ฤดู..........ฝน

ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำ

ทริปนี้เราเลยขอไปเติมความชุ่มฉ่ำ ให้ร่างกายกันที่ ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่จ้าววววววว


เราเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ในช่วงบ่าย จึงเช่ารถออกเดินทางสู่อำเภอจอมทองกันเลย ซึ่งห่างจากสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลในการเดินทางประมาณ 1 ชม.นิดๆ ซึ่งจุดมุ่งหมายแรกของเราอยูที่ "วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร" เพื่อชื่นชมความสวยงาม กราบขอพรองค์พระธาตุและตามรอบละครดัง อย่าง "เพลิงพลายเทียน"

สำหรับ "วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร" เป็นพระธาตุประจำปีชวด สิ่งสำคัญภายในวัด คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา ซึ่งมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่น คือเป็นพระบรมธาตุที่มิได้ฝังใต้ดินแต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในพระวิหารสามารถอันเชิญมาสรงน้ำได้ ซึ่งชาวจอมทองจะจัดประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ของทุกปี


หลังจากไหว้พระขอพรกันแล้ว เราก็เข้าที่พักเพื่อเก็บแรงไว้ขึ้นดอยในวันพรุ่งนี้กัน

สำหรับที่พักของเรา เราพักที่ "ทัชสตาร์ รีสอร์ท" รีสอร์ทน้ำแร่ธรรมชาติ ใกล้ดอยอินทนน์ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติของผืนป่าและทิวเขา


ในส่วนของห้องพัก ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 8 Room Type รองรับผู้เข้าพักทั้งแบบที่มาเป็นคู่ เป็นครอบครัว หรือแม้แต่เป็นหมู่คณะ สำหรับเรามากันแค่ 2 คน จึงเลือกพัก "บ้านริมน้ำ" กระท่อมน้อยที่รอมล้อมไปด้วยความร่มรื่นจากสนามหญ้าและต้นไม้น้อยใหญ่


สำหรับบ้านริมน้ำมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 24 ตารางเมตร ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น กาต้มน้ำร้อน ชา กาแฟ และน้ำดื่ม


ในช่วงเย็นมีฝนตกลงมาเราจึงขอฝากท้องเอาไว้ที่ห้องอาหารของรีสอร์ท ซึ่งเปิดตั้งแต่เวลา 07.00 น.-20.00 น. ให้บริการทั้งอาหารไทยและอาหารพื้นเมือง เราสั่งเมนูอาหารง่ายๆอย่างต้มจืดเต้าหู้ ผัดเผ็ดไก่ และอาหารพื้นเมืองอย่างลาบเหนือ ปิดท้ายด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอย่างแตงโม


ในส่วนของอาหารเช้า ทางรีสอร์ทให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 น.-10.00 น. ที่ห้องอาหารของรีสอร์ท โดยจะมีขนมปัง ชา กาแฟ ให้บริการในรูปแบบของบุฟเฟต์ และมีเมนูอาหารเช้าให้เราเลือกเพิ่มเติมได้


นอกจากบรรยากาศที่สวยงามแล้ว ทัชสตาร์ รีสอร์ท ยังตั้งอยู่ห่างจากด่านทางขึ้นดอยอินทนนท์เพียง 1 กิโลเมตร และยังใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่น น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ นอกจากนี้เรายังสามารถสดชื่นกับการอาบน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติ จากบ่อน้ำแร่ภายในรีสอร์ทส่งตรงถึงห้องพักแต่ละห้องให้คุณได้อาบน้ำแร่อย่างเป็นส่วนตัวอีกด้วย หากใครมีโปรแกรมมาเที่ยวเชียงใหม่ทางฝั่งจอมทอง ก็อย่าลืมนึกถึงที่พักท่ามกลางธรรมชาติใกล้แหล่งท่องเที่ยวอย่าง "ทัชสตาร์ รีสอร์ท" กันนะคะ


จากนั่นเราออกจากที่พักแล้วตรงขึ้น "ดอยอินทนนท์" ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย กับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร หรือ 8,415 ฟุต จึงทำให้ดอยอินทนนท์แห่งนี้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเที่ยวฤดูไหนก็ฟินนน


สำหรับ "ดอยอินทนนท์" เดิมมีชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดฮิตของเชียงใหม่ ฤดูกาลที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ ฤดูหนาวซึ่งจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวันและบางครั้งน้ำค้าง ยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง หรือ แม่คะนิ้งอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่าในฤดูฝนแบบนี้ ดอยอินทนน์ก็มีเสน่ห์สุดเย้ายวนเช่นกัน


เราเริ่มต้นกันที่ "เจดีย์พระมหาธาตุนภเมทนีดลและเจดีย์พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" แลนด์มาร์คที่สำคัญของดอยอินทนนท์ โดยเจดีย์พระมหาธาตุนภเมทนีดลสร้างขึ้นเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ. 2530 และเจดีย์พระมหาธาตุนภพลภูมิสิรสร้างเพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ใน วโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ. 2535


ถัดจาก เจดีย์พระมหาธาตุนภเมทนีดลและเจดีย์พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ขึ้นไปเล็กน้อย ก็จะเป็นเป้าหมายที่ 2 ของเรา นั่นคือ "กิ่วแม่ปาน" เส้นทางศึกษาธรรมชาติสุดฮอตในช่วงฤดูหนาว เพราะทางอุทยานจะปิดให้เข้าชมในช่วงฤดูฝนเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม และเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี

ถึงแม้ว่าด้านในกิ่วแม่ปานจะปิดไม่ให้เข้าท่องเที่ยวในช่วงนี้ แต่บรรยากาศและทิวทัศน์ด้านหน้าก็สวยงามไม่แพ้กัน อีกทั้งจุดนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามด้วย แต่เราขึ้นมาไม่ทันพระอาทิตย์เพราะว่าฝนตก


และเป้าหมายที่ 3 ของเราคือจุดสูงสุดแดนสยามอย่าง "เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา" ภายในมีสะพานไม้ทอดยาวเป็นเส้นทางเดินระยะสั้นๆประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 30-40 นาที ล้อมรอบไปด้วยผืนป่าดึกดำบรรพ์อันเต็มไปด้วยผืนป่าที่น่าพิศวง เหมือนกับเราได้หลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง




และเป้าหมายสุดท้ายของเราในทริปนี้คือ "น้ำตกแม่ยะ" น้ำตกที่ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ เป็นหน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลลดหลั่นลงมาประมาณ 30 ชั้น รวมแล้วมีความสูงกว่า 260 เมตร ในช่วงฤดูฝนสายน้ำตกจะแผ่กว้างถึง100เมตร มีลักษณะเหมือนกับม่านน้ำขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก ช่วงที่เราไปน้ำยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงความสวยงามอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว





จบลงแล้วสำหรับทริปเติมเต็มความสุขในฤดูฝนของเรา

"เพราะเราเชื่อว่า การเดินทาง สร้างรอยยิ้มให้ผู้ออกเดินทางได้เสมอ"



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม "ทัชสตาร์ รีสอร์ท"

เว็บไซต์: www.touchstarresort.com

โทรศัพท์: 053 033 595, 092 419 4142, 080 589 9168





อยากเที่ยวต้องได้เที่ยว Want To Travel

 วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.54 น.

ความคิดเห็น