้านเราใช้ค่ายแดงกับเขียว ส่วนค่ายฟ้าไม่มั่นใจว่ามีกับเค้าด้วยรึเปล่า แล้วตรงบริเวณนี้เราสามารถมามเสียบชาร์จแบตได้นะ ถือว่าสะดวกสบายเลยล่ะ

นั่งไปนั่งมาก็เริ่มเคลิ้ม อากาศก็ค่อยๆ เย็นลง เลยตัดสินใจไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาทำอาหารเย็นกินกัน

ห้องน้ำตรงบริเวณที่กางเต็นท์มี 2 จุด ห้องส้วมกับห้องอาบน้ำอยู่ในห้องเดียวกัน ส้วมก็เป็นชักโครกมีสายชำระดีต่อใจเรามาก ส่วนอาบน้ำก็เป็นฝักบัว น้ำที่นี่แรงมากนะทุกคนเตือนกันไว้ก่อน แล้วเราก็คิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจมากอาบน้ำกันก่อน เพราะน้ำเย็นมาก รีบอาบ รีบเสร็จ ออกมาก็งิกเลย

อาบน้ำเสร็จก็เอาอุปกรณ์ออกมาทำกับข้าวกันดีกว่า เริ่มจะมืดแล้ว อย่างที่บอกว่ามื้อเย็นกินมาม่ากับเกาเหลา

กินเสร็จก็เข้าไปอยู่ในเต็นท์ เพราะฝนลงเม็ดเรื่อยๆ แมลงข้างนอกเยอะ เข้าไปนอนเล่นมือถือในเต็นท์สบายๆ ดีกว่า ไม่นานก็ฝันดีราตรีสวัสดิ์ ....

เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน ... ตื่นเช้ามาพร้อมกับหมอกที่อยู่รอบตัว อยู่บนที่นอนไม่ได้แล้ว ต้องออกมาดื่มด่ำบรรยากาศแล้ว

คนนึงเดินถ่ายรูป อีกคนก็ทำกับข้าวไป 555 เช้านี้ข้าวไข่เจียว โดยที่หุงข้าวเองตอนแรกก็ลุ้นๆ จะกินได้มั้ยแต่ข้าวออกมาก็เม็ดสวยเลย ไม่เสียแรงที่ศึกษาจากยูทูปมาก่อน 555 ( ปกติไปเดินป่าไม่ลูกหาบทำ ก็เพื่อนๆ ในทริปทำ ) แต่มาแคมป์แบบนี้แค่ข้าวไข่เจียวก็ฟินแล้วอ่า อาหารง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก

กินเสร็จก็ทยอยเก็บของ แพ็คของ เพราะเราจะต้องย้ายที่นอนอีกที่นึง ระหว่างนั้นก็รอให้แดดออกเพื่อจะตากเต็นท์ให้แห้งก่อนจะเก็บเต็นท์


ค่าใช้จ่าย

  • ค่าเข้าอุทยานทั้งหมด 100 บาท ( ค่ากางเต็นท์ไม่เสีย )

สำหรับคนที่อยากไปพักที่นี่ไม่ได้มีแค่ลานกางเต็นท์นะ ในอุทยานจะมี

  • บ้านพัก 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จำนวน 1 หลัง
  • บ้านพัก 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ จำนวน 3 หลัง
  • รถบ้านสำหรับ 4 คนและ 2 คน
  • ลานกางเต็นท์ที่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 500 คน

ติดตามกันต่อว่าเราจะย้ายไปนอนที่ไหนใน Ep. หน้านะ

หนีร้อนไปพึ่งเย็น ที่ " ช่องเย็น " | กำแพงเพชร

เที่ยวแบบเรา : Once-a-month

 วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 21.48 น.

ความคิดเห็น