กลอบาโจ กลอบอโจ กล้อบ่อโจ เป็นภาษาเหรี่ยงใจความสั้นๆว่าดินแดนแห่งสีเหลือง คุณครูที่พาพวกเราไปพิชิตยอดดอยนี้เล่าให้ฟังว่า โบราณเชื่อกันว่าเป็นที่ซ่อนของทองคำ จึงเป็นที่มาของชื่อ "กลอบาโจ" ดอยแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

สำหรับทริปนี้เราจอยทริปมากับพี่แจ๊ค "นักเดินทางตัวน้อย" ด้วยความที่ไม่ได้ขึ้นเป้จริงจังเลยตั้งแต่ต้นปี พวกเราเลยจองทริปเบาๆมาก่อนอย่างเลอกวาเดาะ ปรากฎว่าพายุน้องมูนเข้าจ้าาา รถที่หมู่บ้านไม่สามารถออกมารับพวกเราได้ แต่ทีมงานพร้อมบวกอย่างพวกเราเลยเปลี่ยนเป้าหมายมาที่นี่ กลอบาโจ

เอาจริงๆตอนแรกพวกเรานึกว่าจะไม่โหดกันขนาดนี้ เดินชิวทางลาดๆ 4 กิโล เดินทางชัน 2 กิโล แต่แค่เริ่มเดินเลี้ยวโค้งจากบ้านครูมา ก็ถึงกับต้องหันไปถามลูกหาบเลยว่า นี่ทางลาดหรอ เราก็ยังได้รับการยืนยันมาว่า ใช่เลยยย ทางลาด





แค่เห็นทางก็ได้แต่ร้องโอดโอยกันไปเบาๆ เพราะทางลาดที่พี่ๆลูกหาบเขาบอกเนี่ย มันช่างลาดเสียจริงๆ จนพวกเราอยากรู้เลยว่าถ้าถึงทางชันแบบกลอบาโจเนี่ย!! มันจะชันสะขนาดไหน เรื่องนั้นช่างมันก่อน ยังเหลือระยะทางที่ต้องพิชิตอีกต่างหลายกิโล

บรรยากาศ และธรรมชาติรอบข้างของดอยนี้มันช่างเขียวชอุ่ม ด้วยความที่เป็นฤดูฝน ใช่เลย!! พวกเราต้อนเดินตากฝนกันบ้างเป็นบรรยากาศของการเดินป่าหน้าฝน




หลุดเนินเขาแรกมา วิวสวยมากกกก ขนาดฟ้ายังไม่เปิดยังสวยขนาดนี้ ได้แต่เดินภาวนาว่า ฟ้าเปิดสักนิดเถอะน้าวันนี้



เจอทางลาดชันประมาณ 2 กิโล ก็มีเพิงหมาแหงนเบาๆให้เราพัก ไก่ทอดที่ซื้อมาเป็นเสบียงมื้อเที่ยงถูกเอามาเติมพลังตั้งแต่ยังไม่สิบเอ็ดโมง เนื่องด้วยทางลาด 2 กิโลที่เผชิญมาเอาข้าวเหนียวหมูปิ้งที่กินไปจนหมดเกลี้ยงจริงๆ พักเติมพลังผ่อนคลายรอฝนซากันสักพักถึงเวลาขึ้นเป้กันต่อ แค่เลี้ยวมาก็เจอทางลาดอีกแล้วว กลอบาโจ จริงๆ






เดินหยุดเดินหยุดกันมาสักพัก ก็เจอสิ่งมีชีวิตอื่นๆนอกจากพวกเราบนดอยนี้แล้วจ้าา นั่นก็คือ....วัว นั่นเอง และก็ไม่ใช่แค่ตัวเดียวด้วยนะ ทั้งฝูงเลยจ้า การเดินทางลาดของเราก็เลยต้องอัพเลเวลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ นั่นก็คือเลเวลการเดินหลบขี้วัวในทางเปียกฝนอันชุ่มฉ่ำนั่นเอง 55 แถมเป็นขี้วัวทั้งฝูง เดินมาดามหอมชื่นใจกันไปตลอดทางเลยจ้า











ถ้าเพื่อนๆ เดินจนไม่ค่อยเห็นทางท่อพีวีซีแล้ว แสดงว่าเริ่มใกล้ หมดครึ่วทางของทางลาดแล้วแหละ จากที่พี่ๆในทริปนับระยะทางมา ระยะทางทางลาดคือ 7 กิโลเมตรจ้า 4 กิโลที่ลูกหาบบอกน่าจะ กิโลแม้ว ไม่ก็ระยะขจัดแน่เลย 55






ผ่านไปครึ่งวัน พวกเราก็ทำสำเร็จ หมดระยะทางลาดแล้ว พี่ๆลูกหาบให้เราเลือกจุดตั้งแคมป์ 2 จุดคือ บริเวณเจดีย์ กับบริเวณแหล่งน้ำ จากจุดนี้ถ้าลงไปบริเวณแหล่งน้ำคือตรงเดินลงไปข้างล่าง ประมาณ 10 นาที(ของลูกหาบ) ซึ่งจับเวลาจริงๆไปเอาน้ำที่แหล่งน้ำ ไป-กลับเกือบๆชั่วโมงอยู่นะ และทางขึ้นจากแหล่งน้ำคือทางชัน แบบโคตรชัน



แหล่งน้ำของที่นี่ก็คือตาน้ำดีๆนี่เองแหละ พวกเราเลือกไปตั้งแคมป์ที่บริเวณเจดีย์เนื่องจาก ดูจากทางลาดแล้ว ถ้าเราต้องเดินทางชันขึ้น - ลง เพื่อไปลุ้นพระอาทิตย์ตก ฟ้าเปิด และพระอาทิตย์ขึ้นอีก น่าจะไม่โอเค



หลังจากที่รอเพื่อนๆไปแบกน้ำกลับมา พวกเราก็เริ่มต้นทางชันกันต่อ ซึ่งเข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมพี่ๆลูกหาบถึงบอกว่าทางทั้งหมดที่เดินมาคือทางราบ เพราะระยะทางต่อจากนี้คือชันจริงๆๆ ทางเป็นทางชันสลับหิน ตอนเดินขึ้นไม่ค่อยยาก แต่เหนื่อยเอาการเลยแหละ แต่ขาลงเนี่ย คือหมดแรงสุดๆๆ











ชันสุดๆจ้าทาง ที่สำคัญลูกหาบที่นี่คือแบกแค่ของที่เราให้แบกตั้งแต่เริ่มเดินเท่านั้น น้ำที่นำขึ้นไป คือแบกเองจ้าาา อาจจะเพราะที่นี่ยังไม่ใช่ดอยยอดฮิต การจัดระเบียบลูกหาบอาจจะต้องมีการปรับปรุงอีกเยอะ ดังนั้นเพื่อนๆคนไหนจะไป เตรียบหาภาชนะมาใส่น้ำดีๆนะจ้า



ระหว่างทางของทางชัน ได้ยินเสียงร้องของเพื่อนร่วมทริปว่าฟ้าเปิดแล้วๆๆๆ พลังงานจากไหนก็ไม่่รู้มาเกินร้อย ใส่เกียร์ร้อยแรงม้า และวิวที่ได้คือคุ้มค่ากับการเดินมากๆจริงๆๆ

แล้ว 2 กิโลในทางชันก็หมดลง เจดีย์แห่งยอดดอยกลอบาโจอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ไม่มีเวลาอะไรน้องจากรีบกางเต้นท์ก่อนฝนจะลงมาอีกรอบ และก็ไม่ทันจ้า เต้นท์เปียกไปตามๆกัน

รวบรวมทั้งหมดระยะเวลารวม 9 กิโลเมตรกับเวลาเกือบๆ 7 ชั่วโมง และฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสาย ทำให้พวกเราสลบไปตามๆกัน และฟ้าก็ไม่ใจร้ายกับเรามากหนัก ถึงฝนจะตก ฟ้าจะไม่เปิดให้เห็นพระอาทิตย์ ดาวและทางช้างเผือก แต่พวกเราก็ได้เห็นวิวทิวเขาจากดอยกลอบาโจ มันสวยมากจริงๆ

เจดีย์แห่งดอยกลอบาโจ และบรรดาเต้นท์หลากสีสันของพวกเรา

จากการภาวนาของทุกคนขอให้ฝนหยุด และฟ้าเปิด ไม่เป็นผลจ้า ฟ้าไม่เปิดเหมือนอยู่ในม่านหมอกทั้งคืน พวกเราเลยแยกย้ายกันไปเติมพลังกับการนอน แอบลุ้นเล็กๆ เผื่อฟ้าจะเปิดในตอนเช้า ซึ่งก็ได้ผล ฟ้าเปิดพักๆ สวยมากกกกกกก ถ้าฟ้าเปิดแบบเต็มร้อยจะต้องเป็นอีกดอยที่สวยงามมากๆแน่เลย


หมอกมาอีกแล้ว ถึงเวลาต้องโบกมือลากลอบาโจแล้วจริงๆ ถ้ามีโอกาสรอบหน้าไม่พลาดที่จะมาอีกครั้งแน่นอน ถ้ามาปลายฝนต้นหนาวน่าจะเป็นที่ที่ทะเลหมอกสวยมากๆแน่ๆเลย


กลอบอโจถ้ามาในช่วงอื่นอาจจะไม่ได้สมบุกสมบันเท่าที่พวกเรามากันในฤดูฝน เพราะสามารถนั่งรถมอเตอร์ไซต์วิบากจากหน้าบ้านคุณครูมาที่จุดเริ่มต้นทางโคตรชันได้ 2 กิโลเมตรได้ ซึ่งนั่นคือเป้าหมายหน้าในการมาพิชิตดอยกลอบาโจของพวกเรา

ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยเหลือพวกเราตลอดทริปนี้ ล้มลุกคลุกคลานกันไป เสน่ห์ของป่าหน้าฝนมันมีอยู่ในตัวของมัน ถ้ามีโอกาสลองไปดูกันนะจ้า มันสนุกจริงๆ

รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของพวกเรากับ readme ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แล้วจะพยายามฝึกปรือต่อไป ฝากเพจของพวกเราในเฟสบุ๊คกนด้วยนะคะ https://m.facebook.com/porjaipaii/ แล้วมาเจอกันใหม่ในรีวิวหน้าค่ะ ^^

#porjaipai

#กลอบาโจ

#นักเดินทางตัวน้อย


Porjaipai : พอใจไป

 วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.27 น.

ความคิดเห็น